จากกระทู้แรกตอนเริ่มเดินทางนะครับ
http://ppantip.com/topic/31332119
กระทู้ต่อมาตอนนอนสนามบินกะรับรถเช่า
http://ppantip.com/topic/31333395
ขับรถจากฮาเนดะไปคาวา
http://ppantip.com/topic/31334858
ภารกิจ Fuji Five Lakes วันแรก
http://ppantip.com/topic/31336700
พาชมรอบโรงแรมยามเช้า
http://ppantip.com/topic/31338472
อุโมงค์ใบไม้แดงริมคาวา
http://ppantip.com/topic/31341276
3ทะเลสาปที่เหลือ
http://ppantip.com/topic/31342802
กระทู้พักยก
http://ppantip.com/topic/31347641
จบทริปขับรถ
http://ppantip.com/topic/31350653
Tokyo Skytree
http://ppantip.com/topic/31355760
Imperial Palace&Ameyoko Market
http://ppantip.com/topic/31366853
Gundam@Diver City Odaiba
http://ppantip.com/topic/31371790
Tokyo girl@Harajuku&Shibuya
http://ppantip.com/topic/31377933/
ริมแม่น้ำซูมิดะยามค่ำคืน
http://ppantip.com/topic/31381816
สวัสดีทุกท่านอีกครั้งครับผม
ก็ทักทายกันสักนิดตามธรรมเนียมก่อนไปต่อนะครับ
ผมมาย้อนดูโอ้วเราเขียนรีวิวมาหลายยยตอนจังแล้ว ตอนเขียนใหม่ๆผมไม่คิดว่าจะเขียนยาวขนาดนี้
ตอนนี้สารภาพตามตรงบางวันเริ่มขี้เกียจ บางทีก็เหนื่อย บางทีกว่าจะเขียนได้ต้องนั่งสักพักบอกตรงๆครับไม่มีฟีลลิ่งเขียนไม่ออกจริงๆครับ
แต่สิ่งที่ทำให้เขียนมาได้ผมอยากจะใช้คำว่า"เพื่อนๆ"ที่มาตามอ่าน(ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนมาตู่ว่าเค้าเป็นเพื่อนอีก555)
โดยเฉพาะคุณ Bright HR,คุณ ข้าเจ้า_สาวเชียงใหม่ ที่มาทักทายทุกวันไม่เคยขาด,คุณสิบล้อชอบเที่ยวที่มาแซวให้เจ็บๆคันๆเรียกรอยยิ้ม
คุณ NewYork Cheesecake ที่แวะมาทักทายแบบเงียบๆ คุณ kotarokungที่ตามมาเงียบๆตั้งแต่ต้นเริ่มแวะมาเปิดตัวหลังๆ
รวมถึงท่านอื่นๆที่มาเยี่ยมเยียนกันประจำหรือไม่ประจำผมก็ดีใจครับ
การทำงานทุกอย่างย่อมต้องมีอุปสรรค การเขียนกระทู้ก็เหมือนกัน แต่ผมตั้งใจว่าจะต้องผ่านไปให้ได้ให้สมกับความตั้งใจตอนแรก
เพราะผมเชื่อว่าถ้าเรื่องแค่นี้เรายอมแพ้ ในชีวิตจริงเราจะไปรอดฤา
ยังไงถ้ารีวิวถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง ขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ
