คำตอบคือ....... ได้........
แต่ขอให้เข้าใจประเด็นหลักของกระทู้นี้เสียก่อน ว่า.....
ประชาธิปไตย คือระบอบการปกครอง ซึ่งอำนาจการบริหารรัฐมาจาก
เสียงข้างมาก ของประชาชน
ประชาธิปไตยได้ให้
สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของ
เสียงข้างน้อย เพื่อที่จะโน้มน้าวให้เสียงข้างมากรู้ว่า รัฐบาลที่ตนเลือกนั้น มีข้อบกพร่องในการบริหารประเทศ หากสำเร็จ.... เสียงข้างน้อย ก็จะเป็น เสียงข้างมากในที่สุด
.
.
ต่อไป ให้คุณคิด....
คิดอย่างตรงไปตรงมาว่า “คุณและ
ประชาชน”ออกมา
ต่อต้านรัฐบาลนี้ เป็นเสียงส่วนมาก หรือ เสียงส่วนน้อย
ถ้าคุณเป็นเสียงส่วนมาก.............. ทำไมคุณถึงไม่รอเลือกตั้ง ?
ถ้าคุณเป็นเสียงส่วนน้อย ........... คุณได้ให้ความรู้, โน้มน้าวเสียงส่วนใหญ่ ตาม “สิทธิของเสียงส่วนน้อย” ตามหลักของประชาธิปไตยแล้วหรือยัง ??
ถ้าคุณได้ให้ความรู้แล้ว......... คุณคิดว่าสิ่งที่เหล่านั้น จะโน้มน้าวอีกฝ่ายได้หรือไม่ ??
ถ้าคุณยังไม่ได้ให้ความรู้ ......... คุณคิดว่า การที่คุณออกมาชุมนุมนั้น แก้ไขปัญหาได้หรือไม่ และ ถูกกฏหมายหรือไม่ ?
ถ้าถูกกฏหมาย ..... คุณคิดว่าสิ่งที่คุณทำนั้น จะโน้มน้าวอีกฝ่ายได้หรือไม่ ??
ถ้าผิดกฏหมาย ..... อะไรคือเหตุผลให้คุณทำ ?? และสิ่งที่คุณทำนั้น จะโน้มน้าวอีกฝ่ายได้หรือไม่ ??
.
.
และคำถามสุดท้าย..สำหรับคนที่ “สนันสนุน” และ “ต่อต้าน”รัฐบาล.....
-คุณคิดว่าคุณได้ รับ/หา ข้อมูลข่าวสารมากเพียงพอที่จะต่อต้านหรือสนันสนุนรัฐบาลนี้แล้วหรือยัง?? หรือคุณแค่ไปฟังคนอื่นเขามา?
........... มาถึงจุดนี้...... หลายๆคนที่สละเวลาคิดตามคำถามที่ผมตั้ง จะรู้ได้ว่า
แทบจะไม่มีทางให้คนฝ่ายตรงข้ามจำนวนมากนั้นเปลี่ยนความคิด 180 องศาได้
การที่จะทำให้คนนั้นเปลี่ยนมุมมองได้ คงมีเพียงแค่สองวิธี คือ
1.การเกิดวิกฤติ
เช่น กระเกิดวิกฤติโรคระบาด Black Death ในช่วงปี 1348-1350 วิกฤติครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 75 ถึง 200 ล้านคน ..... คนหลายคนเชื่อว่า โรคระบาดนี้ เป็น
คำสาปของปีศาจ การทำพิธีบูชาต่างๆจะทำให้โรคร้ายนี้
หายไป ..... วิกฤตินี้ทำให้พวกเขาได้ “เปลี่ยนมุมมอง” แบบ 180 องศา ไปยึดหลักวิทยาศาสตร์ เพราะ มุมมองที่พวกเขาเคยเชื่อนั้น
ไม่สามารถช่วยให้พวกเขาพ้นจากความตายได้
2.การเกิดปัญญา
อันนี้หลายๆคนคงทราบว่าการเกิดปัญญานั้นไม่ใช่
เรื่องง่ายในสังคม แต่มันก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เช่นการเปลี่ยนมุมมองแบบ 180 องศา ว่าโลกนั้นกลม ซึ่งขัดต่อความเชื่อทางศาสนาในสมัยนั้น
คำถามคือ.... คุณจะทำให้คนส่วนมากนั้นเปลี่ยนมุมมองโดยการ ทำให้เกิดวิกฤติ (เกิดความรุนแรงในประเทศ) หรือจะเลือกให้คนส่วนมากนั้นเกิดปัญญา....
