ชีวิตมหาวิทยาลัย กับวีกรรมจีบหญิงครั้งแรก

คัดลอกมาจากบันทึกส่วนตัวซึ่งบันทึกเหตุการณ์ต่าง ๆ บวกประสบการณ์การจีบสาวในชีวิตตอนวัยเรียนมหาวิทยาลัย  (อยากจะขำคนแก่มารำลึกอดีตก็ได้นะ แต่ขำกันในใจได้ป่ะ..)

พ.ย. 2542

โจ้และผม เป็นเพื่อนรักกัน เราเรียนคณะเดียวกัน ไปใหนมาใหนด้วยกันตลอดปี 1  โจ้เป็นหนุ่มหน้าตี๋  ปกติแค่ดีกรีการเป็นตี๋จากกรุงเทพมาเรียนมหาวิทยาลัยแห่งนี้ก็ถือว่ามีคะแนนขาวสูงเป็นต้นทุน  ซึ่งหากเป็นคนอื่นก็คงใช้คะแนนดังกล่าวต่อยอดสอยหญิงตามอัธยาศัยไม่เว้นว่าง
แต่โจ้ไม่ เท่าที่ได้รู้จักกันปี 1 ผมไม่เคยเห็นโจ้คุยแซวหรือถามเรื่องผู้หญิง  ผมเองแรก ๆ ก็ไม่ค่อยอยากรู้ลึก  แต่มาทราบภายหลังตอนแอบไปเห็นหนังสือรุ่นของมัน  แล้วแอบเห็นฉายาที่เพื่อนโรงเรียนมัธยมตั้งให้มันคือ...

"หนุ่มหน้าใสใจปลาซิว ตัวสั่นเมื่อเจอสาว ๆ"    

โจ้และผมจึงถูกจัดเป็นคู่หูขี้อายระดับล่าง คือทั้งอายทั้งขี้ขลาดเรื่องผู้หญิงเสียจนน่ารำคาญ
ส่วนผมน่ะเหรอ  เรื่องทั่วไปอายไม่เป็น แต่เรื่องสาวก็ปลาซิวพอ ๆ กัน คือขี้อายจนน่าเกลียดน่ารำคาญพอกัน และสิ่งที่เราทำให้กันและกันได้ เพื่อลบปมด้อยเรื่องนี้ตลอดเวลาที่คบกันคือ   “แกล้งกัน”

โจ้และผมผ่านปี 1 มาได้โดยไร้ซึ่งประสบการณ์การมีคู่ (ถ้าไม่นับกันเอง)   ทั่วไปช่วงชีวิตปี 1 ใคร ๆ ก็รู้ว่าเวลาว่างน้อยมาก  ใหนจะเข้าเชียร์ ใหนจะกีฬาเฟรชชี่ ใหนจะวิชาพื้นฐานของคณะ (พวกวิชา.... เบื้องต้น ตั้งหลาย) ใหนจะวิชาพื้นฐานปี 1 ซึ่งเกลียดมาก หนีมาทั้งชีวิตเพื่อมาคณะนี้ แล้วเผือกต้องมาเจอในปีนี้เลย (เช่นวิชา ฟิสิกส์ คณิต แคลคูลัส ทั้งหลาย)
อย่าว่าแต่จีบเลย ออกจากกลุ่มก้อนพวกคณะเดียวกันสักแป๊บยังไม่ค่อยจะมีเวลา

ทีนี้พอขึ้นปี 2 เริ่มเห็นรุ่นน้องใหม่ใสสาวขาวโบ๊ะน่ารัก ๆ มากันตรึม   ไงล่ะ  รุ่นพี่ก็เปิดฝาหม้อเข้ากอบโกยจับจองกันน่ะสิครับ  ผมกับโจ้ ก็มองตากันปริบ ๆ พึมพัมใส่กันทางโทรจิตว่า  "นี่ก็เป็นเวลาสมควรแล้ว ไม่ฉันหรือแก ต้องมีใครเปิดทางหาแฟนนำร่องไปได้เสียที"  เราเลยตกลงกันว่า เอาวะ  เทอมนี้ เราจะต้องหาแฟนให้ได้บ้าง โดยเริ่มจากโจ้ก่อน เพราะโจ้มีต้นทุนที่ดีกว่า  และเผื่อว่าโจ้ทำไม่สำเร็จ ผมจะได้เข้าเสียบโดยใช้ประสบการณ์จากโจ้เป็นแนวทาง

