เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2556 เวลา 12.00 น. โดยประมาณ หลังเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองที่กรุงเทพมหานคร ทำให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมทั้งทำลายทรัพย์สินของทางราชการ กลุ่มผู้นำศาสนา องค์กรผู้นำการศึกษา ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งจังหวัด ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส กว่าหมื่นคน ร่วมใจกันละหมาดฮายัตพร้อมสวดดุอาอ์ขอพรพร้อมกันทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดทั้ง 3 จังหวัด เพื่อให้กำลังใจรัฐบาลในการบริหารประเทศและวอนหยุดทำร้ายระบอบประชาธิปไตยของไทย
โดยในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา ที่บริเวณมัสยิดกลางประจำจังหวัดยะลา นายอิสมาแอล ฮารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา พร้อมด้วยผู้นำศาสนาอิสลาม คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น กรรมการมัสยิด ชมรมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม นักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ผู้นำท้องถิ่นกว่า 3,000 คน ร่วมละหมาดฮายัตและสวดดุอาร์ขอพรให้เหตุการณ์ความรุนแรงที่กรุงเทพมหานคร สิ้นสุดลงโดยสันติ โดยมีนายหะยีนิมิง นิมูดอ อิหม่ามประจำมัสยิดกลางประจำจังหวัดยะลา นำการละหมาดในครั้งนี้
เช่นเดียวกับที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี ผู้นำศาสนา ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน นักเรียน นักศึกษาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ กว่า 4,000 คน นำโดย นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เป็นผู้นำละหมาดฮายัต ขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าเอกองค์อัลลอฮฺ(ซบ.) ช่วยบันดาลให้เหตุการณ์ความวุ่นวายและความรุนแรงทางการเมือง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วและช่วยดลบันดาลความสันติสุขให้กลับสู่พื้นที่การชุมนุม เพื่อลดการสูญเสียชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน โดยการทำละหมาดฮายัตในครั้งนี้มีกลุ่มต่างๆ เดินทางมาร่วมในพิธีกันเป็นจำนวนมาก จนล้นออกมายังนอกตัวอาคารมัสยิด
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีละหมาด นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จังหวัดปัตตานี ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา มอบหนังสือคำแถลงการณ์ปิดผนึกถึง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงจุดยืนและยอมรับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น พร้อมกันนี้ยังให้กำลังใจแก่ข้าราชการ ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในการปฏิบัติหน้าที่แก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างมีขวัญและกำลังใจในการทำงานต่อไป โดยมี นายวิทยา พาณิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายขวัญชาติ วงศ์ศุภรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และปลัดจังหวัดปัตตานีเป็นตัวแทนรับหนังสือแถลงการณ์ดังกล่าว
นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ในเมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองและเหตุความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศไทยยังไม่ปกติ จึงต้องการออกมาแสดงจุดยืน พร้อมกับร่วมกันละหมาดฮายัต ขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้า เอกองค์อัลลอฮฺ(ซบ.) ให้เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองได้กลับเข้าสู่ความสงบสุขโดยเร็วและให้มีทางออกตามแนวทางสันติวิธี ในฐานะที่เป็นผู้นำศาสนาและอยู่กับแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้มายาวนาน ก็อยากแนะให้กลุ่มทางการเมืองที่กำลังมีปัญหาทั้ง 2 ฝ่าย เร่งหาทางออกด้วยวิธีการพูดคุยกัน ตามเกณฑ์และกติกาของเรื่องต่างๆ ที่ไม่เข้าใจกัน มาคุยกัน ตกลงกัน และไม่อยากให้ต้องมีอคติและอารมณ์ความโกรธแค้นใดๆ มาข้องเกี่ยวภายใต้การสนับสนุนระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนความคาดหวังที่จะมุ่งมั่นให้ประเทศชาติได้เดินไปข้างหน้าร่วมกัน โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ในเวลาเดียวกัน มัสยิดกลางประจำจังหวัดนราธิวาส องค์กรผู้นำศาสนา องค์กรผู้นำการศึกษา องค์กรผู้นำท้องที่ และองค์กรภาคประชาสังคม กว่า 3,000 คน ร่วมกันละหมาดฮายัตและสวดดุอาอ์ขอพรให้กำลังใจกับการทำงานของคณะรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยขอให้มุ่งมั่นในการทำงานเพื่อประชาชนต่อไปโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกันนี้หลังจากเสร็จสิ้นการละหมาดแล้วตัวแทนได้ยื่นหนังสือผ่าน นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ส่งกำลังใจต่อไปยังนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ด้านนายอับดุลเราะห์หมาน อับดุลสมัด ประธานสมาพันธ์กรรมการอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การร่วมละหมาดขององค์กรต่างๆในครั้งนี้เป็นการแสดงน้ำใจของประชาชนในพื้นที่ที่อยากให้กำลังใจกับรัฐบาลในการทำงาน โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องสามัคคีกัน ปัญหาทุกอย่างถึงจะจบ
ด้านนายอดุลย์ อารีหะหมัด ประธานกรรมการมัสยิดปาทานนราธิวาส กล่าวฝากไปยังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้เคารพกฎหมายบ้านเมือง ให้ใช้หลักสันติวิธี หันหน้ามาพูดคุยกัน ขณะนี้ทุกประเทศกำลังพัฒนาเพื่อที่จะเข้าร่วมอาเซียน เรามามุ่งมันพัฒนาประเทศดีกว่า อีกทั้งชาวมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงในทุกรูปแบบเพราะเราทุกคนล้วนเป็นคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น
http://www.sbpac.go.th/?option=com_k2&view=item&id=1041%3A3
พลังมหาชนในพื้นที่ 3 จชต. กว่าหมื่นคน ละหมาดขอพรให้กำลังใจรัฐบาล วอนยุติความวุ่นวาย
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2556 เวลา 12.00 น. โดยประมาณ หลังเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองที่กรุงเทพมหานคร ทำให้มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมทั้งทำลายทรัพย์สินของทางราชการ กลุ่มผู้นำศาสนา องค์กรผู้นำการศึกษา ผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ทั้งจังหวัด ปัตตานี ยะลาและนราธิวาส กว่าหมื่นคน ร่วมใจกันละหมาดฮายัตพร้อมสวดดุอาอ์ขอพรพร้อมกันทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดทั้ง 3 จังหวัด เพื่อให้กำลังใจรัฐบาลในการบริหารประเทศและวอนหยุดทำร้ายระบอบประชาธิปไตยของไทย
โดยในเขตพื้นที่จังหวัดยะลา ที่บริเวณมัสยิดกลางประจำจังหวัดยะลา นายอิสมาแอล ฮารี ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา พร้อมด้วยผู้นำศาสนาอิสลาม คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา อิหม่าม คอเต็บ บิหลั่น กรรมการมัสยิด ชมรมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม นักเรียนโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ผู้นำท้องถิ่นกว่า 3,000 คน ร่วมละหมาดฮายัตและสวดดุอาร์ขอพรให้เหตุการณ์ความรุนแรงที่กรุงเทพมหานคร สิ้นสุดลงโดยสันติ โดยมีนายหะยีนิมิง นิมูดอ อิหม่ามประจำมัสยิดกลางประจำจังหวัดยะลา นำการละหมาดในครั้งนี้
เช่นเดียวกับที่มัสยิดกลางประจำจังหวัดปัตตานี ผู้นำศาสนา ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้าน นักเรียน นักศึกษาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ กว่า 4,000 คน นำโดย นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี เป็นผู้นำละหมาดฮายัต ขอพรจากพระผู้เป็นเจ้าเอกองค์อัลลอฮฺ(ซบ.) ช่วยบันดาลให้เหตุการณ์ความวุ่นวายและความรุนแรงทางการเมือง จนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ให้กลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วและช่วยดลบันดาลความสันติสุขให้กลับสู่พื้นที่การชุมนุม เพื่อลดการสูญเสียชีวิต ทรัพย์สินของประชาชน โดยการทำละหมาดฮายัตในครั้งนี้มีกลุ่มต่างๆ เดินทางมาร่วมในพิธีกันเป็นจำนวนมาก จนล้นออกมายังนอกตัวอาคารมัสยิด
