คลอด ศิริราช อ. วิทยา

กระทู้สนทนา
หลังจากที่ตั้งกระทู้ ถามเรื่อง การมีมูกเลิอด http://ppantip.com/topic/31334466  วันนั้นเราก็คลอดเลยค่ะ วันนี้เลยมีเรื่องมาแชร์ให้แม่ ๆ ใกล้คลอด หรือคนที่คิดจะคลอด ที่ รพ.ศิริราช อ่านกัน

เช้าวันที่ 4 ธันวาคม 2556 ตอนเช้า เราเข้าห้องน้ำมีมูกเลือดค่ะ แต่ก็ยังไม่ได้บอกสามี ตอนสาย  ๆเลยโทรไปบอก พอดีว่าวันนั้นมีนัดกับ อ.หมอที่คลีนิค (อาจารย์เปิดคลีนิค ด้วยค่ะ) ก็เลยไม่ได้รีบร้อนอะไร ประกอบกับตอนนั้นไม่มีอาการน้ำเดิน หรือว่าปวดท้อง ร่วม

ประมาณ 08.00 อาการเริ่มมาค่ะ เหมือนปวดประจำเดือน แต่ว่าปวดเอวด้านหลังด้วย แต่ไม่นานก็หาย ประมาณ นาน ๆ ปวดที ก็เลยข้อความไปบอกสามี ว่ามีเลือดออก สามีก็น่ารัก จะให้กลับเลยมั้ย? เดี๋ยวลางานไปเลย เราบอกว่าไม่ต้องหรอก ยังไม่ปวดมาก น้ำไม่เดิน ลาครึ่งวันแล้วกัน สามีก็เลยตกลงว่าลาครึ่งวันแทน

ระหว่างที่รอ ก็มีอาการเหมือนเดิมค่ะ แค่เริ่มถี่มากขึ้น จากชั่วโมง เป็นครึ่งชั่วโมง และ 20 นาที โดยประมาณ แต่ก็ไม่ได้มากจนทนไม่ได้ เหมือนเวลาปวดประจำเดือนมากๆ  สักพัก แล้วก็หายไป ระหว่างนั้น เราก็หาข้อมูลไปเรื่อย แม่บางคน มีมูกเลือดก็ใช่ว่าจะคลอดเลย ไอ้เราก็กลัวว่าตื่น ตูมมากไป เดี๋ยวหมอ (ไป รพ. เดี๋ยวไล่กลับบ้านอีก )

สุดท้ายก็รอจน ไปหา อ.หมอที่คลีนิคค่ะ ระหว่างนี้เริ่มปวดบ่อยละ จนสามีถามว่าไหวมั้ยเนี้ย ? ไอ้เรานะไหวค่ะ ยังมีการหันมาบอกสามีเลยว่า
"เดี๋ยวถ้าหมอบอกว่า ให้ไปรอ รพ.เลย เดี๋ยวเราไปหาอะไรกินกันก่อนนะ" เพราะเดี๋ยวเค้าจะไม่ให้เรากินอะ 555+
สามีก็ตกลง ค่ะ ประกอบกับ ที่คลีนิควันนั้นไม่มี คนไข้เลย (อะไรจะโชคดีขนาดนั้น ก็ชั่งน้ำหนัก ตรวจปัสสาวะ เหมือนทุกครั้ง)

เข้าตรวจค่ะ (ตอนนี้อาการปวดเริ่มถี่ ติด ๆ ท้องเริ่มแข็ง)

อ.หมอ "เป็นไงมั้ง? ปวดยัง?" (ก่อนหน้านั้น เราไม่มีอาการอะไรเลยค่ะ ไม่ปวด ท้องไม่แข็งบ่อย ๆ ) ตอนนี้ครบ 39week พอดี

เรา "เมื่อเช้ามีมูกเลือดค่ะ ตอนนี้ปวดท้องด้วย" ความจริง หมอจับท้องแล้ว แข็งแล้วด้วย

อ.หมอ "แล้วทำไม ไม่ไป รพ."

