เปิดตอนมาต่อจากตอนที่แล้วที่อลิซควบเอส ม้าศึกคู่ใจเข้าปะทะกับรถหุ้มเกราะของฝ่ายผู้ก่อการร้ายอยู่ โดยระหว่างที่ควบม้าก็นึกไปพลางว่าแรนเดลต้องต่อสู้ท่ามกลางอันตรายที่น่ากลัวแบบนี้เป็นประจำเลยหรือ
ปาดซ้ายปาดขวาชิงจังหวะกันประหนึ่งสวมวิญญาณวิน ดีเซลมาดริฟต์เลยทีเดียว
ทางด้านพลประจำรถหุ้มเกราะฝ่ายผู้ก่อการร้ายเองก็เริ่มลนเพราะกระสุนลูกปรายสำหรับจัดการมนุษย์ใกล้หมดแล้ว (ถ้ายิงรอบทิศก็ยิงได้ครั้งเดียว แต่ถ้ายิงด้านใดด้านหนึ่งก็ยิงได้ 5 - 6 ครั้ง) คนนึงเลยบอกให้ย้อนกลับไปเติมกระสุนที่ฐานก่อนค่อยกลับมาจัดการพวกอลิซต่อ แต่อีกคนค้านบอกว่าให้จัดการอลิซให้ได้ตรงนี้เลยดีกว่า เพราะขืนปล่อยให้อลิซอยู่เป็นแสงแห่งความหวังขึ้นมาแทนที่ความกลัวที่พวกผู้ก่อการร้ายพยายามสร้างขึ้นจะเป็นผลร้ายต่อแผนการ
พวกผู้ก่อการร้ายเลยวางแผนไม่เล่นงานอลิซตรงๆ แต่มุ่งไปเล่นงานพลเมืองที่กำลังหนีตายเพื่อทำลายขวัญของอลิซกับคนรอบข้างแทน
เหยื่อที่พวกผู้ก่อการร้ายเลือกมาสังเวยในครั้งนี้
เดชะบุญเฮอร์เกนไมเยอร์ รุ่นน้องของอลิซปาซอร์ดเบรกเกอร์คู่ใจมากระแทกตัวรถดึงความสนใจพลประจำรถหุ้มเกราะไว้ได้ก่อน ไอ้รถหุ้มเกราะเลยหันไปจะสาดลูกปรายใส่เฮอร์เกนไมเยอร์แทน
แต่อลิซดริฟต์ม้าเข้ามาขวางไว้ได้ทัน
คนไม่เป็นไร แต่เกราะซีกขวาถึงกับร้าว
...ว่าแต่ตีบวกเกราะที่ไหนมาครัฟอลิซ โดนกระสุนลูกปรายเกาะกลุ่มอัดเข้าจังๆ ขนาดนั้นเกราะยังทนอยู่ได้...ถึงจะสะกิดอีกนัดก็พังแล้วก็เหอะ
เห็นอลิซแสดงปาฏิหาริย์ดังนั้น ไอ้ผู้ก่อการร้ายในรถหุ้มเกราะก็เกิดตื่นกลัวขึ้นมา คิดแต่จะหาทางจัดการอลิซให้ได้ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ทั้งนั้น ฝ่ายเฮอร์เกนไมเยอร์เห็นอลิซสู้อย่างยากลำบากเพราะต้องรบกันกลางแคมป์ผู้ประสบภัย เลยตะโกนบอกให้อลิซคอยดึงความสนใจไอ้รถหุ้มเกราะไว้ ส่วนตัวเองจะหาทางพาผู้รอดชีวิตหนีไปเอง อลิซได้ยินดังนั้นก็ลากรถหุ้มเกราะให้ไปไกลๆ จากกลุ่มคนทันที
เฮอร์เกนไมเยอร์เห็นอลิซลากรถหุ้มเกราะไปแล้ว ก็รีบตะโกนบอกชาวเมืองที่รอดชีวิตให้รีบหนีไปทางภูเขาซึ่งทั้งทหารและกองกำลังพลเมืองอาสาตั้งบังเกอร์ป้องกันไว้แล้ว และบอกทุกคนว่าใครได้ยินก็ให้บอกต่อๆ กับคนอื่นที่อยูใกล้เคียงไปเรื่อยๆ นำทางเขาไปยังที่ปลอดภัยด้วย