วันหนึ่ง โจ้กระหืดกระหอบมาหาผมที่หอแล้วบอกว่า  "กูเจอแล้ว กูเจอแล้ว"
ผม    "ใครวะ"
โจ้    "คนที่กูจะจีบ"  อารมณ์มันตื่นเต้นสุด ๆ แม้พยายามลดเสียงไม่ให้รูมเมทผมได้ยิน แต่ก็ยังดังไปสามสี่ชั้นด้วยความกระเหี้ยนกระหือรือ
อืม... ที่เค้าเรียก ติดสัด  มันเป็นอย่างนี้นี่เอง
โจ้    "ขาว ๆ  ตัวเล็ก ผมสั้น ตาคม ๆ "
ผม    "เออ ๆ เจอที่ใหนวะ "
โจ้    "โรงกลาง"
ผม    "อืม.. หอเค้าล่ะ"
โจ้    "ไม่รู้ไม่ได้ตาม เค้าซ้อนมอไซค์เพื่อนไป กูวิ่งตามไม่ทัน"
ผม    "ออไม่เป็นไร  งั้นมาหาเบาะแสกัน "    ผมคิดว่า ถ้าสวยใสน่ารักระดับโจ้ให้เกรด A มันก็น่าจะมีคนรู้จักมาก และอาจมากขนาดโลกกลมพรหมลิขิตรู้จักคนที่เราอาจจะรู้จักบ้างก็ได้
ผม    "อีกทีนะ รูปพรรณสันฐาน"
โจ้    "ขาว ๆ  ตัวเล็ก ผมสั้น ตาคม ๆ "
ผม    "แล้วไงต่อ"
โจ้    "อึ่ม.. ไม่มีแล้ว รู้แค่นั้น"
ผม    "ไอ้สสัดหนอน....เห้ย แค่นี้มันจะไปพอสืบเสาะหาได้ไงวะ  ต้องนึกให้ออกว่าคณะอะไร เรียนแถวใหน วิชาอะไร หอใหน “   ผมก็ให้คำแนะนำเพื่อนไปอย่างกับเป็นคาสโนว่าผู้เชี่ยวชาญการสืบเสาะหญิงเป้าหมาย
เจรจาหาทางออกกันซักพักเราก็ได้ไอเดียว่า ไปถามจั่ว (เพื่อนอีกคน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ ) ดีกว่า แต่ตอนนั้นผมไปด้วยไม่ได้ เพราะไม่ว่าง แล้วโจ้ก็ไป  

