เรื่องนี้อยากมาเล่าให้เป็นอุทธาหรณ์ และให้ทุกคนระวังตัวกับกลโกงของ AIS นะคะ
เริ่มแรกเลยคือได้สมัครเบอร์โทรศัพท์ไว้เบอร์หนึ่งสำหรับคุณแม่โทรใช้งาน นอกเหนือไปจากเครื่องหลักที่เขาใช้อยู่ซึ่งเป็นคนละค่ายกัน
เพื่อที่คุณแม่จะได้ใช้โทรเวลาโปรอีกเครื่องหนึ่งใกล้จะหมด เราสมัครเบอร์นี้กับ AIS และได้ใช้เป็นระยะเวลาปีกว่า และได้สมัครบริการ e-statement เพื่อลดปัญหาในการจัดส่งเอกสาร รวมถึงลดโลกร้อนไปในตัว โดยปกติแล้วเบอร์ที่ให้คุณแม่ใช้นี้เราสมัครโปรและจ่ายเงินอยู่ประมาณ สองร้อยกว่าบาทต่อเดือน และยังสมัครรายการให้บริษัทตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติอีกด้วย (เพื่อความสะดวก) คุณแม่ก็ยินดีใช้เบอร์นี้เพราะเวลาไปต่างจังหวัดคลื่นแรงกว่าเบอร์หลัก
ทั้งนี้ทั้งนั้น พอเราเริ่มมาดูบิลบัตรเครดิต เมื่อ ห้าเดือนก่อน ก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของค่าใช้จ่ายจาก สองร้อยกว่าบาทเป็น สี่ร้อยบ้าง สามร้อยกว่าบาทบ้าง เราก็เลยแซวแม่ว่า ช่วงนี้เมาท์เยอะเหรอ คุณแม่ก็ขำๆบอกว่านิดหน่อย แล้วก็บอกว่าจะใช้โทรศัพท์บ้านแทนแล้ว เราก็ไม่ว่าอะไร ผ่านมาอีกสองเดือนก็ยังราคาสี่ร้อยมาเรื่อยๆอยู่ ก็แซวแม่อีก คราวนี้คุณแม่ก็บอกว่า เปล่านะ ไม่ได้ใช้โทรอะไรมากมายเลย ในขณะเดียวกัน คุณแม่ก็บ่นรำคาญเรื่องข้อความที่ส่งมาอยู่เรื่อย เป็นแนวความรักกุ๊กกิ๊ก เราไปเปิดดูก็เห็นเป็นเป็นประมาณกลอนจีบสาว ก็เลยงงว่าส่งมาให้แม่เราทำไม แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมาก ท้ายสุดก็ตัดสินใจหาเวลาว่างไปคุยกับทางบริษัทเพื่อที่จะถามเวลาโทรของแม่ว่าเฉลี่ย ประมาณเดือนละเท่าไหร่ เพื่อที่เราจะเปลี่ยนโปรให้ได้ตามที่คุณแม่ใช้
โดยเราไปติดต่อ AIS ที่สาขาจามจุรีแสควร์ก่อน แล้วถามพนักงานว่าเบอร์นี้มีสถิติการโทรยังไง ก็เลยได้พบความจริงว่าคุณแม่ไม่เคยโทรเกินโทรเลย แต่ที่บิลสูงขึ้นเป็นเพราะคุณแม่สมัครบริการ LOVE SMS เราคิดทบทวนก็บางอ้อทันที แล้วก็ร้องเรียนกับพนักงานไปว่าคุณแม่ไม่เคยสมัครบริการนี้ พนักงานแจงว่าบริการนี้สมัครง่ายมาก เพียงแค่กดปุ่มตอบรับไม่กี่ปุ่มก็จะสมัครบริการนี้ได้แล้ว (คุณแม่อายุจะ 60 อยู่แล้ว ตอนนี้ก็ช่วยเลี้ยงหลาน ทำกับข้าวไปตามเรื่อง