ไหว้พระพุทธพิมพ์ ที่วัดไชโยฯ แล้วรองท้องด้วยก๋วยเตี๋ยวผัดไทกุ้งยิ้มเสร็จ ก็ออกเดินทางต่อไปจะไปสมทบกับสมาชิกกลุ่มทางสว่างที่นัดหมายไว้ที่สุโขทัย แต่จุดแวะพักของผมจุดต่อไปคือพิษณุโลกครับ
ย้อนกล่าวถึงตลาดที่ข้างวัดไชโย ของที่มีชื่อของที่นี่คือขนมกง(เกวียน) และขนมสามเกลอ ซึ่งผมเองก็เข้าใจสับสนไปในกระทู้ที่ผ่านมา จึงได้ไปค้นคว้าเพิ่มเติม ได้รับทราบว่าขนมทั้งสองชนิดนี้เป็นขนมโบราณ และเป็นขนมที่ใช้ในงานมงคล
ขนมกงให้ความหมายถึงชีวิตที่เคลื่อนที่ไปหมุนไปด้วยความมั่นคง ลักษณะสังเกตคือขนมจะเป็นทรงวงกลมและมีแกนเป็นกากะบาทอยู่ตรงกลาง ไส้ขนมเป็นส่วนผสมของถั่วเขียว แล้วนำไปชุบแป้งและไข่ทอด
ขนมสามเกลอนั้น เดิมใช้เป็นขนมเสี่ยงทายในงานมงคลสมรส ลักษณะมีไส้เป็นก้อนกลมสามก้อนปั้นอยู่ติดกัน แล้วนำไปชุบแป้งและไข่ทอด แล้วดูว่าไส้จะแตกแยกออกจากกันหรือไม่
สำหรับที่ตลาดนี้ จุดสังเกตคือขนมกงจะไส้ถั่วเขียว และขนมสามเกลอจะเป็นไส้งา
จุดแวะเติมNGVของผม จุดแรกคือแถวจุดตรวจทางหลวงตรงอ่างทอง (ก็ประมาณร้อยกม.จากกรุงเทพ) แล้วอีกจุดก็ตรงแยกพยุหะคีรี จากนั้นก็แวะเติมที่ก่อนถึงแยกบายพาสพิษณุโลก
มาถึงพิษณุโลกเอาบ่ายสองโมงครึ่ง ก็เลยขับเลยวัดพระศรีมหาธาตุเข้าไปทานก๋วยเตี๋ยวห้อยขาก่อน (จริงๆ แล้วที่พิษณุโลกมีของอร่อยน่าทานอยู่หลายอย่างหลายเจ้า แต่ที่เลือกที่นี่เพราะอยู่ใกล้วัดพระศรีมหาธาตุที่ตั้งใจจะมา) มาถึงร้านเอาเกือบบ่ายสามโมงก็ดีไปอย่างคือคนมาทานซาแล้ว มีที่จอดรถใกล้หน้าร้านเลย แต่ต้องรีบทานเพราะเดี๋ยววัดปิด
สำหรับนักทานก๋วยเตี๋ยว การถูกลิ้นถูกปากนี่อยู่ที่เราคนปรุงเลย ยิ่งถ้าเป็นร้านประจำของเราที่คุ้นเคยกับลักษณะของพริกหรือน้ำส้มน้ำปลาแล้วก็ปรุงให้ถูกปากเราได้ง่าย
ครั้งนี้ผมแวะทานที่ร้านริมน่าน ผมเองสั่งก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยแห้ง ซึ่งร้านนี้จะราดน้ำปรุงรสออกเปรี้ยวหวานมาแล้ว ชิมก่อนนะครับจะเติมเครื่องปรุงรสได้ถูก และสำหรับคุณภาพของอาหารผมค่อนข้างจะพอใจ นอกจากนี้ก็ได้สั่งของทานเล่นมาด้วย เต้าหู้ทอดกัดแล้วข้างนอกกรอบข้างในนุ่มถูกปากครับ ส่วนลูกชิ้นลวกผมเฉยๆ นอกจากนี้ก็ได้สั่งเกี๊ยวกรอบ และขนมถ้วยด้วย
ที่ร้านจัดที่นั่งเป็นสองแบบ หากได้นั่งริมหันหน้าออกนอกร้าน ก็จะได้ห้อยขา ก็นั่งสบาย แต่ข้างในจะเป็นแบบตั่งซึ่งต้องนั่งขัดสะหมาดหรือนั่งพับเพียบ ก็จะนั่งลำบากหน่อย หากต้องการนั่งโต๊ะเก้าอี้ปกติ ก็มีจัดไว้ด้านหน้าร้าน แต่จะถูกแดดส่องหากไปทานช่วงบ่าย
บริเวณนี้มีร้านแบบนี้อยู่สามร้าน หากมาจังหวะคนแน่น ร้านโปรดของเราโต๊ะไม่ว่าง เข้าร้านอื่นก็ถือว่าไม่เสียเที่ยวครับ
สถานที่จำหน่ายดอกไม้ธูปเทียนอยู่ทางด้านซ้ายมือของวิหาร และแท่นบูชาจะอยู่ด้านหน้าวิหาร ซึ่งมีองค์พระพุทธชินราชจำลองประดิษฐานอยู่พร้อมกระถางธูปพานและเชิงเทียนให้เราถวายอยู่ข้างนอก
ด้านซ้ายมือจะเป็นทางไปวิหารพระพุทธชินสีห์ ซึ่งเป็นบริเวณของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระพุทธชินราช ตรงบริเวณนี้ ช่วงเย็นจะร่มรื่นมาก
องค์นี้เป็นองค์จำลอง ส่วนองค์จริงประดิษฐานอยู่ที่วัดบวรนิเวศ
ตรงประตูทางเข้าใหญ่จากด้านหน้าวัด ทางด้านขวามือใกล้ใกล้กับต้นโพธ์ใหญ่จะมีวิหารเล็กเล็กตั้งอยู่ เหนือประตูทางเข้าวิหารจะมีป้ายเขียนว่า"พระเหลือ" ได้รับทราบว่าเมื่อครั้งเททองหล่อพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา ทองที่เหลือได้นำมาเทหล่อเป็นพระเหลือ ซึ่งมีขนาดหน้าตักประมาณหนึ่งศอก
นอกจากนี้ทางด้านหลังยังมีบริเวณที่ประดิษฐานของพระยืนขนาดใหญ่เรียกว่าพระอัฏฐารส ซึ่งลานบริเวณนี้เป็นฉากภาพยนตร์และละครหลายเรื่อง แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้เข้าไปนมัสการ
จากนั้นก็ได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดสุโขทัยเพื่อสมทบกับกลุ่มทางสว่าง
[CR] "มีเวลาก็เดินทาง" ..... ตอนที่ 2 ไหว้พระเหลือ พิษณุโลก ทานก๋วยเตี๋ยวห้อยขาริมน้ำน่าน
ไหว้พระพุทธพิมพ์ ที่วัดไชโยฯ แล้วรองท้องด้วยก๋วยเตี๋ยวผัดไทกุ้งยิ้มเสร็จ ก็ออกเดินทางต่อไปจะไปสมทบกับสมาชิกกลุ่มทางสว่างที่นัดหมายไว้ที่สุโขทัย แต่จุดแวะพักของผมจุดต่อไปคือพิษณุโลกครับ
ย้อนกล่าวถึงตลาดที่ข้างวัดไชโย ของที่มีชื่อของที่นี่คือขนมกง(เกวียน) และขนมสามเกลอ ซึ่งผมเองก็เข้าใจสับสนไปในกระทู้ที่ผ่านมา จึงได้ไปค้นคว้าเพิ่มเติม ได้รับทราบว่าขนมทั้งสองชนิดนี้เป็นขนมโบราณ และเป็นขนมที่ใช้ในงานมงคล
ขนมกงให้ความหมายถึงชีวิตที่เคลื่อนที่ไปหมุนไปด้วยความมั่นคง ลักษณะสังเกตคือขนมจะเป็นทรงวงกลมและมีแกนเป็นกากะบาทอยู่ตรงกลาง ไส้ขนมเป็นส่วนผสมของถั่วเขียว แล้วนำไปชุบแป้งและไข่ทอด
ขนมสามเกลอนั้น เดิมใช้เป็นขนมเสี่ยงทายในงานมงคลสมรส ลักษณะมีไส้เป็นก้อนกลมสามก้อนปั้นอยู่ติดกัน แล้วนำไปชุบแป้งและไข่ทอด แล้วดูว่าไส้จะแตกแยกออกจากกันหรือไม่
สำหรับที่ตลาดนี้ จุดสังเกตคือขนมกงจะไส้ถั่วเขียว และขนมสามเกลอจะเป็นไส้งา
จุดแวะเติมNGVของผม จุดแรกคือแถวจุดตรวจทางหลวงตรงอ่างทอง (ก็ประมาณร้อยกม.จากกรุงเทพ) แล้วอีกจุดก็ตรงแยกพยุหะคีรี จากนั้นก็แวะเติมที่ก่อนถึงแยกบายพาสพิษณุโลก
