-เปิดตอนมาย้อนเหตุการณ์ไปเมื่อสองปีก่อน นาโอะกับเลขาเอรินะตอนเด็กกำลังจะดวลโชคุเงคิกัน โดยมีเงื่อนไขว่าถ้านาโอะชนะ"อาราโตะ ฮิซาโกะ"หรือเลขาของเอรินะจะต้องมอบตำแหน่งเลขาแล้วก็คนสนิทของเอรินะให้กับเธอ แต่ถ้าหากว่าเธอแพ้ขึ้นมาละก็ ฮิซาโกะจะห้ามไม่ให้นาโอะเข้าใกล้เอรินะในรัศมี50เมตรรอบตัวของเอรินะ ซึ่งผลก็ออกมาอย่างที่รู้ๆกัน คือนาโอะแพ้แล้วกลายเป็นสตอคเกอร์ไปตั้งแต่นั้น ต้องคอยถ้ำมองเอรินะด้วยกล้องส่องทางไกลกับส่งจดหมายรักนับวันละสามสิบฉบับแทน (ซึ่งแน่นอนว่าฮิซาโกะก็กันไม่ให้จดหมายถึงตัวเอรินะ)
-ว่าแล้วก็ถึงตาฮิซาโกะเสริฟอาหาร ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับข้าวต้มมากกว่าแกง ซึ่งโอริเอะก็เดาว่าแกงที่ว่าคงจะหมายถึงซุปที่ราดลงไปบนข้าว ซึ่งกรรมการคิตะโอซาจิเองก็ดูวัตถุดิบ แล้วก็ไล่รายชื่อว่ามี กระหล่ำ,ลีค(กระเทียมต้น),แครอท,หัวหอม และที่อยู่บนสุดก็คือ"เนื้อแกะแก่" ซึ่งปกติจะมีกลิ่นคาวและมีความเหนียวมาก แต่จานของฮิซาโกะกับไร้กลิ่นคาวเพราะใช้เครื่องเทศในการดับกลิ่น
(ปกติเนื้อแกะแก่มักจะนำมาทำสต็อก สตูว์หรืออะไรก็ตามแต่ที่ต้องใช้เวลาในการเคี่ยว เพราะว่าเนื้อจะค่อนข้างเหนียวมาก ส่วนเครื่องราดหน้าอื่นๆนอกจากกระหล่ำแล้ว เป็นของพื้นฐานในการทำพวกสต็อกหรือสตูว์ของฝรั่งครับ)
-แต่ดูเหมือนว่าบรรดากรรมการยังคงติดใจกลิ่นเหม็นของอาหารซาดาโกะอยู่ ซึ่งนี้ก็เป็นเรื่องที่เธอคำนวนเอาไว้อยู่แล้ว เพราะอาหารของเธอนั้นมีความอร่อยที่ทำให้คนยอมกินเข้าไปแม้จะเหม็นขนาดไหนก็ตาม แน่นอนว่าพอกินเข้าไปเยอะๆหรือจนหมด แทนที่จะรู้สึกเหม็นก็จะรู้สึกชินกลายเป็นติดใจกลิ่นเหล่านั้นแทน
(เหมือนพวกปลาร้าไม่ก็ทุเรียนบ้านเรา ที่คนพึ่งเคยกินอาจจะบอกว่าเหม็นแต่ถ้ากินไปบ่อยๆหรือชอบก็จะมองว่าไม่เหม็นเท่าไรเป็นต้น)
-แต่พอกินเข้าไปแล้วกรรมการอันโดก็ออกรีแอคชั่นกล้ามขึ้นทันที ทำเอาทุกคนตกใจ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาว่า กลิ่นเฉพาะของอาหารจานนี้คือ"四物湯" (ซื่ออูทัง(ภาษาจีน)) เป็นคำเรียกรวมเครื่องยาจีนทั้งสี่ชนิดนั้นเอง โดยมีส่วนประกอบคือ "ตังกุย","โกฐหัวบัว","โกฐขี้แมว","รากโบตั๋น" ซึ่ง ซื่ออู้ทังนี้เป็นของที่ได้รับการเล่าลือกันว่าคนที่ตายไปแล้วสามารถคืนชีพได้เมื่อได้กิน
