สวัสดีทุกท่านค่ะ
รู้สึกเหมือนเพิ่งอายุสิบสี่ไปหยกๆ เผลอนิดเดียวอีกไม่กี่ปีก็จะขึ้นเลขสามแล้ว จะแอ๊บเด็กก็เริ่มไม่ไหว แต่ในสายตาพ่อแม่ยังนึกว่าเรายังไม่จบป.สอง
(สงสัยต้องเลิกอ้อนกับทำตัวติงต๊องเวลาอยู่บ้านสักที)
อะ เข้าเรื่อง คือเรากำลังมีความคิดว่าจะสละโสดกับแฟนที่คบมาสี่ปีค่ะ คุณพ่อคุณแม่บอกให้เราตัดสินใจเอาเอง แต่เราว่าเราดูไม่ผิดนะว่าเขาไม่ค่อยปลื้ม หลังจากอ่านจบ ใครเข้าใจมุมมองของผู้ใหญ่ช่วยบอกทีนะคะ เราอยากฟังความเห็นที่เป็นกลางน่ะค่ะ
ที่ผ่านมาเราจะคบกับใครยังไงคนไหนเมื่อไรท่านๆก็รับรู้หมด ไม่เคยห้าม กับแฟนคนปัจจุบันนี้ก็เหมือนกัน แต่คนนี้ต่างไปตรงที่เขาเป็นคนต่างชาติ ในเวลาสี่ปีเราใช้เวลาส่วนใหญ่ในต่างประเทศ พ่อแม่จึงไม่คุ้นเคยกับแฟนเป็นการส่วนตัว รู้จักผ่านคำบอกเล่าเป็นส่วนใหญ่
แรกๆที่บ้านก็ออกจะเฉยๆ จะคบกับใครก็ตามใจ แต่พอเริ่มนานเข้าปีที่สองที่สาม เรารู้สึกว่าเขาเริ่มหวงเราแบบที่ไม่เคยเป็น มองว่าที่เราไม่ได้กลับเมืองไทยเป็นเพราะแฟน เริ่มได้ยินเขาพูดว่ากลัวว่าเราจะแต่งงาน ช่วงหลังๆนี้เขาจะชอบชักแม่น้ำทั้งห้าบอกว่าแฟนไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็ฟังนะว่ามันจริงอย่างที่เขาพูดหรือเปล่า แต่มันไม่จริงง่ะ เช่น คนเรียนเก่งมักจะเก่งแค่ในตำราวิชาชีพแต่ไม่เก่งเรื่องทักษะรอบตัว คนขยันจะเอาแต่ขยันทำงานแต่ไม่มีเวลาให้เรา คนโหงวเฮ้งแบบนี้อายุจะสั้น ตัวผอมๆจะไม่แข็งแรง บลาๆๆ แต่จริงอย่างนึงว่าไม่หล่อ(ในสายตาคนอื่น) 5555555 จะอธิบายให้เขาฟังมากๆเดี๋ยวจะหาว่าเราปกป้องอีก กลัวเดี๋ยวจะยิ่งเห็นเป็นศัตรูแย่งลูกสาวไปกันใหญ่
เดี๋ยวนี้จะเล่าอะไรต้องกรองก่อน พูดมากไปก็ไม่ได้เดี๋ยวงอน พูดน้อยไปก็ไม่ดีเดี๋ยวเข้าใจแฟนเราผิด
หลังๆมานี้เราเริ่มมาคิดจริงจังว่าจะแต่งงานดีไหม เพราะอยากมองให้รอบด้านแบบไม่มีรักบังตา เลยไปปรึกษาท่านพ่อท่านแม่ว่าคนจะแต่งงานเค้าตัดสินใจกันยังไง หลังจากที่บ้านแตกตื่นกันไปพองาม ก็ตอบเราแบบเท่ๆว่าจะแต่งไม่แต่งให้ตัดสินใจเอาเอง พ่อแม่ไม่ห้ามไม่บังคับ
แต่ตลอดเวลาที่คุยกันเขาก็แอบเบรกเป็นระยะๆ เช่นว่า พร้อมแต่งแล้วหรือ มั่นใจใช่คนนี้แน่หรือ ซึ่งเราเองก็อยากให้ช่วยเบรกเพื่อให้เราได้ตรองดูให้ดีก่อนนะคะ แต่เราไม่เห็นด้วยที่เขาบอกว่า ที่คิดว่าเป็นคนเข้าใจรู้ใจนี่อาจจะเข้ากันได้แบบเพื่อนก็ได้นะ หลังแต่งงานไปเราทำงานบ้านไม่น่าไหวนะ เราออกจะคุณหนูไม่เคยทำงานบ้าน(!? ที่ทำมาตั้งแต่ห้าขวบนี่เรียกอะไรง่ะ T^T) ชอบติจุดด้อยทางกายภาพเช่นรูปร่างหน้าตา ฐานะทางบ้านที่พ่อแม่แฟนไม่สนับสนุนลูกเขาเหมือนบ้านเรา มันทำให้เรานึกสงสัยว่าทำไมถึงไม่ดูนิสัยใจคอ ไม่เที่ยวไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ การพนัน การศึกษาดี ขยัน มีผลงานมีอนาคต รักและเอาใจใส่เรา เข้าใจกันดี พวกนี้น่าจะสำคัญกว่าไม่ใช่หรือ
พอถามท่าน ท่านบอกว่า ก็ต้องมีทุกอย่าง รวมทั้งหล่อ และรวยมาแต่เกิดด้วยไง
โธ่ ป๊าแขนม๊าขาาา นึกว่าลูกสาวสวยโปรไฟล์เลิศมากจากไหนอะ เลือกมากงี้ช่วยเลือกคานงามๆที่อยู่สบายๆไว้ให้หนูด้วยนะคะ
แต่พอมาคิดดูอีกที สาเหตุเพียงประการเดียวที่คุณพ่อคุณแม่ไม่โอกับว่าที่ลูกเขยคนนี้น่าจะเป็นเพราะต้องส่งออกลูกสาวเสียมากกว่า
เล่ามาน้ำท่วมทุ่งทำคนอ่านงง ตกลงจะถามว่า
1. เวลาจะแต่งงาน ตัดสินใจกันยังไงคะ
2. สะใภ้ชาวต่างชาติ เคยเจอปัญหาคล้ายๆกันไหม คุยกับคุณพ่อคุณแม่ยังไงกันบ้าง หรือใครมีประสบการณ์ทำนองพ่อตาแม่ยายพ่อผัวแม่ผัวพ่อแฟนแม่แฟนไม่ปลื้มก็ได้ค่ะ
3. พ่อแม่หนูไม่ปลื้มแฟนหนูจริงรึเปล่า หรือหนูคิดไปเอ๋ง
เขียนบรรยายไม่เก่ง ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้และขอบคุณทุกความเห็นค่ะ
แม่คะ กลัวลูกสาวจะขายไม่ออกหน่อยก็ดีนะคะ T^T
รู้สึกเหมือนเพิ่งอายุสิบสี่ไปหยกๆ เผลอนิดเดียวอีกไม่กี่ปีก็จะขึ้นเลขสามแล้ว จะแอ๊บเด็กก็เริ่มไม่ไหว แต่ในสายตาพ่อแม่ยังนึกว่าเรายังไม่จบป.สอง (สงสัยต้องเลิกอ้อนกับทำตัวติงต๊องเวลาอยู่บ้านสักที)
อะ เข้าเรื่อง คือเรากำลังมีความคิดว่าจะสละโสดกับแฟนที่คบมาสี่ปีค่ะ คุณพ่อคุณแม่บอกให้เราตัดสินใจเอาเอง แต่เราว่าเราดูไม่ผิดนะว่าเขาไม่ค่อยปลื้ม หลังจากอ่านจบ ใครเข้าใจมุมมองของผู้ใหญ่ช่วยบอกทีนะคะ เราอยากฟังความเห็นที่เป็นกลางน่ะค่ะ
ที่ผ่านมาเราจะคบกับใครยังไงคนไหนเมื่อไรท่านๆก็รับรู้หมด ไม่เคยห้าม กับแฟนคนปัจจุบันนี้ก็เหมือนกัน แต่คนนี้ต่างไปตรงที่เขาเป็นคนต่างชาติ ในเวลาสี่ปีเราใช้เวลาส่วนใหญ่ในต่างประเทศ พ่อแม่จึงไม่คุ้นเคยกับแฟนเป็นการส่วนตัว รู้จักผ่านคำบอกเล่าเป็นส่วนใหญ่
แรกๆที่บ้านก็ออกจะเฉยๆ จะคบกับใครก็ตามใจ แต่พอเริ่มนานเข้าปีที่สองที่สาม เรารู้สึกว่าเขาเริ่มหวงเราแบบที่ไม่เคยเป็น มองว่าที่เราไม่ได้กลับเมืองไทยเป็นเพราะแฟน เริ่มได้ยินเขาพูดว่ากลัวว่าเราจะแต่งงาน ช่วงหลังๆนี้เขาจะชอบชักแม่น้ำทั้งห้าบอกว่าแฟนไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ เราก็ฟังนะว่ามันจริงอย่างที่เขาพูดหรือเปล่า แต่มันไม่จริงง่ะ เช่น คนเรียนเก่งมักจะเก่งแค่ในตำราวิชาชีพแต่ไม่เก่งเรื่องทักษะรอบตัว คนขยันจะเอาแต่ขยันทำงานแต่ไม่มีเวลาให้เรา คนโหงวเฮ้งแบบนี้อายุจะสั้น ตัวผอมๆจะไม่แข็งแรง บลาๆๆ แต่จริงอย่างนึงว่าไม่หล่อ(ในสายตาคนอื่น) 5555555 จะอธิบายให้เขาฟังมากๆเดี๋ยวจะหาว่าเราปกป้องอีก กลัวเดี๋ยวจะยิ่งเห็นเป็นศัตรูแย่งลูกสาวไปกันใหญ่
เดี๋ยวนี้จะเล่าอะไรต้องกรองก่อน พูดมากไปก็ไม่ได้เดี๋ยวงอน พูดน้อยไปก็ไม่ดีเดี๋ยวเข้าใจแฟนเราผิด
หลังๆมานี้เราเริ่มมาคิดจริงจังว่าจะแต่งงานดีไหม เพราะอยากมองให้รอบด้านแบบไม่มีรักบังตา เลยไปปรึกษาท่านพ่อท่านแม่ว่าคนจะแต่งงานเค้าตัดสินใจกันยังไง หลังจากที่บ้านแตกตื่นกันไปพองาม ก็ตอบเราแบบเท่ๆว่าจะแต่งไม่แต่งให้ตัดสินใจเอาเอง พ่อแม่ไม่ห้ามไม่บังคับ
แต่ตลอดเวลาที่คุยกันเขาก็แอบเบรกเป็นระยะๆ เช่นว่า พร้อมแต่งแล้วหรือ มั่นใจใช่คนนี้แน่หรือ ซึ่งเราเองก็อยากให้ช่วยเบรกเพื่อให้เราได้ตรองดูให้ดีก่อนนะคะ แต่เราไม่เห็นด้วยที่เขาบอกว่า ที่คิดว่าเป็นคนเข้าใจรู้ใจนี่อาจจะเข้ากันได้แบบเพื่อนก็ได้นะ หลังแต่งงานไปเราทำงานบ้านไม่น่าไหวนะ เราออกจะคุณหนูไม่เคยทำงานบ้าน(!? ที่ทำมาตั้งแต่ห้าขวบนี่เรียกอะไรง่ะ T^T) ชอบติจุดด้อยทางกายภาพเช่นรูปร่างหน้าตา ฐานะทางบ้านที่พ่อแม่แฟนไม่สนับสนุนลูกเขาเหมือนบ้านเรา มันทำให้เรานึกสงสัยว่าทำไมถึงไม่ดูนิสัยใจคอ ไม่เที่ยวไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ การพนัน การศึกษาดี ขยัน มีผลงานมีอนาคต รักและเอาใจใส่เรา เข้าใจกันดี พวกนี้น่าจะสำคัญกว่าไม่ใช่หรือ
พอถามท่าน ท่านบอกว่า ก็ต้องมีทุกอย่าง รวมทั้งหล่อ และรวยมาแต่เกิดด้วยไง
โธ่ ป๊าแขนม๊าขาาา นึกว่าลูกสาวสวยโปรไฟล์เลิศมากจากไหนอะ เลือกมากงี้ช่วยเลือกคานงามๆที่อยู่สบายๆไว้ให้หนูด้วยนะคะ
แต่พอมาคิดดูอีกที สาเหตุเพียงประการเดียวที่คุณพ่อคุณแม่ไม่โอกับว่าที่ลูกเขยคนนี้น่าจะเป็นเพราะต้องส่งออกลูกสาวเสียมากกว่า
เล่ามาน้ำท่วมทุ่งทำคนอ่านงง ตกลงจะถามว่า
1. เวลาจะแต่งงาน ตัดสินใจกันยังไงคะ
2. สะใภ้ชาวต่างชาติ เคยเจอปัญหาคล้ายๆกันไหม คุยกับคุณพ่อคุณแม่ยังไงกันบ้าง หรือใครมีประสบการณ์ทำนองพ่อตาแม่ยายพ่อผัวแม่ผัวพ่อแฟนแม่แฟนไม่ปลื้มก็ได้ค่ะ
3. พ่อแม่หนูไม่ปลื้มแฟนหนูจริงรึเปล่า หรือหนูคิดไปเอ๋ง
เขียนบรรยายไม่เก่ง ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้และขอบคุณทุกความเห็นค่ะ