มอง 2557
โดย วีระพงษ์ ธัม
http://portal.settrade.com/blog/10000Li/2013/12/19/1380
ปี 2556 หรือปีงูเล็กที่กำลังจะจากไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ถือว่าเป็นปีที่มีจุดเปลี่ยนสำคัญหลายอย่าง เช่นภาพการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย การเมืองโลก ในฐานะนักลงทุน นอกจาก “การมองย้อนหลัง” ที่จะเป็นการทบทวนสิ่งที่เป็นไปและการตัดสินใจของตัวเองในปีที่ผ่านมาแล้ว การ “มองมุ่งไปข้างหน้า” สำหรับปีใหม่ที่จะมาถึงคือสิ่งที่สำคัญยิ่ง และนี่คือเรื่องราวของ “ภาพใหญ่” ที่น่าจับตาในปี 2557
ประการแรกคือการเลือกตั้งระดับประเทศของประเทศขนาดใหญ่จำนวนมาก เรียกได้ว่ารวม ๆ กันแล้วคนเกือบครึ่งหนึ่งของโลกจะต้องเลือกตั้งผู้แทนของพวกเขาใหม่ ซึ่งรวมถึงประเทศในกลุ่ม BRICs อย่างประเทศอินเดีย รวมถึงบราซิล (ที่กำลังจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกกลางปี 2557 ที่กรุงริโอ เดจาเนโร) หรือประเทศที่กำลังสร้างตัวขึ้นมาใหม่อย่างอัฟกานิสถาน หากนับรวมถึงผู้นำใหม่ที่เพิ่งขึ้นมาบริหารประเทศอย่างจีนหรือญี่ปุ่น ก็เรียกได้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงผลัดเปลี่ยนที่ล้วนแต่น่าจับตามองว่าประเทศเหล่านี้จะสามารถมีผู้นำที่เข้มแข็ง และสามารถขับเคลื่อนประเทศอย่างมีประสิทธิภาพได้แค่ไหน อันที่จริงปัญหาสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของประเทศกำลังพัฒนาในด้านการเมืองคือเรื่องทุจริตคอรัปชั่น ที่มีโอกาสนำพาบางประเทศไปสู่รัฐล้มเหลวได้ในช่วงที่ผ่านอย่างลิเบียหรืออียิปต์
ประการที่สองคือภาพเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่การกลับมาของเศรษฐกิจอเมริกา และการฟื้นตัวอย่างอ่อน ๆ ของยุโรปและญี่ปุ่น ภายหลังจากตกต่ำมายาวนานหลายปี เศรษฐกิจอเมริกาเริ่มกลับมาสร้างงานได้ ได้แก้ไขปัญหาภาคการเงินการธนาคารยุคแฮมเบอร์เกอร์ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมก็ได้รับผลบวกจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ต่ำลงจากเทคโนโลยีเชลล์แก๊ซ ด้านประเทศญี่ปุ่นที่กำลังพยายามฟื้นตัวจากการเป็นยักษ์หลับหลายทศวรรษด้วยนโยบายผ่อนปรนทางการเงินของภาครัฐก็มีสัญญาณที่ดีขึ้น แม้ว่าจะมีความท้าทายจากแผนการขึ้นภาษีผู้บริโภคในปี 2557 ในทางกลับกัน ประเทศที่เคยมีการเติบโตน่าประทับใจมาหลายทศวรรษอย่างจีน แม้ยังสามารถรักษาระดับการเติบโตได้ แต่ด้วยปัญหาหลายอย่างที่เรื้อรังมานาน เช่นปัญหาคอร์รัปชั่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ระบบธนาคาร รวมถึงปัญหาช่องว่างระหว่างคนรวยและจนที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้จีนในปีหน้ายังคงมุ่งหาการเติบโตที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณไปอีกซักระยะ แต่โลกในปีต่อ ๆ ไปจะสมดุลขึ้นจากการยืนสองขาด้วยเศรษฐกิจพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา
