[CR] โฮจิมินห์ไม่สิ้นมนต์ขลัง : หวุงเต่า / แม่โขงเดลต้า

หลังจาก AirAsiaGo ส่งเมล์มาชวนไปเยือนโฮจิมินห์อีกครั้งด้วยราคาคนละ 3,227 บาท ซึ่งรวมตั๋วไป-กลับพร้อมที่พักอีก 3 คืนแถวฟาร์มงูเหลา  หนำซ้ำจองแล้วได้บินเลยไม่ต้องรอนาน แถมได้เวลาดีเสียด้วยคือบินเช้า กลับดึก เท่ากับได้ไป 3คืน4วันเต็ม ..เหม่ ! มันช่างยั่วใจเหลือเกิน ทั้งที่ไปมาแล้ว 2ครั้ง(ไม่รวมฮานอย เว้ ดานัง) แต่ก็ยังเที่ยวไม่ครบ เลยได้จังหวะช่วงหยุดวันพ่อ 5-8 ธันวาคมที่ผ่านมา จึงจัดไปตามใจอยาก(เที่ยว)ทันที ... ใช้เวลาบินแค่ชั่วโมงกว่าๆก็ถึงสนามบินไซ่ง่อน
  เดินออกมาแล้วหมายตาไปที่เคาน์เตอร์ขายซิมการ์ดโทรศัพท์ เคาน์เตอร์ซ้ายสุดซึ่งมีให้เลือกหลายแบบตามจุดประสงค์ของลูกค้า ทั้งแบบโทรอย่างเดียว/ใช้เน็ตอย่างเดียวหรือทั้งโทรทั้งใช้เน็ต เราเลือกสำหรับใช้ 4 วัน ได้มาราคา 139,000 vnd.ราวๆสองร้อยกว่าบาท Speed 1.2Gb ใช้ได้ไม่จำกัด แล้วให้น้องหนูจัดการเปลี่ยนซิมให้เรียบร้อย
                          
  
   ออกมาขึ้นรถเมล์สาย 152 ซึ่งจอดรออยู่แล้ว ในราคาคนละ 5,000 vnd. (ประมาณ7.50บาท)
                            
   คนขับตะโกนบอกว่าถึงฟาร์มงูเหลาแล้ว เดินต่อมาอีกนิดก็ถึงที่พัก โรงแรม Que Houng Saigon Hotel ในซอยใกล้ๆ Viet Sea tourist เจ้าประจำ เช็คอินเรียบร้อยออกมานั่งทานกลางวันที่ร้านหน้าโรงแรม ได้เฝอชามใหญ่รสชาติถูกใจไม่ต้องปรุงกับข้าวอบสับปะรดลูกเบ้อเริ่ม พร้อม Sigon Red Beer เข้มข้นและ Sigon Green Beer เบาบางเย็นเจี๊ยบ
                            
  
   อิ่มท้องแล้วเดินต่อไปที่ Viet Sea tourist ติดต่อซื้อDay Tour ไปหวุงเต่า 1 วัน และสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง (Mekong Delta) 1 วัน ได้มาที่ราคาคนละ 70 usd.รวมตั๋วรถ ตั๋วเรือ (เราเลือกไปหวุงเต่าด้วยรถบัสและกลับโดยเรือเฟอรี่ เพื่อจะได้หลากหลายบรรยากาศ) พร้อมอาหารกลางวันอย่างง่ายๆทั้ง 2 วัน แต่ไม่รวมค่ากระเช้าขึ้นยอดเขาหวุงเต่า ซึ่งหากเป็นหนุ่มๆสาวๆเรี่ยวแรงยังกระฉับกระเฉงดี ก็อาจซื้อตั๋วไปกันเองได้ไม่ง้อทัวร์ แต่เผอิญ จขกท.2 คนวัยรวมกันเกือบ 120ปี แล้ว เลยขอซื้อความสะดวกหน่อยละกัน  
   ช่วงบ่ายแก่ๆ ออกเดินเก็บภาพเมืองโฮจิมินห์ยามค่ำ ย่ำไปจนถึงยามราตรี
                            
                              
  
   เดินทอดน่องสักพักก็มาถึงถนนคนเดินข้างตลาดเบนถาน ที่ขนสินค้าออกมาขายกันบนถนนเลย ราคาก็ต่อรองกันแบบเรียก 180,000 ต่อเหลือ 70,000 ยังให้อย่างง่ายดาย เราหลวมตัวได้ของมาชิ้นหนึ่งพร้อมนึกในใจรู้งี้ต่อสัก 50,000 คงได้ (ถ้าไม่โดนแม่ค้าด่าเสียก่อน)
                          

   ตบท้ายคืนแรกที่ร้าน Sea Food ตรงถนนคนเดินนั่นแหละ คนที่ไปด้วยโชว์ป๋าสั่ง coconut shrimp เพราะอยากให้มีคนแกะกุ้งให้ทาน
                            

เช้าวันที่ 2
   เริ่มเช้านี้ด้วยเฝอร้อนๆกับกาแฟเข้มข้นเอกลักษณ์ของชาวเวียดนาม ก่อนออกไปรอขึ้นรถไปหวุงเต่าโดยมีสาวน้อยเดินนำพาไปส่งที่ขึ้นรถ
                          