เรา "มันยังเจ็บไม่ถี่มากอะค่ะ"

อ. หมอ " เอ็งยังรอ ถี่ก่อนอีกหรอ " (อ.เป็นคนพูดเสียงดัง แต่ใจดีมากค่ะ) ^^
            "ตรวจภายในเลย"

ตอนนี้ อ. หมอก็ให้เราขึ้นขาหยั่งเลยค่ะ ใครที่สงสัยเค้าตรวจกันยังไง ไอ้ปากมดลูกเปิดกี่เซน เนี้ย คุณหมอท่านใช้มือค่ะ พึ่งรู้เหมือนกัน ร้องเลยค่ะ ขนาดมีผ้าปิดตาเรานะ แต่ว่าไม่ได้เตรียมใจมาเจ็บอะค่ะ -////-

อ.หมอ "เปิด 4 cm แล้วไป รพ.เลยนะ " (รพ. ที่หมายถึงคือ ศิริราชค่ะ)

ทีนี้เราก็ไปแต่งตัว ส่วนสามีไปคุยเรื่องการคลอด โดยเราฝากพิเศษกับ อ.หมอค่ะ (การฝากพิเศษ คือการที่ระบุหมอที่ทำคลอดค่ะ ตอนแรกไม่ได้กะว่าจะฝากพอเศษ แต่ว่าไหน ๆละ) อ.หมอก็เลยจะตามไปทีหลังค่ะ เจ้าหน้าที่ของคลีนิคจะเข้ามาบอกว่าจะต้องไปที่ตึกไหน ยื่นเรื่องที่ไหนของศิริราช ในที่นี้ เราจะต้องมีบัตรของศิริราชแล้วนะค่ะ เจ้าหน้าที่จะสั่งให้เราไปทำบัตรของ รพ. เอาไว้ตั้งแต่เราไปฝากท้องที่คลีนิคค่ะ

เรามาถึง ศิริราช ประมาณ 18.30 น.ค่ะ เจ้าหน้าที่จะถามเราว่า เราจะคลอดแบบไหน?

ของเราห้องคลอดพิเศษ จะเป็นห้องเดี่ยว เจ้าหน้าที่ก็พาไปรอที่ห้องคลอด เริ่มมีเอกสารมาให้สามีเซ็น ทั้งชื่อลูก ชื่อเรา เอกสารต่าง ๆ

-สำเนาบัตรประชาชน ทั้ง พ่อและ แม่
-สำเนาทะเบียนบ้าน พ่อและ แม่
-ทะเบียนบ้านตัวจริง (อันนี้เผื่อค่ะ คือความจริงเราไม่ทราบแน่ชัดว่า ทาง รพ.จะใช้อะไรบ้าง เลยถ่ายเอกสารเตรียมเอาไว้ทั้งหมดเลย)

เจ้าหน้าที่ห้องคลอดจะถามว่ามีหมอเจ้าของไข้มั้ย คือเี่ราเลือกหมอมั้ยนั้นละค่ะ เพราะไม่งั้น หมอเวรจะเป็นผู้ที่ทำคลอดเอง (ความจริงหมอศิริราช เก่งทุกคนละค่ะ แล้วแต่ความสะดวก)

เมื่อเข้ามาในห้องคลอด โอ้โห้ มันเหมือนห้องพิเศษ VIP ประมาณนั้นค่ะ ไม่มีเครื่องมือทำคลอด ที่น่ากลัว ๆ เลยสักชิ้น อารมณ์แบบ ใช่ห้องคลอดหรอเนี้ย ^^

ขั้นตอนในห้องคลอดนะึค่ะ

1.เจ้าหน้าที่จะให้เราตรวจปัสสาวะ เป็นแถบสีเหมือนตอนที่เราฝากครรภ์ นั้นละค่ะ เปลี่ยนเสื้อผ้า  แล้วก็ออกมานอนที่เตียง

2. บวชชีค่ะ ล้านเลี่ยนเตียนโล่ง กันเลยทีเดียว -///- อายมั้ย อายค่ะ เพราะตอนนั้นมันยังเจ็บทนได้ หายใจลึก ๆ ก็หาย จนขั้นตอนการสวนก้น
    ขั้นตอนนี้เร็วมาก อายไม่ทันค่ะ ต้องกลั้นแืทนเพราะกลัวหลุด อิอิ

พยาบาลจะแจ้งว่า รอให้ปวดมาก ๆ แล้วเข้าไปถ่ายนะค่ะ เราก็ค่ะ ๆ รับปากไป รอจนปวดถ่ายมาก ๆ ก็เข้าห้องน้ำไปถ่าย อาบน้ำ ด้วยน้ำยาที่ รพ.จัดเอาไว้ แล้วออกมารอที่เตียง พร้อมกับสายน้ำเกลือที่ตามมา

ที่เราไม่โดนตรวจภายในอีกครั้งเพราะ อ.หมอตรวจมาแล้ว และทางคุณหมอเวรก็ประสานงานกันเรียบร้อยค่ะ

