*** ก่อนอ่านขอเตือนก่อนว่าอย่าหลงประเด็นนะคะ
หลายท่านที่อ่านเข้าใจว่า จขกท เเละเพื่อนๆไม่อยากอยู่ประเทศไทย
จึงมีการต่อว่าว่า รีบๆออกไป ยังไงก็รักในหลวงจะอยู่ประเทศไทย
สิ่งที่เราต้องการสื่อคือ ทำไมประเทศของเราน่าอยู่น้อยลง หรือสิ่งใดที่ด้อยกว่าประเทศอื่นๆ
หากท่านใดอ่านเเล้วตีความในทิศทางใดเราคงห้ามไม่ได้ เเต่เราขอเเจงว่าเราไม่มีเจตนา
ต่อว่าประเทศไทยเเต่อย่างใด หากอ่านไม่ละเอียดกรุณาอย่าเเสดงความคิดเห็นที่ถือเป็นการหยาบคายเลยนะคะ
สิ่งที่เราจะสื่อ ก็เพื่อให้บางคนที่ทะเลาะกันได้มอง ว่าเรานั้นมีอะไรที่ไม่พัฒนามากเเค่ไหน
คนไทย สามารถทำอะไรได้บ้างจากนี้ไป เพื่อประเทศ เพื่อพ่อ เพื่อตัวเรา
สวัสดีค่ะ
วันนี้เราได้คุยกับเพื่อนที่ไม่เจอกันนาน ไม่ใช่เรื่องเเปลกอะไร เพียงเเต่จากเหตุการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน
ทำให้เราสนทนาได้ใจความว่า เพื่อนไม่อยากอยู่ประเทศไทยเเล้ว
ลึกๆหลายๆครั้งเราเองก็ไม่อยาก ยอมรับค่ะว่าค่อนข้างสิ้นหวังกับประเทศไทย
ไม่ใช่ไม่รักประเทศไทยนะคะ เพียงเเต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของความคิด
เรารักพ่อหลวง เรารักคนไทย คนไทยน่ารัก คนดีมีเยอะ ข้าวปลาสมบูรณ์ สถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม
เเล้วทำไม หลายๆคนถึงไม่อยากอยู่ประเทศไทยเเล้ว
รบกวนหากอ่านกระทู้ยังไม่จบอย่าเพิ่งหลงประเด็นกันนะคะ ประเด็นของกระทู้ไม่ใช่ว่า ใครๆหรือเราไม่อยากอยู่ประเทศไทย
เราเเค่อยากสะท้อนอะไรเล็กๆในความคิดของเรา ในประเทศของเราให้เพื่อนๆพี่ๆฟังกัน
ซึ่งสิ่งที่สะท้อนออกมาเหล่านี้ ทำให้หลายๆคนที่เราคุยด้วย (เเละลองถามดู ) ไม่อยากอยู่ประเทศไทยเเล้ว
เข้าประเด็นค่ะ เราลองมาทบทวนดูว่าทำไม ประเทศไทยที่เรารัก ถึงน่าอยู่น้อยลงทุกที เราก็คิดได้ดังนี้
1. ประชาชนเเบ่งเป็นสองฝ่าย
เดี๋ยวนี้ใครๆก็พูดคุยกันเรื่องการเมือง แต่เเทนที่จะกลัวว่าคนที่คุยด้วยเป็นฝั่งตรงข้ามหรือไม่
กลับไม่กลัว (การเเสดงออกทางความเห็นเป็นสิ่งดีค่ะ ถ้าไม่ทำร้ายใคร) ถามว่าเเล้วยังไง สิ่งที่เราเห็นจากตรงนี้คือ
ฝ่ายเสื้อเเดง จะว่าฝ่ายเสื้อเหลือง เเละฝ่ายเสื้อเหลือง จะว่าฝ่ายเสื้อเเดง มองดูถูกต้องใช่ไหมคะ? ว่าฝ่ายที่ไม่ชอบ
เเต่การต่อว่านั้น บางสิ่งหยาบคาย บางสิ่งไม่จริง ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะปิดหูหิดตา ไม่มองว่าฝ่ายที่ตนชอบผิดอะไร เเต่
คอยเเต่จะว่า จับผิด สะใจ หากเจอชนวนหรือปมที่อีกฝ่ายทำผิด เอามาพูด โจมตีกันสนุกสนาน
สิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้เป็นคือ หูเบา ขาดสติ และการไตร่ตรองที่ดี ลืมสิ้นซึ่งวัตถุประสงค์ที่เเท้จริงของ
ประเทศชาติที่ต้องสามัคคี เดินไปด้วยกัน เเต่คนที่กำลังเป็นเเบบนี้นั้น เเท้จริงเเล้วก็คิดว่ากำลังทำเพื่อชาติ
เพื่ออุดมการณ์ โดยเเท้จริงเเล้ว ทุกคนต่างรักชาต เพียงเเต่ขาดข้อมูลเเละการพิจารณาข้อมูลที่ถูกต้องของทั้งสองฝ่าย
