ย้ายมานอร์เวย์เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2012
6 มีนาคม 2013 เริ่มปฏิบัติการหางานทำครั้งแรก โดยการทำ CV เล่าประวัติตัวเอง ประสบการณ์บลาๆ เป็นภาษาอังกฤษส่งอีเมลล์ไปตามโรงแรม ร้านอาหาร กว่า 10 แห่ง อีเมลล์โรงแรมและร้านอาหารเซิสหาจากในกูเกิ้ล (ถึงจะจบปริญญาตรี แต่ภาษาไม่ได้ งานที่ทำได้ ก็แค่คนครัวกับแม่บ้านโรงแรมเท่านั้นอ่ะ)
7 มีนาคม 2013 ผ่านไปวันเดียว แต่ก็คิดไปคิดมาลองปริ๊น CV เดิน walk in ไปยื่นที่โรงแรมดีกว่า ไปลองเชิงมา 4 โรงแรม
11 มีนาคม 2013 เครื่องกำลังร้อน อยากทำงานมากๆ ก็เดินว๊อคอินเข้าร้านอาหารไทย ถามขอสมัครงานแต่คำตอบที่ได้ก็ เต็มแล้ว ไม่รับเคอะ แต่ตอนนั้นเรารู้จักพี่คนนึงที่ทำงานอยู่ แกเพิ่งโทรไปลาออกวันนั้น เราก็เลยไปสมัคร แต่ก็ถูกปฎิเสธคงเป็นเพราะเราตัวเล็กมั๊ง เดี๋ยวใช้งานไม่คุ้มกับค่าจ้าง (บอกใบ้ว่า ร้าน B นำหน้า เดากันเอาเอง อิอิ)
เดือนกรกฎาคม ไม่รู้จะทำงานอะไร ขาดรายได้มากๆ เลยช่วงนี้ พอดีไปขอเว็บไซค์จากพี่ที่รู้จักมาคนนึง เป็นเว็บบอร์ดไว้โพสหางานพวก ทำความสะอาด เลี้ยงเด็ก ต้องสมัครสมาชิกด้วย.... ได้งานจากเว็บนี้มา 2 เจ้า แต่โพสไว้นานเหมือนกันกว่าจะมีคนติดต่อมา
สมัครสมาชิกเดือนกรกฎาคม ได้ลูกค้ามาต้นเดือนพฤศจิกายน
เดือนตุลาคม 2013 เริ่มส่งอีเมลล์ Cv ตัวเองไปตามโรงแรมอีกครั้ง ครั้งนึงก็หลายที่อยู่ แต่คราวนี้เขียนเป็นภาษานอร์ช โดยให้แฟนช่วย และปริ๊น Cv ไปเดินส่งตามโรงแรมใน Oslo ทั่วจนขาลากเลย เพราะบางโรงแรมก็ไม่รับคนวอร์คอิน บ้างก็มีบริษัทคอนแทรคกันอยู่แล้ว บ้างก็บอกส่งมาทางอีเมลล์เท่านั้น และบางโรงแรมก็เคยส่งแล้ว แต่ก็ส่งอีก ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก (แนะนำเทคนิค ต้องหน้าด้าน ห้ามอาย และกล้าพูด)
เดือนพฤศจิกายน 2013 พอดีเรามีเพื่อนเป็นหัวหน้าอยู่ Rimi ซุปเปอร์มาเก็ต มันบอกว่าให้เราไปติดต่อนาฟ เพื่อเข้าโครงการArbeidspraksis หมายถึง เราทำงานกับมัน แต่นาฟจะเป็นคนจ่ายเงิน ตกวันละประมาณ 300 kr. (คือมันไม่มีงบจ้างพนง.เพิ่ม ได้แต่คนมาขอฝึกงานเท่านั้น มันก็เลยแนะนำเรามา)
เดือนพฤศจิกายน เราเป็นสมาชิกกับนาฟ และเราส่ง เมลคอร์ท ทุก 14 วัน หมายถึงการรายงานตัวทุก 14 วัน ว่าเราไม่มีงานทำประมาณนี้ ส่งมาหลายครั้งอยู่กี่รอบไม่รู้จำไม่ได้ ตั้งแต่วันที่เป็นสมาชิกกับมันอะ จนวันนึงมันส่งจดหมายมา ให้ไปเข้าร่วมประชุม มันจะพูดคุยเกี่ยวกับงาน เกี่ยวกับคู๊ช ก็ไปตามคำเชิญ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2013 ในห้องมีประมาณ 20 คน ก็นั่งฟังประมาณ 30 นาที เสร็จปุ๊ป เค้าก็เรียกเข้าไปคุยทีละคน เราเป็นคนแรกซะด้วย เพราะเจือกนั่งหน้าสุดคนเดียวเลย ก็คุยกับมันโดยพูดนอร์ชแบบปลวกๆ มันบอกว่า เธอพูดนอร์ชห่วยแตกมาก Du er dårlig i norsk. ถามว่าเจ็บไหม? ไม่เจ็บค่ะ พอดีรู้ตัว แล้วก็เลยกลับบ้านแบบเซ็งๆ กรูไปให้เสียเวลาทำไมฟ๊ะ กลับมานั่งแซ๊ดดดด...