แล้วจะมีอารมณ์มาส่งข้อความกุ๊กกิ๊กอีกเหรอ) พนักงานรับทราบแล้วก็บอกว่าจะส่งเรื่องร้องเรียนให้และจะโทรแจ้งภายใน 7วัน พร้อมกับยกเลิกบริการข้อความนี้ให้ เรารอพนักงานให้ติดต่อกลับมาหา ผ่านไปสองอาทิตย์กว่าก็ไม่มีโทรศัพท์จาก AIS เลย พอเดินไปที่สาขาที่ร้องเรียนก็พบว่าปิดปรับปรุง เราก็คิดว่าบริษัทคงต้องดำเนินเรื่องพักนึงกระมังถึงจะติดต่อกลับมาได้ ขณะเดียวกันเราเองก็เพิ่งจะเปิดเบอร์ใหม่กับทาง AIS แล้วก็ได้ใบแจ้งค่าใช้จ่ายทางจดหมาย ก็เลยสังเกตุเห็นว่า ใบแจ้งค่าใช้จ่ายนี้แจงรายละเอียดค่าโทรชัดเจน ในขณะที่ e-statement นั้นบอกเพียงแต่ยอดรวมที่ต้องจ่ายเท่านั้น
คราวนี้เรารอไม่ไหว ก็ไปติดต่อ AIS ที่สาขาปิ่นเกล้า เพื่อสอบถามเรื่องที่ร้องเรียนไป ปรากฏว่าพนักงานแจ้งให้ทราบว่า ทาง AIS ไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนนี้มาก่อน !?! แต่ได้ยกเลิกบริการไปแล้ว เราก็แจ้งไปว่าร้องเรียนที่สาขาจามจุรีแสควร์นะ พนักงานก็บอกว่าปิดทำการปรับปรุงอยู่เลยไม่สามารถทำเรื่องให้ได้ (แล้วไม่มีการส่งงานต่อ?) เราโดนชารจ์เพิ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนตุลาคม เดือนละเกือบสองร้อย หรือไม่ก็สองร้อยกว่าบาท ถึงแม้ว่ายอดรวมจะแค่พันกว่าบาท แต่สำหรับเราแล้วมันคือการโกงลูกค้าค่ะ
ไม่อยากจะเสียเวลาแล้ว เราก็แจ้งพนักงานให้จดรายละเอียดค่าใช้จ่ายส่วนเกินนี้ออกมาและขอให้ทางบริษัทรับผิดชอบ ทางพนักงานก็บอกว่าไม่แน่ใจว่าทำได้มั้ยเพราะบริษัทข้อความคือบริษัทอื่นที่มาเซ็นสัญญาทำธุรกิจด้วยเท่านั้น เราจึงขอเบอร์ติดต่อของบริษัทและชื่อเพื่อที่จะไปแจ้งความ พนักงานก็ขอตัว ไปคุยกับคนข้างในก่อน แล้วก็ออกมาแจ้งกับเราว่า AIS ยินดีจะรับผิดชอบส่วนที่จ่ายไปของข้อความเป็นระยะเวลาสามเดือนย้อนหลัง (ประมาณ 500 บาท) แล้วก็แจ้งชื่อบริษัทว่าคือ 1moby สามารถติดต่อได้ทางอีเมลล์ พร้อมเบอร์ติดต่อ 025148008 เราก็ฟังแล้วพยักหน้าแล้วบอกพนักงานว่า เราก็ยืนยันจะแจ้งความ และบอกพนักงานว่าบริษัทที่จดทะเบียนกับคุณ ต้องมีชื่อบริษัทที่จดทะเบียนการค้า พร้อมที่ตั้งชัดเจน เราต้องการแจ้งความด้วยข้อมูลนี้ พนักงานเลยขอตัวแวบไปข้างในอีกรอบ รออยู่ไม่นานมาก พนักงานก็ออกมาแจ้งว่าจะจัดการค่าใช้จ่ายของบริษัทข้อความทั้งหมด แต่ถ้าหากคุณแม่เผลอไปสมัครบริการนี้อีกจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้อีกแล้ว เราก็เลยบอกพนักงานให้ล๊อคเบอร์คุณแม่ว่าไม่รับข้อความโฆษณาใดๆทั้งสิ้น พนักงานก็ตกลงทำให้