ประการที่สาม คือ พัฒนาการของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่า
ปีที่ผ่านมาถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของหลายอุตสาหกรรมโดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา เพราะแรงกดดันจากต้นทุนแรงงาน ต้นทุนการผลิต ก่อให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน และเกิดการลงทุนใหม่ที่เป็นผลจากความร้อนแรงของเศรษฐกิจในช่วงก่อนหน้า ตรงกันข้ามกับประเทศพัฒนาแล้วที่เริ่มกลับมาใช้กำลังการผลิตที่มีเหลือในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ในด้านการบริโภคประชาชนประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เปลี่ยนจาก “ผู้ออม” เป็น “ผู้ใช้จ่าย” ทำให้หนี้ภาคครัวเรือนสูงขึ้นจนหลายฝ่ายเป็นกังวล ในอีกด้านหนึ่งเศรษฐกิจพัฒนาแล้วปรับจากประเทศผู้ใช้จ่าย มาเป็นผู้ออมมากขึ้น ทั้งหมดนี้เกิดภาพการเจริญเติบโตของเมืองรองจำนวนมาก และนี่คือช่วงที่ผู้คนยุค Baby boomer ในเอเชียมีกำลังซื้อสูงสุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์
ประการที่สี่ คือ ท่ามกลางกระแสสับเปลี่ยนผันแปร แต่ความเชื่อมโยงกลับแน่นขึ้น ในอดีต ข้อจำกัดมากมายที่ทำให้การเคลื่อนย้าย “คน” และ “เงินทุน” เป็นไปได้ช้าและยาก แตกต่างจากปัจจุบันที่การคมนาคมทางอากาศสะดวกขึ้นมาก การทำวีซ่าเสรีมากขึ้น การถือครองอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมของคนต่างชาติก็ทำได้อย่างอิสระ การสื่อสารสะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม ยิ่งทำให้ข้อจำกัดลดลงไปอีก ด้านเงินทุนก็ถูกควบคุมน้อยกว่าเดิม ทุกสิ่งทุกอย่างของโลกคล้ายกันทำให้การปรับตัวในต่างถิ่นก็น้อยลง ผลดังกล่าวทำให้เราจะเห็นอสังหาริมทรัพย์จากหลาย ๆ ประเทศมาขายในบ้านเรา และอสังหาริมทรัพย์บ้านเราก็จะถูกขายในต่างประเทศ ข้อจำกัดลดน้อยลงไปมากความเชื่อมโยงจึงมากขึ้นมาก คนเคลื่อนย้ายและเงินทุนเคลื่อนย้ายได้ง่ายขึ้น และความเป็นพลเมืองโลกจะยิ่งชัดขึ้นทุกที
ด้วยภาพเหล่านี้ จะเห็นว่าตัวแปรมากขึ้นทุกทีในโลกปัจจุบัน แต่ถูกควบคุมน้อยลง ความเปลี่ยนแปลงแห่งหนึ่งก็สะเทือนไปอีกแห่งหนึ่งในคนละมุมโลก ภาระและต้นทุนของนักลงทุนที่จะต้องติดตามข่าวสารสูงขึ้นอย่างมาก แต่ในทางกลับกัน สิ่งที่ไม่ควรลืมในการลงทุนคือ คือผลกำไรและความยั่งยืนของกิจการที่เราลงทุนสำคัญที่สุด นั่นคืออย่ามัวสนใจผู้อื่นแต่ลืมมองสิ่งที่สำคัญของตนเอง ถ้าทำเช่นนี้แล้วปีม้า 2557 ที่จะมีถึงแม้จะเป็นปีที่มีความคึกคัก ผันผวน และพยศตามความเชื่อของนักกษัตริย์จีน นักลงทุนก็จะควบคุมม้าตัวนี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยสติและสัมปชัญญะครับ
