ศาลนครดูไบ แห่งสหรัฐอาหรับอามิเรตส์ (ยูเออี) ตัดสินลงโทษจำคุก 16 เดือนแก่มัณฑนากรชาวนอร์เวย์ข้อหามีเพศสัมพันธ์โดยมิได้แต่งงาน ให้การเท็จ...
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวว่า ศาลนครดูไบ แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ตัดสินลงโทษจำคุก 16 เดือนแก่ มัณฑนากรสาวชาวนอร์เวย์ อายุ 24 ปี ข้อหามีเพศสัมพันธ์โดยมิได้แต่งงาน ให้การเท็จ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่มีใบอนุญาต หลัง น.ส.ดาเลล์ฟ เข้าแจ้งความกับตำรวจนครดูไบว่าถูกเพื่อนร่วมงานข่มขืน ระหว่างเข้าร่วมการประชุมที่โรงแรมแห่งหนึ่งในนครดูไบเมื่อ 6 มี.ค. แต่กลับถูกตำรวจจับขังคุกเป็นเวลานาน 4 วัน พร้อมทั้งยึดหนังสือเดินทางและทรัพย์สินที่มีติดตัว ก่อนได้รับอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว และ มัณฑนากรสาวคนดังกล่าว ได้รับความช่วยเหลือจากศูนย์ราชนาวีแห่งนอร์เวย์ในดูไบ ซึ่งให้ที่พักพิงชั่วคราวจนถึงวันที่ศาลตัดสินคดีเมื่อ 16 ก.ค.ที่่ผ่านมา
รายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศระบุด้วยว่า มัณฑนากรสาวรายนี้ ถูกบริษัทต้นสังกัดในนครดูไบสั่งพักงานไม่มีกำหนด โดยระบุว่ากรณีที่เกิดขึ้นสร้างความเสื่อมเสียแก่บริษัท ขณะที่ผู้ข่มขืนเธอ ซึ่งข่าวมิได้ระบุชื่อ ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกเพียง 13 เดือน ข้อหามีเพศสัมพันธ์โดยมิได้แต่งงานและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่มีใบอนุญาต ด้านกระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์ประณามว่ากฎหมายของยูเออีเป็นกฎหมายที่มีปัญหาและละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมระบุว่าทางการนอร์เวย์พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศยูเออี เพื่อหาทางช่วยเหลือ มัณฑนากรสาว แต่การดำเนินเรื่องต่างๆ เป็นไปอย่างล่าช้า เพราะหน่วยงานรัฐบาลยูเออีหลายแห่งปรับเปลี่ยนเวลาการทำงาน เนื่องจากเป็นช่วงถือศีลอดในเดือนรอมฎอนตามประเพณีของศาสนาอิสลาม
ที่มา >>
http://www.thairath.co.th/content/oversea/358415
อ่านแล้วอึ้ง ความยุติธรรมอยู่ตรงใหนเนี่ย
ผญ ต่อให้เป็นฝ่ายถูกกระทำก็ยังต้องติดคุก
มิ่น่าถึงได้ยินข่าว ผญ ถูกโจรข่มขืนแต่ตำรวจเกลี้ยกล่อมให้แต่งงานกับโจรเพื่อจะได้ไม่ต้องถูกลงโทษ >>
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เมื่อวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมลของอังกฤษ รายงานว่า เกิดเหตุสุดสลดขึ้นในโมรอคโค เมื่อเด็กสาววัย 16 ปีรายหนึ่งได้กินสารหนูฆ่าตัวตาย หลังศาลโมรอคโคตัดสินให้เธอแต่งงานกับคนร้ายที่ก่อคดีข่มขืนเธอ
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 มีนาคมที่ผ่านมา อมีนา ฟิลาลี เด็กสาววัย 16 ปี จากเมืองแทนเจียของโมรอคโค ได้ตัดสินใจกินสารหนูฆ่าตัวตาย เพราะบอบช้ำและทุกข์ใจอย่างหนัก หลังจากเธอถูกชายวัย 26 ปี ล่วงละเมิดทางเพศและข่มขืนเธออย่างเลือดเย็นเมื่อปีก่อน แต่เมื่อเรื่องขึ้นสู่ชั้นศาลแล้ว ศาลกลับไม่ดำเนินคดีใด ๆ กับคนร้ายรายนี้ แต่กลับยื่นข้อเสนอให้เขารับผิดชอบความผิดดังกล่าวด้วยการแต่งงานกับเธออย่างถูกต้องตามประเพณี และคนร้ายเองก็ยอมทำตามเงื่อนไขนี้ ทำให้อมีนาทุกข์ใจมากที่จะต้องแต่งงานกับคนร้ายที่ข่มขืนตัวเอง
จากการฆ่าตัวตายของอมีนา ได้ทำให้ชาวเครือข่ายสังคมออนไลน์ต่างเผยแพร่เรื่องราวของเธอออกไปอย่างกว้างขวาง ทั้งทางทวิตเตอร์และเฟซบุ๊ก เพื่อบอกเล่าความไม่เป็นธรรมที่เกิดขึ้นเด็กสาวโมรอคโครายนี้ และกำลังเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมาก
