เขียนหนังสืออย่างไรให้ออกมา
" ดีและมีประสิทธิภาพได้ ใน 30 วัน "
เชื่อไหมว่าเราสามารถเขียนเรื่องราวเพื่อทำออกมาเป็นหนังสือสักเล่ม ที่ดีและมีประสิทธิภาพ ได้ภายใน 30 วันเท่านั้น ไม่น่าเชื่อ มันจะทันจริงเหรอ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะเคยมีคนทำได้มาแล้ว แถมหลายคนก็ประสบความสำเร็จอีกด้วย แล้วจะทำอย่างไรล่ะ วันนี้มีวิธีมาบอกกัน ง่ายๆ ไม่ยากใครก็ทำได้ ลองดูก็ไม่เสียหายนะ
ในโลกของนิยาย อะไรคือสิ่งที่ดีทีสุด ในการสร้างสรรค์การเขียนหนังสือ นักเขียนบางคน ชอบที่จะพล็อตเรื่อง และแนวความคิดของพวกเขาออกมาก่อน บางคนก็เขียนไปเรื่อยๆ โดยไม่มีจุดมุ่งหมาย แล้วเนื้อเรื่องในนิยายของเขา ก็จะแสดงความเป็นตัวตนเขาออกมา
นักเขียนแนวสารคดีก็ไม่ต่างกัน คือเขียนเรื่องราวจากเรื่องจริง พวกเขาจะวางโครงเรื่อง จุดเด่นให้กับ เรื่องราวของเขาก่อน ที่จะใส่เนื้อหาและคำพูดลงไป เชื่อมโยงเรื่องราว และดำเนินเรื่องไปจนถึงตอนจบ แน่นอนว่าพวกเขารู้อยู่แล้วว่าเรื่องนั้นมันจบลงอย่างไร
การวางแผน ทางด้านของหนังสือ
หากเราต้องการที่จะเขียนหนังสือ ที่มีความยาวมากๆ ภายใน 30 วัน จะทำอย่างไรให้มันง่ายดาย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เราต้องมีการวางแผน ระดมความคิด เรื่องราว ในหัวออกมาก่อน ว่าจะเขียนออกมาแนวไหน เนื้อเรื่องประมาณไหน ไปจนถึงการกำหนดเรื่องราว ขอบเขต ในแต่ละตอน พูดง่ายๆ ว่าเขียนพล็อตเรื่องออกมาก่อน
ส่วนการเขียนแนวสารคดี ถ้าอยากให้ออกมาดีและมีประสิทธิภาพแนะนำว่าให้เขียน เป็นตารางเนื้อหา หรือกำหนดเป็นตอนๆ เพื่อที่จะได้เขียนเรื่องราวได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็ว
แต่ถ้าตอนไหนไม่อยากลงรายละเอียดมาก อาจสามารถใช้สัญลักษณ์ หรือหาจุดเด่นอะไร ที่สามารถบ่งบอก เหตุการณ์ สถานที่ ในฉากนั้นๆ แทนก็ได้ จะได้ไม่เสียเวลาเล่าให้ยืดเยื้อนะจ๊ะ
การวางแผนทางด้านธุรกิจ
เพื่อผลิตหนังสือให้ออกมาดีจริงๆ ภายใน 30 วัน จะต้องทำ 2 อย่าง ก่อนที่จะเริ่มลุย ทางด้านการตลาดและการแข่งขัน คือต้องทำออกมาให้ตรงกับความต้องการของตลาด และกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ที่คิดว่าพวกเขาจะชอบ และมีโอกาสซื้อหนังสือของเราเสียก่อน ประการแรกจะต้องแน่ใจด้วยว่า กลุ่มเป้าหมายของเรามีจำนวนมากพอที่จะคุ้มกับการลงทุน และประการที่สอง สำรวจคู่แข่งทางด้านการตลาด หนังสือที่มีเนื้อหาเรื่องราวใกล้เคียงกับเรา และเราต้องเขียนให้แตกต่างจากหนังสือเหล่านั้นที่เคยตีพิมพ์มาแล้วด้วย ซึ่งถือเป็นการช่วยลดคู่แข่งทางด้านการตลาดได้ด้วยอีกนะ เช่น ลองไปเดินสำรวจตามร้านหนังสือ ดูรูปแบบปก เนื้อหาหนังสือแนวเดียวกับเรา เราจะได้มีวิธีในการทำให้มันแตกต่าง แปลกใหม่ เพื่อลดความซ้ำซากจำเจ และยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้อ่านอีกด้วย
พร้อมที่จะเขียน