คำตอบคือ....
ระบอบประชาธิปไตยไงครับ ระบอบการปกครองที่เป็นที่ยอมรับของสากล ว่าเป็นระบอบที่จัดการกับปัญหาความขัดแย้งโดย
หลีกเลี่ยงการเกิดความรุนแรงได้ดีที่สุด
มาถึงจุดนี้ หลายคนคงมีคำถามในใจ...
-----คำถามยอดฮิตข้อที่ 1.-----
-ที่ว่าๆ มาให้ทำตามกฏหมาย ทำตามระบอบประชาธิปไตยเนี่ย ดูรัฐบาลด้วยสิ ทำผิดกฏหมาย ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินมาแล้ว ไม่ยอมรับ แล้ว จะให้ยอมรับรัฐบาลนี้ได้อย่างไร? บ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป !
ตอบ ศาลรัฐธรรมนูญไม่มี “อำนาจ”ที่จะวินิจฉัยเรื่องนี้ครับ การใช้มาตรา 68 นั้น เป็นเรื่องของสิทธิและเสรีภาพของประชาชน แต่กรณีนี้
รัฐสภาใช้อำนาจตามมาตรา 291 . คำวินัจฉัยในส่วนของกระบวนการ และเนื้อหา ก็ยังมีข้อบกพร่องนะครับ (ขอเชิญให้ไปค้นคว้าหาข้อมูลก่อนแล้วค่อยมาถกกัน)
-----คำถามยอดฮิตข้อที่ 1(ต่อ)-----
-แต่ศาลได้วินัจฉัยออกมาแล้วนะ ต้องยอมรับสิ มาตรา 216 ได้บอกไว้ชัดเจนว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นมีผลผูกพันต่อ
รัฐสภาด้วย
ตอบ มาตรา 197 เขียนไว้ว่า ศาลต้องพิจารณาพิพากษาอรรถคดีเป็นอำนาจของศาลซึ่ง
ต้องดำเนินการให้เป็นไปโดยยุติธรรม
ตามรัฐธรรมนูญ ตามกฏหมาย และในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์..... เพราะฉะนั้นการที่ศาลรัฐธรรมนูญอ้างมาตรา 68 นั้น ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ (รวมถึงคำวินัจฉัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการและเนื้อหาด้วย) คำวินัจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจึง
ใช้ผูกพันรัฐสภา “ไม่ได้”
-----คำถามยอดฮิตข้อที่ 2.-----
-ประชาธิปไตยก็ประชาธิปไตย... แต่ปัญหาคือเสียงส่วนใหญ่นั้น “ไร้คุณภาพ” ปล่อยให้มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร ??... เพราะท้ายที่สุดแล้วก็ได้
สภาผัวเมีย หาผลประโยชน์ให้พวกพ้องตัวเองทั้งนั้น ประเทศชาติ เศรษฐกิจ
ล่มจมแน่นอน
ตอบ ก็ให้มันล่มจมไปสิครับ แต่ !! อย่าลืมว่า ประเทศไทยเริ่มมีการเลือกตั้งครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2476 มาถึงปัจจุบันก็ 25 ครั้งแล้ว มีรัฐประหารมาแล้ว
ทั้งหมด 12 ครั้ง.... การรัฐประหารและการต่อต้านรัฐบาล เช่นการปิดสนามบิน การเผาห้างสรรพสินค้า หรือการเกิดความรุนแรงต่างๆนั้น ทำให้ประเทศชาติและเศรษฐกิจ “ล่มจม” มาแล้วทั้งสิ้น (ยังไม่รวมความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากเสียงส่วนมากยังไม่อำนาจในการปกครองประเทศ)