จากตอนที่แล้วกลับจากริมแม่น้ำซูมิดะ กลับถึงที่พักเที่ยงคืนกว่าๆ ตอนเช้าต้องไปขึ้นชินคันเซน6โมงครึ่ง
ดูสถานการ์ณแล้วถ้านอนไม่ตื่นแหงๆ เพราะเพื่อนก็อาการเดียวกัน เลยเอาวะไม่นงไม่นอนมันแล้ว
นั่งเล่นเนททำโน่นทำนี้ไปเรื่อย พอตี4เก็บของอาบน้ำเสร็จแล้วปลุกเพื่อน ตี5ลากกระเป๋าไปสถานีรถไฟ
ไปถึงสถานีโตเกียวเกือบ6โมง หาซื้อเสบียงไว้กินบนรถแล้วเดินถ่ายรูปเล่น
ถ่ายชินคันเซนมาแต่ไม่ใช่ขบวนที่ผมจะไปผมไปขบวน"ฮายาบุสะ"ครับ
ตอนฮายาบุสะเข้าเทียบถ่ายไม่ทันขอยกยอดไปขากลับนะครับผม
มุ่งหน้า Shin-Aomori
เสบียงของเช้านี้ราคา800เยน
จะเห็นว่าส่วนมากเป็นผักแต่บอกตามตรงมาญี่ปุ่นเนี่ยผมว่ากับข้าวที่เป็นผักเนี่ยอร่อยมากกกครับ
เจอฝรั่งนั่งข้างเลยทักทายถามแกว่ามาจากไหน เจอแกตอบกลับมาว่าเป็น Japanese Residence หน้าแตกเลยผม555(สงสัยได้แฟนเป็นคนญี่ปุ่น)
แกเล่าว่าเพิ่งกลับจากอเมริกาไป Business Trip มาแกอยู่ที่ Shichinohe(จริงๆตอนแรกฟังไม่ออกหรอกครับมาเห็นตอนแกลงเลยเข้าใจว่าแกอยู่เมืองไหน)
เลยถามแกว่าทางตอนเหนือตอนนี้มีหิมะไหม แกบอกว่าต้นเดือนหิมะตกแล้วขาวโพลนเลยแต่ตอนนี้ละลายหมดแล้ว
ความตั้งใจที่จะขึ้นไปเจอหิมะที่ฮอคไกโดถ้าจะชวดซะแล้วT_T
เนื่องจากไม่ได้นอนมาทั้งคืน นั่งสักแปปหลับเกือบตลอดทางเลยครับ มาตื่นใกล้ๆปลายทางแล้ว
ลงที่ชินอาโอโมริรีบลากกระเป๋าไปต่อรถขึ้ันไปฮาโกดาเตะ
ถ่ายขบวนรถทันตอนเข้าชานชาลาพอดี
ขบวน Super Hakucho มุ่งหน้าฮาโกดาเตะ
ขึ้นรถปุ๊ปง่วงปั๊ปอุตส่าห์ว่าจะรอดูตอนลอดอุโมงค์ใต้ทะเลชวดอีก มาโผล่อีกทีถึงฮาโกดาเตะเลยครับผม
เดินลากกระเป๋ามาหน่อยนึงก็ถึงโรงแรม Hotel Ekimae
ราคาคืนละ2200บาท สะดวกครับ7-11อยู่ข้างใต้โรงแรมเลย ห้องใหม่ ห้องน้ำไฮเทคไม่เหมือนที่ผมพักที่โตเกียว
เสียอย่างเดียวห้องค่อนข้างเล็ก เตียงก็เล็กสำหรับตัวใหญ่ๆอย่างผมกับเพื่อน
ขออภัยด้วยครับห้องรกไปหน่อย555
มาฮาโกดาเตะต้องไปกินข้าวหน้าปลาดิบที่ข้างสถานี ลุยยยยย
เดินวนหลายรอบหาอยู่หลายร้านมาได้ร้านนี้อยู่ตรงทางเข้าพอดี เห็นได้รางวัลยอดเยี่นมปี2009ด้วย