มาถึงพิษณุโลกเอาบ่ายสองโมงครึ่ง ก็เลยขับเลยวัดพระศรีมหาธาตุเข้าไปทานก๋วยเตี๋ยวห้อยขาก่อน (จริงๆ แล้วที่พิษณุโลกมีของอร่อยน่าทานอยู่หลายอย่างหลายเจ้า แต่ที่เลือกที่นี่เพราะอยู่ใกล้วัดพระศรีมหาธาตุที่ตั้งใจจะมา) มาถึงร้านเอาเกือบบ่ายสามโมงก็ดีไปอย่างคือคนมาทานซาแล้ว มีที่จอดรถใกล้หน้าร้านเลย แต่ต้องรีบทานเพราะเดี๋ยววัดปิด
สำหรับนักทานก๋วยเตี๋ยว การถูกลิ้นถูกปากนี่อยู่ที่เราคนปรุงเลย ยิ่งถ้าเป็นร้านประจำของเราที่คุ้นเคยกับลักษณะของพริกหรือน้ำส้มน้ำปลาแล้วก็ปรุงให้ถูกปากเราได้ง่าย
ครั้งนี้ผมแวะทานที่ร้านริมน่าน ผมเองสั่งก๋วยเตี๋ยวสุโขทัยแห้ง ซึ่งร้านนี้จะราดน้ำปรุงรสออกเปรี้ยวหวานมาแล้ว ชิมก่อนนะครับจะเติมเครื่องปรุงรสได้ถูก และสำหรับคุณภาพของอาหารผมค่อนข้างจะพอใจ นอกจากนี้ก็ได้สั่งของทานเล่นมาด้วย เต้าหู้ทอดกัดแล้วข้างนอกกรอบข้างในนุ่มถูกปากครับ ส่วนลูกชิ้นลวกผมเฉยๆ นอกจากนี้ก็ได้สั่งเกี๊ยวกรอบ และขนมถ้วยด้วย
ที่ร้านจัดที่นั่งเป็นสองแบบ หากได้นั่งริมหันหน้าออกนอกร้าน ก็จะได้ห้อยขา ก็นั่งสบาย แต่ข้างในจะเป็นแบบตั่งซึ่งต้องนั่งขัดสะหมาดหรือนั่งพับเพียบ ก็จะนั่งลำบากหน่อย หากต้องการนั่งโต๊ะเก้าอี้ปกติ ก็มีจัดไว้ด้านหน้าร้าน แต่จะถูกแดดส่องหากไปทานช่วงบ่าย
บริเวณนี้มีร้านแบบนี้อยู่สามร้าน หากมาจังหวะคนแน่น ร้านโปรดของเราโต๊ะไม่ว่าง เข้าร้านอื่นก็ถือว่าไม่เสียเที่ยวครับ
สถานที่จำหน่ายดอกไม้ธูปเทียนอยู่ทางด้านซ้ายมือของวิหาร และแท่นบูชาจะอยู่ด้านหน้าวิหาร ซึ่งมีองค์พระพุทธชินราชจำลองประดิษฐานอยู่พร้อมกระถางธูปพานและเชิงเทียนให้เราถวายอยู่ข้างนอก
ด้านซ้ายมือจะเป็นทางไปวิหารพระพุทธชินสีห์ ซึ่งเป็นบริเวณของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระพุทธชินราช ตรงบริเวณนี้ ช่วงเย็นจะร่มรื่นมาก
องค์นี้เป็นองค์จำลอง ส่วนองค์จริงประดิษฐานอยู่ที่วัดบวรนิเวศ
ตรงประตูทางเข้าใหญ่จากด้านหน้าวัด ทางด้านขวามือใกล้ใกล้กับต้นโพธ์ใหญ่จะมีวิหารเล็กเล็กตั้งอยู่ เหนือประตูทางเข้าวิหารจะมีป้ายเขียนว่า"พระเหลือ" ได้รับทราบว่าเมื่อครั้งเททองหล่อพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา ทองที่เหลือได้นำมาเทหล่อเป็นพระเหลือ ซึ่งมีขนาดหน้าตักประมาณหนึ่งศอก
นอกจากนี้ทางด้านหลังยังมีบริเวณที่ประดิษฐานของพระยืนขนาดใหญ่เรียกว่าพระอัฏฐารส ซึ่งลานบริเวณนี้เป็นฉากภาพยนตร์และละครหลายเรื่อง แต่ครั้งนี้ผมไม่ได้เข้าไปนมัสการ
จากนั้นก็ได้เดินทางต่อไปยังจังหวัดสุโขทัยเพื่อสมทบกับกลุ่มทางสว่าง