กับคำพูดของมันอีก และก็เลยฟ้องคุณแฟน แฟนบอกทำไมนาฟพูดแบบนี้ เธอไม่ได้แย่ขนาดนั้นสักหน่อย เรียนได้แค่ 5 เดือนจะเอาไรมาก
3 ชม.ต่อมา มีโทรศัพท์เบอร์แปลกโทรเข้า พูดอะไรสักอย่าง แต่ได้ยินว่า Rica Hotel ก็เลยฮ๊ะๆๆ อะไรนะ!! Rica Hotel โทรมาให้ไปสัมภาษณ์ด่วนภายใน 1 ชม. ตำแหน่งแม่บ้าน ทำเตียง ทำความสะอาด โอ้มายก๊อด!! ตาลีตาเหลือก ทำอะไรไม่เถือก เอ้ย..ไม่ถูกเลย ดีใจมากๆ จากที่กำลังรู้สึกแย่เข้าขั้นจิตตก...
เราไปถึงโรงแรมภายใน 30 นาที นางบอกเธอมาไวเว่อ ก็คุยกันเรื่องเงินๆ ทองๆ และก็แอบเห็นCv ตัวเองด้วยอะ เป็นปลื้ม เราว่าฟลุ๊คมากๆ อยู่ๆ ก็มีดวงได้งานทำ.....เค้าต้องการคนด่วนๆ และบอกให้เริ่มงานวันรุ่งขึ้นเลย แต่เราไม่ได้เป็นพนง.ประจำนะ เป็นแค่ extra เมื่อยามที่เค้าต้องการคน ก็จะโทรมาให้ไปทำ เราทำงานติดกัน 1 สัปดาห์เต็มๆ แทบเดี้ยง ปวดเมื่อย เหนื่อย เพลีย หมดแรงมากกกก และมีโทรให้ไปทำเรื่อยๆ แต่เราเรียนด้วย ถ้าวันธรรมดาเราไปทำหลังเลิกเรียน เริ่มงาน 12.00 น.
เคยได้ยินจากหลายๆ คนบอกว่า ทำงานโรงแรมอะหนักนะ อยากถามว่าอะไรที่ว่าหนักคะ สำหรับเรา เราว่างานโรงแรมไม่ใช่งานหนักเลย อ้อ มีอย่างนึงที่เราว่าหนักตรงต้องเข็นรถเข็นเนี่ยแหละ โปรดดูจากไซค์ข้าพเจ้า สูง 150 หนัก 38 ..... และก็เปลี่ยนผ้าห่ม ผ้าห่มแอบหนักนิดหน่อย สะบัดผ้าจนปวดไหล่บ้างในระยะแรก แต่เดี๋ยวก็ชินไปเอง งานโรงแรมเราว่าเป็นงานละเอียด มีอะไรให้เช็คมากกว่า 30 รายการ และต้องแข่งกับเวลาด้วย ยิ่งวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่ต้องพูดถึงเลย ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อตไม่ได้พักเลยคร๊าาาาา
ยกตัวอย่าง ถ้าเค้าให้ทำ 20 ห้องต่อ 7 ชั่วโมง ก็ต้องทำให้เสร็จ ถ้าทำไม่เสร็จ คุณก็เลิกงานเลทเท่านั้นเอง มันเป็นความผิดของคุณที่ช้า และเราก็ประจำเลยได้กลับบ้านหลังชาวบ้านตลอด รายได้ก็ไม่ได้ขี้เหร่เลย ทำงานวันละ 7 ชม. ตกประมาณ 5,159 บาท (ก่อนหักภาษี) หายเหนื่อยเลย และอีกอย่างนึง เราดีใจมากที่ได้เข้าระบบการจ่ายภาษี หลายคนเกลียดการจ่ายภาษี แต่เราชอบและก็ยอมรับกับเรื่องนี้อย่างเต็มใจว่าแม้ว่าภาษีจะแพงก็เถอะ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ควรกระทำเมื่ออยู่ที่นี่
