The Painted Veil (2006)
Genre: Drama, Romance
Director: John Curran
Novel: W. Somerset Maugham
Screenplay: Ron Nyswaner
แอบรู้สึกว่าตัวเองเชย เพราะผมเพิ่งเคยได้ยินชื่อ The Painted Veil ตอนดู The Remains of the Day จบแล้วเปิด IMDb มันแนะนำว่าคนที่ชอบเรื่องนี้น่าจะชอบเรื่องนี้ด้วยประมาณนั้น เห็นโปสเตอร์หนังสวยมากกกกกกกกกก (สารภาพว่าอยากดูเพราะโปสเตอร์สวยแค่นั้นจริง ๆ) ผู้กำกับเป็นใครก็ไม่รู้จัก แต่คิดว่านอร์ตันกับนาโอมิคงไม่เล่นหนังห่วยหรอก คะแนน IMDb ก็ตั้ง 7.5 คงโอเคคุ้มค่าพอให้ลัดคิวหนังเรื่องอื่น หะหะ
The Painted Veil เป็นหนังที่สร้างจากนิยายปี 1925 ครับ ซึ่งเคยถูกหยิบมาทำเป็นหนังแล้วสองครั้งเมื่อปี 1934 และ 1957 หนังเล่าเรื่องการแต่งงานที่เกิดจากความรักฝ่ายเดียวของวอลเตอร์ (Edward Norton) นักแบคทีเรียวิทยากับคิตตี้ (Naomi Watts) หญิงสาวที่ยอมแต่งงานกับชายหนุ่มเพียงเพราะต้องการหนีห่างจากแม่ หลังจากคิตตี้เดินทางตามสามีไปทำงานที่เซี่ยงไฮ้ ที่นั่นเธอได้คบชู้กับชาลีย์ (Liev Schreiber) จนเมื่อวอลเตอร์รู้ความจริง เขาได้ยื่นข้อเสนอระหว่างฟ้องหย่าให้เป็นเรื่องอื้อฉาวหรือเธอจะยินยอมเดินทางไปชนบทกับเขาในฐานะภรรยาที่ตามไปอยู่เคียงข้างสามีที่เป็นอาสาสมัครเป็นหมอรักษาการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรค
ความรู้สึกแรกหลังจากดูจบ ผมถึงกับอุทานว่า "Wonderful!!" คือมันอารมณ์นี้จริง ๆ ครับ ไม่ใช่ว่าหนังดีทุกเรื่องจะทำให้ผมอุทานได้ด้วยสิ ไม่แน่ใจว่าผมตะลึงเพราะไม่ได้คาดหวังก่อนดูหรือว่าเนื้อหามันแอบโดนใจกับชีวิตจริงหรือเปล่า หะหะ
สิ่งแรกที่ทำหลังจากดูจบคือการเปิดดูเครดิตว่าใครเป็นผู้กำกับภาพครับ Stuart Dryburgh เคยเข้าชิงออสการ์จาก The Piano (อยู่ในคิวที่อยากดู) ผมว่าเขาควรจะได้เข้าชิงจากเรื่องนี้ด้วยนะเนี่ย ภาพสวยมากกกกกกกกก ไม่ได้มีดีแค่สวยด้วย ผมว่าหลายครั้งเขาใช้ภาพอธิบายเรื่องราวได้ดีด้วยสิ
หากพูดถึงบทหนังมันอยู่ในเกณฑ์ดีครับ เพียงแต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกแปลกใหม่กว่าหนังเรื่องอื่นสักเท่าไร สิ่งที่ชดเชยตรงนี้คือความยอดเยี่ยมของอารมณ์หนังครับ หนังเปิดเรื่องกระชับเข้าประเด็นอย่างรวดเร็ว ถึงกระนั้นมันก็ยังรักษาสิ่งที่ต้องการจะสื่อและสร้างอารมณ์ร่วมให้คนดูอินตามความรู้สึกตัวละครได้ดีมาก ๆ ผมชอบการดำเนินเรื่องช่วงแรกด้วยการตัดต่อสลับเวลาปัจจุบันกับอดีต จังหวะตัดจบแต่ละฉากมันเป๊ะมาก!