วันต่อมา โจ้กลับมา..แบบ..ยิ้มกริ่ม
โจ้    "กูรู้แล้ว ว่าเค้าเป็นใคร"
ผม    "อืม บอกมา ไปรู้ได้ยังไง"
โจ้    "กูเอารูปพรรณสัณฐานไปบอกจั่ว  จั่วยิ้มฟันธงเลยว่าเป็นคนนี้"
ผม    "ขาวเล็กสั้นคม.. แค่เนี๊ยระบุตัวได้ทันทีเลยเรอะ .. จั่วยิ้มเจ๋งว่ะ"
โจ้    "อืม ชื่อลูเซิร์น “ (ใส่รอการันต์ไปให้แบบว่า มีกลิ่นอายตะวันตกหลอกตัวเองอย่างกาก ๆ )
ผม    "ไงต่อ"
โจ้    "คณะเทคโน ปี 2 เมื่อก่อนอยู่หอ25 ตอนนี้ไปอยู่หอนอก คอนโดพิมาน"
สิ้นคำว่าคอนโดพิมาน ผมตีมือลั่นเลย
ผม    "เจ๋งมาก.. ตกหลุมรักไฮโซ"  คือพิมานเนี่ย เป็นคอนโดคุณหนูไฮโซ และเป็นแหล่งที่เราไม่เคยได้ไปเหยียบ
โจ้    "นั่นแหละที่กูกลัว"   คาสโนโจ้ กำลังกลับเข้าโหมดปลาซิว ผมต้องฉุดมันกลับมาก่อน
ผม    "เฮ้ย อย่ากลัวไปดิ  ก็แค่ครอบครัวเค้ารวย  จิตใจเค้าไม่ได้รวยไปด้วยยึดติดกันเรื่องแบบนี้หรอก " ก็ให้คำแนะนำไปแบบ งง ๆ
โจ้    "มันจะเหมาะเหรอวะ"
ผม    "อย่าไปคิดแทน    คืองี้นะ ผู้ชายคณะเราเนี่ย เบอร์แรก ๆ ที่จะไปจีบเท่าที่เห็น ไม่แพทย์ก็เภสัชเลย  ที่เหลือกลาง ๆ เบอร์รอง ๆ เนี่ย ส่วนใหญ่จะไม่เน้นคณะ จะเน้นหน้าตาดี เองก็หน้าตาดี กลัวอะไร"
โจ้    "อ่ะ พูดต่อ กูชอบว่ะ"
ผม    "ก็จีบเลย ลุยเลย ให้เค้ารู้จักที่จิตใจ รักที่จิตใจ รวบหัวรวบหาง เดี๋ยวพอเรียนจบครอบครัวเค้าจับได้   เค้าก็ต้องยอมเพราะลูกเค้ารักกับไปแล้ว"
โจ้    "เหมือนมันจะชั่วๆ  ไงไม่รู้ว่ะ"

ผมกับโจ้ละทิ้งการงานการบ้าน มานั่งคิดวางแผน ซึ่งแหม ไอ้อ่อนสองตัวมันจะคิดแผนอะไรได้ ประสบการณ์เป็นศูนย์ บทเรียนไม่เคยมี ครั้นละลอกแบบที่ชาวบ้านจีบกัน  ก็ไม่กล้าเสียทุกที   ผมเลยปล่อยให้มันคิดวิธีของมันเอง แล้วค่อยมาช่วยตอนจะลงมือ
สองสามสัปดาห์ต่อมา มันกลับมาหาผม พร้อมยิ้มกริ่ม  และนี่คือวิธีที่มันเสนอผมมา

โจ้    "กูจะทำตุ๊กตาไปให้เค้า อาทิตย์ละตัว"    หมายถึงเอาอุปกรณ์การเรียน มาตัดแปะเป็นโมเดลตุ๊กตา แล้วแอบเอาไปแขวนหน้าห้องในคอนโดเขา    "เสร็จแล้วพอครอบเดือน กูจะส่งจดหมายไปขอ "เดท"..  ผมเห็นด้วยกับขั้นตอนสองอันนี้ แม้จะรู้สึกทะยิ้ม
ผม    "แล้วไงต่อ"
โจ้    " ถ้าเค้าเปิดรับกู กูจะขอ เป็นแฟนไง"
โห ไอ้นี่ มุมจะจี๊ดก็จี๊ดลึกซึ้งว่ะ
ผม    "แล้วคิดว่า ตุ๊กตามันจะได้ผลเหรอ มันน่ารักเหรอ มีอย่างอื่นมั๊ยที่ได้ผลดีกว่า และไม่ต้องลงทุนมากขนาดนี้"
โจ้    "กูอยากทำเอง มันจะได้สื่อถึงความพยายาม (โปรโมชั่น)"
ผม    "ทำเอง ทำการ์ดก็ได้ เป็นป๊อบอัพก็ได้  มาวาดรูปลงสีไง ที่ถนัดน่ะ"
โจ้    "มันเชย"  ความหมายของคำว่าเชยสำหรับคนอย่างมัน เชยไม่ได้แปลว่า มีคนทำเยอะแล้ว  แต่เชยแปลว่ามีคนทำไปแล้ว
ผม    "ใหนตุ๊กตาหน้าตาเป็นไง"   มันเอารูปเสก็ตให้ดู.... อืม โคตรจะไม่น่ารัก   "เปลี่ยนเหอะ บอกตรง ๆ รกบ้านเค้าเปล่า ๆ ตุ๊กตาหัวลูกปิงปอง ตัวอคลิลิกแปะกาว เอาหลอดดูดมาทำแขนขา..อนาถสัด   นี่แค่เห็นเสก็ตกูก็..หึ  ดูหน้ากูสิ"  ผมพยายามตัดทอนกำลังใจก่อนโจ้มันจะไปไกลกว่านั้น
โจ้    "ไม่ทันแล้วว่ะ"  โจ้กล่าว
ผม    "เฮี่ย อย่าบอกนะว่า ส่งไปให้แล้ว"
โจ้    "อืม ครบสามตัวแล้วด้วย"

