กลายเป็นปัญหาของสังคมของคนใช้ชีวิตปรกติประเภทไม่ฝักใฝ่สีใดไปอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับไวรัสสลิ่มที่แพร่กระจายเชื้อไปอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นปัญหาสำคัญในการดำรงชีวิตประจำวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
โรคสลิ่มสามารถติดเชื้อได้ง่ายก็จริงกับคนที่อ่อนไหวง่าย แต่สำหรับผู้ที่มีภูมิต้านทานที่แข็งแรงทางด้านสมอง ไวรัสสลิ่มก็ยากที่จะแทรกตัวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายได้
อย่างไรก็ตาม ในการใช้ชีวิตประจำวันของเราคงยากที่จะหลีกเลี่ยงการพบปะพูดคุย เสวนากับพวกติดเชื้อสลิ่มได้ สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือพวกที่เป็นโรคสลิ่มมักจะมีอาการ คลั่ง ตาขวาง ขาดสติ เลือดรักชาติจะพลุ่งพล่านอย่างไม่มีเหตุผล ระงับสติอารมณ์ตัวเองไม่ได้ วันๆจะคอยพล่ามถึงแต่ทักษิณ และมักจะชอบยัดเยียดนกหวีดที่เปื้อนน้ำลายสกปรกของตัวเองให้คนอื่นเป่าเพื่อสำเร็จความใครให้ตัวเอง
วิธีใช้ชีวิตร่วมกับสลิ่มแบบไม่ให้เสียน้ำใจกัน ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือการพบปะคุยกับลูกค้า ง่ายนิดเดียว
นั่นก็คือ พยายามทำตัวให้กลมกลืนไปกับพวกนั้น ทำนอง เข้าเมืองสลิ่มให้สลิ่มตาตาม
เพราะถ้าคุณทำตัววางเฉย ไม่เออออห่อหมกไปกับสลิ่ม คุณจะถูกถีบให้เป็นคนเลว เห็นแก่ตัว ไม่รักชาติ ไม่ต่อต้านคนโกง ไปในทันที
ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องการโต้แย้ง อธิบายด้วยเหตุผล นั่นยิ่งเป็นการสีซอให้ควายฟังเสียเวลาเปล่า เผลอๆจะกลายเป็นทะเลาะเบาะแว้ง มีเรื่องมีราวผิดอกผิดใจกันไปเปล่าๆ เพราะโรคสลิ่มเมื่อเป็นแล้ว จะทำให้ความสามารถในการรับฟังเหตุผลลดลง สมองจะฝ่อ ปากจะสั่นเมื่อไม่ได้คาบนกหวีดเพื่อเป่าระบายความเก็บกด
ดังนั้น เมื่อเพื่อนสลิ่มของคุณ คุยอะไรมา ขอให้คุณจงคล้อยตาม และร่วมผสมโรงไปกับเขาอย่าได้นิ่งเฉยหรือคัดค้าน รับรองว่าเพื่อนสลิ่มของคุณจะพอใจ และไม่มาวุ่นวายอะไรกับคุณอีก
ถ้านึกภาพไม่ออก ก็ลองนึกถึงภาพยนต์เรื่อง มัมมี่ ที่พี่ชายนางเอก กำลังจะเดินออกมา แล้วเจอพวกซอมบี้ที่โดนสาปเดินมาเป็นฝูง พร้อมเสียงคำราม "ฮิมโมเท ๆ ๆ ๆ " เขาก็รีบหันหลัง แล้วทำตาขวาง เดินตัวแข็งทื่อ ปากร้อง ฮิมโมเท ๆ ๆ ร่วมผสมโรงไปด้วยหน้าตาเฉย พวกซอมบี้คิดว่าเป็นพวกเดียวกัน ก็ไม่ทำร้าย
แค่นี้ การใช้ชีวิตของคุณในวงล้อมของสลิ่มก็จะปลอดภัย ไร้ความกังวล
เชื่อผมเถอะ เพราะผมทำธุรกิจกับลูกค้าในภาคใต้ ทำตัวกลมกลืนผสมโรงไปกับพวกเขา แล้วเขาจะนับพวกคุณเป็นพวกอย่างไม่ตะขิดตะขวง เขาจะมองว่าคุณเป็นคนฉลาด ในขณะที่คุณแอบหัวเราะอยู่ในใจ โดยที่เขาไม่มีทางรู้
ปากคุณอาจพูดในสิ่งที่เขาอยากฟัง ส่วนในใจของคุณ คิดอะไรให้เก็บไว้ข้างใน