(ซื่ออู้ทังมีคุณสมบัติ บำรุงเลือดและปรับสมดุลเลือด ปกติจะเอามาต้มแล้วทานน้ำของมันเสียมากกว่า ซึ่งก็เป็นการเฉลยว่าทำไมเธอถึงบดเครื่องเทศเสร็จแล้วเอาไปละลายน้ำ)
-ซึ่งตอนนี้ก็ได้เผยทักษะของอาราโตะ ฮิซาโกะนั้นก็คือการทำ"อาหารการแพทย์"นั้นเอง ซึ่งความเชี่ยวชาญของเธอนั้นคือการทำอาหารยาโดยเฉพาะยาจีนที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยซื่ออุ้ทังนี้เธอได้เพิ่มส่วนผสมเข้าไปอีกสามอย่างคือ"薑黃(ขมิ้น)","大茴香(โป๊ยกั้ก)"และ"小茴香(ผักชีล้อมหรือเฟนเนล)"ให้ครบสูตร"เครื่องเทศการแพทย์"แบบต้นตำรับ
(สำหรับคนที่อ่านแสกนจะเห็นว่าตอนนี้คนแปล(Eru)ทับศัพท์วัตถุดิบเกือบหมดเลย นั่นก็เพราะชื่อวัตถุดิบในตอนนี้ เขียนเป็นคันจิแบบจีนครับซึ่งจะมีอธิบายให้เข้าใจอีกทีตอนกรรมการคิตะโอซาจิทาน)
-เธอเริ่มด้วยการบดเครื่องเทศแล้วเอาไปละลายน้ำเพื่อให้เกิดสรรพคุณทางยา ซึ่งการบดจะช่วยให้เครื่องยาจีนเหล่านี้ละลายได้เร็วขึ้น จากนั้นก็ใส่เนื้อกับผักต่างๆลงไปแล้วเคี่ยวจนเนื้อนุ่ม ก่อนจะใส่"紹興酒(โชโคจู/เหล้าจีน)"กับผักชีลงไปเพิ่มกลิ่นปิดท้าย ซึ่งเหล่ากรรมการเองก็พึ่งนึกได้ว่า ทั้งขมิ้น,โป๊ยกั๊กแล้วก็เฟนเนลนั้น ต่างเป็นของที่ใช้กับแกงเหมือนกันทั้งนั้น ซึ่งนี้ก็คือ อาหารจานแกงของอาราโตะ ฮิซาโกะ "แกงแกะแก่ซืออู้ทัง"
(โชโคจูเป็นเหล้าจีนประเภทหนึ่งที่นิยมใช้ในการทำอาหารจีน เอาจริงๆต่างประเทศเรียกว่า ไชนีสไวน์ แต่ผมขอเรียกว่าเหล้าจีนเพราะคิดว่าทุกคนก็คงจะคุ้นมากกว่า อีกอย่างถึงจะชื่อว่าไวน์แต่โชโคจูเนี่ยมักจากข้าว ไม่ใช่ผลไม้)
-ซึ่งเหล่ากรรมการเองพอกินเข้าไปก็ออกรีแอคชั่นและรู้สึกดีขึ้นทั้งกายแล้วก็จิตตามคุณสมบัติของอาหารยา แถมด้วยกลิ่นหอมที่มาพร้อมกับรสชาติที่เข้ากันทำให้รู้สึกว่าจานก่อนหน้านี้(ของซาดาโกะ)มีแค่อิมแพคเท่านั้นจริงๆ พอได้ยินแบบนี้ก็ทำให้ซาดาโกะถึงกับเหวอออกมา ซึ่งฮิซาโกะเองก็ส่งจานที่ทำเพื่อให้มาให้ซาดาโกะลองกินดูแล้วบอกว่านี้และคือหลักฐานความต่างชั้นฝีมือของเธอกับนาโอะ