.....อยากให้ทุกท่านลองจินตนาการว่าประเทศไทยจะพัฒนาไปถึงไหน หากเรามีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ตั้งแต่ 80 ปีที่แล้ว
ถ้า... ขอเน้นว่า “ถ้า”.... ระบอบทักษิณ มันชั่วร้ายจริงๆ มันจะทำให้ประเทศล่มจมอย่างที่หลายท่านกลัวจริงๆ
วิกฤติครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งอื่น
วิกฤติครั้งนี้จะกระทบคนไทยทุกคน รวมถึง
คนส่วนใหญ่ที่เลือกระบอบทักษิณด้วย วิกฤตินี้จะทำให้คนเหล่านั้นเกิดปัญญาและเปลี่ยนมุมมองได้เองในที่สุด
“ถ้าคุณมัวแต่ไปล่มรัฐบาลที่เขาเลือกมา
ด้วยวิธีนอกระบบ คนเหล่านั้นจะเกิดปัญญาได้อย่างไร ถ้าเขาไม่โดนกับตัวเอง?”... คุณต้องให้เขาลิ้มลองความสูญเสียที่เกิดจากความชั่วร้ายของระบบทักษิณเอง เขาจึงจะเกิดปัญญา
สรุปง่ายๆ คือจะการที่จะทำให้เสียงส่วนใหญ่ที่ท่านคิดว่าไร้คุณภาพ..... เปลี่ยนมุมมอง.... คือ “ระบอบประชาธิปไตย”
-----คำถามยอดฮิตข้อที่ 3------
-ทำไมเราไม่ขจัดระบอบทักษิณให้ออกไปจากระบบแบบ
ถอนรากถอนโคนเสียก่อน ประเทศจะได้ไม่เสียหาย แล้วค่อยให้ประชาชนมาเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย
ที่ไม่มีระบอบทักษิณเป็นตัวเลือก ให้มีแต่พรรคที่มีคุณภาพ พรรคของคนรุ่นใหม่ เป็นตัวเลือกของประชาชน
ตอบ แล้วถ้าพรรคที่ถูกเลือกมาใหม่นั้น ดำเนินนโยบายซื้อใจเสียงส่วนใหญ่ แล้วโกงกินชาติบ้านเมืองแบบที่ระบอบทักษิณเคยทำล่ะ ? ประเทศไทยต้องกลับเข้าสู่วงเวียนความขัดแย้งเดิมอีกหรือ? ....... (ผมคิดว่ามาถึงจุดนี้แล้ว คำถามนี้ไม่จำเป็นต้องตอบ)
นี้คือ
ความสามารถอันโดดเด่นของระบอบประชาธิปไตย ระบอบการปกครองนี้จะช่วยพัฒนาความคิดของประชาชน และลดความรุนแรงที่เกิดจากความขัดแย้งได้ดีที่สุด
คำถามสุดท้ายคือ...... แล้วไงต่อ???
-สำหรับผู้ชุมนุมที่ต่อต้านรัฐบาล
ขอให้ท่านใช้สิทธิและเสรีภาพให้การแสดงออกของท่านต่อไปครับ แต่ขอให้อยู่ภายใต้กฏหมาย และให้ข้อมูลที่
เที่ยงตรง เพื่อโน้มน้าวเสียงส่วนใหญ่ให้เห็นชอบกับท่าน
-สำหรับผู้ชุมนุมที่สนับสนุนรัฐบาล
ขอให้ท่านใช้สิทธิและเสรีภาพให้การแสดงออกของท่านต่อไปครับ แต่ขอให้อยู่ภายใต้กฏหมาย และ ขอให้ท่าน
เปิดใจรับฟังเหตุผล ข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม อย่างมีสติและเป็นกลาง
-สำหรับคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ
ขอให้ท่านแสดงวิสัยทัศน์ ให้กับชาวต่างชาติ ที่สงสัยเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองของไทยอย่างมีเหตุผล..... ถ้าวิสัยทัศน์ของท่านนั้นเป็นประชาธิปไตยและมีเหตุผลแล้ว .. มันจะเป็นความชอบธรรมที่จะเรียกร้องความยุติธรรมจากต่างชาติ หากมีการรัฐประหารหรือการโค่นล้มระบอบประชาธิปไตย
-สำหรับสมาชิกพันทิป