ยอมทุ่มทุนสร้างสั่งชามนี้ 3800เยน เป็นชามพิเศษออกรายการทีวีด้วยครับ ดาราญี่ปุ่นมากินกันหลายยยคนแล้ว
ซูมให้เห็นชัดๆเทียบกับตะเกียบชามเบ้อเร้อเลย
ของเพื่อนผมสั่งชามธรรมดารู้สึก1500เยนถ้าจำไม่ผิด
หลังจากชิมแล้วจะบอกยังไงดี ถามว่าอร่อยกว่าที่โตเกียวไหมก็อร่อยกว่าแหละครับ
แต่มันแบบว่าคงตั้งความหวังไว้มากไปหรือลิ้นผมมันได้แค่นี้ รู้สึกว่าอร่อยกว่ากันไม่มาก
ที่อร่อยกว่าชัดเจนก็มี ไข่แซลมอนอันนี้อร่อยกว่าชัวร์กะโฮตาเตะ หอยเม่นก็หวานกว่านิดนึง
แต่เมื่อเทียบกับราคาแล้วผมว่าที่ตลาดปลาซึกิจิก็พอแล้วสำหรับผม ส่วนปูผมก็เฉยๆ
สงสัยดูโทริโกะมากไปแหงๆกะว่ากินแล้วเคลิ้มตัวลอยยยย555
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ลิ้นผมคงจะไม่ถึงขั้นมากกว่าครับ
เสร็จแล้วไปเดินหาผลไม้กิน กลายเป็นเค้าเก็บร้านจะหมดแล้วเพิ่งบ่าย2กว่าๆเอง
ไปเจออยู่ร้านป้าแกกะลังเก็บของเลยไม่ได้ถ่ายรูป ลองเมลอนไม้ละ200เยนดู
โอ้ๆๆๆเมลอนที่นี่สมคำร่ำลือครับ หวานแบบที่ว่าไม่เคยกินมาก่อนเลยใครมาแนะนำให้ลองเลย
กะกลั้นใจลองสตรอเบอรี่กัน800เยน อยู่เมืองไทยใครว่าหวานกินแล้วเจอแต่สตรอเบอรี่เปรี้ยวๆ
มานี่หวานจริงๆครับ แต่หวานอ่อนๆไม่ได้หวานจัดแบบเงาะโรงเรียนบ้านเรานะครับ
แต่ที่สุดยอดคือความหอมมมม ผมเพิ่งเคยได้กลิ่นหอมฟุ้งกระจายของสตรอเบอรี่สดๆก็วันนี้แหละครับ
อิ่มท้องกันเรียบร้อยก็เดินเล่นเลาะอ่าวไปเรื่อยๆ
อันนี้น่าจะเป็นอนุสรณ์เรือเฟอรี่ข้ามฟาก
เดินเลียบอ่าวไปเรื่อยๆลมพัดมาออกจะหนาวเลยครับ แต่สดชื่นไม่เหนียวตัวเหมือนเดินชายทะเลบ้านเรา
เรือประมงของทางญี่ปุ่น
จริงๆตั้งใจจะไปล่องเรือ Blue moon ชมอ่าวฮาโกดาเตะไปถึงปรากฎว่าหยุดให้บริการซะแล้ว สงสัยเป็นช่วงโลว์ซีซั่นแล้วแหงๆ
เลยเดินไปเรื่อยๆไปขึ้นกระเช้าสู่ยอดเขาฮาโกดาเตะ
เจอรถรางถ่ายซะหน่อย
เดินไปจนถึงยอดเนินตามลายแทง
ตรงยอดเนินเค้าจัดเก้าอี้ไว้ให้นั่งชมวิวเลยนะครับ นี่ถ้าเป็นช่วงใบไม้แดงคงจะได้บรรยากาศมากๆเลย
เดินไปจนถึงสถานีรถกระเช้าลืมถ่ายรูปตรงสถานี มาถ่ายตอนขึ้นกระเช้าแล้วครับ
กระเช้าไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆวิวของฮาโกดาเตะก็เผยโฉมออกมา
วิวบนยอดเขาก่อนค่ำ
พระอาทิตย์ยามเย็น ณ ยอดเขาฮาโกดาเตะ
