มาต่อกันที่ โรงแรม Centara Grand Hotel Osaka
และอีก 4 วันสุดท้ายก่อนกลับไทยบ้านเรากันครับ 
.
โรงแรมคืนนี้ของเราชื่อว่า Centara Grand Hotel Osaka
ซึ่งเป็นเชนของคนไทยด้วย เราพักที่นี่ 4 คืนรวดไปเลย


เรื่องบรรยายห้องพักคงไม่อธิบายละนะ
ดูรู้เอาก็น่าจะรู้แหละว่ามันสะดวกสบายขนาดไหน
รอบๆโรงแรมมีห้างชื่อ นัมบะพาร์ค มีทุกแบรนด์ให้เลือกชม
หน้าโรงแรมมี Family martมีร้านอาหารเพียบใกล้สุดก็คือร้านราเมง 
ไก่ทอด เดินไปอีกนิดก็มีร้านเพียบเลยสะดวกมากเลยครับ
.
ข้อเสียคือเดินไปชินไซบาชิ ตรงป้านกูลิโกะ ประมาณ 20 นาที
ไม่ใกล้ แต่ก็ไม่ไกลครับ
.
หลังจากที่เราเช็คอินเสร็จแล้วรถก็มารับเราไปทานอาหารค่ำ
คืนนี้เราทานเมนู ชาบุ ชาบุ ที่ย่านชินไซบาชิ
ชื่อร้านว่า Shabutei ร้านเล็กๆอบอุ่นมาก
ชั้นบนนั่งทานหม้อละ 4 ท่าน
ชั้นล่างหม้อใครหม้อมันครับ
เนื้อวากิว และเนื้อหมูที่ร้านนี้คือ ดีมาก อร่อยสุดๆอีกละ
แต่ข้อเสียของร้านนี้คือรถไม่สามารถมาจองหน้าร้านได้
จอดที่ถนนใหญ่แล้วเดินเข้าซอยมาประมาณ 5 นาที
หลังจากทานเสร็จรถก็มารอรับเรากลับโรงแรม

 .
กิจกรรมยามค่ำคืนที่ทริปนี้ชอบที่นั่นก็คือร้านคีบตุ๊กตาครับ555
.
วันที่ 5 ของการเดินทาง 🏃🏻🚌🎌
เช้าวัน5 ห้องอาหารเช้าที่โรงแรม Centara นี้
คือมีอาหารไทยด้วยนะ รู้สึกแปลกดีครับ
มาญี่ปุ่นปกติทานอาหารเช้าแบบ ABF 
หรือ แบบบุฟเฟ่ต์ทั่วไปหรือไม่ก็แบบเซ็ทญี่ปุ่น
แต่คราวนี้มาเป็นบุฟเฟ่ต์แล้วมีอาหารไทยด้วย555
แต่อาหารไทยที่นี่รสชาติไม่จัดเท่าบ้านเรานะ
แต่ก็พอได้อยู่ครับ มีพนักงานคนไทยด้วย

.
หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว 
เราออกเดินทางไปยัง วัดชิเทนโนจิ
วัดนี้ไม่ได้มีอยู่ในตารางเที่ยวของเรานะ
คณะของเราอยู่ดีๆก็อยากไหว้พระ
แต่ไม่อยากไปวัดเดิมๆที่คนไทยไปกันเยอะๆ
ก็เลยหาวัดนี้เจออยู่ระหว่างทางไปเอ้าท์เล็ตพอดี
ก็เลยพากันไปไหว้พระก่อนจะไปช้อปปิ้ง

 .
หลังจากไหว้พระเสร็จเราก็มุ่งหน้าตรงไปสู่ ริงกุเอ้าท์เล็ต
เพื่อไปทานเที่ยงที่Food courtแล้วก็ช้อปปิ้ง
จริงๆมีร้านอาหารที่อยากทานนะนั่นคือร้าน Snow Peak
เป็นร้านที่ขายอุปกรณ์เดินป่า และขายอาหารด้วย
แต่พอไปถึงก็เปลี่ยนใจไม่ทานแต่อยากทาน Food Court ซะงั้น
ก็ไม่มีปัญหาปรับเปลี่ยนได้สบายๆอยู่แล้วครับ5555