หากสมาชิก “เห็นด้วย”กับกระทู้นี้ ....... ขอให้ท่านดึงกระทู้นี้ไม่ให้ตกไป และขอให้แชร์ไปในสังคมออนไลน์หากท่านเห็นว่ามันเป็นประโยชน์ต่อคนเหล่านั้น
หากสมาชิก “ไม่เห็นด้วย” กับกระทู้นี้..... ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่จะให้กระทู้ของผม เป็นที่ใช้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของท่าน
ผมขอฝากข้อความทิ้งท้ายไว้ 2 ข้อ
1. คนที่ไร้คุณภาพในนิยามของผมคือ....คนที่ขี้เกียจค้นคว้าหาข้อมูล ขี้เกียจอ่าน ...คนที่ตำหนิคนอื่นโดยปราศจากข้อมูล .. คนที่รับฟังข้อมูลจากบุคคลที่ท่านเชื่อถือ โดยไม่มีเหตุผลรองรับ
2. เมื่อถึงจุดๆหนึ่งในอนาคต ที่คนไทยทุกคน เข้าใจระบอบประชาธิปไตยอย่างถ่องแท้ ....“แต่” อำนาจสูงสุดยังไม่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้มาจากประชาชน..... ขอให้ท่านช่วยกันหาข้อมูล ว่าอะไรคือสิ่งขัดขวางระบอบประชาธิปไตยในประเทศที่เรารัก .... และช่วยเผยแพร่ข้อมูลนั้นให้กับคนส่วนใหญ่ โดยปราศจากอคติ .... ไม่ว่าบุคคล หรือ สถาบัน หรือสิ่งที่เป็นต้นเหตุนั้น จะ “อยู่เหนือหัว” หรือ “อยู่ใต้ดิน”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://4.bp.blogspot.com/-6YjHGgfDbwk/UjgYnmIXE4I/AAAAAAAAAYM/Sq6-UZIVBMc/s1600/536566_602376189782689_920497924_n.jpg
*แก้ไข 180 องศานะครับ 360 มันมุมเดิม = ="
จะทำให้พวกเสื้อแดงหรือพวกที่สนับสนุนรัฐบาล เปลี่ยนความคิด 180 องศาได้หรือไม่
แต่ขอให้เข้าใจประเด็นหลักของกระทู้นี้เสียก่อน ว่า.....
ประชาธิปไตย คือระบอบการปกครอง ซึ่งอำนาจการบริหารรัฐมาจาก เสียงข้างมาก ของประชาชน
ประชาธิปไตยได้ให้ สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกของ เสียงข้างน้อย เพื่อที่จะโน้มน้าวให้เสียงข้างมากรู้ว่า รัฐบาลที่ตนเลือกนั้น มีข้อบกพร่องในการบริหารประเทศ หากสำเร็จ.... เสียงข้างน้อย ก็จะเป็น เสียงข้างมากในที่สุด
.
.
ต่อไป ให้คุณคิด....คิดอย่างตรงไปตรงมาว่า “คุณและประชาชน”ออกมาต่อต้านรัฐบาลนี้ เป็นเสียงส่วนมาก หรือ เสียงส่วนน้อย
ถ้าคุณเป็นเสียงส่วนมาก.............. ทำไมคุณถึงไม่รอเลือกตั้ง ?
ถ้าคุณเป็นเสียงส่วนน้อย ........... คุณได้ให้ความรู้, โน้มน้าวเสียงส่วนใหญ่ ตาม “สิทธิของเสียงส่วนน้อย” ตามหลักของประชาธิปไตยแล้วหรือยัง ??
ถ้าคุณได้ให้ความรู้แล้ว......... คุณคิดว่าสิ่งที่เหล่านั้น จะโน้มน้าวอีกฝ่ายได้หรือไม่ ??
ถ้าคุณยังไม่ได้ให้ความรู้ ......... คุณคิดว่า การที่คุณออกมาชุมนุมนั้น แก้ไขปัญหาได้หรือไม่ และ ถูกกฏหมายหรือไม่ ?
ถ้าถูกกฏหมาย ..... คุณคิดว่าสิ่งที่คุณทำนั้น จะโน้มน้าวอีกฝ่ายได้หรือไม่ ??