-ซึ่งพอทานเข้าไป ก็เหมือนนาโอะโดนไล่ผีออกจากร่าง จากซาดาโกะกลายเป็นไวท์นาโอะในพริบตา...(และก็กลับมาเป็นแบบเดิมในพริบตาเช่นกัน) ซึ่งฮิซาโกะก็เอ่ยว่า ตระกูลอาราโตะของเธอนั้นเป็นตระกูลหมอยาจีนที่เก่าแก่ ซึ่งเธอก็ศึกษาเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วตั้งใจจะใช้อาหารยาจีนเหล่านี้เสิร์ฟให้กับเอรินะ เหมือนกับราชวงค์ของจีนในอดีตที่จะมี"หมออาหาร"คอยเสิร์ฟอาหารให้กับจักรพรรดิ์ ซึ่งสำหรับเธอจักรพรรดิ์ก็คือเอรินะนั้นเอง แถมฮิซาโกะยังบอกอีกว่า อาหารของซาดาโกะน่ะ ทำออกมาโดยยึกเอาตัวเองเป็นหลัก อาหารแบบนั้นไม่มีคุณสมบัติเอาไปเสิร์ฟให้ท่านเอรินะได้หรอก ซึ่งเธอก็บอกให้"ขยะ"ที่เกะกะลูกตาแบบนาโอะน่ะหายตัวไปซะ ว่าแล้วอุราร่าก็ประกาศคะแนน โดยที่ฮิซาโกะได้ไปถึง92คะแนนจาก100 ทำเอา84คะแนนของนาโอะนั้นด้อยลงไปเลยในพริบตา
-แต่ระหว่างที่ฮิซาโกะเดินเชิดจากไป...หารู้ไม่ว่า...Mเข้าขั้นอย่างนาโอะกำลังฟินที่โดนด่าอยู่...ท่าทางนาโอะจะเปลี่ยนเป้าหมายจากเอรินะมาเป็นฮิซาโกะซะแล้ว...ถือว่าเรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดี...(เหรอ!?)
-ขณะเดียวกัน ที่บล็อกA ผู้ช่วยของอลิสเองก็พึ่งทำอาหารได้คะแนนไปถึง93คะแนน!?
จบตอน
สำหรับตอนนี้ก็เป็นการโชว์ฝีมือพร้อมกับประกาศชื่อเลขาของเอรินะ อาราโตะ ฮิซาโกะอย่างเป็นทางการซะที ซึ่งยอมรับเลยว่าอาจารย์ยูโตะแกคิดไสตล์การทำอาหารออกมาได้สมกับเป็นคู่ปรับกันจริงๆ เพราะถ้านาโอะคือแม่มดปรุงยาพิษฮิซาโกะก็เป็นหมอปรุงยารักษา แถมอาหารของนาโอะนั้นเรียกได้ว่าแทบจะแพ้ทางฮิซาโกะแม้แต่วิธีการคิดแล้ว
อาหารของนาโอะนั้นเป็นอาหารที่สร้างความโดดเด่นโดยการทำให้รูปกับกลิ่นของอาหารแย่ลงไป ดึงแต่รสขึ้นมาเท่านั้น ซึ่งจะมีจุดเด่นที่อิมแพ็คกับความแปลก ส่วนของฮิซาโกะนั้นเป็นอาหารยาที่รักษาสมดุลในเรื่องของรสชาติกับกลิ่นที่ผลให้คนกินทานเข้าไปแล้วรู้สึกดี ถ้านาโอะไม่ทำอาหารแปลกที่อร่อยแบบสุดๆ(แบบอากิยามะ จาง ตัวเอกเรื่องจอมโหดกระทะเหล็ก) แทบจะไม่มีทางเอาชนะฮิซาโกะได้เลย
จุดอ่อนของอาหารฮิซาโกะ(ที่ผมเดาๆไว้ ถ้าเกิดทุกจานของเธอกระบวนการทำและวิธีคิดคล้ายๆจานนี้) น่าจะขาดเรื่องความโดดเด่น(ตรงกันข้ามกับนาโอะอีกเหมือนกัน) เพราะอาหารของฮิซาโกะเป็นอาหารดูง่ายๆแต่กินเข้าไปแล้วรู้สึกดีมีผลต่อร่างกาย เพราะงั้นถ้านาโอะจะชนะคงต้องแข่งเรื่องความโดดเด่นไม่ก็ต้องเป็นจำพวกหัวข้อของแปลกเท่านั้นละ เธอถึงจะเอาชนะได้