..............
เซ็ทเคร่...........
ผมปาหนังสือใส่มันด้วยความหมั่นใส้ ใหนละใหน ตุ๊กตาน่ารัก ใหนละใหน อาทิตย์ละตัว นี่เพิ่งสองอาทิตย์ ส่งไปแล้วสามตัว แล้วเพิ่งมาบอกกู
โจ้    "อืมนั่นแหละ กูบอกเพราะอยากให้ช่วย"
ผม    "ช่วยไร"  
โจ้    "เอาตัวสุดท้ายไปแขวนให้หน่อย"
ผม    "อ้าว แล้วสามตัวที่แล้วให้ใครเอาไปให้"
โจ้    "ยามคอนโด กูจ้างยามคอนโด"
ผม    "อ๊าา   ทำไมไม่เอาไปแขวนเอง แล้วจ้างทำไม จ้างเท่าไร"
โจ้    "คือกูไปที่คอนโดแล้วถามยาม  เขาบอกว่าคนนอกห้ามเข้า กูก็เลยขอร้องพี่เขา ว่าจะเข้าไปส่งของแปบนึงเท่านั้น พี่เค้าก็ไม่ยอม กูก็บอกเบอร์ห้องไป เบอร์ห้องที่ไอ้จั่วให้มา  แล้วกูก็เลยบอกว่า มีตุ๊กตาสามตัว เอาขึ้นไปส่งให้หน่อยได้มั๊ย  จ้างร้อยนึง"
ผม    "ร้อยนึง !! โหยย ไอ้ฝาย...."
โจ้    "แต่พอตัวที่สองเค้าบอกว่า ร้อยนึงคิดต่อครั้ง ตอนแรกเค้าเข้าใจว่าร้อยนึงสามตัวครั้งเดียว"
ผม    "อืม  "  ผมเริ่มสลดในชะตากรรมมัน  นี่ยามหรือมอไซค์รับจ้างวะ เจ้าเล่ห์พอกัน
โจ้    "ตัวที่สามเพิ่งให้เค้าไปส่งให้เมื่อสองวันก่อน ตอนนี้ตังกูหมดและ"
ผม    "สัด จะยืมตังกู"
โจ้    "ไม่ใช่   จะชวนขึ้นไปคอนโด ไปแขวนเอง จะได้ไม่ต้องจ้าง"
ผม    "แขวนเองไปคนเดียวก็ได้"
โจ้    "กูจะให้ล่อยามไปทางอื่น ตอนมีคนเปิดประตูคอนโดแล้วกูเข้าไปแขวน"
โอ้โห.... แค่สองสามอาทิตย์ เพื่อนเรากลายเป็นนักวางแผนจีบหญิงฮาร์ดคอร์ขั้นเทพไปแล้วเหรอวะเนี่ย
ผม    "เออ จะไปเมื่อใหร่"
โจ้    "คืนนี้.. !!!!!!!"
.........อยากเบิ๊ดกะโหลกยิ้มสังสองสามที....
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่