อีกสิ่งหนึ่งที่เราขอให้พนักงานทำให้คือการยกเลิก e-statement ค่ะ จากการสอบถามพนักงานก็เป็นดังที่เราเข้าใจคือ การแจ้งยอดออนไลน์ก็แจ้งแค่ยอด ไม่มีรายละเอียดแจ้งมาด้วยทางอีเมลล์ ซึ่งทำให้เราไม่สามารถทราบได้ว่ายอดที่ต้องจ่ายมันมีอะไรบ้าง เลยทำให้ต้องจ่ายเงินเกินแบบไม่รู้เรื่อง เพราะไว้ใจบริษัท
เรื่องนี้ผ่านไปได้หนึ่งเดือน ก็มีพี่คนใช้ที่บ้านที่ใช้มือถือเติมเงิน 12call บ่นว่าเพิ่งเติมเงินเมื่อวาน 50บาท ยังไม่ได้โทรออก เงินหมดซะแล้ว
เราก็เลยขอดูโทรศัพท์ เลยพบว่าพี่คนนี้ได้รับข้อความข่าวสารหุ้น (พี่คนใช้อายุประมาณ 40กว่า มาจากตจว งานแต่ละวันของพี่คือ จ่ายตลาดทำกับข้าว ซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน หุ้นคืออะไรยังไม่รู้จักเลย) ก็เลยถามพี่เขาว่าได้รับข้อความแปลกๆแล้วพิมพ์กลับไปหรือเปล่า เขาก็บอกว่าไม่ แต่ได้รับโทรศัพท์แปลกๆ โทรมาทำไมไม่รู้ เราก็เลยโทรไปถาม AIS เลยทราบว่ามีการโฆษณาทางโทรศัพท์แบบนี้ซึ่งหากเรารับโทรศัพท์แล้วฟังไป เรื่อยๆ ก็เสียเงินค่ะ เรายินยันกับศูนย์ว่าพี่เขาไม่รู้เรื่องซึ่งทางศูนย์ก็บอกว่าจะคืนเงินเข้า เบอร์โทรศัพท์ถายในสองวัน แล้วเราก็แจ้งให้ทางศูนย์บล๊อคโฆษณาเบอร์พี่เขาไว้ด้วย และถามว่าสามารถบล๊อคเบอร์พวกที่โฆษณาโทรเขาได้มั้ย ทางศูนย์ก็บอกว่าไม่ได้ ทำได้แต่ข้อความเท่านั้น !?!
ถึงแม้เงินมันจะไม่กี่บาท แต่หลายคนที่โดนไปแล้วไม่รู้เรื่องล่ะ รวมเป็นเท่าไหร่ สำหรับเราแล้ว เราถือว่าเป็นการโกงผู้บริโภคค่ะ เราต้องการให้เรื่องนี้เป็นตัวอย่างเพื่อให้ทุกคนระมัดระวังเรื่องการใช้โทรศัพท์ให้มาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือคนที่ใช้โทรศัพท์เพื่อการโทรเป็นส่วนใหญ่อาจไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของ บริษัทนี้ บริษัทที่เขาบอกว่าเซ็นสัญญากับเขาแต่ไม่สามารถให้รายละเอียดที่ชัดเจนของบริษัทได้ หมายความว่าอย่างไร เราคาดว่าเป็นบริษัทในเครือข่ายนั่นแหละ แถมการโกงเก็บเงินหน้าด้านๆเกิดขึ้นได้เพียงแค่คุณรับโทรศัพท์และยินดีที่จะ ฟังคอมพิวเตอร์พูดพล่าม ขอโทษนะคะ คนซื่อๆหลายๆคน แยกไม่ออกหรอกค่ะ ว่าบริษัทโทรมาเพื่อจะตบหัวเอาเงินกันง่ายๆแบบนี้