เมื่อน้ำเกลือเข้าสู่เส้นเลือดสักพัก มันมาแล้วค่ะ แม่จ๋า อยากจะร้องหาแม่ ดัง ๆ ค่ะ ปวดเหมือนปวดประจำเดือนเนี้ยละค่ะ แต่ปวดมากกว่าแบบบอกไม่ถูก เริ่มทนไม่ได้ละ ปวดหลังด้วย หน่วงมั้ย อารมณ์นั้น ไม่ทราบค่ะ จริง ๆ หันมองแต่นาฬิกา คือมันเจ็บเป็นระยะ ๆ จนมา 5 นาทีครั้ง 3นาทีครั้ง จนมันไม่พักให้เราได้หายเจ็บเลย เจ็บต่ออีกละ เรามาวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา เพื่อน ๆ รวมทั้งสามีเลยลุ้นว่า อาจจะเกิดวันที่ 5 ทั้งพยาบาลและหมอเองก็คิดว่า เราอาจจะคลอดวันที่ 5 แต่ ๆ  อาการมันเริ่มทำเราำไม่แน่ใจค่ะ

ประมาณ 20.30 น.เราเริ่มขอยาแก้ปวดค่ะ แบบว่าอ่านมาเยอะ แต่เราตั้งใจคลอดธรรมชาติอยู่แล้ว ว่าจะขอแต่ยาแก้ปวด พยายาลบอกว่าเดี๋ยวถามหมอให้นะค่ะ

หมอเวร "คุณแม่อยากได้ยาแก้ปวดหรอ?"

เรา "ค่ะ ได้ใช่มั้ยค่ะ"

หมอเวร "คือ ตลอดการคลอดเนี้ย หมอให้ยาแก้ปวดได้ครั้งเดียวนะค่ะ เพราะมันจะมีผลกับน้องด้วย ตอนนี้ปากมดลูกเปิด 4 cm. ถ้ามันเปิด
            มากกว่านี้ เดี๋ยวคุณแม่จะขอไม่ได้แล้วนะ หมอกลัวคุณแม่จะทนไม่ไหว"
เรา  (เอาละสิ เริ่มลังเลปนตกใจ จะปวดมากกว่านี้อีกหรอ ซีดกันเลยทีเดียว อารมณ์แบบ จำยอมค่ะ) "งั้นยังไม่เอาก็ได้ค่ะ

หมอเวร " เอางี้ เดี่ยวหมอมาตรวจใหม่ ถ้าเปิดมากกว่านี้อีกนิดแล้ว คุณแม่ทนไม่ได้ เดี๋ยวหมอจะให้ยานะค่ะ"

เรา "ค่ะ"

ในขณะนั้นเราก็ทนเจ็บต่อไป มองนาฬืกามันจนเลิกมองเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ไม่รอวันที่ 5 ไม่รออะไรทั้งนั้น ออกมาเถอะลูก แม่จะไม่ไหวแล้ว T0T แต่ว่าเราไม่ร้องโวยวายเหมือนในหนังนะค่ะ มันปวดแบบร้องไม่ออกมากกว่า เก็บแรงเอาไว้เถอะค่ะ อย่าโวยวาย เพราะเดี๋ยวไม่มีแรงแบ่ง อันนั้นทรมานมากกว่า ......เริ่มบิด ไปมาเหมือนหนอนโดนขี้เถ้าแล้วค่ะ

และแล้วเสียง หมอเวรก็เข้ามาตรวจ พร้อมกับบอกว่า เปิด 6 cm แล้วค่ะ คุณแม่ หน้าหมอยิ้มสวยเลยค่ะ หมอสวยจริงๆ แต่เราไม่สวยกะหมอแล้วค่ะ พระเจ้า !!!!! 6 cm. ทำไม ทำไมไม่บอกว่า 10 คืออารมณ์นั้นท้อเลย แต่เสียงของ อ.หมอที่เราฝากก็มาถึงพร้อมกับคุยด้วยศัพท์ทางการแพทย์ฺ ซึ่งเราไม่เข้าใจเหมือนกัน แล้ว อ.หมอ ก็มาตรวจปากมดลูกใหม่ พร้อมกับ ถามเราว่า เราอยากเบ่งมั้ย เราบอกว่าอยากแล้ว (ถ้าหมอไม่ให้เบ่ง อย่าเพื่งแอบเบ่งนะค่ะ เพราะ หมอบอกมาว่าจะฉีกแบบดาวกระจาย แล้วจะเย็บแผลไม่สวย นั้นห่วงแผลเย็บไม่สวยอีก-*-)

อ.หมอ "เนี้ยมันเปิด 8-9 cm. แล้ว เตรียมคลอดเลย"

