มีเรื่องอยากมาแชร์ครับ ความโชคดีบนความซวยของผม โชคดีมากๆ
ครั้งนี้บินกับPeach Airlines, Low cost น้องใหม่จาก ANA ซึ่งเบสที่Kansai Osaka ใช้มา3ครั้งก่อนหน้านี้ FUK-KIX KIX-OKA-KIX ตรงเวลาเป๊ะทุกครั้ง ถึงก่อนเวลาเกือบทุกครั้งด้วยซ้ำ แต่ตอนแรกรู้สึกไม่ค่อยชอบเพราะว่า 1.ประกาศทุกอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่นหมด 2.ไม่หรี่ในห้องโดยสารไฟระหว่างเครื่องขึ้นและลง 3.ไม่เดินมาเช็คผดสก่อนเครื่องลงว่าปรับเบาะรึป่าว คาดเข็มขัดรึยัง.......คือดูแล้วรู้สึกไม่ค่อยระวังเรื่องความปลอดภัยเท่าที่ควร หนำซ้ำยังเลือกที่จะใช้เทอมินอลทางเลือกอีก แบบที่Kansaiก็มาสร้างของตัวเองแยกต่างหากซึ่งดูไม่แย่เท่าไหร่ แต่ที่โอกินาว่านี่โกดังสินค้าดีๆนี่เอง......เอาเป็นว่าไม่ประทับใจเท่าที่ควร
แต่วันนี้ตอนเช้าไปเช็คอินเพื่อจะไปไต้หวัน ผมไม่ได้ขอวีซ่าเนื่องจากใช้วีซ่าออสเตรเลียได้แต่ว่าเราต้องลงทะเบียนผ่านอินเตอร์เนทและเค้าก็จะส่งคอนเฟิร์มเมชั่นให้ทันที่ ซึ่งผมก็ทำแล้ว ด้วยความคิดที่ว่าวีซ่าของตัวเองมีอยู่ถึง4ปีรวมทั้งความสัพเพร่าของตนเอง ทำให้ไม่ได้เช็คว่ามันมีอายุแค่1เดือน ถ้าเกินต้องสมัครออนไลน์ใหม่ ปรากฏว่ามันเกินมา1วันครา......ง่ายๆเลยคือสายการบินมีสิทธิ์เต็มที่จะปฏิเสธการเดินทางของผม
พนักงานขอคุยกับsupervisorซึ่งผมก็ยืนยันว่าผมสมัครใหม่แล้วได้เลย เค้าก็เลยบอกลูกน้องว่าให้เช็คอินให้ผมก่อนแล้วก็ให้ผมไปสมัครใหม่ออไลน์แล้วส่งเรื่องให้เมลให้เค้าเลย
เจส........ไอแพดโหลดหน้านี้ของสถานฑูตไม่ได้ครับ.....ทำไงดีวะ เค้าเลยให้ไปใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะซึ่งมีค่าบริการ100เยน........แฟร่งเอ๋ย.......ซวยหนักกว่าเดิมอีก ทั้งเนื้อทั้งตัวมีอยู่30เยน ประมาณว่าแดร๊กเหล้าจนหยดสุดท้าย.....คุณซุปเลยพาไปแลกเงินและรอจนแอพพลายเสร็จและให้ส่งเค้าเมลเค้า.....จนกระทั้งเค้าได้เมลก็คิดว่าเรื่องโอเคละ............มันไม่จบแค่นั้นคระคุณตำรวจ........
คุณซุปเช็คเอกสาร.......สราด ด้วยความรนก็ใส่วันเดือนปีเกิดผิดอีก.........คือตอนนี้นี่กะซื้อตั๋วใหม่ไฟลท์บ่ายแล้วอะ แล้วก็โกรธตัวเองมากๆในความสัพเพร่าของตัวเอง..........ประมาณว่าเที่ยวมาก็เยอะ.........เรื่องแค่เนี้ยดันพลาด.........
แล้วทุกความโชคร้ายในชีวิตมันก็มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเสมอๆ คุณซุปเข้าเวบ กรอกเอกสารให้ใหม่ด้วยตัวเองจากคอมพิวเตอร์ของสายการบินแล้วก็พริ้นท์เอกสารเดินทางซึ่งเราต้องเอาไปยื่นให้ตมไต้หวันมาให้เลยคร่า............ตอนนั้นได้แต่ยื่นซึ้ง...........
สุดท้าย ได้ขึ้นเครื่อง เครื่องออกก่อนเวลา10นาทีและมาถึงไต้หวันก่อนเวลา20นาที...........ไม่อยากจะเชื่อ.........
ที่เอามาแชร์เพราะอยากจะเตือนทุกๆคนว่า
1.เดินทางต่างประเทศ เช็คเอกสารและข้อกำหนดให้ดีๆ
2.ไปถึงสนามบินเนินๆ....คราวนี้โชคดีมากเลยที่ตัดสินใจนอนในสนามบิน ถ้านอนข้างนอกคงมาเช็คอินก่อนหมดเวลา10นาทีซึ่งคงทำไรไม่ทันแล้ว
3.อย่าใช้เงินหมดจนหยดสุดท้าย เหลือไว้เผื่อฉุกเฉินซะหน่อย
4.iPadไม่ใช่คอมพิวเตอร์ อย่าคิดว่ามันจะช่วยอะไรเราได้มาก.......