ถ้าผิดกฏหมาย ..... อะไรคือเหตุผลให้คุณทำ ?? และสิ่งที่คุณทำนั้น จะโน้มน้าวอีกฝ่ายได้หรือไม่ ??
.
.
และคำถามสุดท้าย..สำหรับคนที่ “สนันสนุน” และ “ต่อต้าน”รัฐบาล.....
-คุณคิดว่าคุณได้ รับ/หา ข้อมูลข่าวสารมากเพียงพอที่จะต่อต้านหรือสนันสนุนรัฐบาลนี้แล้วหรือยัง?? หรือคุณแค่ไปฟังคนอื่นเขามา?
........... มาถึงจุดนี้...... หลายๆคนที่สละเวลาคิดตามคำถามที่ผมตั้ง จะรู้ได้ว่า แทบจะไม่มีทางให้คนฝ่ายตรงข้ามจำนวนมากนั้นเปลี่ยนความคิด 180 องศาได้
การที่จะทำให้คนนั้นเปลี่ยนมุมมองได้ คงมีเพียงแค่สองวิธี คือ
1.การเกิดวิกฤติ
เช่น กระเกิดวิกฤติโรคระบาด Black Death ในช่วงปี 1348-1350 วิกฤติครั้งนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 75 ถึง 200 ล้านคน ..... คนหลายคนเชื่อว่า โรคระบาดนี้ เป็นคำสาปของปีศาจ การทำพิธีบูชาต่างๆจะทำให้โรคร้ายนี้หายไป ..... วิกฤตินี้ทำให้พวกเขาได้ “เปลี่ยนมุมมอง” แบบ 180 องศา ไปยึดหลักวิทยาศาสตร์ เพราะ มุมมองที่พวกเขาเคยเชื่อนั้น ไม่สามารถช่วยให้พวกเขาพ้นจากความตายได้
2.การเกิดปัญญา
อันนี้หลายๆคนคงทราบว่าการเกิดปัญญานั้นไม่ใช่เรื่องง่ายในสังคม แต่มันก็เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เช่นการเปลี่ยนมุมมองแบบ 180 องศา ว่าโลกนั้นกลม ซึ่งขัดต่อความเชื่อทางศาสนาในสมัยนั้น
คำถามคือ.... คุณจะทำให้คนส่วนมากนั้นเปลี่ยนมุมมองโดยการ ทำให้เกิดวิกฤติ (เกิดความรุนแรงในประเทศ) หรือจะเลือกให้คนส่วนมากนั้นเกิดปัญญา....
คำตอบคือ....ระบอบประชาธิปไตยไงครับ ระบอบการปกครองที่เป็นที่ยอมรับของสากล ว่าเป็นระบอบที่จัดการกับปัญหาความขัดแย้งโดยหลีกเลี่ยงการเกิดความรุนแรงได้ดีที่สุด
มาถึงจุดนี้ หลายคนคงมีคำถามในใจ...
-----คำถามยอดฮิตข้อที่ 1.-----
-ที่ว่าๆ มาให้ทำตามกฏหมาย ทำตามระบอบประชาธิปไตยเนี่ย ดูรัฐบาลด้วยสิ ทำผิดกฏหมาย ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินมาแล้ว ไม่ยอมรับ แล้ว จะให้ยอมรับรัฐบาลนี้ได้อย่างไร? บ้านเมืองไม่มีขื่อไม่มีแป !