แสงสุดท้ายก่อนอาทิตย์จะลับลา
ยังไม่5โมงก็จะมืดตื๊อแล้ว
อากาศดีๆแบบนี้พอตกค่ำคนไม่รู้จากไหนแห่กันมา แย่งกันถ่ายรูปกันให้ควั่ก ขาตงขาตั้งไม่ได้ใช้กันแล้ว แย่งกันถ่ายมาได้ก็บุญแล้วครับ
คนเยอะรีบเผ่นลงดีกว่านี่กระเช้าขาขึ้นคนแน่นเอี๊ยดๆๆ
ไปหาข้าวเย็นกินกันเล็งร้านนี้ไว้ตั้งแต่ตอนขามาเห็นเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ดี
ภายในร้านบรรยากาศสวยงามครับ
Hakodate Snow Burger ชุดนี้ 580เยน อร่อยครับมีซอสคล้ายๆชิลลี่ด๊อกของแดรี่ควีนอยู่ข้างใน ชิ้นใหญ่กว่าวอปเปอร์ของเบอร์เกอร์คิงอีก
เบอร์เกอร์ร้านนี้ไม่แพงครับสั่งเป็นชิ้นเริ่มต้นที่300เยนร้านอยู่แถวๆโกดังท่าเรือครับ
ร้านรวงประดับไฟกันสวยงาม
อ้อแล้วที่นี่ร้านปิดกันทุ่มนึงนะครับ ผมไม่รู้ลงมาร้านเริ่มทยอยปิดกันแล้วอดเดินเลย
เรือบลูมูนที่ตั้งใจจะมาขึ้นแต่โชคไม่ดีปิดให้บริการ
วิวยอดนิยมของฮาโกดาเตะ
เดินกลับโรงแรมระหว่างทางบ่นกันกับเพื่อนขาไปไม่เห็นไกลทำไมขากลับไกลจังวะ
สรุปเดินจากโรงแรมแถวสถานีรถไฟ-สถานีรถกระเช้าไปกลับนี่ถ้าพาสาวๆมาสงสัยโดนบ่นหูชาแหงๆ555
ไปถึงโรงแรมจะจองตั๋วโตเกียวมอเตอร์โชว์ทางเนท เพราะถ้าจะเปลี่ยนแผนต้องชัวร์ว่ามีตั๋ว
เปิดเนทกลายเป็นซื้อตั๋วทางเนทหมดเขตแล้วตั๋วล่วงหน้าต้องซื้อที่เซเว่นเท่านั้น
หลังจากไปสำรวจมาพบว่าพนักงานเซเว่นอังกฤษบอดสนิท ส่วนพวกผมญี่ปุ่นดับสนิทเหมือนกันท่าจะชวดดดด
แต่เหมือนฟ้าประทานเอาผ้าลงมาซักที่ตู้หยอดเหรียญของโรงแรม
เจอผู้จัดการกะค่ำก็คุยกะแกไปตามสัพเพเหระ แกพูดษาอังกฤษเก่งเลยครับผมหล่อด้วยอัธยาศัยดีอีกตะหากอิอิ
เลยนึกขึ้นได้พี่ๆช่วยไปซื้อตั๋วมอเตอร์โชว์ที่เซเว่นให้หน่อยได้ไหมครับ
แกใจดีมากเลยนะรีบหยิบป้ายพักทำธุระมาวางที่เคาน์เตอร์คว้าเสื้อหนาวแล้วพาพวกผมลงมาเลย
แกมาคุยกะเด็กเซเว่นพูดไปดุไปสอนไป ประมาณเด็กเซเว่นก็ไม่เคยทำรายการแบบนี้
นี่ถ้าให้ผู้จัดการแกทำเองคงเสร็จไปนานแล้ว555
นี่เป็นอย่างนึงเลยที่ผมเห็นว่างานบริการที่ญี่ปุ่นนี่เค้าดีมากเลยนะครับหรือผมโชคดีเจอคนใจดีก็ไม่รู้นะครับ555
หลังจากได้ตั๋วมอเตอร์โชว์มาทริปการเดินทางมีอันต้องเปลี่ยนไปจะเป็นแบบไหน