1 ปีเต็มๆ พอดีกับการอยู่นอร์เวย์ วกกลับมาเดือนพฤศจิกายนอีกครั้ง แต่เป็นปี 2013 และมีงานทำกับเค้าสักที ก่อนหน้านี้ทั้งเหนื่อย ทั้งท้อ ทั้งเศร้า ทั้งเสียใจ เกือบจะร้องไห้ ก็มีเพราะอยากจะมีงานทำ อยากมีเงินเป็นของตัวเอง อยากทำตัวให้มีประโยชน์ อยากเข้าระบบประเทศเค้า ตอนนี้ได้งานมาแล้ว จะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องอดทน ท่องไว้ เกิดเป็นคน ต้องอดทน สู้เว๊ย..... เรียนด้วย ทำงานด้วย (เพราะยังมีอีกหลายคนที่ต้องการหางานทำ ณ บ้านนี้เมืองนี้ยังมีการแข่งขันกันอีกเยอะ)
มีอีกเรื่องนึงที่น่าภูมิใจ คนที่โรงแรมรู้ว่าเราเป็นคนไทย เค้าก็ชมกันใหญ่ว่า คนไทยอะขยัน ทำงานเก่ง พวกเค้าชอบกัน ชมจนแทบจะลอยเลย คือก่อนหน้านี้เคยมีคนไทยทำงานที่นี่ประมาณ 4 คน และแต่ละคนก็ดีทั้งนั้น ไม่มีใครทำเสียเลย คนที่นี่ก็เลยจำภาพพจน์สิ่งดีๆ ของคนไทย และพอเค้าเห็น Cv คนไทยมาสมัครมันก็อาจจะเป็นเรื่องง่ายนิดนึงที่เค้าจะคัดเลือกให้ทำงานในระดับต้นๆ แต่ก็นะภูมิใจมาก ที่เค้าชอบคนไทย ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยล่ะ
http://all-about-norway.blogspot.no/2013/12/blog-post.html แบบไม่เม๊ม ;)
แชร์การหางานทำที่ประเทศนอร์เวย์
6 มีนาคม 2013 เริ่มปฏิบัติการหางานทำครั้งแรก โดยการทำ CV เล่าประวัติตัวเอง ประสบการณ์บลาๆ เป็นภาษาอังกฤษส่งอีเมลล์ไปตามโรงแรม ร้านอาหาร กว่า 10 แห่ง อีเมลล์โรงแรมและร้านอาหารเซิสหาจากในกูเกิ้ล (ถึงจะจบปริญญาตรี แต่ภาษาไม่ได้ งานที่ทำได้ ก็แค่คนครัวกับแม่บ้านโรงแรมเท่านั้นอ่ะ)
7 มีนาคม 2013 ผ่านไปวันเดียว แต่ก็คิดไปคิดมาลองปริ๊น CV เดิน walk in ไปยื่นที่โรงแรมดีกว่า ไปลองเชิงมา 4 โรงแรม
11 มีนาคม 2013 เครื่องกำลังร้อน อยากทำงานมากๆ ก็เดินว๊อคอินเข้าร้านอาหารไทย ถามขอสมัครงานแต่คำตอบที่ได้ก็ เต็มแล้ว ไม่รับเคอะ แต่ตอนนั้นเรารู้จักพี่คนนึงที่ทำงานอยู่ แกเพิ่งโทรไปลาออกวันนั้น เราก็เลยไปสมัคร แต่ก็ถูกปฎิเสธคงเป็นเพราะเราตัวเล็กมั๊ง เดี๋ยวใช้งานไม่คุ้มกับค่าจ้าง (บอกใบ้ว่า ร้าน B นำหน้า เดากันเอาเอง อิอิ)
เดือนกรกฎาคม ไม่รู้จะทำงานอะไร ขาดรายได้มากๆ เลยช่วงนี้ พอดีไปขอเว็บไซค์จากพี่ที่รู้จักมาคนนึง เป็นเว็บบอร์ดไว้โพสหางานพวก ทำความสะอาด เลี้ยงเด็ก ต้องสมัครสมาชิกด้วย.... ได้งานจากเว็บนี้มา 2 เจ้า แต่โพสไว้นานเหมือนกันกว่าจะมีคนติดต่อมา สมัครสมาชิกเดือนกรกฎาคม ได้ลูกค้ามาต้นเดือนพฤศจิกายน
