ลูซิเฟอร์ ..เส้นทางซาตาน ตอนที่ 3

กระทู้สนทนา
ลิ้งค์ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/31256899
ลิงค์ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/31276344
Chapter 3 ..ลัทธิ

ณ ประเทศอิตาลี

    บ้านร้างในป่าแห่งหนึ่งแถบชานเมืองของอิตาลี กลายเป็นสถานที่ทำพิธีกรรมของลัทธิบูชาซาตาน
บ้านหลังนี้ตั้งอยู่อย่างโดดเดี่ยว ห่างจากตัวเมืองและบ้านหลังอื่นๆ นับสิบไมล์ คนปกติจะไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าใกล้ เนื่องจากคนที่เข้าไป ไม่เคยมีใครได้กลับออกมาสักคน
    แต่คืนนี้บ้านร้างกลับมีแสงไฟและเสียงผู้คนมารวมตัวกัน ตัวบ้านมีขนาดใหญ่ อาณาบริเวณกว้างขวาง สามารถรองรับจำนวนคนที่มาได้จำนวนมาก จึงเหมาะแก่การประกอบพิธีกรรมต่างๆ

    ค่ำคืนนี้พระจันทร์เต็มดวง ท้องฟ้าแจ่มใส แต่มีบางช่วงที่มีเมฆลอยมาบดบังดวงจันทร์เอาไว้ แต่เพียงไม่กี่อึดใจแสงจันทร์ก็แทรกผ่านม่านเมฆ ส่องแสงสว่างลงมาอีกครั้ง

จันทราส่องแสง กระทบแผ่นพสุธา
เสียงนกฮูกร้องแว่วมา ..วิเวกวังเวงใจ

    มีคนนับร้อยนับพันทยอยเข้าไปในบริเวณบ้านหลังนี้ โดยแต่ละคนจะแต่งกายในลักษณะเดียวกัน นั่นคือ สวมชุดสีดำยาวจนถึงเท้า ดึงหมวกที่ติดกับคอเสื้อขึ้นมาคลุมศีรษะเอาไว้ เดินก้มหน้ามองต่ำจนไม่สามารถเห็นหน้าได้ชัด
    เมื่อสมาชิกทุกคนเดินทางมาถึงแล้ว ก็ได้มายังลานประกอบพิธี แล้วยืนเป็นวงกลม ล้อมรอบกองไฟที่กำลังลุกโชนโชติช่วงสว่างไสว

เปลวไฟร้อนแรง แผดเผาให้ร้อนรน
อำนาจมืดที่หลับใหล กำลังจะถูกปลุกขึ้นมา
    นี่คือลัทธินอกรีดลัทธิหนึ่ง ซึ่งกำลังแพร่กระจายในประเทศอิตาลี นับวันลัทธินี้จะขยายเป็นองค์กรขนาดใหญ่ขึ้น ผู้คนนับวันยิ่งหลงผิด จิตของพวกเขาเข้าสู่ความมัวเมาและดำมืด
    หญิงสาวผู้หนึ่งย่างกรายออกมาจากตัวบ้าน สมาชิกทุกคนต่างเอาหมวกลง เพื่อเป็นเกียรติแด่นาง จึงทำให้สามารถเห็นใบหน้าของแต่ละคนได้อย่างชัดเจน

อาซานติ ..หญิงสาวผู้ถวายตัวเป็นข้ารับใช้จอมราชันย์แห่งความมืด เดินลงบันไดมาอย่างสง่าผ่าเผย ใครเลยจะคาดคิดว่าหญิงสาวที่สวยงาม จะมีด้านมืดที่น่ากลัวยิ่งกว่าใครในที่นี้
อาซานติสวมเสื้อเกาะอกและกางเกงตัวจิ๋ว โดยมีกระโปรงซีทรูสีดำผ่าสูงขึ้นมาจนถึงต้นขา สวมทับไว้ภายนอก
ความโปร่งของเนื้อผ้าไม่สามารถปกผิดเรือนร่างได้มากนัก ทำให้นางเซ็กซี่จนเกินบรรยาย อายไลเนอร์และปากสีดำ ยิ่งเพิ่มความลึกลับน่าค้นหาให้แก่ผู้พบเห็น