หนังมันให้ความรู้สึก real มาก คือตัวเนื้อหาของมันเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก แล้วยิ่งตัวผมเคยเห็นเรื่องราวแบบนี้ การตัดสินใจแบบนี้มันเลยรู้สึกจับต้องได้ แล้วการที่หนังนำเสนอโดยให้ความสำคัญกับอารมณ์หนังมากกว่าเนื้อหาก็เป็นอีกสิ่งที่ช่วยเสริมให้หนังโดดเด่นครับ
พูดถึงอารมณ์หนังต้องชมบทประพันธ์ซึ่งถูกนำมาดัดแปลงเป็นหนังได้เยี่ยมมาก ต้องชมทั้งผู้กำกับและสองนักแสดงนำด้วยครับที่ทำให้หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ฝ่ายชายขอแต่งงานด้วยความรักและหวังว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอรักเขาในสักวันหนึ่ง แต่ก็ต้องมาเจ็บปวดจากการที่ภรรยาของเขานอกใจไปมีความสุขหลบ ๆ ซ่อน ๆ กับคนอื่น ในขณะที่ฝ่ายหญิงก็ต้องเจ็บปวดอึดอัดจากความเฉยชาของเขา (ซึ่งฉากที่ทั้งสองคนทะเลาะกันหลังวอลเตอร์จับได้ว่าคิตตี้มีชู้ ผมมีประเด็นอยากเขียนถึงแฮะ เพราะผมเคยเจอประสบการณ์ประมาณนี้ของคนใกล้ตัว)
การแสดงของนอร์ตันและนาโอมิ วัตต์ในเรื่องนี้ก็ตามมาตรฐานของทั้งคู่ครับ นอร์ตันในบทวอลเตอร์แอบหล่อกว่าปกติแฮะ หะหะ การแสดงของเขามีส่วนช่วยพยุงอารมณ์หนังเยอะมาก เวลาเขาพูดอะไรนี่มันลึกถึงอารมณ์ตัวละคร บางฉากนี่ทำคนดูใจร้าวตามเลยครับ ส่วนนาโอมิ วัตต์บทไม่ส่งให้เธอได้โชว์ของเหมือนอย่างตอนเล่น 21 Grams ครับ มายืนสวยนั่งสวยกับการแสดงตามมาตรฐานก็พอแล้ว หะหะ ที่ต้องชมอีกอย่างคือทั้งคู่เล่นเข้าขากันดีมาก รับส่งอารมณ์กันได้ดีสุด ๆ คือเขาสามารถถ่ายทอดความเจ็บปวดจากคนหนึ่งไปยังอีกคนได้ด้วยสีหน้าแววตาคำพูด นี่ตอนเขียนยังอินอยู่เลยครับเนี่ย (เสริมอีกนิดว่าสองคนนี้นอกจากแสดงนำร่วมกันแล้วยังร่วมกันโปรดิวซ์หนังเรื่องนี้ด้วยครับ)
ขอโคตรแนะนำเลยครับว่าเป็นหนังโรแมนติกดราม่าที่ยอดเยี่ยมมาก ขอใช้ศัพท์ฝรั่งอีกสักรอบว่ามัน real แล้วเล่นกับอารมณ์คนดูได้ดีจริง ๆ ส่วนของแถมที่คุณจะได้รับก็คืองานภาพสวย ๆ ความงามของชนบทประเทศจีน ดนตรีประกอบเพราะ ๆ
คำโปรยหนังบอกว่า "Sometimes the greatest journey is the distance between two people." ครับ
9/10
ฝากเพจหนังโปรดไว้ด้วยนะคร้าบ
https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms
The Painted Veil โรแมนติกดราม่าชั้นเยี่ยมที่ไม่ได้มีดีแค่ภาพสวย
Genre: Drama, Romance
