[CR] [Review] The Hobbit : The Desolation Of Smaug Premiere [Not Spoil]

หลังจากรอคอยกันมาอย่างยาวนานเป็นปี ได้มีโอกาสรับชม The Hobbit ภาคสองนี้รอบพรีเมียร์ค่ะ (รอบสื่อ) ขอบอกเลยว่าแปลกใจมากที่เห็นดารา (กร๊ากกกกก) เราเคยดูหนังอีกเรื่องที่เป็นรอบสื่อเหมือนกันก็คือ Snow White and The Huntsman ซึ่งให้ฟีลลิ่งและความอลังการงานสร้างต่างกันมาก งานครั้งนี้ดูยิ่งใหญ่ (กว่าที่คิด) คนให้ความสนใจเยอะ ทั้งจากสื่อและแฟนๆ ดูเป็นทางการกว่าตอนนั้นหลายเท่าตัว



จากภาค An Unexpected Journey เรื่องราวจบลงที่คณะคนแคระใกล้จะถึงจุดหมายเต็มที ดินแดนอันเป็นบ้านเกิดอย่างเอเรบอร์ตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า เรื่องราวดูเต็มไปด้วยความหวังว่าทุกอย่าง (น่าจะ) จบลงได้ด้วยดีเมื่อสิ่งที่หมายก็อยู่ใกล้เพียงสายตามากขึ้นเรื่อยๆ แม้คณะของธอรินจะยังมีกลุ่มออร์คไล่หลัง มีความดำมืดลึกลับชวนให้แกนดาล์ฟสงสัยว่าสิ่งใดหนอที่อาศัยอยู่ในโดล กูล ดูร์ และยังมีเรื่องของแหวนเอกธำมรงค์ที่บิลโบบังเอิญได้มา



ในภาคนี้จะเป็นการเดินทางต่อจากภาคแรก เมื่อธอรินต้องเร่งรีบพาคณะของตนไปให้ทันแสงสุดท้ายของวันดูริน วันเพียงวันเดียวที่จะหาประตูลับเพื่อเข้าสู่เอเรบอร์พบ ซึ่งก็เหลืออีกเพียงสองสามวันเท่านั้น ระหว่างทางที่ต้องฝันฝ่า พิสูจน์ทั้งความสามัคคี ความไว้เนื้อเชื่อใจ ความสัตย์ซื่อ กระทั่งความเห็นแก่ตัวของคน (และเหล่าพวกที่ไม่ใช่คน)

ปีเตอร์ แจ็คสันเลือกที่จะนำเสนอเรื่องราวของภาคนี้อย่างฉับไว และแบ่งเป็นสองเหตุการณ์สลับไปมาโดยตลอด มีตัวละครใหม่ที่น่าสนใจเพิ่มเข้ามามากมาย (อยากจะบอกว่าอุดมไปด้วยหนุ่มๆเสียง Husky Voice ที่ชวนให้ละลายเหลวเป๋วคาเบาะตลอดทั้งเรื่อง อิฉันฟินมาก) มีการสอดแทรกความคิดความรู้สึกของตัวละครแต่ละตัวเข้ามามากขึ้น ชวนให้ติดตามและมีมิติ ตัวร้ายอย่างสม็อกของพี่เบน (เบเนดิคท์ คัมเบอร์บาท) ก็ดูร้ายกาจ แข็งแกร่ง เจ้าเล่ห์เพทุบายกว่าที่จินตนาการไว้ (ซึ่งต่างจากในหนังสือที่สม็อกแบบว่า...ทำไมดูง่ายแบบนี้น้อ) ตัวละครอื่นๆอย่างบาร์ดที่ลุค อีแวนส์เล่นก็เต็มไปด้วยความโกรธแค้น ทว่าก็ยังสมเป็นสายเลือดของอดีตเจ้าเมืองที่พร้อมจะคิดทำเพื่อครอบครัวและเมืองก่อน ธรันดูอิลที่ไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยายนอกจาก Fabulous (ผู้ใหญ่ลีเล่นบทนี้ได้สุดยอดมาก ลืมภาพพ่อหนุ่มพายผู้น่ารักจาก Pushing Daisies ไปเลย) ธอเรียลของลิลี่ที่ทั้งแข็งแกร่งและงดงาม เลโกลัสของออแลนโด้ที่ก็ยังคงหล่อเสมอต้นเสมอปลาย (ผ่านมา 12 ปี ทำไมดูไม่แก่ขึ้นเลยหนอ) และแอบมีมุกขำๆระหว่างเลโกลัสกับโกลอิน พ่อของกิมลีด้วย