หลังจากเสร็จสิ้นพิธีละหมาด นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำ จังหวัดปัตตานี ได้เป็นตัวแทนของกลุ่มผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น นักเรียน นักศึกษาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา มอบหนังสือคำแถลงการณ์ปิดผนึกถึง นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อแสดงจุดยืนและยอมรับรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งเท่านั้น พร้อมกันนี้ยังให้กำลังใจแก่ข้าราชการ ตลอดจนผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ในการปฏิบัติหน้าที่แก้ไขปัญหาในพื้นที่อย่างมีขวัญและกำลังใจในการทำงานต่อไป โดยมี นายวิทยา พาณิชพงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายขวัญชาติ วงศ์ศุภรานันต์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี และปลัดจังหวัดปัตตานีเป็นตัวแทนรับหนังสือแถลงการณ์ดังกล่าว
นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปัตตานี กล่าวว่า ในเมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองและเหตุความวุ่นวายทางการเมืองของประเทศไทยยังไม่ปกติ จึงต้องการออกมาแสดงจุดยืน พร้อมกับร่วมกันละหมาดฮายัต ขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้า เอกองค์อัลลอฮฺ(ซบ.) ให้เหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองได้กลับเข้าสู่ความสงบสุขโดยเร็วและให้มีทางออกตามแนวทางสันติวิธี ในฐานะที่เป็นผู้นำศาสนาและอยู่กับแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้มายาวนาน ก็อยากแนะให้กลุ่มทางการเมืองที่กำลังมีปัญหาทั้ง 2 ฝ่าย เร่งหาทางออกด้วยวิธีการพูดคุยกัน ตามเกณฑ์และกติกาของเรื่องต่างๆ ที่ไม่เข้าใจกัน มาคุยกัน ตกลงกัน และไม่อยากให้ต้องมีอคติและอารมณ์ความโกรธแค้นใดๆ มาข้องเกี่ยวภายใต้การสนับสนุนระบอบประชาธิปไตย ตลอดจนความคาดหวังที่จะมุ่งมั่นให้ประเทศชาติได้เดินไปข้างหน้าร่วมกัน โดยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ในเวลาเดียวกัน มัสยิดกลางประจำจังหวัดนราธิวาส องค์กรผู้นำศาสนา องค์กรผู้นำการศึกษา องค์กรผู้นำท้องที่ และองค์กรภาคประชาสังคม กว่า 3,000 คน ร่วมกันละหมาดฮายัตและสวดดุอาอ์ขอพรให้กำลังใจกับการทำงานของคณะรัฐบาล ซึ่งถือว่าเป็นรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง โดยขอให้มุ่งมั่นในการทำงานเพื่อประชาชนต่อไปโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมกันนี้หลังจากเสร็จสิ้นการละหมาดแล้วตัวแทนได้ยื่นหนังสือผ่าน นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ส่งกำลังใจต่อไปยังนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วย
ด้านนายอับดุลเราะห์หมาน อับดุลสมัด ประธานสมาพันธ์กรรมการอิสลามจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การร่วมละหมาดขององค์กรต่างๆในครั้งนี้เป็นการแสดงน้ำใจของประชาชนในพื้นที่ที่อยากให้กำลังใจกับรัฐบาลในการทำงาน โดยเฉพาะในสถานการณ์ปัจจุบัน ซึ่งทุกฝ่ายจะต้องสามัคคีกัน ปัญหาทุกอย่างถึงจะจบ
ด้านนายอดุลย์ อารีหะหมัด ประธานกรรมการมัสยิดปาทานนราธิวาส กล่าวฝากไปยังนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ให้เคารพกฎหมายบ้านเมือง ให้ใช้หลักสันติวิธี หันหน้ามาพูดคุยกัน ขณะนี้ทุกประเทศกำลังพัฒนาเพื่อที่จะเข้าร่วมอาเซียน เรามามุ่งมันพัฒนาประเทศดีกว่า อีกทั้งชาวมุสลิมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่เห็นด้วยกับความรุนแรงในทุกรูปแบบเพราะเราทุกคนล้วนเป็นคนไทยด้วยกันทั้งสิ้น
http://www.sbpac.go.th/?option=com_k2&view=item&id=1041%3A3