    สายตาของอาซานติมองไปยังสมาชิกใหม่ที่ยังไม่เคยเห็นหน้า นางเดินเข้าไปใกล้เรื่อยๆ จนยืนเผชิญหน้ากันในระยะประชั้นชิด
    เมื่อได้เห็นจำนวนสมาชิกทั้งเก่าและใหม่เพิ่มจำนวนมากขึ้น อาซานติก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
นางเดินมายืนอยู่กลางวงกลม ซึ่งรายล้อมไปด้วยสมาชิก ใกล้ๆ ร่างกายมีกองไฟกำลังลุกไหม้กองฟืน ส่องสว่างโชติช่วงไปทั่วบริเวณ

“ยินดีต้อนรับทุกท่าน ทั้งสาวกเก่าและสาวกที่มาใหม่ ข้าดีใจที่ได้เห็นลัทธิของเราเติบโตขึ้น ทุกวันที่ 1 พฤษภาคม พวกเราเหล่าปิศาจและแม่มดจะมารวมตัวกัน เพื่อสวดภาวนาให้กับลู-ซิเฟอร์ จอมราชันย์แห่งโลกมืด”อาซานติพูดแล้วเดินเข้าไปใกล้กองไฟมากขึ้นทุกทีๆ
“แต่ละวันมีคนมาขอให้ช่วยต่างๆ นาๆ และข้าก็ไม่เคยเพิกเฉย ท่านลูซิเฟอร์ไม่เคยทอดทิ้งผู้ที่มีศรัทธา ลูซิเฟอร์คือพระเจ้าของข้า ข้าสวดอ้อนวอนต่อเขา เพราะอ้อนวอนต่อเขา ข้าจึงเป็นอมตะ ไม่แก่ ไม่เจ็บ ..ไม่ตาย”พูดจบนางก็เดินเข้ากองไฟ ท่ามกลางสายตาของผู้คนนับพัน ที่จ้องมองมาอย่างอัศจรรย์ใจ
    ก้อนเมฆลอยเลื่อนเข้ามาใกล้ดวงจันทร์ แล้วก่อตัวเป็นใบหน้าของปิศาจร้าย ท้องฟ้าที่กระจ่างใส พลันกลับกลายเป็นมืดมน ปราศจากความสว่างในบัดดล

กองไฟลุกโชน แผดเผากายให้ไหม้เป็นจุล
อาซานติกลายเป็นเถ้าถ่านในพริบตา ร่างของนางหายไป เพราะการเผาไหม้ของเปลวเพลิง

    ผู้คนในบริเวณพิธียืนนิ่ง ไม่ไหวติง ทุกสายตาจ้องมองไปที่กองไฟ ราวกับรอคอยปาฏิหาริย์บางอย่างที่พวกเขาเชื่อว่าจักต้องบังเกิด
เมื่อไฟมอดและดับแสงลง ร่างของอาซานติจึงค่อยๆ ก่อตัวขึ้นใหม่จากเถ้าถ่าน แล้วกลับคืนร่างเช่นเดิม ราวกับว่าก่อนหน้าไม่ได้เกิดอะไรขึ้น ราวกับร่างกายไม่เคยโดนเผาไหม้มาก่อน
อาซานติลืมตา แล้วเงยขึ้นมองท้องฟ้าเบื้องบน สายตามองอยู่ที่ก้อนเมฆซึ่งก่อตัวเป็นรูปหน้าปีศาจ ราวกับมีดวงตาที่กำลังจับจ้องมายังบริเวณพิธี

“เห็นไหม ข้าไม่ตาย ..ข้าคือความอมตะ”อาซานติกล่าว ขณะที่สายตาจดจ้องอยู่บนท้องฟ้าซึ่งปรากฏดวงตาของปิศาจมองลงมา
“โอ มายลอร์ด ข้าขอบคุณในความเมตตาของท่าน ขอบคุณที่ท่านฟังคำอ้อนวอนของข้า จิตและวิญญาณข้าเป็นของท่านแล้ว โปรดประทานพลังและอำนาจให้ข้าด้วย”
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่