[Review] Legal High 2 ซีรี่ส์ทนายความสุดฮา ที่มาแรงที่สุดของ Season !



    ซีรี่ส์ญี่ปุ่นในช่วง Autumn Season ที่กำลังถูกพูดถึงเป็นอย่างมากก็คือเรื่องนี้เลยค่ะ “Legal High” Season 2
ผลงานล่าสุดของ "Sakai Masato" ที่กำลังดังอย่างฉุดไม่อยู่ หลังจากได้โชว์ฝีมือการแสดงอันยอดเยี่ยม
เรียกเรตติ้งมาอย่างถล่มทลายจากเรื่อง “Hanzawa Naoki”

สำหรับเรื่อง “Legal High” Season 2 นี้ก็มาแรงฉุดไม่อยู่เช่นกัน ถือว่าเป็นการเปิดตัวที่สวยงามมากเมื่อเทียบกับ
“Legal High” ใน Season แรก สำหรับตอนแรกทำเรตติ้งได้เพียง 12% และหลังจากนั้นเรตติ้งก็ไมเคยผ่านพ้น 15% ไปได้เลยจนจบเรื่อง
แต่สำหรับ“Legal High” Season 2  เพียงแค่ฉายในตอนแรกก็ได้เรตติ้งไปถึง ที่ 21.2%
ซึ่งสูงกว่าเรื่องตอนแรก “Hanzawa Naoki” ที่ได้เรตติ้ง 19.4%  

แต่ถึงกระนั้น “Legal High” Season 2 ก็ไม่ได้สร้างปรากฏการณ์เรตติ้งถล่มทลายเป็นครั้งที่ 2 ของ Sakai ได้อีกครั้ง
เพราะหลังจากผ่านพ้นตอนที่ 1 ไป เรตติ้งก็หล่นลงมาอยู่ที่ประมาณ 18%  แต่ก็ยังถือว่าเป็นเรตติ้งที่อยู่ในขั้นโอเคเลยทีเดียว
และยิ่งสำหรับแฟนซีรี่ส์ชาวไทยแล้วนะ ซีรี่ส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะหันไปทางไหนก็มีแต่คนพูดถึง “Legal High”

ว่าแต่ซีรี่ส์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับอะไรล่ะ???
ซีรี่ส์เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์แนวอาชีพทนายความค่ะ เป็นเรื่องราวของ “Komikado Kensuke” ทนายความฝีปากกล้า หัวดื้อรั้น
ชอบพูดจาถากถาง แทงใจดำคนอื่น และเห็นเงินเป็นพระเจ้า ข้อดีของทนายคนนี้เห็นทีจะเป็น
“การที่เขาไม่เคยว่าความแพ้เลยสักครั้ง”


แต่การที่จะให้ทนาย Komikado หรือ Komikado เซนเซย์ไปว่าความให้นั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ
ลูกความต้องมีเงินค่าจ้างว่าความให้แก่ทนายคนนี้เป็นจำนวนสูงลิ่ว เริ่มต้นขั้นต่ำ 10 ล้านบาท
ถ้ามีเงินจ่าย ก็สบายใจได้เลยว่า “งานนี้คุณชนะแน่นอน”

Komikado เซนเซย์ สามารถทำให้เราเป็นฝ่ายชนะได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม !

Komikado เซนเซย์ มีคู่ปรับอยู่คนหนึ่งซึ่งก็คือ Miki เซนเซย์ ทั้งสองเคยทำงานด้วยกัน โดย Miki เซนเซย์เป็นหัวหน้าสำนักงานทนายความ และเป็นคนที่ปั้น Komikado เซนเซย์มากับมือ แต่เนื่องจากมีเหตุการณ์หนึ่งที่ทำให้ทั้งคู่ต้องเกิดความบาดหมางต่อกัน
ทำให้ Komikado เซนเซย์แยกตัวออกมาเปิดสำนักงานเอง และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งคู่ก็ประกาศตัวเป็นศัตรูกัน
เนื้อเรื่องของเรื่องนี้ก็จะเป็นการว่าความ ต่อสู้กันระหว่างฝ่าย Miki เซนเซย์ และKomikado เซนเซย์เป็นหลัก