https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5/198068607020376
มอง 2557 โดย วีระพงษ์ ธัม
โดย วีระพงษ์ ธัม
http://portal.settrade.com/blog/10000Li/2013/12/19/1380
ปี 2556 หรือปีงูเล็กที่กำลังจะจากไปในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ถือว่าเป็นปีที่มีจุดเปลี่ยนสำคัญหลายอย่าง เช่นภาพการเริ่มฟื้นตัวของเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว กระแสเงินทุนเคลื่อนย้าย การเมืองโลก ในฐานะนักลงทุน นอกจาก “การมองย้อนหลัง” ที่จะเป็นการทบทวนสิ่งที่เป็นไปและการตัดสินใจของตัวเองในปีที่ผ่านมาแล้ว การ “มองมุ่งไปข้างหน้า” สำหรับปีใหม่ที่จะมาถึงคือสิ่งที่สำคัญยิ่ง และนี่คือเรื่องราวของ “ภาพใหญ่” ที่น่าจับตาในปี 2557
ประการแรกคือการเลือกตั้งระดับประเทศของประเทศขนาดใหญ่จำนวนมาก เรียกได้ว่ารวม ๆ กันแล้วคนเกือบครึ่งหนึ่งของโลกจะต้องเลือกตั้งผู้แทนของพวกเขาใหม่ ซึ่งรวมถึงประเทศในกลุ่ม BRICs อย่างประเทศอินเดีย รวมถึงบราซิล (ที่กำลังจะเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลกกลางปี 2557 ที่กรุงริโอ เดจาเนโร) หรือประเทศที่กำลังสร้างตัวขึ้นมาใหม่อย่างอัฟกานิสถาน หากนับรวมถึงผู้นำใหม่ที่เพิ่งขึ้นมาบริหารประเทศอย่างจีนหรือญี่ปุ่น ก็เรียกได้ว่าช่วงนี้เป็นช่วงผลัดเปลี่ยนที่ล้วนแต่น่าจับตามองว่าประเทศเหล่านี้จะสามารถมีผู้นำที่เข้มแข็ง และสามารถขับเคลื่อนประเทศอย่างมีประสิทธิภาพได้แค่ไหน อันที่จริงปัญหาสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของประเทศกำลังพัฒนาในด้านการเมืองคือเรื่องทุจริตคอรัปชั่น ที่มีโอกาสนำพาบางประเทศไปสู่รัฐล้มเหลวได้ในช่วงที่ผ่านอย่างลิเบียหรืออียิปต์
ประการที่สองคือภาพเศรษฐกิจโลก ตั้งแต่การกลับมาของเศรษฐกิจอเมริกา และการฟื้นตัวอย่างอ่อน ๆ ของยุโรปและญี่ปุ่น ภายหลังจากตกต่ำมายาวนานหลายปี เศรษฐกิจอเมริกาเริ่มกลับมาสร้างงานได้ ได้แก้ไขปัญหาภาคการเงินการธนาคารยุคแฮมเบอร์เกอร์ รวมถึงภาคอุตสาหกรรมก็ได้รับผลบวกจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ต่ำลงจากเทคโนโลยีเชลล์แก๊ซ ด้านประเทศญี่ปุ่นที่กำลังพยายามฟื้นตัวจากการเป็นยักษ์หลับหลายทศวรรษด้วยนโยบายผ่อนปรนทางการเงินของภาครัฐก็มีสัญญาณที่ดีขึ้น แม้ว่าจะมีความท้าทายจากแผนการขึ้นภาษีผู้บริโภคในปี 2557 ในทางกลับกัน ประเทศที่เคยมีการเติบโตน่าประทับใจมาหลายทศวรรษอย่างจีน แม้ยังสามารถรักษาระดับการเติบโตได้ แต่ด้วยปัญหาหลายอย่างที่เรื้อรังมานาน เช่นปัญหาคอร์รัปชั่น ปัญหาสิ่งแวดล้อม ระบบธนาคาร รวมถึงปัญหาช่องว่างระหว่างคนรวยและจนที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้จีนในปีหน้ายังคงมุ่งหาการเติบโตที่มีคุณภาพมากกว่าปริมาณไปอีกซักระยะ แต่โลกในปีต่อ ๆ ไปจะสมดุลขึ้นจากการยืนสองขาด้วยเศรษฐกิจพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนา
ประการที่สาม คือ พัฒนาการของประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่และเศรษฐกิจพัฒนาแล้ว ซึ่งจะเห็นได้ว่า
ปีที่ผ่านมาถือเป็นการปรับตัวครั้งใหญ่ครั้งหนึ่งของหลายอุตสาหกรรมโดยเฉพาะประเทศกำลังพัฒนา เพราะแรงกดดันจากต้นทุนแรงงาน ต้นทุนการผลิต ก่อให้เกิดการปรับปรุงประสิทธิภาพในการทำงาน และเกิดการลงทุนใหม่ที่เป็นผลจากความร้อนแรงของเศรษฐกิจในช่วงก่อนหน้า ตรงกันข้ามกับประเทศพัฒนาแล้วที่เริ่มกลับมาใช้กำลังการผลิตที่มีเหลือในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ในด้านการบริโภคประชาชนประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่เปลี่ยนจาก “ผู้ออม” เป็น “ผู้ใช้จ่าย” ทำให้หนี้ภาคครัวเรือนสูงขึ้นจนหลายฝ่ายเป็นกังวล ในอีกด้านหนึ่งเศรษฐกิจพัฒนาแล้วปรับจากประเทศผู้ใช้จ่าย มาเป็นผู้ออมมากขึ้น ทั้งหมดนี้เกิดภาพการเจริญเติบโตของเมืองรองจำนวนมาก และนี่คือช่วงที่ผู้คนยุค Baby boomer ในเอเชียมีกำลังซื้อสูงสุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์
ประการที่สี่ คือ ท่ามกลางกระแสสับเปลี่ยนผันแปร แต่ความเชื่อมโยงกลับแน่นขึ้น ในอดีต ข้อจำกัดมากมายที่ทำให้การเคลื่อนย้าย “คน” และ “เงินทุน” เป็นไปได้ช้าและยาก แตกต่างจากปัจจุบันที่การคมนาคมทางอากาศสะดวกขึ้นมาก การทำวีซ่าเสรีมากขึ้น การถือครองอสังหาริมทรัพย์ประเภทคอนโดมิเนียมของคนต่างชาติก็ทำได้อย่างอิสระ การสื่อสารสะดวกสบายยิ่งกว่าเดิม ยิ่งทำให้ข้อจำกัดลดลงไปอีก ด้านเงินทุนก็ถูกควบคุมน้อยกว่าเดิม ทุกสิ่งทุกอย่างของโลกคล้ายกันทำให้การปรับตัวในต่างถิ่นก็น้อยลง ผลดังกล่าวทำให้เราจะเห็นอสังหาริมทรัพย์จากหลาย ๆ ประเทศมาขายในบ้านเรา และอสังหาริมทรัพย์บ้านเราก็จะถูกขายในต่างประเทศ ข้อจำกัดลดน้อยลงไปมากความเชื่อมโยงจึงมากขึ้นมาก คนเคลื่อนย้ายและเงินทุนเคลื่อนย้ายได้ง่ายขึ้น และความเป็นพลเมืองโลกจะยิ่งชัดขึ้นทุกที
ด้วยภาพเหล่านี้ จะเห็นว่าตัวแปรมากขึ้นทุกทีในโลกปัจจุบัน แต่ถูกควบคุมน้อยลง ความเปลี่ยนแปลงแห่งหนึ่งก็สะเทือนไปอีกแห่งหนึ่งในคนละมุมโลก ภาระและต้นทุนของนักลงทุนที่จะต้องติดตามข่าวสารสูงขึ้นอย่างมาก แต่ในทางกลับกัน สิ่งที่ไม่ควรลืมในการลงทุนคือ คือผลกำไรและความยั่งยืนของกิจการที่เราลงทุนสำคัญที่สุด นั่นคืออย่ามัวสนใจผู้อื่นแต่ลืมมองสิ่งที่สำคัญของตนเอง ถ้าทำเช่นนี้แล้วปีม้า 2557 ที่จะมีถึงแม้จะเป็นปีที่มีความคึกคัก ผันผวน และพยศตามความเชื่อของนักกษัตริย์จีน นักลงทุนก็จะควบคุมม้าตัวนี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยสติและสัมปชัญญะครับ
https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%9C%E0%B8%A5/198068607020376