สำหรับตอนหน้า หน้าสีของโซมะพร้อมกับข่าวใหญ่ที่จะประกาศ(ผลโหวตตัวละคร?) แล้วเรามาดูกันว่าจะยังอยู่ที่บล็อกBหรือจะไปดูทางด้านบล็อกAกันบ้าง
<Spoil+Detail> (Shokugeki no Souma) ตอนที่ 52 -คนที่คู่ควรแก่การรับใช้ที่สุด-
-ว่าแล้วก็ถึงตาฮิซาโกะเสริฟอาหาร ซึ่งมีรูปร่างหน้าตาคล้ายกับข้าวต้มมากกว่าแกง ซึ่งโอริเอะก็เดาว่าแกงที่ว่าคงจะหมายถึงซุปที่ราดลงไปบนข้าว ซึ่งกรรมการคิตะโอซาจิเองก็ดูวัตถุดิบ แล้วก็ไล่รายชื่อว่ามี กระหล่ำ,ลีค(กระเทียมต้น),แครอท,หัวหอม และที่อยู่บนสุดก็คือ"เนื้อแกะแก่" ซึ่งปกติจะมีกลิ่นคาวและมีความเหนียวมาก แต่จานของฮิซาโกะกับไร้กลิ่นคาวเพราะใช้เครื่องเทศในการดับกลิ่น
(ปกติเนื้อแกะแก่มักจะนำมาทำสต็อก สตูว์หรืออะไรก็ตามแต่ที่ต้องใช้เวลาในการเคี่ยว เพราะว่าเนื้อจะค่อนข้างเหนียวมาก ส่วนเครื่องราดหน้าอื่นๆนอกจากกระหล่ำแล้ว เป็นของพื้นฐานในการทำพวกสต็อกหรือสตูว์ของฝรั่งครับ)
-แต่ดูเหมือนว่าบรรดากรรมการยังคงติดใจกลิ่นเหม็นของอาหารซาดาโกะอยู่ ซึ่งนี้ก็เป็นเรื่องที่เธอคำนวนเอาไว้อยู่แล้ว เพราะอาหารของเธอนั้นมีความอร่อยที่ทำให้คนยอมกินเข้าไปแม้จะเหม็นขนาดไหนก็ตาม แน่นอนว่าพอกินเข้าไปเยอะๆหรือจนหมด แทนที่จะรู้สึกเหม็นก็จะรู้สึกชินกลายเป็นติดใจกลิ่นเหล่านั้นแทน
(เหมือนพวกปลาร้าไม่ก็ทุเรียนบ้านเรา ที่คนพึ่งเคยกินอาจจะบอกว่าเหม็นแต่ถ้ากินไปบ่อยๆหรือชอบก็จะมองว่าไม่เหม็นเท่าไรเป็นต้น)
-แต่พอกินเข้าไปแล้วกรรมการอันโดก็ออกรีแอคชั่นกล้ามขึ้นทันที ทำเอาทุกคนตกใจ ก่อนที่จะเอ่ยออกมาว่า กลิ่นเฉพาะของอาหารจานนี้คือ"四物湯" (ซื่ออูทัง(ภาษาจีน)) เป็นคำเรียกรวมเครื่องยาจีนทั้งสี่ชนิดนั้นเอง โดยมีส่วนประกอบคือ "ตังกุย","โกฐหัวบัว","โกฐขี้แมว","รากโบตั๋น" ซึ่ง ซื่ออู้ทังนี้เป็นของที่ได้รับการเล่าลือกันว่าคนที่ตายไปแล้วสามารถคืนชีพได้เมื่อได้กิน
(ซื่ออู้ทังมีคุณสมบัติ บำรุงเลือดและปรับสมดุลเลือด ปกติจะเอามาต้มแล้วทานน้ำของมันเสียมากกว่า ซึ่งก็เป็นการเฉลยว่าทำไมเธอถึงบดเครื่องเทศเสร็จแล้วเอาไปละลายน้ำ)