ตอบ ศาลรัฐธรรมนูญไม่มี “อำนาจ”ที่จะวินิจฉัยเรื่องนี้ครับ การใช้มาตรา 68 นั้น เป็นเรื่องของสิทธิและเสรีภาพของประชาชน แต่กรณีนี้ รัฐสภาใช้อำนาจตามมาตรา 291 . คำวินัจฉัยในส่วนของกระบวนการ และเนื้อหา ก็ยังมีข้อบกพร่องนะครับ (ขอเชิญให้ไปค้นคว้าหาข้อมูลก่อนแล้วค่อยมาถกกัน)
-----คำถามยอดฮิตข้อที่ 1(ต่อ)-----
-แต่ศาลได้วินัจฉัยออกมาแล้วนะ ต้องยอมรับสิ มาตรา 216 ได้บอกไว้ชัดเจนว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญนั้นมีผลผูกพันต่อรัฐสภาด้วย
ตอบ มาตรา 197 เขียนไว้ว่า ศาลต้องพิจารณาพิพากษาอรรถคดีเป็นอำนาจของศาลซึ่งต้องดำเนินการให้เป็นไปโดยยุติธรรม ตามรัฐธรรมนูญ ตามกฏหมาย และในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์..... เพราะฉะนั้นการที่ศาลรัฐธรรมนูญอ้างมาตรา 68 นั้น ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ (รวมถึงคำวินัจฉัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการและเนื้อหาด้วย) คำวินัจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจึงใช้ผูกพันรัฐสภา “ไม่ได้”
-----คำถามยอดฮิตข้อที่ 2.-----
-ประชาธิปไตยก็ประชาธิปไตย... แต่ปัญหาคือเสียงส่วนใหญ่นั้น “ไร้คุณภาพ” ปล่อยให้มีการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยได้อย่างไร ??... เพราะท้ายที่สุดแล้วก็ได้สภาผัวเมีย หาผลประโยชน์ให้พวกพ้องตัวเองทั้งนั้น ประเทศชาติ เศรษฐกิจล่มจมแน่นอน
ตอบ ก็ให้มันล่มจมไปสิครับ แต่ !! อย่าลืมว่า ประเทศไทยเริ่มมีการเลือกตั้งครั้งแรกตั้งแต่วันที่ 15 พฤศจิกายน 2476 มาถึงปัจจุบันก็ 25 ครั้งแล้ว มีรัฐประหารมาแล้วทั้งหมด 12 ครั้ง.... การรัฐประหารและการต่อต้านรัฐบาล เช่นการปิดสนามบิน การเผาห้างสรรพสินค้า หรือการเกิดความรุนแรงต่างๆนั้น ทำให้ประเทศชาติและเศรษฐกิจ “ล่มจม” มาแล้วทั้งสิ้น (ยังไม่รวมความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต หากเสียงส่วนมากยังไม่อำนาจในการปกครองประเทศ)
.....อยากให้ทุกท่านลองจินตนาการว่าประเทศไทยจะพัฒนาไปถึงไหน หากเรามีประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ตั้งแต่ 80 ปีที่แล้ว
ถ้า... ขอเน้นว่า “ถ้า”.... ระบอบทักษิณ มันชั่วร้ายจริงๆ มันจะทำให้ประเทศล่มจมอย่างที่หลายท่านกลัวจริงๆ วิกฤติครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งอื่น
วิกฤติครั้งนี้จะกระทบคนไทยทุกคน รวมถึงคนส่วนใหญ่ที่เลือกระบอบทักษิณด้วย วิกฤตินี้จะทำให้คนเหล่านั้นเกิดปัญญาและเปลี่ยนมุมมองได้เองในที่สุด
“ถ้าคุณมัวแต่ไปล่มรัฐบาลที่เขาเลือกมาด้วยวิธีนอกระบบ คนเหล่านั้นจะเกิดปัญญาได้อย่างไร ถ้าเขาไม่โดนกับตัวเอง?”... คุณต้องให้เขาลิ้มลองความสูญเสียที่เกิดจากความชั่วร้ายของระบบทักษิณเอง เขาจึงจะเกิดปัญญา
สรุปง่ายๆ คือจะการที่จะทำให้เสียงส่วนใหญ่ที่ท่านคิดว่าไร้คุณภาพ..... เปลี่ยนมุมมอง.... คือ “ระบอบประชาธิปไตย”
-----คำถามยอดฮิตข้อที่ 3------
-ทำไมเราไม่ขจัดระบอบทักษิณให้ออกไปจากระบบแบบถอนรากถอนโคนเสียก่อน ประเทศจะได้ไม่เสียหาย แล้วค่อยให้ประชาชนมาเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่ไม่มีระบอบทักษิณเป็นตัวเลือก ให้มีแต่พรรคที่มีคุณภาพ พรรคของคนรุ่นใหม่ เป็นตัวเลือกของประชาชน
ตอบ แล้วถ้าพรรคที่ถูกเลือกมาใหม่นั้น ดำเนินนโยบายซื้อใจเสียงส่วนใหญ่ แล้วโกงกินชาติบ้านเมืองแบบที่ระบอบทักษิณเคยทำล่ะ ? ประเทศไทยต้องกลับเข้าสู่วงเวียนความขัดแย้งเดิมอีกหรือ? ....... (ผมคิดว่ามาถึงจุดนี้แล้ว คำถามนี้ไม่จำเป็นต้องตอบ)
นี้คือความสามารถอันโดดเด่นของระบอบประชาธิปไตย ระบอบการปกครองนี้จะช่วยพัฒนาความคิดของประชาชน และลดความรุนแรงที่เกิดจากความขัดแย้งได้ดีที่สุด
คำถามสุดท้ายคือ...... แล้วไงต่อ???