แต่แล้วอยู่มาวันหนึ่ง Komikado เซนเซย์ ก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีแนวคิดตรงกันข้ามกับเขาโดนสิ้นเชิง
เธอคนนั้นก็คือ Mayusumi เซนเซย์ เธอเป็นที่ยึดมั่นในคุณธรรม และต้องการช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความเดือดร้อน
ต้องการให้โลกอยู่ในความสงบสุข มีแต่คนที่ดี ส่วนคนชั่วต้องถูกลงโทษ ก่อนหน้านี้ Mayusumi เซนเซย์ได้ทำงานให้กับ Miki เซนเซย์ แต่แล้วก็ถูกเขี่ยออกมาให้พบเจอกับ Komikado เซนเซย์ ถึงแม้ Komikado เซนเซย์ จะเป็นทนายที่ดูร้ายกาจ ไร้คุณธรรม
แต่เขาก็ถือได้ว่าเป็นทนายที่มากฝีมือ และบางทีเขาอาจจะมีอะไรบางอย่างที่ Mayusumi เซนเซย์ก็ควรที่จะเรียนรู้จากเขาด้วยเช่นกัน

เธอจึงตัดสินใจลาออกจากสำนักงานทนายความของ Miki Sensei และมาทำงานกับ Komikado เซนเซย์ เพื่อเรียนรู้งานทางด้านกฎหมาย และชดใช้หนี้ 30 ล้านเยน ที่เธอติดหนี้เขาไว้เมื่อตอนที่เธอขอร้องให้ช่วยเธอว่าคดีความ
และแล้วเรื่องราววุ่นๆ แต่แสนสนุกก็ได้เริ่มต้น ณ จุดๆ นี้ ซีรี่ส์แนวทนายความที่จะมาทำให้รู้ว่า ความยุติธรรมคืออะไร ความจริงคืออะไร และประเด็นสำคัญที่เป็นที่ข้องใจของใครหลายคน “ทำไมทนายต้องช่วยเหลือคนไม่ดีในบางครั้ง” เป็นซีรี่ส์สะท้อนสังคมได้อย่างดีเยี่ยม

สิ่งที่น่าสนใจของเรื่องนี้
1. แนวคิดของเรื่อง
    สำหรับซีรี่ส์เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่มีแนวคิดที่ค่อนข้างแหวกแนวแลน่ะาสนใจเลยทีเดียวค่ะ เรามักจะถูกสอนมาและทำให้เชื่อว่า
ทนายความคือผู้ผดุงคุณธรรม เป็นผู้ที่เรียกร้องความยุติธรรมให้กับผู้คน นั่นหมายถึงว่า คนดีที่ถูกรังแก
ทนายความจะสามารถช่วยเหลือได้ แต่สำหรับเรื่องนี้กลับตาลปัตรเลยค่ะ

ทนายไม่ได้มีไว้เพื่อสิ่งเหล่านั้นที่ใครต่อใครเคยได้กล่าวกันหรอก แต่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มนุษย์อย่างเราๆ มองข้าม
และหลงลืมอะไรบางอย่างเกี่ยวกับ “ความจริง”

    ดังนั้น เราก็จะเห็นลักษณะหนึ่งของเรื่องนี้อยู่ตลอดเรื่องที่ถ่ายทอดออกมาผ่าน Komikado เซนเซย์ก็คือ....
พฤติกรรมการพูดแทงใจดำค่ะ! ฮ่าๆๆๆๆ เป็นคำพูดที่ฟังแล้วรู้สึกเจ็บปวด และแอบเคืองเบาๆ แต่มาคิดอีกที มันก็จริงนี่หว่า
พอได้ยินแล้วก็จะรู้สึกว่า “เฮ้ย แก ! อย่าเอาความจริงมาพูดดิว่ะ” มันโดนนนน





2. ตัวละคร
แน่นอนว่าสิ่งที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งก็คือตัวละครหรือนักแสดงนี่แหละค่ะ ที่ดึงเอานักแสดงมากฝีมือมารับบทในละครเรื่องนี้ โดยเฉพาะตัวละครเอกอย่าง Komikado เซนเซย์ ที่เอา "Sakai Masato" มารับบทนี้ Sakai ว่าความได้อย่างดุเด็ดเผ็ดมันส์ ที่สำคัญฮากระจายย!!!
ไม่คิดว่าคนที่มีบุคลิกซีเรียส เคร่งขรึมอย่าง Hanzawa จะมาฮากระจายได้แบบนี้


ใน Season 2 ผู้พิพากษาสุดสวยของเราก็ขอมาแจมด้วยยย!!!