-ซึ่งตอนนี้ก็ได้เผยทักษะของอาราโตะ ฮิซาโกะนั้นก็คือการทำ"อาหารการแพทย์"นั้นเอง ซึ่งความเชี่ยวชาญของเธอนั้นคือการทำอาหารยาโดยเฉพาะยาจีนที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน โดยซื่ออุ้ทังนี้เธอได้เพิ่มส่วนผสมเข้าไปอีกสามอย่างคือ"薑黃(ขมิ้น)","大茴香(โป๊ยกั้ก)"และ"小茴香(ผักชีล้อมหรือเฟนเนล)"ให้ครบสูตร"เครื่องเทศการแพทย์"แบบต้นตำรับ
(สำหรับคนที่อ่านแสกนจะเห็นว่าตอนนี้คนแปล(Eru)ทับศัพท์วัตถุดิบเกือบหมดเลย นั่นก็เพราะชื่อวัตถุดิบในตอนนี้ เขียนเป็นคันจิแบบจีนครับซึ่งจะมีอธิบายให้เข้าใจอีกทีตอนกรรมการคิตะโอซาจิทาน)
-เธอเริ่มด้วยการบดเครื่องเทศแล้วเอาไปละลายน้ำเพื่อให้เกิดสรรพคุณทางยา ซึ่งการบดจะช่วยให้เครื่องยาจีนเหล่านี้ละลายได้เร็วขึ้น จากนั้นก็ใส่เนื้อกับผักต่างๆลงไปแล้วเคี่ยวจนเนื้อนุ่ม ก่อนจะใส่"紹興酒(โชโคจู/เหล้าจีน)"กับผักชีลงไปเพิ่มกลิ่นปิดท้าย ซึ่งเหล่ากรรมการเองก็พึ่งนึกได้ว่า ทั้งขมิ้น,โป๊ยกั๊กแล้วก็เฟนเนลนั้น ต่างเป็นของที่ใช้กับแกงเหมือนกันทั้งนั้น ซึ่งนี้ก็คือ อาหารจานแกงของอาราโตะ ฮิซาโกะ "แกงแกะแก่ซืออู้ทัง"
(โชโคจูเป็นเหล้าจีนประเภทหนึ่งที่นิยมใช้ในการทำอาหารจีน เอาจริงๆต่างประเทศเรียกว่า ไชนีสไวน์ แต่ผมขอเรียกว่าเหล้าจีนเพราะคิดว่าทุกคนก็คงจะคุ้นมากกว่า อีกอย่างถึงจะชื่อว่าไวน์แต่โชโคจูเนี่ยมักจากข้าว ไม่ใช่ผลไม้)
-ซึ่งเหล่ากรรมการเองพอกินเข้าไปก็ออกรีแอคชั่นและรู้สึกดีขึ้นทั้งกายแล้วก็จิตตามคุณสมบัติของอาหารยา แถมด้วยกลิ่นหอมที่มาพร้อมกับรสชาติที่เข้ากันทำให้รู้สึกว่าจานก่อนหน้านี้(ของซาดาโกะ)มีแค่อิมแพคเท่านั้นจริงๆ พอได้ยินแบบนี้ก็ทำให้ซาดาโกะถึงกับเหวอออกมา ซึ่งฮิซาโกะเองก็ส่งจานที่ทำเพื่อให้มาให้ซาดาโกะลองกินดูแล้วบอกว่านี้และคือหลักฐานความต่างชั้นฝีมือของเธอกับนาโอะ
-ซึ่งพอทานเข้าไป ก็เหมือนนาโอะโดนไล่ผีออกจากร่าง จากซาดาโกะกลายเป็นไวท์นาโอะในพริบตา...