เคยได้ยินชื่อเธอครั้งแรก เมื่อก่อนการเลือกตั้ง 3 ก.ค 54 ไม่นาน ตอนนั้นยัง

ลังเลเรื่องความสามารถ และสติปัญญาของเธอ แต่เมื่อเธอได้ผ่านมติส่วนใหญ่

ของมหาชน เข้ารับตำแหน่งหน้าที่ที่สำคัญ ผ่านเหตุการณ์และวิกฤตมาหลายครั้ง

ด้วยความอ่อนโยนและจริงใจ ประกอบกับ ความเป็นเบญจกัลยานีในตัวเธอ ทำให้

รู้สึกว่า "นี่คือผู้เดียวในประเทศไทยที่เหมาะสมกับตำแหน่งหน้าที่ที่สำคัญที่สุดในทางการเมือง

ในขณะนี้ " เธอผู้นี้ก็คือ ท่านนายกรัฐมนตรี น.ส ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร


เมื่อวานได้ดูการถ่ายทอด อภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านแล้ว ได้เห็นวุฒิภาวะ ส.ส ของ ปชป

พรรคที่ได้ชื่อว่าค้านเก่งที่สุด พรคที่มีประวัติมา 60 กว่าปี เทียบกับนักการเมืองที่มีพรรษาการเมือง

มาแค่ 2 ปีเศษอย่างท่านนายกแล้ว สายตาของฝ่ายค้านทุกคนที่จ้องมองนายกยิ่งลักษณ์ เหมือน

พญามารที่จ้องจะกระชากวิญญาณท่านนายกได้ทุกเวลา แต่สายตาท่านนายก เปรียบเหมือน มหรรณพ

ที่สดใสกว้างใหญ่ไพศาลเวิ้งว้างไร้ขอบเขต ที่สามารถบรรจุเหล่าดวงวิญญานที่เคียดแค้นทั้งมวลในโลกนี้ได้

ความนิ่งและเยือกเย็นสุภาพอ่อนโยนของท่านนายกเหนือกว่านายกรัฐมนตรีในอดีตทุกคนของไทย

นี่คือคุณสมบัติอันโดดเด่นที่สุดของท่านนายกยิ่งลักษณ์


วิกฤตการณ์การเมืองครั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากความโอหังของทักษิณ ที่ทำให้ม็อบสามารถจุดติดได้ แต่นายกยิ่งลักษณ์

ก็สามารถถอดชนวนนี้ได้ แม้จะสายไปบ้างแต่ก็บรรเทาไปได้มาก เพราะฉะนั้นถึงเวลาแล้วฝ่ายประชาธิปไตยทุกคน

ควรที่จะสนับสนุนนายกยิ่งลักษณ์เต็มที่  ให้นายกคนนี้ยืนหยัดฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ ลืมข้อข้องใจที่มีอยู่ หันมาร่วม

ใจต้านภัยพาลจากเผด็จการอย่าให้กงล้อประวัติศาสตร์เมื่อหลายปีที่ผ่านมาซ้ำรอยได้


ท่านนายก ยิ่งลักษณ์ครับ ขอให้ท่านรับทราบด้วยว่า "ไม่ว่าวิกฤตสถานการณ์จะลงเอยอย่างไร แต่สำหรับผม

แล้วจะขอสนับสนุนท่านนายกตลอดไป

ป.ล ปกติไม่ค่อยใช้สรรพนามเรียกใครว่า "ท่าน" แต่สำหรับผู้หญิงคนนี้แล้ว ยอมเรียกด้วยความเต็มใจ