อ้าว คลอดได้แล้วหรอ เราไม่รู้เหมือนกันว่า เค้าวัดจากอะไร เพราะ อ.หมอเข้ามาดูพร้อมกับบอกว่า มันโชว์ดีจัง แบบนี้น่าจะง่าย จากห้องไม่มีเครื่องมือ ภายในพริบตา แปรสภาพเลยค่ะ เรายังแอบตกใจ แล้วขั้นตอนการคลอดก็เริ่มขึ้น เมื่อ อ.หมอบอกว่า "เบ่งเลยลูก"

พยาบาลจะเข้ามาล้อมรอบ พร้อมทั้งผ้าชุบน้ำคอยเช็ดหน้า เช็ดเหงื่อให้ จับขาเราข้างละคน มีพยาบาลคอยดันท้องเราเพื่อให้ลูกลงต่ำ ด้วยความที่เราชอบเข้ามาอ่านหาข้อมูลบ้าง เจอคนที่คลอดลูกแล้ว เบ่ง บ้าง หยุดบ้าง จนหัวลูกเข้า ๆ ออก ๆ แล้วหัวเบี้ยว เราเลยออกแนวเบ่งแล้วเบ่งอีกมากกว่า แต่ตามจังหวะที่พยาบาลกับหมอบอกนะค่ะ

พยาบาลจะคอยจับ เช็คว่าท้องเราแข็ง มดลูกมีการบีบตัวแล้ว จะบอกให้เราเบ่ง เราต้องเก็บแรงเอาไว้ตอนนั้นค่ะ อย่าเบ่งเองมั่ว ๆ เดี๋ยวไม่มีแรงเบ่งนะ สำหรับใครที่กังวลเรื่องฝีเย็บ จะเจ็บมั้ย หมอฉีดยาชามั้ย คิดมากต่าง ๆ เหมือนเราก่อนคลอด ขอบอกเลยค่ะ ตัดตอนไหนยังไม่รู้เรื่องเลย ให้ตายสิ มารู้อีกที ตอนที่แบบ รู้สึกว่าลูกออกมาแล้ว โล่ง ค่ะ ขอบอกแล้วพยาบาลจะเอาลูกไปเช็ค เช็ดตัว ของเราพยาบาลไม่ได้เอาลูกมาให้ดูดนมเลยนะค่ะ เค้าเอามาวางให่เราเห็นหน้าบนอก ในขณะที่ อ.หมอทำคลอดรก ตรงส่วนนี้จุก ๆ ค่ะ ไม่ได้มีความเจ็บ

แล้วก็จะเริ่มการเย็บแผล ฉีดยาชา ตอนนี้ก็ยังไม่รู้สึกค่ะ เหมือนมันยังชา ๆ จากการคลอดอยู่ จนอ.หมอ เริ่มเย็บนั้นละค่ะ มารู้สึกตอนท้าย ๆ แต่เป็นแบบว่าทนได้ ไม่เจ็บจนร้อง

พยาบาลจะเอาป้ายชื่อ ป้ายข้อมือมาให้ มีทั้งผูกข้อเท้าลูก(อันนี้พยาบาลเอาจากเราไปผูกให้ จะมีเจ้าหน้าที่เอามาให้ก่อนแล้ว) ป้ายชื่อเราที่มีรหัส เหมือนกันกับของลูก และการทวนชื่อ นามสกุลต่างๆ อยากบอกว่าตอนนั้นนะ งง ๆ นะ ทวนชื่อ นามสกุลตัวเอง ยัง งง เลย

แล้วเค้าก็จะเอาลูกออกไปก่อนค่ะให้เราได้พักฟื้น 2 ชั่วโมง ก่อนจะเอาออกไปห้องพัก ที่สามีจองเอาไว้ (เราเคยมาที่ศิริราชแล้วห้องเต็มค่ะ เลยบอกสามีว่า ไม่ต้องรอนะวาคลอดเมื่อไหร่ ถ้าเข้าห้องคลอดแล้วจองห้องเลย ) ของเราเป็น พิเศษเดี่ยว ราคา 2,000 บาทต่อคืนนะ อ่อ..ลูกเราคลอดตอน 20.55 น. คือแม้หลายคนจะบอกว่า ให้รออีกนิด ได้คลอด 5 ธันวาคม โดนเพื่อนล้อเยอะมาก แต่ขอบอก ณ จุดนั้น ใครอยากรอเชิญเลยค่ะ เราไม่รอ ไม่สามารถ จริง ๆ ^^