(และก็กลับมาเป็นแบบเดิมในพริบตาเช่นกัน) ซึ่งฮิซาโกะก็เอ่ยว่า ตระกูลอาราโตะของเธอนั้นเป็นตระกูลหมอยาจีนที่เก่าแก่ ซึ่งเธอก็ศึกษาเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่เด็กแล้วตั้งใจจะใช้อาหารยาจีนเหล่านี้เสิร์ฟให้กับเอรินะ เหมือนกับราชวงค์ของจีนในอดีตที่จะมี"หมออาหาร"คอยเสิร์ฟอาหารให้กับจักรพรรดิ์ ซึ่งสำหรับเธอจักรพรรดิ์ก็คือเอรินะนั้นเอง แถมฮิซาโกะยังบอกอีกว่า อาหารของซาดาโกะน่ะ ทำออกมาโดยยึกเอาตัวเองเป็นหลัก อาหารแบบนั้นไม่มีคุณสมบัติเอาไปเสิร์ฟให้ท่านเอรินะได้หรอก ซึ่งเธอก็บอกให้"ขยะ"ที่เกะกะลูกตาแบบนาโอะน่ะหายตัวไปซะ ว่าแล้วอุราร่าก็ประกาศคะแนน โดยที่ฮิซาโกะได้ไปถึง92คะแนนจาก100 ทำเอา84คะแนนของนาโอะนั้นด้อยลงไปเลยในพริบตา
-แต่ระหว่างที่ฮิซาโกะเดินเชิดจากไป...หารู้ไม่ว่า...Mเข้าขั้นอย่างนาโอะกำลังฟินที่โดนด่าอยู่...ท่าทางนาโอะจะเปลี่ยนเป้าหมายจากเอรินะมาเป็นฮิซาโกะซะแล้ว...ถือว่าเรื่องทุกอย่างจบลงด้วยดี...(เหรอ!?)
-ขณะเดียวกัน ที่บล็อกA ผู้ช่วยของอลิสเองก็พึ่งทำอาหารได้คะแนนไปถึง93คะแนน!?
จบตอน
สำหรับตอนนี้ก็เป็นการโชว์ฝีมือพร้อมกับประกาศชื่อเลขาของเอรินะ อาราโตะ ฮิซาโกะอย่างเป็นทางการซะที ซึ่งยอมรับเลยว่าอาจารย์ยูโตะแกคิดไสตล์การทำอาหารออกมาได้สมกับเป็นคู่ปรับกันจริงๆ เพราะถ้านาโอะคือแม่มดปรุงยาพิษฮิซาโกะก็เป็นหมอปรุงยารักษา แถมอาหารของนาโอะนั้นเรียกได้ว่าแทบจะแพ้ทางฮิซาโกะแม้แต่วิธีการคิดแล้ว
อาหารของนาโอะนั้นเป็นอาหารที่สร้างความโดดเด่นโดยการทำให้รูปกับกลิ่นของอาหารแย่ลงไป ดึงแต่รสขึ้นมาเท่านั้น ซึ่งจะมีจุดเด่นที่อิมแพ็คกับความแปลก ส่วนของฮิซาโกะนั้นเป็นอาหารยาที่รักษาสมดุลในเรื่องของรสชาติกับกลิ่นที่ผลให้คนกินทานเข้าไปแล้วรู้สึกดี ถ้านาโอะไม่ทำอาหารแปลกที่อร่อยแบบสุดๆ(แบบอากิยามะ จาง ตัวเอกเรื่องจอมโหดกระทะเหล็ก) แทบจะไม่มีทางเอาชนะฮิซาโกะได้เลย
จุดอ่อนของอาหารฮิซาโกะ(ที่ผมเดาๆไว้ ถ้าเกิดทุกจานของเธอกระบวนการทำและวิธีคิดคล้ายๆจานนี้) น่าจะขาดเรื่องความโดดเด่น(ตรงกันข้ามกับนาโอะอีกเหมือนกัน) เพราะอาหารของฮิซาโกะเป็นอาหารดูง่ายๆแต่กินเข้าไปแล้วรู้สึกดีมีผลต่อร่างกาย เพราะงั้นถ้านาโอะจะชนะคงต้องแข่งเรื่องความโดดเด่นไม่ก็ต้องเป็นจำพวกหัวข้อของแปลกเท่านั้นละ เธอถึงจะเอาชนะได้
สำหรับตอนหน้า หน้าสีของโซมะพร้อมกับข่าวใหญ่ที่จะประกาศ(ผลโหวตตัวละคร?) แล้วเรามาดูกันว่าจะยังอยู่ที่บล็อกBหรือจะไปดูทางด้านบล็อกAกันบ้าง