กระทู้เดิม ... โฮจิมินห์ไม่สิ้นมนต์ขลัง(ตอนที่1) : หวุงเต่า    http://ppantip.com/topic/31389581

เช้าวันที่ 3
   วันนี้มีนัดหมายกับ Vietsea tourist ที่ซื้อ Day tour ไว้วันก่อนว่าให้มาขึ้นรถเวลา 08.00 น. จึงรีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปเดินสูดอากาศที่สวนสาธารณะ ดูผู้คนออกกำลังกายกันอย่างขะมักเขม้น เลยได้มีโอกาสเห็นวิถีชีวิตแบบพื้นๆกลางเมืองโฮจิมินห์โดยไม่ลืมที่จะซื้อขนมปังบาแกท ใส้ผักติดตัวไปเป็นเสบียงวันนี้ด้วย
                            
                            

   ได้เวลานัดหมายพวกเราก็ถูกต้อนขึ้นรถปรับอากาศ เลือกที่นั่งกันตามชอบใจ กรุ๊ปนี้มีลูกทัวร์ร่วม 30 คนเป็นลักษณะ join group หลายกรุ๊ป บ้างก็ Day tour แบบเรา/บ้างก็ One night/บ้างก็ Two night ซึ่งกว่าจะมากันครบและออกรถได้ก็ปาเข้าไป 08.30 น.แล้ว บนรถก็มีรายการเพลง รายการตลกภาษาเวียดนามเปิดให้ชมแก้เบื่อ (แต่ลูกทัวร์ฝรั่งกับไทย น่าจะเบื่อมากขึ้น เพราะฟังไม่รู้เรื่องเลย)
                            

   สังเกตว่ารถสาธารณะที่นี่จะมีหมายเลขทะเบียนรถตัวเป้งๆติดไว้รอบคัน (สงสัยกันชนแล้วหนี) เมืองไทยน่าจะเอาอย่างบ้างนะ จะได้ไม่เกิดโศกนาฏกรรมชนแล้วชิ่งให้เห็นตามข่าวอยู่บ่อยๆ              
                            
           
      รถวิ่งไปได้สักพักก็จอดให้ลงเปลี่ยนอิริยาบถ เข้าห้องน้ำ จิบกาแฟ เอนหลังบนเปลญวนให้หายเมื่อย
                            
      
   นั่งรถนานประมาณ 3 ชั่วโมงจึงมาถึงท่าเรือล่องแม่น้ำโขง มีไกด์หนุ่มที่มากับเราตั้งแต่ขึ้นรถคอยบรรยายให้ฟังเป็นภาษาอังกฤษ อาศัยเราหาข้อมูลรายละเอียดมาก่อนเลยพอดำน้ำฟังกันรู้เรื่องบ้าง  
                            
                                                   
   และเนื่องจากเรามาถึงสายมากเลยไม่ทันได้ดูตลาดน้ำใหญ่ที่จะคึกคักกันตั้งแต่ 6 โมงเช้าจนถึงประมาณ 11 โมงก็วาย เลยเหลือให้ดูอยู่ไม่มากนัก
                            
                            

    ไกด์บอกวิธีสังเกตว่าเรือลำไหน ขายอะไร ให้ดูที่ปลายไม้ไผ่หน้าเรือ พวกพ่อค้าแม่ค้าจะแขวนตัวอย่างสินค้าไว้...(ทำไมเราเป็นมีแต่มันแกวหัวขาวนะ)
                            
                            

          ล่องเรือชมวิวสองฝั่งแม่น้ำโขงมาสักพัก ไกด์ก็บอกเดี๋ยวจะพาเข้าชมวิถีชีวิตชาวสวนในคลองและรับประทานอาหารกลางวันที่นั่น
                            

          จุดแรกที่พาไปคือฟาร์มผึ้ง และโรงงานทำขนมประเภท candy สาธิตและให้ชิมแล้วชวนให้ซื้อตามธรรมเนียม
                            
                            

          ทีเด็ดอยู่ที่การทำ popcorn สไตล์เวียดนาม ที่น่าจะเรียกว่า pop rice มากกว่า
                            

         เราชอบใจโถเก็บกาน้ำชาเขามากกว่า ...คิดได้ไง
                            

   จากนั้นก็พาเดินลัดเลาะ ชมสวนเพื่อไปรับประทานอาหารกลางวัน..ลูกทัวร์เริ่มบ่นหิวกันงึมงำ แต่เรามีขนมปังบาแกทไส้ผักพกมาด้วยเลยไม่เดือดร้อน
   เดินโผล่พ้นสวนออกมาก็เจอจักรยานรอต้อนรับอยู่เป็นตับ.. ป้าด! จะให้ป้าขี่จักรยานไปเนี่ยนะ.. ถามไกด์ว่าไกลแค่ไหน ไกด์บอกประมาณ 15 นาที .... เป็นลมพอดี
                       
            
  แต่แอบเมียงมองนับจำนวนจักรยานแล้ว มีน้อยกว่าจำนวนคนเลยปล่อยให้คนอื่นๆเลือกไปก่อนจนหมด ที่เหลือต้องซ้อนมอเตอร์ไซค์ไป... แหะๆ..รู้อยู่แล้วว่าไม่พอเลยไม่รีบแย่งกับใคร
  มาถึงร้านอาหารที่เป็นโฮมสเตย์ บรรยากาศร่มรื่น อาหารที่บริการเป็นข้าวผัดกับน้ำซุปกลมกล่อม แต่ก็มีแบบสั่งพิเศษทั้งกุ้งทั้งปลาตามชอบ แต่เราไม่ได้สนใจเพราะเล็งซีฟูดไว้ที่งานเทศกาลอาหารเมื่อคืน กะว่าวันนี้ ลงรถปุ๊บก็เข้างานปั๊บเลย
                
                

  เสร็จจากอาหารกลางวันก็พาเดินลัดเลาะสวนออกไปอีกด้าน ไปโผล่ที่ลำคลองเล็กๆมีเรือพายแบบสองมือมาคอยรับ โดย 1 ลำ นั่งได้ 4 คน พายอยู่นานท่ามกลางแดดเปรี้ยงและน้ำแห้งขอด..ที่คงต้องใช้แรงในการพายมากกว่ายามน้ำขึ้น...สงสารมาก ได้แต่ทิปเป็นน้ำใจไปจำนวนหนึ่ง
                
                

     จากเรือพายลำเล็ก กลับมาขึ้นเรือใหญ่ที่นั่งล่องแม่น้ำโขงมา กลับออกคลองแยก ออกสู่แม่น้ำโขงอีกครั้ง
                  
                  
                  
                  

      คราวนี้นั่งไม่ยาวนัก ไกด์พาขึ้นฝั่ง เดินผ่านตลาดไปขึ้นรถบัสที่จอดรอที่ท่าเรือ
                
                

      ระหว่างทางกลับโฮจิมินห์  แวะพักรถที่รีสอร์ทสวยงามแห่งหนึ่ง
                
                

      
        *รอติดตามวันที่ 4 : เก็บตกโฮจิมินห์