 .
Food Court ที่นี่ใหญ่มาก อยู่ชั้น 3 มีบันไดเลื่อนขึ้นไปนะ
บันไดปกติก็มี ลิฟต์ก็มี ไม่ต้องเป็นห่วงเลยครับ😆👍🏼

 .
หลังจากทานเที่ยงกันเสร็จก็ถึงเวลาส่วนตัวของลูกค้าแต่ละท่านแล้ว
Shopping Time เต็มที่กันไปเลย
4ชม.เต็มๆ ไม่พอต่อเวลาได้ด้วยนะ
.
หลังจากนั้นก็กลับโรงแรมเพื่อเก็บของที่ช้อปกันมา
แล้วช่วงเย็นก็เป็น 2 คณะ
คณะที่ 1 : ดื่มนิดหน่อยที่เล้นจ์ชั้นบนสุดของโรงแรม
คณะที่ 2 : ไปTeamlab Botanical Garden Osaka 

 .
หลังจากนั้นคณะที่อยู่โรงแรมก็นั่งแท๊กซี่ไปเจอกันที่ร้านอาหาร
และคณะที่2นั่งรถบัสไปเจอกันที่ร้านอาหารเช่นกัน
.
หลังจากนั้นก็ทานอาหารค่ำร่วมกัน โดยมือนี้เป็น ยาคินิคุ
โดยเพื่อนของลูกค้าเป็นคนจองให้เป็นร้านท้องถิ่นมากๆ
ซึ่งอยู่ห่างจากชินไซบาชิไปประมาณ 30 นาที

 .
หลังจากทานอาหารค่ำเสร็จก็นั่งรถแท๊กซี่ 4 คันไปโรงแรม
ผู้อ่านอาจจะสงสัยกันว่า อ้าว!ทำไมต้องนั่งแท๊กซี่ทำไมไม่นั่งรถบัสของเรา⁉️
.
คืองี้ครับ รถบัสของญี่ปุ่นมีกฏหมายออกมาใหม่ปีนี้
คือรถบัสต้องวิ่งทำงานได้วันละ 10 ชม.เท่านั้น❗️
เลยได้นิดหน่อยห้ามเลยเป็นชม.
คณะของเราก็เลยต้องนั่งแท๊กซี่กลับโรงแรมกันครับ
🚕🚕🚕🚕
.
หลังจากนั้นเมื่อถึงโรงแรมก็ได้เวลาของวัยรุ่นแล้ว
นั่นก็คือร้านคีบตุ๊กตาครับ คืนนี้ได้ตุ๊กตาตัวใหญ่กันครบทุกคนเลยครับ
ใช้เวลาไม่นาน ร้านชื่อว่า Taito Station
ร้านนี้ใจดี กดไม่ยากนะทุกคนไปลองกันเลยได้แน่นอน555

 .
วันที่ 6 ของการเดินทาง
วันนี้มี 7 ท่าน ไปเที่ยว USJ
โดยมีรถบัสของเราไปส่งที่ USJในช่วงเช้า
.
อีก 6 ท่านก็อิสระช้อปปิ้งห้างนัมบะพาร์คเต็มวัน
.
หลังจากนั้นช่วงเย็นคณะที่ไป USJ ก็เดินทางกลับ
แต่นั่งรถไฟกันมาเองมาถึงย่านชินไซบาชิ
แล้วหัวหน้าทัวร์1ท่านก็นั่งรถแท๊กซี่ไปเจอที่นั่น
แล้วก็พากันไปช้อปปิ้งไปทานข้าวแล้วก็กลับโรงแรม
.
ส่วนคณะที่โรงแรม6ท่านก็หลังจากที่หนักหน่วงกับการช้อปปิ้งเต็มวัน
ไปเจอร้านขายดอกไม้จัดดอกไม้น่ารักมากสวยมาก
เลยอยากให้ทุกคนได้เห็น มีต้นซากุระขายด้วยนะ555

ก็หาร้านอาหารฝรั่งทานแถวๆโรงแรมแล้วก็ดื่มกันนิดหน่อย
หลังจากนั้นก็กลับเดินกลับโรงแรมพักผ่อนครับ
.
วันที่ 7 ของการเดินทาง
หลังจากทานอาหารเช้า ก็ออกเดินทางสู่วัดคัตสึโอจิ
วัดนี้ไฮไลต์คือมี ตุ๊กตา ดารุมะ เพียบเลย
เต็มวัดไปหมด หันไปทางไหนก็เจอแต่ตุ๊กตา ดารุมะ
น่ารักไม่หมดเลย