ขอบคุณที่ทนอ่านค่ะ ด้วยความหวังดี และหวังว่าจะไม่มีใครตกเป็นเหยื่อแบบนี้อีก
[CR] โปรดระวังการเก็บเงินเพิ่มเติมบริการเสริมของ AIS ทั้งๆที่ไม่ได้สมัคร
เริ่มแรกเลยคือได้สมัครเบอร์โทรศัพท์ไว้เบอร์หนึ่งสำหรับคุณแม่โทรใช้งาน นอกเหนือไปจากเครื่องหลักที่เขาใช้อยู่ซึ่งเป็นคนละค่ายกัน
เพื่อที่คุณแม่จะได้ใช้โทรเวลาโปรอีกเครื่องหนึ่งใกล้จะหมด เราสมัครเบอร์นี้กับ AIS และได้ใช้เป็นระยะเวลาปีกว่า และได้สมัครบริการ e-statement เพื่อลดปัญหาในการจัดส่งเอกสาร รวมถึงลดโลกร้อนไปในตัว โดยปกติแล้วเบอร์ที่ให้คุณแม่ใช้นี้เราสมัครโปรและจ่ายเงินอยู่ประมาณ สองร้อยกว่าบาทต่อเดือน และยังสมัครรายการให้บริษัทตัดบัตรเครดิตอัตโนมัติอีกด้วย (เพื่อความสะดวก) คุณแม่ก็ยินดีใช้เบอร์นี้เพราะเวลาไปต่างจังหวัดคลื่นแรงกว่าเบอร์หลัก
ทั้งนี้ทั้งนั้น พอเราเริ่มมาดูบิลบัตรเครดิต เมื่อ ห้าเดือนก่อน ก็เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงของค่าใช้จ่ายจาก สองร้อยกว่าบาทเป็น สี่ร้อยบ้าง สามร้อยกว่าบาทบ้าง เราก็เลยแซวแม่ว่า ช่วงนี้เมาท์เยอะเหรอ คุณแม่ก็ขำๆบอกว่านิดหน่อย แล้วก็บอกว่าจะใช้โทรศัพท์บ้านแทนแล้ว เราก็ไม่ว่าอะไร ผ่านมาอีกสองเดือนก็ยังราคาสี่ร้อยมาเรื่อยๆอยู่ ก็แซวแม่อีก คราวนี้คุณแม่ก็บอกว่า เปล่านะ ไม่ได้ใช้โทรอะไรมากมายเลย ในขณะเดียวกัน คุณแม่ก็บ่นรำคาญเรื่องข้อความที่ส่งมาอยู่เรื่อย เป็นแนวความรักกุ๊กกิ๊ก เราไปเปิดดูก็เห็นเป็นเป็นประมาณกลอนจีบสาว ก็เลยงงว่าส่งมาให้แม่เราทำไม แต่ก็ไม่ได้สงสัยอะไรมาก ท้ายสุดก็ตัดสินใจหาเวลาว่างไปคุยกับทางบริษัทเพื่อที่จะถามเวลาโทรของแม่ว่าเฉลี่ย ประมาณเดือนละเท่าไหร่ เพื่อที่เราจะเปลี่ยนโปรให้ได้ตามที่คุณแม่ใช้
โดยเราไปติดต่อ AIS ที่สาขาจามจุรีแสควร์ก่อน แล้วถามพนักงานว่าเบอร์นี้มีสถิติการโทรยังไง ก็เลยได้พบความจริงว่าคุณแม่ไม่เคยโทรเกินโทรเลย แต่ที่บิลสูงขึ้นเป็นเพราะคุณแม่สมัครบริการ LOVE SMS เราคิดทบทวนก็บางอ้อทันที แล้วก็ร้องเรียนกับพนักงานไปว่าคุณแม่ไม่เคยสมัครบริการนี้ พนักงานแจงว่าบริการนี้สมัครง่ายมาก เพียงแค่กดปุ่มตอบรับไม่กี่ปุ่มก็จะสมัครบริการนี้ได้แล้ว (คุณแม่อายุจะ 60 อยู่แล้ว ตอนนี้ก็ช่วยเลี้ยงหลาน ทำกับข้าวไปตามเรื่อง