เมื่อวางแผนทั้งทางด้านของหนังสือ และด้านธุรกิจเรียบร้อยแล้ว เท่านี้เราก็พร้อมที่จะเขียนหนังสือของเราโดยไม่ต้องลังเลแล้ว เริ่มต้นกันได้เลย
พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
มันเป็นทางเดียวที่จะพิสูจน์ตัวคุณเอง โดยการให้ผู้อื่นลองอ่านงานเขียนของเรา และให้พวกเขาวิจารณ์ และฟังคำแนะนำ เพื่อจะได้รู้จุกบกพร่องของเราเอง หรือถ้าผลงานเราพอใช้ได้ ก็อาจส่งประกวดเวทีนู้น เวทีนี้ ที่เขาเปิดรับไปเลย จะได้รู้ฝีมือของตัวเอง ><
ทำมันอีกครั้ง และอีกครั้ง
ถ้าการเขียนของเรายังไม่ประสบความสำเร็จ เราก็ควรพร้อมที่จะแก้และปรับปรุงผลงานของเราอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าเขียนไปไม่กี่ครั้ง พอโดนวิจารณ์มาก็เริ่มท้อ และล้มเลิกความตั้งใจไป ทางที่ดีควรจะเอาข้อเสียของเรานั้นมาปรับปรุงแก้ไข และควรทำใหม่ให้เต็มที่ทุกครั้งด้วยนะ นักเขียนมืออาชีพคือนักเขียนมือสมัครเล่น ที่ไม่ยอมเลิกเขียนนะจำไว้
เพียงเท่านี้ความสำเร็จคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ง่ายดายและรวดเร็ว แถมมีประสิทธิภาพอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เหล่านี้มันก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและความมุ่งมันของเราด้วยนะ วิธีการจะดีหรือไม่ดีได้ผลเพียงใด มันก็ไม่มีความหมายหรอก ถ้าเราไม่ลงมือทำ สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคน ( >___< )V
ที่มา :
http://praphansarn.com/forum_new/comment/3/7782
เขียนหนังสืออย่างไรให้ออกมา " ดีและมีประสิทธิภาพได้ ใน 30 วัน "
" ดีและมีประสิทธิภาพได้ ใน 30 วัน "
เชื่อไหมว่าเราสามารถเขียนเรื่องราวเพื่อทำออกมาเป็นหนังสือสักเล่ม ที่ดีและมีประสิทธิภาพ ได้ภายใน 30 วันเท่านั้น ไม่น่าเชื่อ มันจะทันจริงเหรอ แต่ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ เพราะเคยมีคนทำได้มาแล้ว แถมหลายคนก็ประสบความสำเร็จอีกด้วย แล้วจะทำอย่างไรล่ะ วันนี้มีวิธีมาบอกกัน ง่ายๆ ไม่ยากใครก็ทำได้ ลองดูก็ไม่เสียหายนะ
ในโลกของนิยาย อะไรคือสิ่งที่ดีทีสุด ในการสร้างสรรค์การเขียนหนังสือ นักเขียนบางคน ชอบที่จะพล็อตเรื่อง และแนวความคิดของพวกเขาออกมาก่อน บางคนก็เขียนไปเรื่อยๆ โดยไม่มีจุดมุ่งหมาย แล้วเนื้อเรื่องในนิยายของเขา ก็จะแสดงความเป็นตัวตนเขาออกมา
นักเขียนแนวสารคดีก็ไม่ต่างกัน คือเขียนเรื่องราวจากเรื่องจริง พวกเขาจะวางโครงเรื่อง จุดเด่นให้กับ เรื่องราวของเขาก่อน ที่จะใส่เนื้อหาและคำพูดลงไป เชื่อมโยงเรื่องราว และดำเนินเรื่องไปจนถึงตอนจบ แน่นอนว่าพวกเขารู้อยู่แล้วว่าเรื่องนั้นมันจบลงอย่างไร
การวางแผน ทางด้านของหนังสือ
หากเราต้องการที่จะเขียนหนังสือ ที่มีความยาวมากๆ ภายใน 30 วัน จะทำอย่างไรให้มันง่ายดาย รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เราต้องมีการวางแผน ระดมความคิด เรื่องราว ในหัวออกมาก่อน ว่าจะเขียนออกมาแนวไหน เนื้อเรื่องประมาณไหน ไปจนถึงการกำหนดเรื่องราว ขอบเขต ในแต่ละตอน พูดง่ายๆ ว่าเขียนพล็อตเรื่องออกมาก่อน
ส่วนการเขียนแนวสารคดี ถ้าอยากให้ออกมาดีและมีประสิทธิภาพแนะนำว่าให้เขียน เป็นตารางเนื้อหา หรือกำหนดเป็นตอนๆ เพื่อที่จะได้เขียนเรื่องราวได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็ว
แต่ถ้าตอนไหนไม่อยากลงรายละเอียดมาก อาจสามารถใช้สัญลักษณ์ หรือหาจุดเด่นอะไร ที่สามารถบ่งบอก เหตุการณ์ สถานที่ ในฉากนั้นๆ แทนก็ได้ จะได้ไม่เสียเวลาเล่าให้ยืดเยื้อนะจ๊ะ
การวางแผนทางด้านธุรกิจ
เพื่อผลิตหนังสือให้ออกมาดีจริงๆ ภายใน 30 วัน จะต้องทำ 2 อย่าง ก่อนที่จะเริ่มลุย ทางด้านการตลาดและการแข่งขัน คือต้องทำออกมาให้ตรงกับความต้องการของตลาด และกำหนดกลุ่มเป้าหมาย ที่คิดว่าพวกเขาจะชอบ และมีโอกาสซื้อหนังสือของเราเสียก่อน ประการแรกจะต้องแน่ใจด้วยว่า กลุ่มเป้าหมายของเรามีจำนวนมากพอที่จะคุ้มกับการลงทุน และประการที่สอง สำรวจคู่แข่งทางด้านการตลาด หนังสือที่มีเนื้อหาเรื่องราวใกล้เคียงกับเรา และเราต้องเขียนให้แตกต่างจากหนังสือเหล่านั้นที่เคยตีพิมพ์มาแล้วด้วย ซึ่งถือเป็นการช่วยลดคู่แข่งทางด้านการตลาดได้ด้วยอีกนะ เช่น ลองไปเดินสำรวจตามร้านหนังสือ ดูรูปแบบปก เนื้อหาหนังสือแนวเดียวกับเรา เราจะได้มีวิธีในการทำให้มันแตกต่าง แปลกใหม่ เพื่อลดความซ้ำซากจำเจ และยังเป็นการเพิ่มทางเลือกให้กับผู้อ่านอีกด้วย
พร้อมที่จะเขียน
เมื่อวางแผนทั้งทางด้านของหนังสือ และด้านธุรกิจเรียบร้อยแล้ว เท่านี้เราก็พร้อมที่จะเขียนหนังสือของเราโดยไม่ต้องลังเลแล้ว เริ่มต้นกันได้เลย
พูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น
มันเป็นทางเดียวที่จะพิสูจน์ตัวคุณเอง โดยการให้ผู้อื่นลองอ่านงานเขียนของเรา และให้พวกเขาวิจารณ์ และฟังคำแนะนำ เพื่อจะได้รู้จุกบกพร่องของเราเอง หรือถ้าผลงานเราพอใช้ได้ ก็อาจส่งประกวดเวทีนู้น เวทีนี้ ที่เขาเปิดรับไปเลย จะได้รู้ฝีมือของตัวเอง ><
ทำมันอีกครั้ง และอีกครั้ง
ถ้าการเขียนของเรายังไม่ประสบความสำเร็จ เราก็ควรพร้อมที่จะแก้และปรับปรุงผลงานของเราอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่ว่าเขียนไปไม่กี่ครั้ง พอโดนวิจารณ์มาก็เริ่มท้อ และล้มเลิกความตั้งใจไป ทางที่ดีควรจะเอาข้อเสียของเรานั้นมาปรับปรุงแก้ไข และควรทำใหม่ให้เต็มที่ทุกครั้งด้วยนะ นักเขียนมืออาชีพคือนักเขียนมือสมัครเล่น ที่ไม่ยอมเลิกเขียนนะจำไว้
เพียงเท่านี้ความสำเร็จคงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม ง่ายดายและรวดเร็ว แถมมีประสิทธิภาพอีกด้วย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เหล่านี้มันก็ขึ้นอยู่กับความตั้งใจและความมุ่งมันของเราด้วยนะ วิธีการจะดีหรือไม่ดีได้ผลเพียงใด มันก็ไม่มีความหมายหรอก ถ้าเราไม่ลงมือทำ สู้ๆ นะคะ เป็นกำลังใจให้ทุกคน ( >___< )V
ที่มา : http://praphansarn.com/forum_new/comment/3/7782