เดือนตุลาคม 2013 เริ่มส่งอีเมลล์ Cv ตัวเองไปตามโรงแรมอีกครั้ง ครั้งนึงก็หลายที่อยู่ แต่คราวนี้เขียนเป็นภาษานอร์ช โดยให้แฟนช่วย และปริ๊น Cv ไปเดินส่งตามโรงแรมใน Oslo ทั่วจนขาลากเลย เพราะบางโรงแรมก็ไม่รับคนวอร์คอิน บ้างก็มีบริษัทคอนแทรคกันอยู่แล้ว บ้างก็บอกส่งมาทางอีเมลล์เท่านั้น และบางโรงแรมก็เคยส่งแล้ว แต่ก็ส่งอีก ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก (แนะนำเทคนิค ต้องหน้าด้าน ห้ามอาย และกล้าพูด)
เดือนพฤศจิกายน 2013 พอดีเรามีเพื่อนเป็นหัวหน้าอยู่ Rimi ซุปเปอร์มาเก็ต มันบอกว่าให้เราไปติดต่อนาฟ เพื่อเข้าโครงการArbeidspraksis หมายถึง เราทำงานกับมัน แต่นาฟจะเป็นคนจ่ายเงิน ตกวันละประมาณ 300 kr. (คือมันไม่มีงบจ้างพนง.เพิ่ม ได้แต่คนมาขอฝึกงานเท่านั้น มันก็เลยแนะนำเรามา)
เดือนพฤศจิกายน เราเป็นสมาชิกกับนาฟ และเราส่ง เมลคอร์ท ทุก 14 วัน หมายถึงการรายงานตัวทุก 14 วัน ว่าเราไม่มีงานทำประมาณนี้ ส่งมาหลายครั้งอยู่กี่รอบไม่รู้จำไม่ได้ ตั้งแต่วันที่เป็นสมาชิกกับมันอะ จนวันนึงมันส่งจดหมายมา ให้ไปเข้าร่วมประชุม มันจะพูดคุยเกี่ยวกับงาน เกี่ยวกับคู๊ช ก็ไปตามคำเชิญ เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2013 ในห้องมีประมาณ 20 คน ก็นั่งฟังประมาณ 30 นาที เสร็จปุ๊ป เค้าก็เรียกเข้าไปคุยทีละคน เราเป็นคนแรกซะด้วย เพราะเจือกนั่งหน้าสุดคนเดียวเลย ก็คุยกับมันโดยพูดนอร์ชแบบปลวกๆ มันบอกว่า เธอพูดนอร์ชห่วยแตกมาก Du er dårlig i norsk. ถามว่าเจ็บไหม? ไม่เจ็บค่ะ พอดีรู้ตัว แล้วก็เลยกลับบ้านแบบเซ็งๆ กรูไปให้เสียเวลาทำไมฟ๊ะ กลับมานั่งแซ๊ดดดด...กับคำพูดของมันอีก และก็เลยฟ้องคุณแฟน แฟนบอกทำไมนาฟพูดแบบนี้ เธอไม่ได้แย่ขนาดนั้นสักหน่อย เรียนได้แค่ 5 เดือนจะเอาไรมาก
3 ชม.ต่อมา มีโทรศัพท์เบอร์แปลกโทรเข้า พูดอะไรสักอย่าง แต่ได้ยินว่า Rica Hotel ก็เลยฮ๊ะๆๆ อะไรนะ!! Rica Hotel โทรมาให้ไปสัมภาษณ์ด่วนภายใน 1 ชม. ตำแหน่งแม่บ้าน ทำเตียง ทำความสะอาด โอ้มายก๊อด!! ตาลีตาเหลือก ทำอะไรไม่เถือก เอ้ย..ไม่ถูกเลย ดีใจมากๆ จากที่กำลังรู้สึกแย่เข้าขั้นจิตตก...
เราไปถึงโรงแรมภายใน 30 นาที นางบอกเธอมาไวเว่อ ก็คุยกันเรื่องเงินๆ ทองๆ และก็แอบเห็นCv ตัวเองด้วยอะ เป็นปลื้ม เราว่าฟลุ๊คมากๆ อยู่ๆ ก็มีดวงได้งานทำ.....เค้าต้องการคนด่วนๆ และบอกให้เริ่มงานวันรุ่งขึ้นเลย แต่เราไม่ได้เป็นพนง.ประจำนะ เป็นแค่ extra เมื่อยามที่เค้าต้องการคน ก็จะโทรมาให้ไปทำ เราทำงานติดกัน 1 สัปดาห์เต็มๆ แทบเดี้ยง ปวดเมื่อย เหนื่อย เพลีย หมดแรงมากกกก และมีโทรให้ไปทำเรื่อยๆ แต่เราเรียนด้วย ถ้าวันธรรมดาเราไปทำหลังเลิกเรียน เริ่มงาน 12.00 น.
