เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ที่โรงแรมหลุยส์แทเวิร์น นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการที่นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุสาเหตุที่พลาดหวังจากตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เพราะผลักดันการปฏิรูปพรรคว่าไม่น่าจะเป็นเรื่องนี้ แต่ตนเห็นใจนายอลงกรณ์ ซึ่งคิดว่าสิ่งที่เกิดขึ้น จะทำให้ได้เรียนรู้และเข้าใจถึงระบบของพรรค เพราะความต้องการที่อยากปฏิรูปพรรคก็ได้ดำเนินการแล้ว โดยตนไม่ได้มีปัญหาอะไรกับนายอลงกรณ์ และยังเชื่อว่านายอลงกรณ์ จะไม่ลาออกจากพรรค เนื่องจากเคยพูดมาโดยตลอดว่ารักพรรค ส่วนที่นายอลงกรณ์ เรียกร้องให้ตนเร่งตัดสินใจว่าจะส่งผู้สมัครลงรับเลือกตั้งในครั้งนี้หรือไม่นั้น ถือว่าไม่ตรงกับสิ่งที่นายอลงกรณ์เคยพูดกับตน เพราะนายอลงกรณ์เคยเสนอตนว่าการตัดสินใจเรื่องส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งให้เป็นเรื่องของที่ประชุมใหญ่
ขณะที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ หลังพลาดตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อผลักดันการปฏิรูปพรรคต่อไป แม้จะไม่มีตำแหน่งอะไรในกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก็ตาม เพราะประเทศยังต้องมีการปฏิรูป พรรคก็ต้องมีการปฏิรูปหยุดนิ่งไม่ได้ ขณะนี้ประเทศยังอยู่ในวังวนของความขัดแย้งแตกแยก และการทุจริตคอร์รัปชั่น ดังนั้นต้องมีการปฏิรูปโดยพรรคการเมืองจะต้องแสดงบทบาทนำ เพื่อให้ประเทศเดินต่อไปได้ ไม่อยู่ในกงกรรมกงเกวียน ซึ่งสิ่งตนผลักดันถือว่ามีความก้าวหน้า เนื่องจากที่ประชุมใหญ่วิสามัญให้ความเห็นชอบแล้ว ถือว่าเดินได้ครึ่งทางแล้ว เหลืออีกครึ่งทางที่ต้องลงมือทำให้เป็นรูปธรรมอย่างจริงจังจากคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ โดยตนจะช่วยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้
เมื่อถามว่าน้อยใจหรือไม่ที่พลาดตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคครั้งนี้ เพราะเป็นผู้ที่ผลักดันการปฏิรูปพรรค นายอลงกรณ์ กล่าวว่า การน้อยใจก็มีบ้าง เพราะเป็นมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง แต่เหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน เพราะตั้งแต่เสนอประเด็นปฏิรูปพรรค ก็ทราบดีอยู่แล้วว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่ตัดสินใจแล้วต้องกล้ารับผิดชอบ กล้าคิดกล้าทำ การตัดสินใจปฏิรูปสู่สากลเป็นการแหวกม่านประเพณีของพรรค และคิดว่าการปฏิรูปพรรคจะนำไปสู่การปฏิรูปเปลี่ยนแปลงการเมืองภายในประเทศ ทำให้ประชาชนมีทางเลือก ต่อข้อถามว่านายอภิสิทธิ์ เชื่อมั่นในการปฏิรูป แต่ไม่เอาคนที่เสนอปฏิรูปหมายความว่าอย่างไร นายอลงกรณ์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่าสนับสนุนแนวทางปฏิรูป
“อนาคตทางการเมืองต่อจากนี้ไป ผมก็กำลังคิดอยู่ เพราะต้องอยู่ในความเป็นจริง ผมอยู่พรรค 22 ปี ไม่เคยย้ายพรรค เเม้มีข้อเสนอดี ๆ จากพรรคอื่นมา วันนี้ผมยังอยู่พรรคนี้ เเละยังไม่ได้คิด เเม้การเลือกตั้งจะใกล้มาเเล้ว ผมอาจไม่ลงสมัครเเละอาจไปสอนหนังสือก็ได้”นายอลงกรณ์ กล่าว.
ปฏิรูป พรรค ตัวเองก่อน ค่อยมาปฏิรูป ประเทศ
ขณะที่ นายอลงกรณ์ พลบุตร อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ หลังพลาดตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ตนยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์เพื่อผลักดันการปฏิรูปพรรคต่อไป แม้จะไม่มีตำแหน่งอะไรในกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ก็ตาม เพราะประเทศยังต้องมีการปฏิรูป พรรคก็ต้องมีการปฏิรูปหยุดนิ่งไม่ได้ ขณะนี้ประเทศยังอยู่ในวังวนของความขัดแย้งแตกแยก และการทุจริตคอร์รัปชั่น ดังนั้นต้องมีการปฏิรูปโดยพรรคการเมืองจะต้องแสดงบทบาทนำ เพื่อให้ประเทศเดินต่อไปได้ ไม่อยู่ในกงกรรมกงเกวียน ซึ่งสิ่งตนผลักดันถือว่ามีความก้าวหน้า เนื่องจากที่ประชุมใหญ่วิสามัญให้ความเห็นชอบแล้ว ถือว่าเดินได้ครึ่งทางแล้ว เหลืออีกครึ่งทางที่ต้องลงมือทำให้เป็นรูปธรรมอย่างจริงจังจากคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ โดยตนจะช่วยสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้
เมื่อถามว่าน้อยใจหรือไม่ที่พลาดตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคครั้งนี้ เพราะเป็นผู้ที่ผลักดันการปฏิรูปพรรค นายอลงกรณ์ กล่าวว่า การน้อยใจก็มีบ้าง เพราะเป็นมนุษย์ปุถุชนคนหนึ่ง แต่เหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน เพราะตั้งแต่เสนอประเด็นปฏิรูปพรรค ก็ทราบดีอยู่แล้วว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง แต่ตัดสินใจแล้วต้องกล้ารับผิดชอบ กล้าคิดกล้าทำ การตัดสินใจปฏิรูปสู่สากลเป็นการแหวกม่านประเพณีของพรรค และคิดว่าการปฏิรูปพรรคจะนำไปสู่การปฏิรูปเปลี่ยนแปลงการเมืองภายในประเทศ ทำให้ประชาชนมีทางเลือก ต่อข้อถามว่านายอภิสิทธิ์ เชื่อมั่นในการปฏิรูป แต่ไม่เอาคนที่เสนอปฏิรูปหมายความว่าอย่างไร นายอลงกรณ์ กล่าวว่า นายอภิสิทธิ์ ยืนยันว่าสนับสนุนแนวทางปฏิรูป
“อนาคตทางการเมืองต่อจากนี้ไป ผมก็กำลังคิดอยู่ เพราะต้องอยู่ในความเป็นจริง ผมอยู่พรรค 22 ปี ไม่เคยย้ายพรรค เเม้มีข้อเสนอดี ๆ จากพรรคอื่นมา วันนี้ผมยังอยู่พรรคนี้ เเละยังไม่ได้คิด เเม้การเลือกตั้งจะใกล้มาเเล้ว ผมอาจไม่ลงสมัครเเละอาจไปสอนหนังสือก็ได้”นายอลงกรณ์ กล่าว.