แต่ในเรื่องของ 3D สำหรับภาคนี้โดยส่วนตัวคิดว่าชวนปวดหัวมากกว่าภาคก่อนขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว ส่วนนึงเพราะความที่ไม่ชินกับงาน 3D เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว (ดูกี่เรื่องๆ ออกจากโรงมาปวดหัวทุกที) แถมในภาคนี้ฉากบู๊ยังมีมากขึ้น ความไวในฉากต่อสู้มีมากขึ้น การตัดภาพก็มีมากขึ้น ระหว่างที่ดูทำให้เบลอมาก ด้วยภาพที่ไวเกินไปประกอบกับ 3D ทำให้ภาพตอนฉากต่อสู้ออกมาแล้วเรามองไม่เห็นเลย นอกจากภาพเบลอๆที่เหวี่ยงไปเหวี่ยงมาอย่างรวดเร็ว ทำให้คิดว่าถ้าจะดูอีกรอบต่อๆไปก็คงจะขอหยุดแค่ 2D ธรรมดาดีกว่า (เวลาที่ภาพนิ่งหรือซูมออกไม่เคลื่อนไหวมากภาพจะสวยจริงๆค่ะ แต่สำหรับฉากต่อสู้นี่ดูไม่รู้เรื่องจริงๆ เราปวดหัวปวดตาตั้งแต่หนังเล่นไปได้ไม่กี่นาที แถมภาคนี้ยังมีฉากบู๊มากขึ้นเยอะอีกต่างหาก หลายครั้งมากๆที่ต้องยอมถอดแว่นตาออกมาดูภาพแบบเบลอๆดีกว่า จะได้ดูฉากบู๊รู้เรื่องบ้าง)

ว่ากันที่ตัวนักแสดง มาร์ติน ฟรีแมน (รับบทบิลโบ แบ็กกินส์) ยังทำได้ดีมากกกกกกกกกกอีกเช่นเคย ตัวละครอย่างบิลโบในภาคนี้มีพัฒนาการที่ชัดเจนขึ้นมาก ทั้งความกล้า ความรู้จักเอาตัวรอด (ข้อนี้เหนือกว่าเหล่าคนแคระเป็นไหนๆ) ความรักและเป็นห่วงพวกพ้อง และที่สำคัญคือความดำมืดในจิตใจ ที่เริ่มถูกบ่มเพาะจากสาเหตุอย่างแหวนเอกธำมรงค์ พี่มาร์ตินรับบทที่มักถูกขโมยซีน (อีกแล้ว) แต่ไม่มีใครสามารถกดเขาลงได้อย่างดีเยี่ยมจริงๆ และถ้าใครคิดถึงฉากอย่างการเล่นปริศนาทายคำระหว่างบิลโบและกอลลัมในภาคที่แล้ว ในภาคนี้เราก็จะได้เห็นการเผชิญหน้ากันระหว่างหมอจอหน์และเชอร์ล็อค เอ๊ยไม่ใช่ ระหว่างบิลโบและสม็อกด้วย

พี่เบน เบเนดิคท์ คัมเบอร์บาท (โมชั่นแคปเจอร์และให้เสียงสม็อก มังกรแดงแรงสามเท่า) ตัวละครนี้ทำให้เราแปลกใจเมื่อบทมีเยอะมากกว่าที่เราคาดไว้เยอะ ฉากแมวจับหนูระหว่างหว่านล้อมหยอกไก่กันเป็นอะไรที่ติดตาตรึงใจได้ดีสุดๆ เสียงทุ้มอันทรงพลังของสม็อกที่ชวนให้รู้สึกทั้งหวาดกลัวและอยากจะหลงเสน่ห์ไปพร้อมๆกัน และยามเมื่อมังกรแสดงอำนาจ ก็ต้องตื่นตาไปกับเปลวเพลิงมหึมาที่พร้อมจะผลาญชีวิตในทันที เสียงของพี่เบนชวนให้แฟนเกิร์ลตายคาเบาะจริงๆค่ะ ตอนที่ให้เสียงเป็นเนโครแมนเซอร์นี่ก็สุดๆพอกัน จะว่าไปเอาจริงๆคือสาวๆคนไหนที่ไปดูเรื่องนี้ถ้าเป็นคนแพ้เสียงทุ้มๆหรือเสียงจำพวก Husky Voice นี่แนะนำให้พกยาดมยาหม่องเข้าไปในโรงเลยค่ะ เยอะจริงๆ กันเป็นลมไว้ก่อนนะคะ