                          

    ใช้เวลาเดินทางเกือบ 3 ชั่วโมงก็ถึงสถานีรถบัส ที่นั่นมีคนขับรถและไกด์มารอรับพร้อมแท็กซี่พาทัวร์แบบส่วนตั๊วส่วนตัว
                          

    จุดแรกที่ไกด์พาไปคือกระเช้าขึ้นยอดเขาหวุงเต่า ราคาคนละ 300,000 vnd. (แอบแพงนะ) แต่ไหนๆก็มาละขึ้นก็ขึ้น ถามไกด์ว่าทำไมไม่ขึ้นไปด้วยกัน ไกด์ยิ้มแห้งๆแล้วบอกว่าถ้าขึ้นต้องจ่ายค่ากระเช้าเองไม่มีฟรี อ้าว! ไหงงั้น อยากจะบอกว่าบ้านฉันน่ะ ไกด์เข้าฟรี กินฟรี แถมมีค่าน้ำใส่กระเป๋าให้อีก
                          
                          

     ขึ้นไปมีรถรับชมทั่วบริเวณ มีโรงหนังแบบ 4D และเครื่องเล่นแบบสวนสนุก ทุกอย่างฟรีไม่ต้องจ่ายเพิ่ม ใช้เวลาถ่ายรูป ชมวิวประมาณ 2ชั่วโมงก็ลงมาหาไกด์ที่รออยู่
                        
                        
                        
                        
                         คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
  หลังจากนั้นก็พาทัวร์รอบเมือง ชมวัดปลาวาฬ วัดกลางน้ำ หาดถุ่ยวัน(Thuy Van)  ประภาคาร
                        
  
  แล้วจบที่รูปปั้นพระเยซูคริสต์บนยอดเขา แต่ไม่สามารถขึ้นไปชมใกล้ๆได้เพราะบันไดทางขึ้นมากกว่า 800 ขั้น..เกินกำลัง สว.อย่างเรา เลยขอถ่ายรูปไกลๆเป็นหลักฐานว่ามาถึงแล้ว
                             
      
  แล้วไกด์ก็พาขึ้นยอดเขาอีกลูก ไปยังประภาคารซึ่งสามารถมองเห็นรูปปั้นพระเยซูได้ชัดเจนมากขึ้น
                        

   ที่นี่ลมแรง คลื่นแรงมาก
                          คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
   จบ Day tour วันนี้ที่เวลา ใกล้ 16.30 น.เนื่องจากได้ตั๋วเรือกลับเวลานี้  ปกติค่าเรือเฟอรี่คนละ 200,000 vnd. หากมาซื้อเองแบบ walk in แต่อาจไม่ได้ที่นั่งดีอย่างที่เราได้ (แอบคิดเข้าข้างตัวเอง)
                        

   นั่งชิวล์ๆชมวิว 2 ฝั่งแม่น้ำไปเพลินๆ เบื่อก็ออกมายืนถ่ายรูป
                        
                        
                        
                        
                      ภาพเครื่องจักรจากโรงงานอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ริมฝั่ง เหมือนภาพสัตว์ประหลาดในนิยาย

  เรือใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าก็เตรียมเทียบท่า ทีเด็ดอยู่ที่ภาพวิวเมืองยามค่ำของเมืองไซ่ง่อนที่สวยงามไม่ต่างจากเมืองใหญ่ที่ทันสมัยอย่างฮ่องกงหรือสิงค์โปร์
                          
                          

   จากท่าเรือเราเรียกแท็กซี่ไปย่านฟาร์มงูเหลา ค่ารถไม่ถึงร้อยบาท (ที่นี่ราคามิเตอร์เริ่มที่ 17-18 บาทเท่านั้น) ซึ่งยังไม่เคยพบปัญหาว่าไม่กดมิเตอร์ และส่วนใหญ่จะมีคนของบริษัทรถแท็กซี่คอยโบกรถให้ แต่ร้อยทั้งร้อยไม่สื่อสารกับเราต้องใช้วิธีถ่ายรูปสถานที่ที่จะไปใส่โทรศัพท์ไว้แล้วยื่นให้พี่แกดู หรือไม่ก็เปิด Google map นำทางไปด้วย
   โชคดีที่มาคราวนี้อยู่ในช่วงเทศกาลอาหารนานาชาติ ที่บริเวณสวนสาธารณะกลางเมือง ดังนั้น2 คืนที่เหลือจึงฝากท้องไว้ที่งานนี้ อิ่มกันเปรมปรีดิ์ทั้งลุงและป้า
                        
                        
                        
   
     ผู้หญิงที่นี่สวยจริงๆ ทั้งผิวพรรณ รูปร่างหน้าตา ไม่ว่าสาวน้อย สาวใหญ่สวยอย่างธรรมชาติกันทุกคน
                          

              * ต้องขออภัยที่ภาพอาจไม่สวยคมชัด เนื่องจากใช้กล้อง Digital เล็กๆธรรมดาๆ และกล้องจาก iphone เท่านั้น
        ** ขออนุญาตพักสักครู่นะคะ แล้วมาต่อวันที่ 3 แม่โขงเดลต้า(Mekong Delta) หรือสามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง
ชื่อสินค้า:   หวุงเต่า / แม่โขงเดลต้า
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่