และเอามันออกมาใช้ ในวันที่คุณลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
เท่านั้นก็พอ
+++วิธีใช้ชีวิตร่วมกับสลิ่มได้อย่างมีความสุข ปลอดภัย ไร้ความกังวล+++
โรคสลิ่มสามารถติดเชื้อได้ง่ายก็จริงกับคนที่อ่อนไหวง่าย แต่สำหรับผู้ที่มีภูมิต้านทานที่แข็งแรงทางด้านสมอง ไวรัสสลิ่มก็ยากที่จะแทรกตัวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายได้
อย่างไรก็ตาม ในการใช้ชีวิตประจำวันของเราคงยากที่จะหลีกเลี่ยงการพบปะพูดคุย เสวนากับพวกติดเชื้อสลิ่มได้ สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือพวกที่เป็นโรคสลิ่มมักจะมีอาการ คลั่ง ตาขวาง ขาดสติ เลือดรักชาติจะพลุ่งพล่านอย่างไม่มีเหตุผล ระงับสติอารมณ์ตัวเองไม่ได้ วันๆจะคอยพล่ามถึงแต่ทักษิณ และมักจะชอบยัดเยียดนกหวีดที่เปื้อนน้ำลายสกปรกของตัวเองให้คนอื่นเป่าเพื่อสำเร็จความใครให้ตัวเอง
วิธีใช้ชีวิตร่วมกับสลิ่มแบบไม่ให้เสียน้ำใจกัน ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือการพบปะคุยกับลูกค้า ง่ายนิดเดียว
นั่นก็คือ พยายามทำตัวให้กลมกลืนไปกับพวกนั้น ทำนอง เข้าเมืองสลิ่มให้สลิ่มตาตาม
เพราะถ้าคุณทำตัววางเฉย ไม่เออออห่อหมกไปกับสลิ่ม คุณจะถูกถีบให้เป็นคนเลว เห็นแก่ตัว ไม่รักชาติ ไม่ต่อต้านคนโกง ไปในทันที
ไม่ต้องไปพูดถึงเรื่องการโต้แย้ง อธิบายด้วยเหตุผล นั่นยิ่งเป็นการสีซอให้ควายฟังเสียเวลาเปล่า เผลอๆจะกลายเป็นทะเลาะเบาะแว้ง มีเรื่องมีราวผิดอกผิดใจกันไปเปล่าๆ เพราะโรคสลิ่มเมื่อเป็นแล้ว จะทำให้ความสามารถในการรับฟังเหตุผลลดลง สมองจะฝ่อ ปากจะสั่นเมื่อไม่ได้คาบนกหวีดเพื่อเป่าระบายความเก็บกด
ดังนั้น เมื่อเพื่อนสลิ่มของคุณ คุยอะไรมา ขอให้คุณจงคล้อยตาม และร่วมผสมโรงไปกับเขาอย่าได้นิ่งเฉยหรือคัดค้าน รับรองว่าเพื่อนสลิ่มของคุณจะพอใจ และไม่มาวุ่นวายอะไรกับคุณอีก
ถ้านึกภาพไม่ออก ก็ลองนึกถึงภาพยนต์เรื่อง มัมมี่ ที่พี่ชายนางเอก กำลังจะเดินออกมา แล้วเจอพวกซอมบี้ที่โดนสาปเดินมาเป็นฝูง พร้อมเสียงคำราม "ฮิมโมเท ๆ ๆ ๆ " เขาก็รีบหันหลัง แล้วทำตาขวาง เดินตัวแข็งทื่อ ปากร้อง ฮิมโมเท ๆ ๆ ร่วมผสมโรงไปด้วยหน้าตาเฉย พวกซอมบี้คิดว่าเป็นพวกเดียวกัน ก็ไม่ทำร้าย
แค่นี้ การใช้ชีวิตของคุณในวงล้อมของสลิ่มก็จะปลอดภัย ไร้ความกังวล
เชื่อผมเถอะ เพราะผมทำธุรกิจกับลูกค้าในภาคใต้ ทำตัวกลมกลืนผสมโรงไปกับพวกเขา แล้วเขาจะนับพวกคุณเป็นพวกอย่างไม่ตะขิดตะขวง เขาจะมองว่าคุณเป็นคนฉลาด ในขณะที่คุณแอบหัวเราะอยู่ในใจ โดยที่เขาไม่มีทางรู้
ปากคุณอาจพูดในสิ่งที่เขาอยากฟัง ส่วนในใจของคุณ คิดอะไรให้เก็บไว้ข้างใน
และเอามันออกมาใช้ ในวันที่คุณลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง
เท่านั้นก็พอ