โปรดติดตามตอนต่อไป^_^
ญี่ปุ่นครั้งแรกกับ12วันแห่งการผจญภัยและอยากกล่าวคำว่าขอบคุณมากครับกับทุกๆข้อมูลในพันทิป(Japan Day 5)
กระทู้ต่อมาตอนนอนสนามบินกะรับรถเช่า http://ppantip.com/topic/31333395
ขับรถจากฮาเนดะไปคาวา http://ppantip.com/topic/31334858
ภารกิจ Fuji Five Lakes วันแรก http://ppantip.com/topic/31336700
พาชมรอบโรงแรมยามเช้า http://ppantip.com/topic/31338472
อุโมงค์ใบไม้แดงริมคาวา http://ppantip.com/topic/31341276
3ทะเลสาปที่เหลือ http://ppantip.com/topic/31342802
กระทู้พักยก http://ppantip.com/topic/31347641
จบทริปขับรถ http://ppantip.com/topic/31350653
Tokyo Skytree http://ppantip.com/topic/31355760
Imperial Palace&Ameyoko Market http://ppantip.com/topic/31366853
Gundam@Diver City Odaiba http://ppantip.com/topic/31371790
Tokyo girl@Harajuku&Shibuya http://ppantip.com/topic/31377933/
ริมแม่น้ำซูมิดะยามค่ำคืน http://ppantip.com/topic/31381816
สวัสดีทุกท่านอีกครั้งครับผม
ก็ทักทายกันสักนิดตามธรรมเนียมก่อนไปต่อนะครับ
ผมมาย้อนดูโอ้วเราเขียนรีวิวมาหลายยยตอนจังแล้ว ตอนเขียนใหม่ๆผมไม่คิดว่าจะเขียนยาวขนาดนี้
ตอนนี้สารภาพตามตรงบางวันเริ่มขี้เกียจ บางทีก็เหนื่อย บางทีกว่าจะเขียนได้ต้องนั่งสักพักบอกตรงๆครับไม่มีฟีลลิ่งเขียนไม่ออกจริงๆครับ
แต่สิ่งที่ทำให้เขียนมาได้ผมอยากจะใช้คำว่า"เพื่อนๆ"ที่มาตามอ่าน(ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนมาตู่ว่าเค้าเป็นเพื่อนอีก555)
โดยเฉพาะคุณ Bright HR,คุณ ข้าเจ้า_สาวเชียงใหม่ ที่มาทักทายทุกวันไม่เคยขาด,คุณสิบล้อชอบเที่ยวที่มาแซวให้เจ็บๆคันๆเรียกรอยยิ้ม
คุณ NewYork Cheesecake ที่แวะมาทักทายแบบเงียบๆ คุณ kotarokungที่ตามมาเงียบๆตั้งแต่ต้นเริ่มแวะมาเปิดตัวหลังๆ
รวมถึงท่านอื่นๆที่มาเยี่ยมเยียนกันประจำหรือไม่ประจำผมก็ดีใจครับ
การทำงานทุกอย่างย่อมต้องมีอุปสรรค การเขียนกระทู้ก็เหมือนกัน แต่ผมตั้งใจว่าจะต้องผ่านไปให้ได้ให้สมกับความตั้งใจตอนแรก
เพราะผมเชื่อว่าถ้าเรื่องแค่นี้เรายอมแพ้ ในชีวิตจริงเราจะไปรอดฤา
ยังไงถ้ารีวิวถูกใจบ้างไม่ถูกใจบ้าง ขออภัยไว้ล่วงหน้าด้วยนะครับ