Director: John Curran
Novel: W. Somerset Maugham
Screenplay: Ron Nyswaner
แอบรู้สึกว่าตัวเองเชย เพราะผมเพิ่งเคยได้ยินชื่อ The Painted Veil ตอนดู The Remains of the Day จบแล้วเปิด IMDb มันแนะนำว่าคนที่ชอบเรื่องนี้น่าจะชอบเรื่องนี้ด้วยประมาณนั้น เห็นโปสเตอร์หนังสวยมากกกกกกกกกก (สารภาพว่าอยากดูเพราะโปสเตอร์สวยแค่นั้นจริง ๆ) ผู้กำกับเป็นใครก็ไม่รู้จัก แต่คิดว่านอร์ตันกับนาโอมิคงไม่เล่นหนังห่วยหรอก คะแนน IMDb ก็ตั้ง 7.5 คงโอเคคุ้มค่าพอให้ลัดคิวหนังเรื่องอื่น หะหะ
The Painted Veil เป็นหนังที่สร้างจากนิยายปี 1925 ครับ ซึ่งเคยถูกหยิบมาทำเป็นหนังแล้วสองครั้งเมื่อปี 1934 และ 1957 หนังเล่าเรื่องการแต่งงานที่เกิดจากความรักฝ่ายเดียวของวอลเตอร์ (Edward Norton) นักแบคทีเรียวิทยากับคิตตี้ (Naomi Watts) หญิงสาวที่ยอมแต่งงานกับชายหนุ่มเพียงเพราะต้องการหนีห่างจากแม่ หลังจากคิตตี้เดินทางตามสามีไปทำงานที่เซี่ยงไฮ้ ที่นั่นเธอได้คบชู้กับชาลีย์ (Liev Schreiber) จนเมื่อวอลเตอร์รู้ความจริง เขาได้ยื่นข้อเสนอระหว่างฟ้องหย่าให้เป็นเรื่องอื้อฉาวหรือเธอจะยินยอมเดินทางไปชนบทกับเขาในฐานะภรรยาที่ตามไปอยู่เคียงข้างสามีที่เป็นอาสาสมัครเป็นหมอรักษาการแพร่ระบาดของอหิวาตกโรค
ความรู้สึกแรกหลังจากดูจบ ผมถึงกับอุทานว่า "Wonderful!!" คือมันอารมณ์นี้จริง ๆ ครับ ไม่ใช่ว่าหนังดีทุกเรื่องจะทำให้ผมอุทานได้ด้วยสิ ไม่แน่ใจว่าผมตะลึงเพราะไม่ได้คาดหวังก่อนดูหรือว่าเนื้อหามันแอบโดนใจกับชีวิตจริงหรือเปล่า หะหะ
สิ่งแรกที่ทำหลังจากดูจบคือการเปิดดูเครดิตว่าใครเป็นผู้กำกับภาพครับ Stuart Dryburgh เคยเข้าชิงออสการ์จาก The Piano (อยู่ในคิวที่อยากดู) ผมว่าเขาควรจะได้เข้าชิงจากเรื่องนี้ด้วยนะเนี่ย ภาพสวยมากกกกกกกกก ไม่ได้มีดีแค่สวยด้วย ผมว่าหลายครั้งเขาใช้ภาพอธิบายเรื่องราวได้ดีด้วยสิ
หากพูดถึงบทหนังมันอยู่ในเกณฑ์ดีครับ เพียงแต่ไม่ได้ให้ความรู้สึกแปลกใหม่กว่าหนังเรื่องอื่นสักเท่าไร สิ่งที่ชดเชยตรงนี้คือความยอดเยี่ยมของอารมณ์หนังครับ หนังเปิดเรื่องกระชับเข้าประเด็นอย่างรวดเร็ว ถึงกระนั้นมันก็ยังรักษาสิ่งที่ต้องการจะสื่อและสร้างอารมณ์ร่วมให้คนดูอินตามความรู้สึกตัวละครได้ดีมาก ๆ ผมชอบการดำเนินเรื่องช่วงแรกด้วยการตัดต่อสลับเวลาปัจจุบันกับอดีต จังหวะตัดจบแต่ละฉากมันเป๊ะมาก!