แล้วจะมีอารมณ์มาส่งข้อความกุ๊กกิ๊กอีกเหรอ) พนักงานรับทราบแล้วก็บอกว่าจะส่งเรื่องร้องเรียนให้และจะโทรแจ้งภายใน 7วัน พร้อมกับยกเลิกบริการข้อความนี้ให้ เรารอพนักงานให้ติดต่อกลับมาหา ผ่านไปสองอาทิตย์กว่าก็ไม่มีโทรศัพท์จาก AIS เลย พอเดินไปที่สาขาที่ร้องเรียนก็พบว่าปิดปรับปรุง เราก็คิดว่าบริษัทคงต้องดำเนินเรื่องพักนึงกระมังถึงจะติดต่อกลับมาได้ ขณะเดียวกันเราเองก็เพิ่งจะเปิดเบอร์ใหม่กับทาง AIS แล้วก็ได้ใบแจ้งค่าใช้จ่ายทางจดหมาย ก็เลยสังเกตุเห็นว่า ใบแจ้งค่าใช้จ่ายนี้แจงรายละเอียดค่าโทรชัดเจน ในขณะที่ e-statement นั้นบอกเพียงแต่ยอดรวมที่ต้องจ่ายเท่านั้น
คราวนี้เรารอไม่ไหว ก็ไปติดต่อ AIS ที่สาขาปิ่นเกล้า เพื่อสอบถามเรื่องที่ร้องเรียนไป ปรากฏว่าพนักงานแจ้งให้ทราบว่า ทาง AIS ไม่เคยได้รับเรื่องร้องเรียนนี้มาก่อน !?! แต่ได้ยกเลิกบริการไปแล้ว เราก็แจ้งไปว่าร้องเรียนที่สาขาจามจุรีแสควร์นะ พนักงานก็บอกว่าปิดทำการปรับปรุงอยู่เลยไม่สามารถทำเรื่องให้ได้ (แล้วไม่มีการส่งงานต่อ?) เราโดนชารจ์เพิ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนตุลาคม เดือนละเกือบสองร้อย หรือไม่ก็สองร้อยกว่าบาท ถึงแม้ว่ายอดรวมจะแค่พันกว่าบาท แต่สำหรับเราแล้วมันคือการโกงลูกค้าค่ะ
ไม่อยากจะเสียเวลาแล้ว เราก็แจ้งพนักงานให้จดรายละเอียดค่าใช้จ่ายส่วนเกินนี้ออกมาและขอให้ทางบริษัทรับผิดชอบ ทางพนักงานก็บอกว่าไม่แน่ใจว่าทำได้มั้ยเพราะบริษัทข้อความคือบริษัทอื่นที่มาเซ็นสัญญาทำธุรกิจด้วยเท่านั้น เราจึงขอเบอร์ติดต่อของบริษัทและชื่อเพื่อที่จะไปแจ้งความ พนักงานก็ขอตัว ไปคุยกับคนข้างในก่อน แล้วก็ออกมาแจ้งกับเราว่า AIS ยินดีจะรับผิดชอบส่วนที่จ่ายไปของข้อความเป็นระยะเวลาสามเดือนย้อนหลัง (ประมาณ 500 บาท) แล้วก็แจ้งชื่อบริษัทว่าคือ 1moby สามารถติดต่อได้ทางอีเมลล์ พร้อมเบอร์ติดต่อ 025148008 เราก็ฟังแล้วพยักหน้าแล้วบอกพนักงานว่า เราก็ยืนยันจะแจ้งความ และบอกพนักงานว่าบริษัทที่จดทะเบียนกับคุณ ต้องมีชื่อบริษัทที่จดทะเบียนการค้า พร้อมที่ตั้งชัดเจน เราต้องการแจ้งความด้วยข้อมูลนี้ พนักงานเลยขอตัวแวบไปข้างในอีกรอบ รออยู่ไม่นานมาก พนักงานก็ออกมาแจ้งว่าจะจัดการค่าใช้จ่ายของบริษัทข้อความทั้งหมด แต่ถ้าหากคุณแม่เผลอไปสมัครบริการนี้อีกจะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายให้อีกแล้ว เราก็เลยบอกพนักงานให้ล๊อคเบอร์คุณแม่ว่าไม่รับข้อความโฆษณาใดๆทั้งสิ้น พนักงานก็ตกลงทำให้