5.เปิดใจให้กว้าง การที่มีอคติกับสายการบินตอนแรกนั้น ข้อ1ก็ยังคิดอยู่ว่ามันควรจะเป็นที่ควรมีประกาศภาษาอังกฤษด้วย ข้อ2 ในประเทศญี่ปุ่นมันอาจจะไม่ใช่กฎที่ต้องหรี่ไฟก็ได้(รึป่าว) เพียงแต่สายการบินส่วนใหญ่ทำกัน ข้อ3ไฟลท์สุดท้ายที่นั่งออกจากญี่ปุ่นลองสังเกตดู ด้วยความเป็นไฟลท์ระหว่างประเทศ ไฟลท์นี้มีประกาศภาษาอังกฤษคร่า......แค่พูดว่าเครื่องจะลงและต้องทำอะไรบ้าง พรึบ........ทุกคนทำหมด....ไม่เหมือนที่เคยนั่งพวกแอร์เอเชียเลยต้องคอยเดินจี้ นี่อาจเป็นวัผฒนธรรมที่แตกต่างแต่ผมก็ยังมองว่าควรจะเดินมาเช็คนะ เพราะเผื่อบางคนหลับอยู่........
6.คนดีที่จะทำให้เกิดปาฏิหารในชีวิตเรายังมี อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ
สุดท้ายรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆที่สามารถเดินทางได้ เชื่อเลยว่าถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ออสเตรเลียรึแม้แต่เมืองไทยหรือที่ไหนๆก็ตาม........คงแทบจะไม่มีโอกาสเดินทางกับไฟลท์นั้นไปไตหวัน ต้องขอบคุณความมีน้ำใจของคุณRyota Fujii แห่งPeach Airlinesที่ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นของผมจบลงอย่างสวยงาม.......แล้วจะเอารูปมาให้ดูกันครับ 12 วัน ฮอกไกโดถึงโอกินาว่า มีแต่คนเตือนว่าเหนื่อยเกินไป แต่ความดันทุรังไม่ฟังใคร ก็ทำให้ผมได้ประสบการณ์ดีๆใหม่ๆในชีวิต แล้วไว้จะมาเล่าให้ฟังครับ.........
[CR] Peach Airlines(ญี่ปุ่น).......ไม่เคยคิดว่าจะเป็นอย่างนี้........
มีเรื่องอยากมาแชร์ครับ ความโชคดีบนความซวยของผม โชคดีมากๆ
ครั้งนี้บินกับPeach Airlines, Low cost น้องใหม่จาก ANA ซึ่งเบสที่Kansai Osaka ใช้มา3ครั้งก่อนหน้านี้ FUK-KIX KIX-OKA-KIX ตรงเวลาเป๊ะทุกครั้ง ถึงก่อนเวลาเกือบทุกครั้งด้วยซ้ำ แต่ตอนแรกรู้สึกไม่ค่อยชอบเพราะว่า 1.ประกาศทุกอย่างเป็นภาษาญี่ปุ่นหมด 2.ไม่หรี่ในห้องโดยสารไฟระหว่างเครื่องขึ้นและลง 3.ไม่เดินมาเช็คผดสก่อนเครื่องลงว่าปรับเบาะรึป่าว คาดเข็มขัดรึยัง.......คือดูแล้วรู้สึกไม่ค่อยระวังเรื่องความปลอดภัยเท่าที่ควร หนำซ้ำยังเลือกที่จะใช้เทอมินอลทางเลือกอีก แบบที่Kansaiก็มาสร้างของตัวเองแยกต่างหากซึ่งดูไม่แย่เท่าไหร่ แต่ที่โอกินาว่านี่โกดังสินค้าดีๆนี่เอง......เอาเป็นว่าไม่ประทับใจเท่าที่ควร
แต่วันนี้ตอนเช้าไปเช็คอินเพื่อจะไปไต้หวัน ผมไม่ได้ขอวีซ่าเนื่องจากใช้วีซ่าออสเตรเลียได้แต่ว่าเราต้องลงทะเบียนผ่านอินเตอร์เนทและเค้าก็จะส่งคอนเฟิร์มเมชั่นให้ทันที่ ซึ่งผมก็ทำแล้ว ด้วยความคิดที่ว่าวีซ่าของตัวเองมีอยู่ถึง4ปีรวมทั้งความสัพเพร่าของตนเอง ทำให้ไม่ได้เช็คว่ามันมีอายุแค่1เดือน ถ้าเกินต้องสมัครออนไลน์ใหม่ ปรากฏว่ามันเกินมา1วันครา......ง่ายๆเลยคือสายการบินมีสิทธิ์เต็มที่จะปฏิเสธการเดินทางของผม
พนักงานขอคุยกับsupervisorซึ่งผมก็ยืนยันว่าผมสมัครใหม่แล้วได้เลย เค้าก็เลยบอกลูกน้องว่าให้เช็คอินให้ผมก่อนแล้วก็ให้ผมไปสมัครใหม่ออไลน์แล้วส่งเรื่องให้เมลให้เค้าเลย
เจส........ไอแพดโหลดหน้านี้ของสถานฑูตไม่ได้ครับ.....ทำไงดีวะ เค้าเลยให้ไปใช้คอมพิวเตอร์สาธารณะซึ่งมีค่าบริการ100เยน........แฟร่งเอ๋ย.......ซวยหนักกว่าเดิมอีก ทั้งเนื้อทั้งตัวมีอยู่30เยน ประมาณว่าแดร๊กเหล้าจนหยดสุดท้าย.....คุณซุปเลยพาไปแลกเงินและรอจนแอพพลายเสร็จและให้ส่งเค้าเมลเค้า.....จนกระทั้งเค้าได้เมลก็คิดว่าเรื่องโอเคละ............มันไม่จบแค่นั้นคระคุณตำรวจ........