จากตอนที่แล้วกลับจากริมแม่น้ำซูมิดะ กลับถึงที่พักเที่ยงคืนกว่าๆ ตอนเช้าต้องไปขึ้นชินคันเซน6โมงครึ่ง
ดูสถานการ์ณแล้วถ้านอนไม่ตื่นแหงๆ เพราะเพื่อนก็อาการเดียวกัน เลยเอาวะไม่นงไม่นอนมันแล้ว
นั่งเล่นเนททำโน่นทำนี้ไปเรื่อย พอตี4เก็บของอาบน้ำเสร็จแล้วปลุกเพื่อน ตี5ลากกระเป๋าไปสถานีรถไฟ
ไปถึงสถานีโตเกียวเกือบ6โมง หาซื้อเสบียงไว้กินบนรถแล้วเดินถ่ายรูปเล่น
ถ่ายชินคันเซนมาแต่ไม่ใช่ขบวนที่ผมจะไปผมไปขบวน"ฮายาบุสะ"ครับ
ตอนฮายาบุสะเข้าเทียบถ่ายไม่ทันขอยกยอดไปขากลับนะครับผม
มุ่งหน้า Shin-Aomori
เสบียงของเช้านี้ราคา800เยน
จะเห็นว่าส่วนมากเป็นผักแต่บอกตามตรงมาญี่ปุ่นเนี่ยผมว่ากับข้าวที่เป็นผักเนี่ยอร่อยมากกกครับ
เจอฝรั่งนั่งข้างเลยทักทายถามแกว่ามาจากไหน เจอแกตอบกลับมาว่าเป็น Japanese Residence หน้าแตกเลยผม555(สงสัยได้แฟนเป็นคนญี่ปุ่น)
แกเล่าว่าเพิ่งกลับจากอเมริกาไป Business Trip มาแกอยู่ที่ Shichinohe(จริงๆตอนแรกฟังไม่ออกหรอกครับมาเห็นตอนแกลงเลยเข้าใจว่าแกอยู่เมืองไหน)
เลยถามแกว่าทางตอนเหนือตอนนี้มีหิมะไหม แกบอกว่าต้นเดือนหิมะตกแล้วขาวโพลนเลยแต่ตอนนี้ละลายหมดแล้ว
ความตั้งใจที่จะขึ้นไปเจอหิมะที่ฮอคไกโดถ้าจะชวดซะแล้วT_T
เนื่องจากไม่ได้นอนมาทั้งคืน นั่งสักแปปหลับเกือบตลอดทางเลยครับ มาตื่นใกล้ๆปลายทางแล้ว
ลงที่ชินอาโอโมริรีบลากกระเป๋าไปต่อรถขึ้ันไปฮาโกดาเตะ
ถ่ายขบวนรถทันตอนเข้าชานชาลาพอดี
ขบวน Super Hakucho มุ่งหน้าฮาโกดาเตะ
ขึ้นรถปุ๊ปง่วงปั๊ปอุตส่าห์ว่าจะรอดูตอนลอดอุโมงค์ใต้ทะเลชวดอีก มาโผล่อีกทีถึงฮาโกดาเตะเลยครับผม
เดินลากกระเป๋ามาหน่อยนึงก็ถึงโรงแรม Hotel Ekimae
ราคาคืนละ2200บาท สะดวกครับ7-11อยู่ข้างใต้โรงแรมเลย ห้องใหม่ ห้องน้ำไฮเทคไม่เหมือนที่ผมพักที่โตเกียว
เสียอย่างเดียวห้องค่อนข้างเล็ก เตียงก็เล็กสำหรับตัวใหญ่ๆอย่างผมกับเพื่อน
ขออภัยด้วยครับห้องรกไปหน่อย555
มาฮาโกดาเตะต้องไปกินข้าวหน้าปลาดิบที่ข้างสถานี ลุยยยยย
เดินวนหลายรอบหาอยู่หลายร้านมาได้ร้านนี้อยู่ตรงทางเข้าพอดี เห็นได้รางวัลยอดเยี่นมปี2009ด้วย
ยอมทุ่มทุนสร้างสั่งชามนี้ 3800เยน เป็นชามพิเศษออกรายการทีวีด้วยครับ ดาราญี่ปุ่นมากินกันหลายยยคนแล้ว