 .
หลังจากไหว้พระเสร็จแล้วก็พากันไปบ้านเพื่อนของลูกค้า
ที่ย่านมินาโตะ ย่านนี้มีสถานที่ท่องเที่ยวด้วยนะ
นั่นก็คือ ชิงช้าสวรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในโอซาก้า
แล้วพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ ไคยูกัง อีกด้วย

 .
คณะของเราก็เลยทานอาหารเที่ยงที่นี่เป็นเมนูข้าวมันไก่
พอดีเพื่อนลูกค้ามีเพื่อนเป็นคนไทยอีกทีทำอาหารเก่งก็เลยเปิดร้านข้าวมันไก่ที่นี่

ใครอยากทานร้านข้าวมันไก่ที่โอซาก้า แนะนำร้านนี้นะครับ
ชื่อร้านว่า Rachel s Khaomunkai
.
หลังจากทานเที่ยงเสร็จเราก็ไปต่อกันที่
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำไคยูกังกันต่อเลย เดินไปได้เลยไม่ไกล
ที่ใกล้ๆก็มีห้างเล็กขายทั้งของกินของใช้เต็มไปหมดเลย
.
หลังจากนั้นคณะของเราก็ทานอาหารค่ำที่บ้านของเพื่อนลูกค้ากันเลย
ส่วนผมและไกด์นั่งแท๊กซี่เพื่อนำของที่ลูกค้าช้อปทั้งหมดวันนี้ไปเก็บที่โรงแรม
เพื่ออำนวยความสะดวกหลังจากทานอาหารค่ำเสร็จ
จะได้ไม่ต้องหิ้วของพะรุงพะรัง
.
หลังจากทานอาหารค่ำเสร็จ
รถบัสก็พาลุกค้ากลับโรงแรมด้วยรถบัส
.
วันที่ 8 วันสุดท้ายของการเดินทาง👋🏻🇯🇵
วันนี้สบายๆอิสระทานอาหารเช้า
แล้วก็เช็คเอ้าท์เที่ยง ออกเดินทางสู่สนามบินคันไซ

 .
ที่สนามบินคันไซขากลับของคณะผม
เช็คอินอาคาร 1 แล้วไปขึ้นเครื่องอาคาร 2
ซึ่งเดินไกลมากต้องเผื่อเวลาเยอะๆหน่อยนะครับ
อาคาร2 ของช้อปมีไม่เยอะเท่าอาคาร 1 ด้วยนะครับ
.
เครื่องการบินไทยนั่งสบายมาก แต่ราคาตั๋วแรงไปหน่อย
มาดูไฟล์ทขากลับกันว่าภายในเครื่องเป็นยังไง

 .
อาหารมีเสริฟ 2 เมนูที่เราทานกันนะครับ
แถมมีขนมโดรายากิแถมให้อีกขนมดีนะครับ

.
ก็จบลงแล้วนะครับสำหรับรีวิวทริปทัวร์ญี่ปุ่นแบบส่วนตัว
โอซาก้า เกียวโต นารา 8วัน 6คืน บินสายการบินไทย
พักโรงแรม 5 ดาว 6 คืน 
.
สามารถแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวโรงแรม หรือ
ร้านอาหารเด็ดๆในญี่ปุ่นแนะนำกันมาได้นะครับ
หรือถ้าใครอยากให้ผมรีวิวเมืองหรือประเทศไหน
ลองพิมพ์บอกกันไว้ได้นะครับ
.
สุดท้ายนี้ขอบคุณที่อ่านกันจนจบนะครับ🙏🏻🙇🏻‍♂️❤️
ทริปหน้าไปเที่ยวไหน ไว้จะเล่าให้ฟังอีกนะครับ
ขอบคุณครับ

สำหรับผู้ที่ต้องการอ่าน Part 1
สามารถกดลิ้งค์นี้อ่านได้เลยครับ
👇🏻👇🏻👇🏻🇯🇵🏃🏻✈️
https://ppantip.com/topic/42959621

 #รีวิวbyแกรนด์ทัวริสโม่