+ + + กระทู้เลีย: ว่าด้วย Samsung ,บริษัทสุดฉาวโฉ่ ที่มีมูลค่าแบรนด์เป็นอันดับ8 ของโลก + + +

กระทู้ข่าว
.


.

ผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนทั่วโลกคงไม่มีใครไม่รู้จักแบรนด์ยักษ์ใหญ่จากประเทศเกาหลีใต้อย่าง Samsung อย่างแน่นอน
แต่จะมีซักกี่คนที่ทราบถึงประวัติความเป็นมาของ Samsung ว่ากว่าจะกลายมาเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกนั้น
มีที่มาอย่างไร จึงขอย้อนกลับไปเพื่อบอกเล่าถึงประวัติของ Samsung ให้ได้ทราบกันอีกด้วย


ในวันที่ 1 มีนาคม 1938 บริษัท Samsung ได้ถูกก่อตั้งขึ้นโดยประธานผู้ก่อตั้งนามว่า เบือง ชุล ลี ได้เริ่มธุรกิจที่เมืองแตกู ประเทศเกาหลีใต้
ด้วยเงินเพียง 30,000 วอน และในช่วงแรกของการทำธุรกิจนั้นเน้นที่การส่งออกสินค้า เช่น ปลาแห้งเกาหลี ผัก และผลไม้
เพื่อส่งออกไปที่แมนจูเรียและปักกิ่ง



ปี 1947 ได้เกิดสงครามเกาหลีขึ้นทำให้สภาพเศรษฐกิจมีการชะลอตัว แต่หลังจากสงครามเกาหลีจบลงทางบริษัท Samsung
ได้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งทอ รวมถึงการสร้างโรงงานสิ่งทอที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลีใต้อีกด้วย

ปี 1960 บริษัท Samsung ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เต็มตัว โดยบริษัทแบ่งแผนกไว้ทั้งหมด 4 แผนก ดังนี้
แผนกอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์, แผนกกลศาสตร์ไฟฟ้า, แผนกซัมซุงคอร์นนิ่ง และแผนกซัมซุงเซมิคอนดักเตอร์และโทรคมนาคม
และหลังจากนั้นทางบริษัท Samsung จึงได้เริ่มต้นการผลิตโทรทัศน์ขาวดำตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา


ปี 1980 บริษัท Samsung ได้ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมฮาร์ดแวร์สำหรับการสื่อสารโทรคมนาคม ด้วยการเข้าซื้อกิจการ
ของบริษัท Hanguk Jenja Tongsin หลังจากนั้นทางบริษัท Samsung ก็ได้เริ่มต้นการผลิตโทรศัพท์มือถือ

อีกทั้งบริษัทได้ลงทุนด้วยจำนวนเงินมหาศาลไปกับการวิจัยเพื่อนำมาพัฒนาโทรศัพท์มือถือของตัวเองตลอดปี 1980
และในช่วงเวลาเดียวกันนี้เองทางบริษัท Samsung จึงได้ขยายบริษัทไปยังต่างประเทศ
เช่น ประเทศโปรตุเกส, นครนิวยอร์ก, มหานครโตเกียว, ประเทศอังกฤษ และรัฐเท็กซัส

ปี 1987 ถือเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงด้วยเหตุการณ์การจากไปของประธานผู้ก่อตั้งนามว่า เบือง ชุล ลี
ทำให้ทางบริษัท Samsung ได้แยกกลุ่มธุรกิจออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจ ดังนี้
เช่น Samsung Group ดูแลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์,
Shinsegae Group ดูแลเกี่ยวกับธุรกิจอาหาร, สารเคมี, การขนส่ง, ธุรกิจด้านความบันเทิง, กระดาษ และโทรคมนาคม
รวมถึงอีกสองกลุ่มธุรกิจที่เหลือคือ CJ Group และ Hansol Group อีกด้วย



ปี 1993 ทางบริษัท Samsung ยังคงให้ความสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมสำคัญของบริษัทตัวเองอย่างต่อเนื่อง
โดยเน้นการพัฒนาศักยภาพของตัวเองให้สูงขึ้น ดังนี้ ด้านอิเล็กทรอนิกส์, ด้านวิศวกรรม และด้านสารเคมี


ปี 2005 ทางบริษัท Samsung ยังคงมุ่งเน้นพัฒนาศักยภาพทางเทคโนโลยีของตัวเองอย่างต่อเนื่อง โดย Samsung
ได้ลงทุนไปมหาศาลกับการพัฒนาเทคโนโลยีหน้าจอ LCD ของตัวเอง
และส่งผลให้ทาง Samsung กลายเป็นผู้ผลิตพาเนลหน้าจอ LCD รายใหญ่ของโลกไปในทันทีในปีเดียวกันนี้

ปี 2006 ทาง Samsung ได้ร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตสินค้าอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของประเทศญี่ปุ่นอย่าง Sony
เพื่อเป็นการร่วมทุนธุรกิจผลิตจอแอลซีดีในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งทั้งสองบริษัทนั้นได้ถือครองหุ้นเท่ากันที่ 50 เปอร์เซ็นต์


ปี 2011 ทาง Samsung ได้ดำเนินการเข้าซื้อหุ้นทั้งหมดจากการร่วมทุนธุรกิจผลิตจอแอลซีดีที่ทาง Sony ถือครองหุ้นอยู่ที่ 50 เปอร์เซ็นต์
โดยคาดกันว่าที่ทาง Samsung เข้าซื้อหุ้นทั้งหมดนั้น เนื่องมาจากทาง Sony มีปัญหาการขาดทุนเป็นจำนวนเงินมหาศาล
ของธุรกิจโทรทัศน์นั่นเอง ทำให้ทาง Samsung เป็นเจ้าของบริษัทผลิตจอแอลซีดีเต็มตัวอีกด้วย

ปี 2012 ทาง Samsung ได้แสดงศักยภาพได้อย่างเด่นชัดด้วยการเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ของโลก
โดยการสร้างโรงงานผลิตที่มีมูลค่าสูงถึง 4 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ
และโรงงานผลิตนั้นตั้งอยู่ที่เมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา


ปัจจุบันทาง Samsung ถือเป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของโลกอย่างไม่มีข้อกังขา
และยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้งอีกด้วยนั่นเอง


ประวัติโลโก้ของ Samsung
คำว่า Samsung ในภาษาเกาหลีมีความหมายว่า "สามดาว" โดยโลโก้ที่ทาง Samsung ได้ใช้นั้นมีทั้งหมด 5 โลโก้ ดังนี้
โลโก้ตัวแรกของ Samsung มีชื่อว่า Samsung Byeolpyo noodles เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1938-1958


โลโก้ตัวที่สอง มีชื่อว่า Samsung Group logo เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1969-1979


โลโก้ตัวที่สาม มีชื่อว่า Samsung Group logo (“three stars”) เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1980-1992


โลโก้ตัวที่สี่ มีชื่อว่า Samsung Electronics logo เหมือนเป็นการรวมเอาโลโก้ที่สองและโลโก้ที่สามมาผสมผสานกัน เริ่มใช้ตั้งแต่ปี 1980-1992


โลโก้ปัจจุบัน ได้ถูกใช้มาตั้งแต่ปี 1993


ที่มา http://news.siamphone.com/news-15121.html
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่