ฝ่ายพลเมืองที่เห็นการต่อสู้อย่างกล้าหาญของทั้งอลิซและเฮอร์เกนไมเยอร์ จึงเริ่มมีใจฮึดสู้ขึ้นมาบ้าง และทำตามที่เฮอร์เกนไมเยอร์บอกอย่าง
ผู้คนที่อลหม่านหนีตายไปทางโน้นทางนี้ไปทั่วเมื่อครู่ เริ่มรวมกลุ่มเข้าด้วยกันแล้วล่าถอยไปอีกทางอย่างเป็นระเบียบพร้อมนำทางคนที่แตกตื่นให้ไปพร้อมกันด้วย
ฝ่ายเฮอร์เกนไมเยอร์พอเห็นคนไปพ้นแถวนี้กันหมดแล้ว ก็รีบตะโกนบอกอลิซให้ลากรถหุ้มเกราะมาทางที่ตัวเองอยู่ทันที อลิซก็ทำตาม
แต่ระหว่างที่กำลังลากรถหุ้มเกราะมานั้นเอง ก็มีผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งโผล่พรวดออกมาจากข้างทาง โดยในกลุ่มผู้ก่อการร้ายมีบางส่วนที่พกปืนลูกซองแฝดมาด้วย คนหนึ่งในกลุ่มร้องบอกให้พวกที่มีดาบไปสกัดเฮอร์เกนไมเยอร์ไว้ ส่วนที่เหลือที่มีปืนลูกซองให้รุมยิงใส่อลิซที่กำลังลากบอสอยู่เลย โดยให้เน้นเล็งที่ส่วนหัว (เพราะเล็งลำตัวไปก็ติดเกราะอยู่ดี เลยเน้นยิงหัวที่ไม่มีเกราะหุ้มด้วยปืนลูกซองดีกว่า)
เฮอร์เกนไมเยอร์เห็นดังนั้นก็ตาลีตาลานเข้าไปขัดขวาง โดยร่ายเพลงดาบรวดเดียวเก็บพลดาบกับพลปืนของฝ่ายตรงข้ามไปได้จนเกือบหมด
ทว่าไอ้พลปืนคนสุดท้ายที่เหลือกลับหันปากกระบอกมายังลำตัวของเฮอร์เกนไมเยอร์ แล้วเหนี่ยวไกดังเปรี้ยง
ลูกซองจ่อยิงระยะเผาขนแบบนี้...ต่อให้หุ้มเกราะมาทั้งตัวก็ไม่เหลือ
แต่เฮอร์เกนไมเยอร์ก็อึดทายาด โดนลูกซองเปรี้ยงเข้าไปแล้วยังฮึดตวัดดาบบั่นคอไอ้พลปืนคนสุดท้าย ช่วยชีวิตอลิซเอาไว้จนได้
ก่อนจะหันไปส่งยิ้มอำลาให้อลิซเป็นครั้งสุดท้ายในจังหวะที่อลิซควบม้าผ่านไป
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเสียดายหนูติ่งยอดฝีมืออย่างเฮอร์เกนไมเยอร์เหมือนกันแฮะ อุตส่าห์แสดงฝีมือเต็มที่แล้วทั้งที มาพลาดเอาจังหวะสุดท้ายด้วยปืนลูกซองง่ายๆ เลย
อยากหวังให้รอดเหมือนกันแฮะ แต่เจอลูกซองระยะประชิดขนาดนั้นนี่ยังไงก็แทบหวังไม่ได้เลย คงได้แต่รอสวดส่งวิญญาณในตอนหน้าอย่างเดียวเท่านั้นแล้ว -3-
อนึ่ง เห็นแบบนี้แล้วอยากให้มีฉากแรนเดลจัดหนักโชว์โหดในตอนหน้าเลยแฮะ ผมติดตามเรื่องนี้มาตลอดเพราะอยากเห็นฉากละเลงเลือดของแรนเดลแบบทบต้นทบดอกมาตลอดหนึ่งปีนี่แหละ...ถึงดูจากจังหวะเดินเรื่องของอ.ผู้เขียนแล้วจะเป็นไปได้ยากก็เถอะ -3-
แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าครับ
[Spoil] ตะไกรไชฟักทอง (Pumpkin Scissors) #94 - สู้ศึกเยี่ยงวีรสตรี
ปาดซ้ายปาดขวาชิงจังหวะกันประหนึ่งสวมวิญญาณวิน ดีเซลมาดริฟต์เลยทีเดียว
ทางด้านพลประจำรถหุ้มเกราะฝ่ายผู้ก่อการร้ายเองก็เริ่มลนเพราะกระสุนลูกปรายสำหรับจัดการมนุษย์ใกล้หมดแล้ว (ถ้ายิงรอบทิศก็ยิงได้ครั้งเดียว แต่ถ้ายิงด้านใดด้านหนึ่งก็ยิงได้ 5 - 6 ครั้ง) คนนึงเลยบอกให้ย้อนกลับไปเติมกระสุนที่ฐานก่อนค่อยกลับมาจัดการพวกอลิซต่อ แต่อีกคนค้านบอกว่าให้จัดการอลิซให้ได้ตรงนี้เลยดีกว่า เพราะขืนปล่อยให้อลิซอยู่เป็นแสงแห่งความหวังขึ้นมาแทนที่ความกลัวที่พวกผู้ก่อการร้ายพยายามสร้างขึ้นจะเป็นผลร้ายต่อแผนการ
พวกผู้ก่อการร้ายเลยวางแผนไม่เล่นงานอลิซตรงๆ แต่มุ่งไปเล่นงานพลเมืองที่กำลังหนีตายเพื่อทำลายขวัญของอลิซกับคนรอบข้างแทน
เหยื่อที่พวกผู้ก่อการร้ายเลือกมาสังเวยในครั้งนี้
เดชะบุญเฮอร์เกนไมเยอร์ รุ่นน้องของอลิซปาซอร์ดเบรกเกอร์คู่ใจมากระแทกตัวรถดึงความสนใจพลประจำรถหุ้มเกราะไว้ได้ก่อน ไอ้รถหุ้มเกราะเลยหันไปจะสาดลูกปรายใส่เฮอร์เกนไมเยอร์แทน
แต่อลิซดริฟต์ม้าเข้ามาขวางไว้ได้ทัน
คนไม่เป็นไร แต่เกราะซีกขวาถึงกับร้าว
...ว่าแต่ตีบวกเกราะที่ไหนมาครัฟอลิซ โดนกระสุนลูกปรายเกาะกลุ่มอัดเข้าจังๆ ขนาดนั้นเกราะยังทนอยู่ได้...ถึงจะสะกิดอีกนัดก็พังแล้วก็เหอะ
เห็นอลิซแสดงปาฏิหาริย์ดังนั้น ไอ้ผู้ก่อการร้ายในรถหุ้มเกราะก็เกิดตื่นกลัวขึ้นมา คิดแต่จะหาทางจัดการอลิซให้ได้ไม่สนหน้าอินทร์หน้าพรหมใดๆ ทั้งนั้น ฝ่ายเฮอร์เกนไมเยอร์เห็นอลิซสู้อย่างยากลำบากเพราะต้องรบกันกลางแคมป์ผู้ประสบภัย เลยตะโกนบอกให้อลิซคอยดึงความสนใจไอ้รถหุ้มเกราะไว้ ส่วนตัวเองจะหาทางพาผู้รอดชีวิตหนีไปเอง อลิซได้ยินดังนั้นก็ลากรถหุ้มเกราะให้ไปไกลๆ จากกลุ่มคนทันที
เฮอร์เกนไมเยอร์เห็นอลิซลากรถหุ้มเกราะไปแล้ว ก็รีบตะโกนบอกชาวเมืองที่รอดชีวิตให้รีบหนีไปทางภูเขาซึ่งทั้งทหารและกองกำลังพลเมืองอาสาตั้งบังเกอร์ป้องกันไว้แล้ว และบอกทุกคนว่าใครได้ยินก็ให้บอกต่อๆ กับคนอื่นที่อยูใกล้เคียงไปเรื่อยๆ นำทางเขาไปยังที่ปลอดภัยด้วย