ซูมให้เห็นชัดๆเทียบกับตะเกียบชามเบ้อเร้อเลย
ของเพื่อนผมสั่งชามธรรมดารู้สึก1500เยนถ้าจำไม่ผิด
หลังจากชิมแล้วจะบอกยังไงดี ถามว่าอร่อยกว่าที่โตเกียวไหมก็อร่อยกว่าแหละครับ
แต่มันแบบว่าคงตั้งความหวังไว้มากไปหรือลิ้นผมมันได้แค่นี้ รู้สึกว่าอร่อยกว่ากันไม่มาก
ที่อร่อยกว่าชัดเจนก็มี ไข่แซลมอนอันนี้อร่อยกว่าชัวร์กะโฮตาเตะ หอยเม่นก็หวานกว่านิดนึง
แต่เมื่อเทียบกับราคาแล้วผมว่าที่ตลาดปลาซึกิจิก็พอแล้วสำหรับผม ส่วนปูผมก็เฉยๆ
สงสัยดูโทริโกะมากไปแหงๆกะว่ากินแล้วเคลิ้มตัวลอยยยย555
อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ลิ้นผมคงจะไม่ถึงขั้นมากกว่าครับ
เสร็จแล้วไปเดินหาผลไม้กิน กลายเป็นเค้าเก็บร้านจะหมดแล้วเพิ่งบ่าย2กว่าๆเอง
ไปเจออยู่ร้านป้าแกกะลังเก็บของเลยไม่ได้ถ่ายรูป ลองเมลอนไม้ละ200เยนดู
โอ้ๆๆๆเมลอนที่นี่สมคำร่ำลือครับ หวานแบบที่ว่าไม่เคยกินมาก่อนเลยใครมาแนะนำให้ลองเลย
กะกลั้นใจลองสตรอเบอรี่กัน800เยน อยู่เมืองไทยใครว่าหวานกินแล้วเจอแต่สตรอเบอรี่เปรี้ยวๆ
มานี่หวานจริงๆครับ แต่หวานอ่อนๆไม่ได้หวานจัดแบบเงาะโรงเรียนบ้านเรานะครับ
แต่ที่สุดยอดคือความหอมมมม ผมเพิ่งเคยได้กลิ่นหอมฟุ้งกระจายของสตรอเบอรี่สดๆก็วันนี้แหละครับ
อิ่มท้องกันเรียบร้อยก็เดินเล่นเลาะอ่าวไปเรื่อยๆ
อันนี้น่าจะเป็นอนุสรณ์เรือเฟอรี่ข้ามฟาก
เดินเลียบอ่าวไปเรื่อยๆลมพัดมาออกจะหนาวเลยครับ แต่สดชื่นไม่เหนียวตัวเหมือนเดินชายทะเลบ้านเรา
เรือประมงของทางญี่ปุ่น
จริงๆตั้งใจจะไปล่องเรือ Blue moon ชมอ่าวฮาโกดาเตะไปถึงปรากฎว่าหยุดให้บริการซะแล้ว สงสัยเป็นช่วงโลว์ซีซั่นแล้วแหงๆ
เลยเดินไปเรื่อยๆไปขึ้นกระเช้าสู่ยอดเขาฮาโกดาเตะ
เจอรถรางถ่ายซะหน่อย
เดินไปจนถึงยอดเนินตามลายแทง
ตรงยอดเนินเค้าจัดเก้าอี้ไว้ให้นั่งชมวิวเลยนะครับ นี่ถ้าเป็นช่วงใบไม้แดงคงจะได้บรรยากาศมากๆเลย
เดินไปจนถึงสถานีรถกระเช้าลืมถ่ายรูปตรงสถานี มาถ่ายตอนขึ้นกระเช้าแล้วครับ
กระเช้าไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆวิวของฮาโกดาเตะก็เผยโฉมออกมา
วิวบนยอดเขาก่อนค่ำ
พระอาทิตย์ยามเย็น ณ ยอดเขาฮาโกดาเตะ