-สำหรับผู้ชุมนุมที่ต่อต้านรัฐบาล
ขอให้ท่านใช้สิทธิและเสรีภาพให้การแสดงออกของท่านต่อไปครับ แต่ขอให้อยู่ภายใต้กฏหมาย และให้ข้อมูลที่เที่ยงตรง เพื่อโน้มน้าวเสียงส่วนใหญ่ให้เห็นชอบกับท่าน
-สำหรับผู้ชุมนุมที่สนับสนุนรัฐบาล
ขอให้ท่านใช้สิทธิและเสรีภาพให้การแสดงออกของท่านต่อไปครับ แต่ขอให้อยู่ภายใต้กฏหมาย และ ขอให้ท่านเปิดใจรับฟังเหตุผล ข้อมูลของฝ่ายตรงข้าม อย่างมีสติและเป็นกลาง
-สำหรับคนไทยที่อยู่ต่างประเทศ
ขอให้ท่านแสดงวิสัยทัศน์ ให้กับชาวต่างชาติ ที่สงสัยเกี่ยวกับสถานการณ์การเมืองของไทยอย่างมีเหตุผล..... ถ้าวิสัยทัศน์ของท่านนั้นเป็นประชาธิปไตยและมีเหตุผลแล้ว .. มันจะเป็นความชอบธรรมที่จะเรียกร้องความยุติธรรมจากต่างชาติ หากมีการรัฐประหารหรือการโค่นล้มระบอบประชาธิปไตย
-สำหรับสมาชิกพันทิป
หากสมาชิก “เห็นด้วย”กับกระทู้นี้ ....... ขอให้ท่านดึงกระทู้นี้ไม่ให้ตกไป และขอให้แชร์ไปในสังคมออนไลน์หากท่านเห็นว่ามันเป็นประโยชน์ต่อคนเหล่านั้น
หากสมาชิก “ไม่เห็นด้วย” กับกระทู้นี้..... ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่จะให้กระทู้ของผม เป็นที่ใช้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของท่าน
ผมขอฝากข้อความทิ้งท้ายไว้ 2 ข้อ
1. คนที่ไร้คุณภาพในนิยามของผมคือ....คนที่ขี้เกียจค้นคว้าหาข้อมูล ขี้เกียจอ่าน ...คนที่ตำหนิคนอื่นโดยปราศจากข้อมูล .. คนที่รับฟังข้อมูลจากบุคคลที่ท่านเชื่อถือ โดยไม่มีเหตุผลรองรับ
2. เมื่อถึงจุดๆหนึ่งในอนาคต ที่คนไทยทุกคน เข้าใจระบอบประชาธิปไตยอย่างถ่องแท้ ....“แต่” อำนาจสูงสุดยังไม่ได้มาจากเสียงส่วนใหญ่ ไม่ได้มาจากประชาชน..... ขอให้ท่านช่วยกันหาข้อมูล ว่าอะไรคือสิ่งขัดขวางระบอบประชาธิปไตยในประเทศที่เรารัก .... และช่วยเผยแพร่ข้อมูลนั้นให้กับคนส่วนใหญ่ โดยปราศจากอคติ .... ไม่ว่าบุคคล หรือ สถาบัน หรือสิ่งที่เป็นต้นเหตุนั้น จะ “อยู่เหนือหัว” หรือ “อยู่ใต้ดิน”
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
*แก้ไข 180 องศานะครับ 360 มันมุมเดิม = ="