ฝ่ายพลเมืองที่เห็นการต่อสู้อย่างกล้าหาญของทั้งอลิซและเฮอร์เกนไมเยอร์ จึงเริ่มมีใจฮึดสู้ขึ้นมาบ้าง และทำตามที่เฮอร์เกนไมเยอร์บอกอย่าง
ผู้คนที่อลหม่านหนีตายไปทางโน้นทางนี้ไปทั่วเมื่อครู่ เริ่มรวมกลุ่มเข้าด้วยกันแล้วล่าถอยไปอีกทางอย่างเป็นระเบียบพร้อมนำทางคนที่แตกตื่นให้ไปพร้อมกันด้วย
ฝ่ายเฮอร์เกนไมเยอร์พอเห็นคนไปพ้นแถวนี้กันหมดแล้ว ก็รีบตะโกนบอกอลิซให้ลากรถหุ้มเกราะมาทางที่ตัวเองอยู่ทันที อลิซก็ทำตาม
แต่ระหว่างที่กำลังลากรถหุ้มเกราะมานั้นเอง ก็มีผู้ก่อการร้ายกลุ่มหนึ่งโผล่พรวดออกมาจากข้างทาง โดยในกลุ่มผู้ก่อการร้ายมีบางส่วนที่พกปืนลูกซองแฝดมาด้วย คนหนึ่งในกลุ่มร้องบอกให้พวกที่มีดาบไปสกัดเฮอร์เกนไมเยอร์ไว้ ส่วนที่เหลือที่มีปืนลูกซองให้รุมยิงใส่อลิซที่กำลังลากบอสอยู่เลย โดยให้เน้นเล็งที่ส่วนหัว (เพราะเล็งลำตัวไปก็ติดเกราะอยู่ดี เลยเน้นยิงหัวที่ไม่มีเกราะหุ้มด้วยปืนลูกซองดีกว่า)
เฮอร์เกนไมเยอร์เห็นดังนั้นก็ตาลีตาลานเข้าไปขัดขวาง โดยร่ายเพลงดาบรวดเดียวเก็บพลดาบกับพลปืนของฝ่ายตรงข้ามไปได้จนเกือบหมด
ทว่าไอ้พลปืนคนสุดท้ายที่เหลือกลับหันปากกระบอกมายังลำตัวของเฮอร์เกนไมเยอร์ แล้วเหนี่ยวไกดังเปรี้ยง
ลูกซองจ่อยิงระยะเผาขนแบบนี้...ต่อให้หุ้มเกราะมาทั้งตัวก็ไม่เหลือ
แต่เฮอร์เกนไมเยอร์ก็อึดทายาด โดนลูกซองเปรี้ยงเข้าไปแล้วยังฮึดตวัดดาบบั่นคอไอ้พลปืนคนสุดท้าย ช่วยชีวิตอลิซเอาไว้จนได้
ก่อนจะหันไปส่งยิ้มอำลาให้อลิซเป็นครั้งสุดท้ายในจังหวะที่อลิซควบม้าผ่านไป
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเสียดายหนูติ่งยอดฝีมืออย่างเฮอร์เกนไมเยอร์เหมือนกันแฮะ อุตส่าห์แสดงฝีมือเต็มที่แล้วทั้งที มาพลาดเอาจังหวะสุดท้ายด้วยปืนลูกซองง่ายๆ เลย
อยากหวังให้รอดเหมือนกันแฮะ แต่เจอลูกซองระยะประชิดขนาดนั้นนี่ยังไงก็แทบหวังไม่ได้เลย คงได้แต่รอสวดส่งวิญญาณในตอนหน้าอย่างเดียวเท่านั้นแล้ว -3-
อนึ่ง เห็นแบบนี้แล้วอยากให้มีฉากแรนเดลจัดหนักโชว์โหดในตอนหน้าเลยแฮะ ผมติดตามเรื่องนี้มาตลอดเพราะอยากเห็นฉากละเลงเลือดของแรนเดลแบบทบต้นทบดอกมาตลอดหนึ่งปีนี่แหละ...ถึงดูจากจังหวะเดินเรื่องของอ.ผู้เขียนแล้วจะเป็นไปได้ยากก็เถอะ -3-
แล้วพบกันใหม่ตอนหน้าครับ