รวมไปถึงนักแสดงท่านอื่นๆ ก็ แสดงได้ดีค่ะ อย่างกั๊กกี้ของพวกเราที่มารับบท Mayusumi เซนเซย์ ก็แสดงได้น่ารัก
(ครองใจหนุ่มๆ ไปหลายคน) แสดงบทแม่พระได้ดีสุดๆ

หรือ Namase Katsuhisa ที่รับบทเป็น Miki เซนเซย์ คู่ปรับของ Komikado เซนเซย์ ที่มาประทะคารมกันอย่างดุเดือด (บางทีก็มาส่ง-รับมุกฮาๆ)


แม้กระทั่ง Junnosuke พ่อหนุ่มนินจากินจุของเรื่อง ที่ช่วยเป็นนักสืบ หาหลักฐานในการสู้คดี


รวมไปถึง Satomi Kotaro ที่รับบทเป็น Hattori ซัง กูรูประจำสำนักงานทนายความของKomikado
ที่มักจะช่วยเหลือ Komikado และ Mayusumi เซนเซย์ได้เป็นอย่างดี

ด้วยคำพูดอะไรบางอย่างของเขา ที่ดูเป็นจุดเล็กๆ แต่ก็นำมาซึ่งความสำเร็จอันยิ่งใหญ่
และดูเหมือนว่าเขาคนนี้จะทำอะไรเป็นหลายๆ อย่าง ไม่รู้เหมือนกันว่าไปฝึกเอาเวลาไหน(. . ")

ส่วน Season 2 ก็มีนักแสดงที่น่าสนใจเช่นกันค่ะ
Koyuki  รับบทเป็น Ando Kiwa ลูกความที่มาขอความช่วยเหลือจาก Komikado เซนเซย์
และเป็นคนที่ทำให้ชีวิตของ Komikado เซนเซย์
ผู้ที่ไม่เคยแพ้ใครต้องเปลี่ยนแปลง


ตอนแรกๆ เลย นางก็ดูจะไม่จ้างทนายคนนี้ เหตุผลก็เพราะค่าว่าความมันสูงลิ่ว แต่แล้วทั้งคู่ก็เจรจา
จนได้ข้อตกลงร่วมกันในที่สุดค่ะ



นอกจากนี้ก็ยังมีหนุ่มหน้าใสมาเรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ด้วยเช่นกันค่ะ ซึ่งก็คือ Okada Masaki มารับบทเป็น Hanyu  Haruki

ผู้ที่จะมาชิงบัลลังก์ทนายที่มากฝีมือไปจาก Komikado เซนเซย์ รวมไปถึงเธอคนนี้ค่ะ Kuroki Haru รับบทเป็น Honda Jane
คู่หูของ Hanyu คุง ที่ตอนแรกมาแบบหงิมๆ หลังจากได้เจอกับ Hanyu คุง  
เธอก็กลับกลายเป็นคนล่ะคนเลยค่ะ

ปล.  Komikado เซนเซย์ ถึงกับออกปากเลยว่า ยัยนี้มันแรงกว่าที่คิด

สำหรับ Season 2 เรามีความคิดเห็นว่าสนุกกว่าภาคแรกค่ะ อาจเป็นพล็อตที่มีความซับซ้อนมากขึ้น มี 2 พล็อตในเรื่องเดียว
พล็อตแรกคือประเด็นของนาง Ando ส่วนพล็อตที่สอง เป็นเรื่องราวคดีๆ ย่อยในแต่ละตอน  รวมทั้งมีตัวละครปฏิปักษ์ที่เพิ่มมากอีกนอกเหนือไปจาก Miki เซนเซย์ ก็คือ Hanyu คุง หมอนี้อาจจะดูเป็นพระเอกนะคะ แต่ดิฉันว่าร้ายลึกค่ะ ฮึฮึ


“ความหล่อของนายมันไม่มัดใจฉันได้เท่ามุกฮาๆ ของทนายเกรียนๆ หรอก!”