เคยได้ยินจากหลายๆ คนบอกว่า ทำงานโรงแรมอะหนักนะ อยากถามว่าอะไรที่ว่าหนักคะ สำหรับเรา เราว่างานโรงแรมไม่ใช่งานหนักเลย อ้อ มีอย่างนึงที่เราว่าหนักตรงต้องเข็นรถเข็นเนี่ยแหละ โปรดดูจากไซค์ข้าพเจ้า สูง 150 หนัก 38 ..... และก็เปลี่ยนผ้าห่ม ผ้าห่มแอบหนักนิดหน่อย สะบัดผ้าจนปวดไหล่บ้างในระยะแรก แต่เดี๋ยวก็ชินไปเอง งานโรงแรมเราว่าเป็นงานละเอียด มีอะไรให้เช็คมากกว่า 30 รายการ และต้องแข่งกับเวลาด้วย ยิ่งวันหยุดสุดสัปดาห์ ไม่ต้องพูดถึงเลย ทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน๊อตไม่ได้พักเลยคร๊าาาาา
ยกตัวอย่าง ถ้าเค้าให้ทำ 20 ห้องต่อ 7 ชั่วโมง ก็ต้องทำให้เสร็จ ถ้าทำไม่เสร็จ คุณก็เลิกงานเลทเท่านั้นเอง มันเป็นความผิดของคุณที่ช้า และเราก็ประจำเลยได้กลับบ้านหลังชาวบ้านตลอด รายได้ก็ไม่ได้ขี้เหร่เลย ทำงานวันละ 7 ชม. ตกประมาณ 5,159 บาท (ก่อนหักภาษี) หายเหนื่อยเลย และอีกอย่างนึง เราดีใจมากที่ได้เข้าระบบการจ่ายภาษี หลายคนเกลียดการจ่ายภาษี แต่เราชอบและก็ยอมรับกับเรื่องนี้อย่างเต็มใจว่าแม้ว่าภาษีจะแพงก็เถอะ ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีที่ควรกระทำเมื่ออยู่ที่นี่
1 ปีเต็มๆ พอดีกับการอยู่นอร์เวย์ วกกลับมาเดือนพฤศจิกายนอีกครั้ง แต่เป็นปี 2013 และมีงานทำกับเค้าสักที ก่อนหน้านี้ทั้งเหนื่อย ทั้งท้อ ทั้งเศร้า ทั้งเสียใจ เกือบจะร้องไห้ ก็มีเพราะอยากจะมีงานทำ อยากมีเงินเป็นของตัวเอง อยากทำตัวให้มีประโยชน์ อยากเข้าระบบประเทศเค้า ตอนนี้ได้งานมาแล้ว จะเหนื่อยแค่ไหนก็ต้องอดทน ท่องไว้ เกิดเป็นคน ต้องอดทน สู้เว๊ย..... เรียนด้วย ทำงานด้วย (เพราะยังมีอีกหลายคนที่ต้องการหางานทำ ณ บ้านนี้เมืองนี้ยังมีการแข่งขันกันอีกเยอะ)
มีอีกเรื่องนึงที่น่าภูมิใจ คนที่โรงแรมรู้ว่าเราเป็นคนไทย เค้าก็ชมกันใหญ่ว่า คนไทยอะขยัน ทำงานเก่ง พวกเค้าชอบกัน ชมจนแทบจะลอยเลย คือก่อนหน้านี้เคยมีคนไทยทำงานที่นี่ประมาณ 4 คน และแต่ละคนก็ดีทั้งนั้น ไม่มีใครทำเสียเลย คนที่นี่ก็เลยจำภาพพจน์สิ่งดีๆ ของคนไทย และพอเค้าเห็น Cv คนไทยมาสมัครมันก็อาจจะเป็นเรื่องง่ายนิดนึงที่เค้าจะคัดเลือกให้ทำงานในระดับต้นๆ แต่ก็นะภูมิใจมาก ที่เค้าชอบคนไทย ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เลยล่ะ
http://all-about-norway.blogspot.no/2013/12/blog-post.html แบบไม่เม๊ม ;)