กว่าเราจะมาที่ห้องคลอด เนื่องด้วยลูกไม่มีภาวะที่ต้องเข้าตู้อบ หรือ เสี่ยงใด ๆ ก็เลยลงมาพร้อมเราที่ห้องพักเลย เวลาเกือบเที่ยงคืน ซึ่งก่อนหน้านั้น สามีรออยู่ที่ห้องแล้ว พึ่งขึ้น สถานะใน FACE BOOK ว่า "อย่ามาให้เจอก่อนเที่ยงคืนนะ"

เค้าลุ้น พร้อมกับ พยาบาลเข็นเราเข้ามาในห้อง เวลาประมาณ 00.10 น.ของวันที่ 5 ธันวาคม 2556 555+ เราเลยบอกสามีว่า คลอดตอน 20.55 น. แล้ว ^^

ตลอดที่พักฟื้น 2 ชั่วโมง เราไม่หลับนะค่ะ ยอมรับว่าเหนื่อย แต่ไม่หลับ ไ่ม่รู้เหมือนกันนั่งมองเพดานนึกหน้าลูก อยู่สองชั่วโมงจนเข็นมาที่ห้องพัก ส่วนสามีไปยืนเฝ้าลูกที่ห้องพยาบาล หน้าห้องเรา เดินเข้าออก ถ่ายวีดีโอมาให้เราดู เพราะเรายังให้น้ำเกลือ ตอนที่เค้าเร่งคลอดอยู่ค่ะ แล้วก็คืนนั้นจนกว่าน้ำเกลือจะหมด เราห้ามลุก หากต้องการเข้าห้องน้ำ พยาบาลจะมาจัดการให้บนเตียงเลยค่ะ

วันรุ่งขึ้นน้ำเกลือหมด เราเลยขอหมอลุกค่ะ ไม่ีมีอาการหน้ามืด แผลก็แค่ตึง ๆ ไม่ได้เจ็บจนขนาดเดินไม่ได้ ต้องยอมรับว่า ฟื้นตัวเร็วมากการคลอดธรรมชาติเนี้ย (สรุป ยาแก้ปวด หล่อนก็ไม่ได้ใช้เลยสิ-*-) ลืมไปเลย 55+

คืนแรก พยาบาลจะเป็นผู้ดูแลลูกให้เราก่อนนะค่ะ ต่อให้คุณมีสามีมาเฝ้า หรือใคร ก็ตามเพราะต้องการให้แม่ได้พักผ่อน จะเอาลูกมาให้ตอนเช้าต้องยอมรับว่า พยาบาลดูแลดีมาก หน้าตาเป็นมิตรทุกคน เราอยู่ รพ. 3 วัน รอผลลูกตัวเหลืองอีก 1 วัน ค่าใช้จ่ายทั้งหมด รวมแม่กับลูก ประมาณ 2หมื่นกว่า ๆ

มีการอบรมการเลี้ยงลูก การอาบน้ำ รวมทั้งการเ้รียกน้ำนม รพ.ศิริราชขึ้นชื่อเรื่องสนับสนุนการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่มากค่ะ หลังจากตามเรื่องการฟื้นตัวหลังคลอด พยาบาลจะตามเรื่องการให้นมลูกด้วย ของเราน้ำนมมาก่อนที่จะคลอดลูกอีกค่ะ แต่เราไม่ได้กระตุ้น และไม่ได้บีบทิ้ง ทำให้ไม่ไหลออกมาก่อน มากนัก มีแค่ซึม ๆ เป็นบางวัน ที่นี่ พยาบาลจะรับฝากลูกตอนกลางคืนด้วยนะค่ะ ในกรณีที่คุณแม่อยากพัก แต่กลางวันเค้าจะเอามาให้เราที่ห้องนะ พร้อมรถเข็นเตียงเด็ก ผ้าอ้อมผ้า ที่ถ้าใช้หมดสามารถขอเพิ่มได้ เล็ก+ใหญ่ สำลี ถังขยะ ตะกร้าผ้าเปื้อน เราไม่ต้องเตรียมไป เอาแต่เสื่อผ้าลูก ผ้าห่อ วันออกจาก รพ. ส่วนเราเอามาดูเองทั้งกลางวัน กลางคืน ตั้งแต่คืนแรก ยอมรับว่าง่วงมาก แต่มีความสุขค่ะ ^^

แล้วก็เรื่องหาของกินคนเฝ้านี่ หายห่วงเลยค่ะ ตลาดวังหลัง พร้อมของกินรอบ รพ. คนมา่เยี่ยม กับคนมาเฝ้า นน. ขึ้น ตาม ๆ กัน
ส่วนเราหลังคลอด ตอนนี้ ลดไป 8 กก. ยังเหลืออีก 8 กิโล 55+
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่