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์สุดสลดนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นกับอมีนาเป็นรายแรก แต่เกิดขึ้นมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน เนื่องจากตามกฎหมายของโมรอคโคนั้น ผู้ร้ายก่อคดีข่มขืนจะถูกละเว้นโทษ ถ้าหากผู้ร้ายยินยอมที่จะแต่งงานกับเหยื่อให้ถูกต้องตามประเพณี ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วครอบครัวของเหยื่อก็มักจะยอมให้ลูกสาวแต่งงานกับคนร้ายแต่โดยดี เพราะมีความคิดว่าหญิงสาวที่ถูกข่มขืนนั้นมีประวัติด่างพร้อย คงไม่มีผู้ชายคนไหนอยากแต่งงานด้วยอีกต่อไป ซึ่งความไม่เป็นธรรมนี้ได้ทำให้หญิงสาวต้องทุกข์ทรมานมาแล้วหลายราย
อย่างนี้บ้านใหนมีลูกสาวๆซวยๆก็แย่สิ วันดีคืนดีมีคนมาข่มขืนลูกสาวตัวเองก็ต้องรับเป็นลูกเขย ถ้าไม่รับลูกสาวตัวเองก็ต้องติดคุก
บอกตามตรงรู้สึกดีมากๆครับที่ประเทศไทยไม่มีกฏหมายละเมิดสิทธิผู้หญิงแบบนั้น
ขอ tag เที่ยวต่างประเทศ เพราะอยากเตือนให้ ผญ ไทยระวังเวลาไปเที่ยวแถบประเทศที่มีกฏหมายอย่างนี้ครับ
สาวนอร์เวย์ซวย 2 เด้ง-ติดคุกเพราะถูกข่มขืน
เมื่อวันที่ 20 ก.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวว่า ศาลนครดูไบ แห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ตัดสินลงโทษจำคุก 16 เดือนแก่ มัณฑนากรสาวชาวนอร์เวย์ อายุ 24 ปี ข้อหามีเพศสัมพันธ์โดยมิได้แต่งงาน ให้การเท็จ และดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่มีใบอนุญาต หลัง น.ส.ดาเลล์ฟ เข้าแจ้งความกับตำรวจนครดูไบว่าถูกเพื่อนร่วมงานข่มขืน ระหว่างเข้าร่วมการประชุมที่โรงแรมแห่งหนึ่งในนครดูไบเมื่อ 6 มี.ค. แต่กลับถูกตำรวจจับขังคุกเป็นเวลานาน 4 วัน พร้อมทั้งยึดหนังสือเดินทางและทรัพย์สินที่มีติดตัว ก่อนได้รับอนุญาตให้ประกันตัวชั่วคราว และ มัณฑนากรสาวคนดังกล่าว ได้รับความช่วยเหลือจากศูนย์ราชนาวีแห่งนอร์เวย์ในดูไบ ซึ่งให้ที่พักพิงชั่วคราวจนถึงวันที่ศาลตัดสินคดีเมื่อ 16 ก.ค.ที่่ผ่านมา
รายงานข่าวจากสื่อต่างประเทศระบุด้วยว่า มัณฑนากรสาวรายนี้ ถูกบริษัทต้นสังกัดในนครดูไบสั่งพักงานไม่มีกำหนด โดยระบุว่ากรณีที่เกิดขึ้นสร้างความเสื่อมเสียแก่บริษัท ขณะที่ผู้ข่มขืนเธอ ซึ่งข่าวมิได้ระบุชื่อ ถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกเพียง 13 เดือน ข้อหามีเพศสัมพันธ์โดยมิได้แต่งงานและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์โดยไม่มีใบอนุญาต ด้านกระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์ประณามว่ากฎหมายของยูเออีเป็นกฎหมายที่มีปัญหาและละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมระบุว่าทางการนอร์เวย์พยายามติดต่อเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศยูเออี เพื่อหาทางช่วยเหลือ มัณฑนากรสาว แต่การดำเนินเรื่องต่างๆ เป็นไปอย่างล่าช้า เพราะหน่วยงานรัฐบาลยูเออีหลายแห่งปรับเปลี่ยนเวลาการทำงาน เนื่องจากเป็นช่วงถือศีลอดในเดือนรอมฎอนตามประเพณีของศาสนาอิสลาม
ที่มา >> http://www.thairath.co.th/content/oversea/358415
อ่านแล้วอึ้ง ความยุติธรรมอยู่ตรงใหนเนี่ย
ผญ ต่อให้เป็นฝ่ายถูกกระทำก็ยังต้องติดคุก
มิ่น่าถึงได้ยินข่าว ผญ ถูกโจรข่มขืนแต่ตำรวจเกลี้ยกล่อมให้แต่งงานกับโจรเพื่อจะได้ไม่ต้องถูกลงโทษ >> [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อย่างนี้บ้านใหนมีลูกสาวๆซวยๆก็แย่สิ วันดีคืนดีมีคนมาข่มขืนลูกสาวตัวเองก็ต้องรับเป็นลูกเขย ถ้าไม่รับลูกสาวตัวเองก็ต้องติดคุก
บอกตามตรงรู้สึกดีมากๆครับที่ประเทศไทยไม่มีกฏหมายละเมิดสิทธิผู้หญิงแบบนั้น
ขอ tag เที่ยวต่างประเทศ เพราะอยากเตือนให้ ผญ ไทยระวังเวลาไปเที่ยวแถบประเทศที่มีกฏหมายอย่างนี้ครับ