หนังมันให้ความรู้สึก real มาก คือตัวเนื้อหาของมันเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก แล้วยิ่งตัวผมเคยเห็นเรื่องราวแบบนี้ การตัดสินใจแบบนี้มันเลยรู้สึกจับต้องได้ แล้วการที่หนังนำเสนอโดยให้ความสำคัญกับอารมณ์หนังมากกว่าเนื้อหาก็เป็นอีกสิ่งที่ช่วยเสริมให้หนังโดดเด่นครับ
พูดถึงอารมณ์หนังต้องชมบทประพันธ์ซึ่งถูกนำมาดัดแปลงเป็นหนังได้เยี่ยมมาก ต้องชมทั้งผู้กำกับและสองนักแสดงนำด้วยครับที่ทำให้หนังเรื่องนี้เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ฝ่ายชายขอแต่งงานด้วยความรักและหวังว่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้เธอรักเขาในสักวันหนึ่ง แต่ก็ต้องมาเจ็บปวดจากการที่ภรรยาของเขานอกใจไปมีความสุขหลบ ๆ ซ่อน ๆ กับคนอื่น ในขณะที่ฝ่ายหญิงก็ต้องเจ็บปวดอึดอัดจากความเฉยชาของเขา (ซึ่งฉากที่ทั้งสองคนทะเลาะกันหลังวอลเตอร์จับได้ว่าคิตตี้มีชู้ ผมมีประเด็นอยากเขียนถึงแฮะ เพราะผมเคยเจอประสบการณ์ประมาณนี้ของคนใกล้ตัว)
การแสดงของนอร์ตันและนาโอมิ วัตต์ในเรื่องนี้ก็ตามมาตรฐานของทั้งคู่ครับ นอร์ตันในบทวอลเตอร์แอบหล่อกว่าปกติแฮะ หะหะ การแสดงของเขามีส่วนช่วยพยุงอารมณ์หนังเยอะมาก เวลาเขาพูดอะไรนี่มันลึกถึงอารมณ์ตัวละคร บางฉากนี่ทำคนดูใจร้าวตามเลยครับ ส่วนนาโอมิ วัตต์บทไม่ส่งให้เธอได้โชว์ของเหมือนอย่างตอนเล่น 21 Grams ครับ มายืนสวยนั่งสวยกับการแสดงตามมาตรฐานก็พอแล้ว หะหะ ที่ต้องชมอีกอย่างคือทั้งคู่เล่นเข้าขากันดีมาก รับส่งอารมณ์กันได้ดีสุด ๆ คือเขาสามารถถ่ายทอดความเจ็บปวดจากคนหนึ่งไปยังอีกคนได้ด้วยสีหน้าแววตาคำพูด นี่ตอนเขียนยังอินอยู่เลยครับเนี่ย (เสริมอีกนิดว่าสองคนนี้นอกจากแสดงนำร่วมกันแล้วยังร่วมกันโปรดิวซ์หนังเรื่องนี้ด้วยครับ)
ขอโคตรแนะนำเลยครับว่าเป็นหนังโรแมนติกดราม่าที่ยอดเยี่ยมมาก ขอใช้ศัพท์ฝรั่งอีกสักรอบว่ามัน real แล้วเล่นกับอารมณ์คนดูได้ดีจริง ๆ ส่วนของแถมที่คุณจะได้รับก็คืองานภาพสวย ๆ ความงามของชนบทประเทศจีน ดนตรีประกอบเพราะ ๆ
คำโปรยหนังบอกว่า "Sometimes the greatest journey is the distance between two people." ครับ
9/10
ฝากเพจหนังโปรดไว้ด้วยนะคร้าบ
https://www.facebook.com/MyFavouriteFilms