ศาลยกคำร้อง ออกหมายจับข้อหากบฏ แกนนำ กปปส. คปท. และกลุ่มอื่นรวม 13 คน หลังเห็นว่า นายกฯ ยุบสภาแล้ว เชื่อ เหตุการณ์คลี่คลาย...
วันที่ 9 ธ.ค. พนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอออกหมายจับ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นายชุมพล จุลใส, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์, นายอิสสระ สมชัย, นายวิทยา แก้วภราดัย, นายถาวร เสนเนียม, นายณัฐพล ทีปสุวรรณ, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์, นางอัญชะลี ไพรีรัก, นายนิติธร ล้ำเหลือ, นายอุทัย ยอดมณี, ร้อยตรีแซมดิน เลิศบุศย์, พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและรัฐบาล รวม 13 คน ในข้อหา ร่วมกันเป็นกบฏ, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่า จะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 133,116 ,215 วรรคสาม มาตรา 216 ประกอบมาตรา 83
โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายกรัฐมนตรีได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายร่างพระราชกฤษฎีการยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2556 มาตรา 108 อันเป็นวิถีทางแห่งประชาธิปไตย จึงเชื่อว่าเหตุการณ์ต่างๆ น่าจะลดความรุนแรงลง ในชั้นนี้จึงยังไม่มีเหตุสมควรที่จะออกหมายจับ ให้ยกคำร้อง
ที่มา thairath.co.th
สรุปคือทำผิดจริงตามคำร้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ยกคำร้องเพราะเชื่อว่าสถานการณ์บ้านเมืองน่าจะดีขึ้น
ศาลอาญา ยกคำร้องกบฏ 13 แกนนำม็อบ ด้วยเหตุผลที่ว่า........
ศาลยกคำร้อง ออกหมายจับข้อหากบฏ แกนนำ กปปส. คปท. และกลุ่มอื่นรวม 13 คน หลังเห็นว่า นายกฯ ยุบสภาแล้ว เชื่อ เหตุการณ์คลี่คลาย...
วันที่ 9 ธ.ค. พนักงานสอบสวน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญา ขอออกหมายจับ นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย, นายชุมพล จุลใส, นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์, นายอิสสระ สมชัย, นายวิทยา แก้วภราดัย, นายถาวร เสนเนียม, นายณัฐพล ทีปสุวรรณ, นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์, นางอัญชะลี ไพรีรัก, นายนิติธร ล้ำเหลือ, นายอุทัย ยอดมณี, ร้อยตรีแซมดิน เลิศบุศย์, พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ แกนนำกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและรัฐบาล รวม 13 คน ในข้อหา ร่วมกันเป็นกบฏ, กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือ หรือวิธีอื่นใด อันมิใช่เป็นการกระทำภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็น หรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วน หรือเพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน, มั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่า จะใช้กำลังประทุษร้าย หรือกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 133,116 ,215 วรรคสาม มาตรา 216 ประกอบมาตรา 83
โดยศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า นายกรัฐมนตรีได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายร่างพระราชกฤษฎีการยุบสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ซึ่งเป็นไปตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2556 มาตรา 108 อันเป็นวิถีทางแห่งประชาธิปไตย จึงเชื่อว่าเหตุการณ์ต่างๆ น่าจะลดความรุนแรงลง ในชั้นนี้จึงยังไม่มีเหตุสมควรที่จะออกหมายจับ ให้ยกคำร้อง
ที่มา thairath.co.th
สรุปคือทำผิดจริงตามคำร้องของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่ยกคำร้องเพราะเชื่อว่าสถานการณ์บ้านเมืองน่าจะดีขึ้น