ริชาร์ด อามิเทจ (รับบทคนแคระ ธอริน โอคเค่นชิลด์) กับบทผู้นำคณะคนแคระที่พยายามจะทวงแผ่นดินบ้านเกิดคืน สำหรับตัวละครนี้เล่นออกมาชวนให้รู้สึกทั้งอยากจะเอาใจช่วยและอยากจะกระโดดถีบขาคู่ไปพร้อมๆกัน การกระทำในเรื่องของธอรินบางครั้งก็ดูรักและห่วงใยมิตรสหายพวกพ้อง ทว่าบางครั้งก็แลดูเห็นแก่ตัวเป็นที่ตั้ง ไม่ใส่ใจชีวิตคนอื่น ทำให้เกิดความสงสัยมากว่าในท้ายที่สุดแล้วจะออกไปในทางใดกันแน่ (แต่ที่แน่ๆตอนนี้คือถ้าเราเป็นบิลโบ จะขอเอาสติงฟาดปากหมอนี่ซักทีค่ะ อุแหม่ ตั้งแต่ภาคก่อนแล้วนะ...)

ออแลนโด้ บลูม , ลี เพซ , เอวาเจลีน ลิลี่ (เลโกลัส , ธรันดูอิล , ธอเรียล) สามเอลฟ์ที่แตกต่างกันแทบจะสิ้นเชิง เลโกลัสกับบทเจ้าชายเอล์ฟในวัยที่ยังไม่ได้ออกสู่โลกกว้าง มีความรังเกียจคนแคระอย่างเต็มหัวใจว่าเป็นสิ่งมีชีวิตอัปลักษณ์ไร้ความงามสิ้นดี ธรันดูอิลกับความเห็นแต่เพียงอาณาจักรของตนกับเบื้องหลังที่แบกรับไว้จากการที่เคยได้เผชิญหน้ากับมังกรเช่นสม็อก และธอเรียล เอล์ฟสาวผู้ต่ำต้อยผู้มีจิตใจงดงามและใฝ่ฝันที่จะเป็นอิสระอย่างตัวของตัวเอง

ลุค อีแวนส์ (รับบทบาร์ด) ชายผู้ทำทุกอย่างเพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องคนในครอบครัว และต้องทนอยู่กับความอัปยศของบรรพบุรุษผู้ไม่อาจสังหารมังกรลงได้ เป็นตัวละครที่แทบจะเรียกได้ว่าขโมยซีนมากๆ พี่ลุครับบทเป็นชายที่พยายามปกป้องครอบครัวและเมืองอย่างสุดความสามารถได้อย่างยอดเยี่ยม และที่น่าแปลกใจสำหรับเราคงจะเป็นฝีมือยิงธนูของบาร์ดที่ไวและแม่นราวกับจับวาง จนชวนให้สงสัยเหลือเกินว่าถ้าเอามาประมือกับเลโกลัสดูซักที ใครจะเป็นฝ่ายอยู่หรือไปกันแน่



นับว่าเป็นหนังฟอร์มยักษ์ที่เราตั้งตารอคอยแล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆค่ะสำหรับเรื่องนี้ นอกจากจะเป็นการเดินตามรอยวรรณกรรมที่ปู่โทลคีนเขียนไว้ได้อย่างดีแล้ว ปีเตอร์ แจ็คสันยังแต่งเติมและเนรมิตเรื่องราว ฉาก ความสวยงามออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ กระทั่งนักแสดงทุกคนก็แคสติ้งมาได้เข้ากับบทมาก สำหรับแฟนหนังสือ แฟนหนัง LOTR แฟนเกิร์ลของเหล่านักแสดง ขอเชิญชวนให้มาดูกันเถอะค่ะ ภาคนี้ทั้งลุ้น ตลก เศร้า โรแมนติค เต็มไปด้วยการผจญภัยและการต่อสู้อันคาดไม่ถึงมากมายจริงๆ
ชื่อสินค้า:   The Hobbit : The Desolation Of Smaug
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่