ถึงกับซึมม (. . )


3. ความฮาของเรื่อง
    ตอนแรกที่เห็นโปสเตอร์ซีรี่ส์เรื่องนี้ออกแนวโรแมนซ์นะคะ หรือไม่ก็แนวรักๆ หน่อย
แต่พอเปิดดูเท่านั้นแหละค่ะ มันไม่ช่ายยยยยยย พระ-นางไม่มีฉากกุ๊กกิ๊กสักนิดเลย (หรือว่ามี??!!)
เต็มไปด้วยการว่าความที่มันส์ ข้อคิดต่างๆ และความฮาของ Komikado เซนเซย์ เรื่องนี้เป็นอะไรที่ Sakai รั่วมากๆ ค่ะ
มุกฮาส่วนใหญ่มาจากการแสดงท่าทางและสีหน้าของเฮีย แบบนี้...



และก็แบบนี้...




แล้วก็...





ถึงกับเงิบเลยทีเดียว...


และก็อีกมากมายค่ะ ต้องไปหาดูใน Legal High กันต่อ

4. ข้อคิด
สิ่งที่น่าสนใจประการสุดท้ายคือข้อคิดของเรื่องค่ะ ก็เป็นอีกเรื่องตามขนบซีรี่ส์ญี่ปุ่นที่มักจะมีคำคมต่างๆ ไว้ให้คนดูโดนใจ
บางทีอาจจะดูแทงใจไปบ้าง แต่มันก็คือความจริงที่เราไม่อาจปฏิเสธได้









แล้วนี้ก็คือเรื่องราวของซีรี่ส์ที่น่าสนใจเรื่องหนึ่งใน Season นี้ค่ะ "Legal High" ซีรี่ส์ที่จะมามอบรอยยิ้ม
ความรู้ด้านกฎหมาย และข้อคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตของมนุษย์

เรื่องนี้กำลังมาแรงแซงโค้งมาสำหรับคอซีรี่ส์ญี่ปุ่นในเมืองไทย คนญี่ปุ่นเองก็ชอบเรื่องนี้เอามากๆ เลยนะคะ
เขาบอกว่าเป็นเรื่องที่ตั้งตารอดูทุกอาทิตย์ ส่วนประเด็นเรื่องพูดไวไฟแลบนี่คนญี่ปุ่นเองก็ยังออกปากค่ะว่า
เฮียพูดไวจริงๆ เลย เอาเป็นว่าอย่าลืมติดตามชมกันนะคะ ก่อนไปขอจบด้วยข้อความนี้ค่ะ


"เราไม่ใช่พระเจ้านะครับ
ผมเองก็ไม่ใช่ เราเป็นแค่สัตว์โลกตัวเล็กๆ ที่ทำผิดพลาดได้
เพียงเพราะความรู้สึกที่โง่เขลาของเรา
แล้วมนุษย์ที่เป็นแบบนี้ ยังมีสิทธิไปตัดสินคนอื่นอีกงั้นหรือ
แน่นอนว่าทำไม่ได้ เพราะแบบนี้ ในโลกมนุษย์ของพวกเราจึงต้องมีกฎหมายและผู้พิพากษา
ไม่ว่าจะน่าสงสัยอย่างไร ไม่ว่าจะเกลียดชังแค่ไหน
คนเราย่อมไม่ควรตัดสินคนอื่นโดยใช้อารมณ์อย่างเดียว
แต่ต้องใช้กฎหมายและอ้างอิงจากหลักฐานเป็นหลัก
เพราะแบบนี้แหละ ท่ามกลางประวัติอันยาวนานของมนุษยชาติ
เราจึงได้สิ่งอันล้ำค่าที่เรียกว่า ประเทศที่ปกครองด้วยรัฐธรรมนูญนี้มา"

ijoudesu! จบแล้วค่ะ

ติดตามเรื่องราวดีๆ เกี่ยวกับซีรี่ส์ญี่ปุ่นได้ที่ https://www.facebook.com/sakuradramas
ขอบคุณซับไทยจากเพจ https://www.facebook.com/AiolosFansub
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่