อีกสิ่งหนึ่งที่เราขอให้พนักงานทำให้คือการยกเลิก e-statement ค่ะ จากการสอบถามพนักงานก็เป็นดังที่เราเข้าใจคือ การแจ้งยอดออนไลน์ก็แจ้งแค่ยอด ไม่มีรายละเอียดแจ้งมาด้วยทางอีเมลล์ ซึ่งทำให้เราไม่สามารถทราบได้ว่ายอดที่ต้องจ่ายมันมีอะไรบ้าง เลยทำให้ต้องจ่ายเงินเกินแบบไม่รู้เรื่อง เพราะไว้ใจบริษัท
เรื่องนี้ผ่านไปได้หนึ่งเดือน ก็มีพี่คนใช้ที่บ้านที่ใช้มือถือเติมเงิน 12call บ่นว่าเพิ่งเติมเงินเมื่อวาน 50บาท ยังไม่ได้โทรออก เงินหมดซะแล้ว
เราก็เลยขอดูโทรศัพท์ เลยพบว่าพี่คนนี้ได้รับข้อความข่าวสารหุ้น (พี่คนใช้อายุประมาณ 40กว่า มาจากตจว งานแต่ละวันของพี่คือ จ่ายตลาดทำกับข้าว ซักผ้า ทำความสะอาดบ้าน หุ้นคืออะไรยังไม่รู้จักเลย) ก็เลยถามพี่เขาว่าได้รับข้อความแปลกๆแล้วพิมพ์กลับไปหรือเปล่า เขาก็บอกว่าไม่ แต่ได้รับโทรศัพท์แปลกๆ โทรมาทำไมไม่รู้ เราก็เลยโทรไปถาม AIS เลยทราบว่ามีการโฆษณาทางโทรศัพท์แบบนี้ซึ่งหากเรารับโทรศัพท์แล้วฟังไป เรื่อยๆ ก็เสียเงินค่ะ เรายินยันกับศูนย์ว่าพี่เขาไม่รู้เรื่องซึ่งทางศูนย์ก็บอกว่าจะคืนเงินเข้า เบอร์โทรศัพท์ถายในสองวัน แล้วเราก็แจ้งให้ทางศูนย์บล๊อคโฆษณาเบอร์พี่เขาไว้ด้วย และถามว่าสามารถบล๊อคเบอร์พวกที่โฆษณาโทรเขาได้มั้ย ทางศูนย์ก็บอกว่าไม่ได้ ทำได้แต่ข้อความเท่านั้น !?!
ถึงแม้เงินมันจะไม่กี่บาท แต่หลายคนที่โดนไปแล้วไม่รู้เรื่องล่ะ รวมเป็นเท่าไหร่ สำหรับเราแล้ว เราถือว่าเป็นการโกงผู้บริโภคค่ะ เราต้องการให้เรื่องนี้เป็นตัวอย่างเพื่อให้ทุกคนระมัดระวังเรื่องการใช้โทรศัพท์ให้มาก โดยเฉพาะผู้สูงอายุ หรือคนที่ใช้โทรศัพท์เพื่อการโทรเป็นส่วนใหญ่อาจไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของ บริษัทนี้ บริษัทที่เขาบอกว่าเซ็นสัญญากับเขาแต่ไม่สามารถให้รายละเอียดที่ชัดเจนของบริษัทได้ หมายความว่าอย่างไร เราคาดว่าเป็นบริษัทในเครือข่ายนั่นแหละ แถมการโกงเก็บเงินหน้าด้านๆเกิดขึ้นได้เพียงแค่คุณรับโทรศัพท์และยินดีที่จะ ฟังคอมพิวเตอร์พูดพล่าม ขอโทษนะคะ คนซื่อๆหลายๆคน แยกไม่ออกหรอกค่ะ ว่าบริษัทโทรมาเพื่อจะตบหัวเอาเงินกันง่ายๆแบบนี้
ขอบคุณที่ทนอ่านค่ะ ด้วยความหวังดี และหวังว่าจะไม่มีใครตกเป็นเหยื่อแบบนี้อีก