แสงสุดท้ายก่อนอาทิตย์จะลับลา
ยังไม่5โมงก็จะมืดตื๊อแล้ว
อากาศดีๆแบบนี้พอตกค่ำคนไม่รู้จากไหนแห่กันมา แย่งกันถ่ายรูปกันให้ควั่ก ขาตงขาตั้งไม่ได้ใช้กันแล้ว แย่งกันถ่ายมาได้ก็บุญแล้วครับ
คนเยอะรีบเผ่นลงดีกว่านี่กระเช้าขาขึ้นคนแน่นเอี๊ยดๆๆ
ไปหาข้าวเย็นกินกันเล็งร้านนี้ไว้ตั้งแต่ตอนขามาเห็นเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่ดี
ภายในร้านบรรยากาศสวยงามครับ
Hakodate Snow Burger ชุดนี้ 580เยน อร่อยครับมีซอสคล้ายๆชิลลี่ด๊อกของแดรี่ควีนอยู่ข้างใน ชิ้นใหญ่กว่าวอปเปอร์ของเบอร์เกอร์คิงอีก
เบอร์เกอร์ร้านนี้ไม่แพงครับสั่งเป็นชิ้นเริ่มต้นที่300เยนร้านอยู่แถวๆโกดังท่าเรือครับ
ร้านรวงประดับไฟกันสวยงาม
อ้อแล้วที่นี่ร้านปิดกันทุ่มนึงนะครับ ผมไม่รู้ลงมาร้านเริ่มทยอยปิดกันแล้วอดเดินเลย
เรือบลูมูนที่ตั้งใจจะมาขึ้นแต่โชคไม่ดีปิดให้บริการ
วิวยอดนิยมของฮาโกดาเตะ
เดินกลับโรงแรมระหว่างทางบ่นกันกับเพื่อนขาไปไม่เห็นไกลทำไมขากลับไกลจังวะ
สรุปเดินจากโรงแรมแถวสถานีรถไฟ-สถานีรถกระเช้าไปกลับนี่ถ้าพาสาวๆมาสงสัยโดนบ่นหูชาแหงๆ555
ไปถึงโรงแรมจะจองตั๋วโตเกียวมอเตอร์โชว์ทางเนท เพราะถ้าจะเปลี่ยนแผนต้องชัวร์ว่ามีตั๋ว
เปิดเนทกลายเป็นซื้อตั๋วทางเนทหมดเขตแล้วตั๋วล่วงหน้าต้องซื้อที่เซเว่นเท่านั้น
หลังจากไปสำรวจมาพบว่าพนักงานเซเว่นอังกฤษบอดสนิท ส่วนพวกผมญี่ปุ่นดับสนิทเหมือนกันท่าจะชวดดดด
แต่เหมือนฟ้าประทานเอาผ้าลงมาซักที่ตู้หยอดเหรียญของโรงแรม
เจอผู้จัดการกะค่ำก็คุยกะแกไปตามสัพเพเหระ แกพูดษาอังกฤษเก่งเลยครับผมหล่อด้วยอัธยาศัยดีอีกตะหากอิอิ
เลยนึกขึ้นได้พี่ๆช่วยไปซื้อตั๋วมอเตอร์โชว์ที่เซเว่นให้หน่อยได้ไหมครับ
แกใจดีมากเลยนะรีบหยิบป้ายพักทำธุระมาวางที่เคาน์เตอร์คว้าเสื้อหนาวแล้วพาพวกผมลงมาเลย
แกมาคุยกะเด็กเซเว่นพูดไปดุไปสอนไป ประมาณเด็กเซเว่นก็ไม่เคยทำรายการแบบนี้
นี่ถ้าให้ผู้จัดการแกทำเองคงเสร็จไปนานแล้ว555
นี่เป็นอย่างนึงเลยที่ผมเห็นว่างานบริการที่ญี่ปุ่นนี่เค้าดีมากเลยนะครับหรือผมโชคดีเจอคนใจดีก็ไม่รู้นะครับ555
หลังจากได้ตั๋วมอเตอร์โชว์มาทริปการเดินทางมีอันต้องเปลี่ยนไปจะเป็นแบบไหน
โปรดติดตามตอนต่อไป^_^