คุณซุปเช็คเอกสาร.......สราด ด้วยความรนก็ใส่วันเดือนปีเกิดผิดอีก.........คือตอนนี้นี่กะซื้อตั๋วใหม่ไฟลท์บ่ายแล้วอะ แล้วก็โกรธตัวเองมากๆในความสัพเพร่าของตัวเอง..........ประมาณว่าเที่ยวมาก็เยอะ.........เรื่องแค่เนี้ยดันพลาด.........
แล้วทุกความโชคร้ายในชีวิตมันก็มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเสมอๆ คุณซุปเข้าเวบ กรอกเอกสารให้ใหม่ด้วยตัวเองจากคอมพิวเตอร์ของสายการบินแล้วก็พริ้นท์เอกสารเดินทางซึ่งเราต้องเอาไปยื่นให้ตมไต้หวันมาให้เลยคร่า............ตอนนั้นได้แต่ยื่นซึ้ง...........
สุดท้าย ได้ขึ้นเครื่อง เครื่องออกก่อนเวลา10นาทีและมาถึงไต้หวันก่อนเวลา20นาที...........ไม่อยากจะเชื่อ.........
ที่เอามาแชร์เพราะอยากจะเตือนทุกๆคนว่า
1.เดินทางต่างประเทศ เช็คเอกสารและข้อกำหนดให้ดีๆ
2.ไปถึงสนามบินเนินๆ....คราวนี้โชคดีมากเลยที่ตัดสินใจนอนในสนามบิน ถ้านอนข้างนอกคงมาเช็คอินก่อนหมดเวลา10นาทีซึ่งคงทำไรไม่ทันแล้ว
3.อย่าใช้เงินหมดจนหยดสุดท้าย เหลือไว้เผื่อฉุกเฉินซะหน่อย
4.iPadไม่ใช่คอมพิวเตอร์ อย่าคิดว่ามันจะช่วยอะไรเราได้มาก.......
5.เปิดใจให้กว้าง การที่มีอคติกับสายการบินตอนแรกนั้น ข้อ1ก็ยังคิดอยู่ว่ามันควรจะเป็นที่ควรมีประกาศภาษาอังกฤษด้วย ข้อ2 ในประเทศญี่ปุ่นมันอาจจะไม่ใช่กฎที่ต้องหรี่ไฟก็ได้(รึป่าว) เพียงแต่สายการบินส่วนใหญ่ทำกัน ข้อ3ไฟลท์สุดท้ายที่นั่งออกจากญี่ปุ่นลองสังเกตดู ด้วยความเป็นไฟลท์ระหว่างประเทศ ไฟลท์นี้มีประกาศภาษาอังกฤษคร่า......แค่พูดว่าเครื่องจะลงและต้องทำอะไรบ้าง พรึบ........ทุกคนทำหมด....ไม่เหมือนที่เคยนั่งพวกแอร์เอเชียเลยต้องคอยเดินจี้ นี่อาจเป็นวัผฒนธรรมที่แตกต่างแต่ผมก็ยังมองว่าควรจะเดินมาเช็คนะ เพราะเผื่อบางคนหลับอยู่........
6.คนดีที่จะทำให้เกิดปาฏิหารในชีวิตเรายังมี อย่าเพิ่งหมดกำลังใจ
สุดท้ายรู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆที่สามารถเดินทางได้ เชื่อเลยว่าถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ออสเตรเลียรึแม้แต่เมืองไทยหรือที่ไหนๆก็ตาม........คงแทบจะไม่มีโอกาสเดินทางกับไฟลท์นั้นไปไตหวัน ต้องขอบคุณความมีน้ำใจของคุณRyota Fujii แห่งPeach Airlinesที่ทำให้การเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่นของผมจบลงอย่างสวยงาม.......แล้วจะเอารูปมาให้ดูกันครับ 12 วัน ฮอกไกโดถึงโอกินาว่า มีแต่คนเตือนว่าเหนื่อยเกินไป แต่ความดันทุรังไม่ฟังใคร ก็ทำให้ผมได้ประสบการณ์ดีๆใหม่ๆในชีวิต แล้วไว้จะมาเล่าให้ฟังครับ.........