เลือกพิจารณาเเต่ความผิดที่ฝ่ายที่เราไม่ชอบเพียงอย่างเดียว ทำให้ตีกันไปตีกันมา
2. ผิดกลายเป็นไม่ผิด
คนไทยกำลังมองอะไรผิดไปหรือเปล่า ทำไมต้องมีการนิรโทษกรรม ทำไมคุณทักษิณทำผิดถึงลอยนวลได้
เเล้วทำไม คุณมาร์คที่หลายคนบอกว่าฆ่าประชาชนถึงยังใช้ชีวิตอย่างไม่มีอะไร ประเด็นที่เรากำลังจะบอกคือ
ทำไม ไม่ว่าใคร ผิดไม่ยอมรับโทษ ผิดไม่ว่าตามผิด ต่างเอาอีกฝ่ายมาอ้างว่าทำผิดๆ เเต่ตนเองก็ผิด เเล้วไม่ยอมรับ
หนีโทษ นักการเมืองต่างก็โกงกินกันทั้งนั้นค่ะ เเล้วเเต่จะโกงมากโกงน้อย ไม่ใช่เเค่นักการเมืองผิดเเล้วไม่ยอมรับผิด
คนไทยในสังคมนี้เองหลายคนก็ผิดเเล้วไม่ยอมรับผิด โทษสิ่งต่างๆ มาสาย ตื่นสายเอง โทษรถติด ถามว่ารถติดไหม ติดค่ะ
เเต่ประเด็นคือ เราขาดความรับผิดชอบเองไม่ใช่หรือ (ยกประเด็นนี้ขึ้นมาเเต่เราก็ยังไปเรียนสายนะคะ 555)
3. เรื่องเล็กที่ไม่เล็ก
- ง่ายๆเลยก็ฟุตปาธ เราสงสัยมานานเเล้วว่าทำไมต้องเป็นตัวหนอนตะปุ่มตะป่ำ เดินทีไรหน้าคะมำเเทบจิ้มดิน
อย่าได้ริอาจสวมส้นสูงมาเดินบนฟุตปาธประเทศไทยหากไม่มีสกิลมากพอ คือถามจริงเบิกงบมาเยอะเเยะจะเอาไปกินก็ได้
เข้าใจว่ายังไงก็ต้องโกง (มันเป็นวิสัยของนักการเมืองส่วนใหญ่ ไม่โกงจะร้อนรนอยู่ไม่ได้) เเต่ขอเถอะ เลิกทำเเบบขอไปที
คือสร้างใหม่ เเทนที่จะดี กลับทำเเบบขอไปที ให้เสร็จสิ้นดูมีผลงาน แป๊บเดียวเจ๊ง !!
ฟุตปาธทำจากตัวหนอนถูกๆ ด้านใต้เป็นทราย ไม่นานก็ทรุด ตัวหนอนก็เปิด เป็นหลุม เดินๆอยู่นี่นึกว่าเล่นเกมวิบาก
- รถเมล์ เป็นอะไรที่เราปวดตับมากถึงมากกก ที่สุด คือมันเหมือนโครงเหล็กวิ่งได้ ไม่รู้รัฐบาลไปประมูลขยะที่เขาทิ้งเเล้ว
จากประเทศไหนมา เบาะก็ทั้งขาดทั้งขึ้นราเรานั่งนี่พิงไม่ลงจริงๆค่ะ คือมันไม่ใช่ว่ารถเก่าเพราะเราใช้มานานเเล้ว
เเต่มันเก่าเพราะ รัฐบาลไปซื้อของเก่าเอาเเล้วมาให้ประชาชนในประเทศใช้ เเถมใช้เกินอายุการใช้งานอีกต่างหาก
- ใครอยากขายของตรงไหนขาย ใครอยากขอทานตรงไหนขอ กฏหมายบ้านเราไม่เเรงพอ เพียงเเค่จ่ายค่าเทศกิจ
เเล้วเดี๋ยวเขาก็ปล่อยให้ขายต่อเท่านั้นเอง สิ่งนี้ทำให้ความสวยงามเเละความสะอาดของประเทศไทยหายไปเยอะมากกก
- เทิดทูนฝรั่ง เจอมาหลายทีเเล้ว บริการฝรั่งเเบบถึงใจ บริการคนไทยเเบบคนไม่รู้จักกัน
4. ติดหนี้หัวโต การเป็นอยู่โลโซสุดๆ
ซื้อรถผ่อนกันไม่ไหว อยากได้อะไรเกินตัว ญาติเราเลยค่ะ เเละเราก็เชื่อว่าหลายๆคนคนไทยยังเป็นเช่นนี้
ญาติเราเงินเดือน 9 พัน ซื้อรถ!!! ถามทำไม เขาบอกว่ากู้ได้ มีสิทธิกู้ มีสิทธิ์ก็ใช้สิทธิ์ นี่เลยประโยคเด็ดของคนไทย?
มีสิทธิ์ต้องใช้สิทธิ์ น่าเสียดาย คนไทยติดสบายติดหรูกันมากขึ้นทุกวัน จนลืมพิจารณาความคุ้มค่า ไม่ใช่เฉพาะเรื่องรถ
เรื่องมือถือ เรื่องอื่นๆ ก็ยังคงเป็นเช่นนี้ คนไทยยังขาดวินัยในการใช้เงินอยู่มาก เเละหากเป็นเช่นนี้ต่อไป
ประชาชนจะถูกจูงจมูกได้ง่าย จะยากจน คนที่จะรวยที่สุดคือชนชั้นนายทุน ซึ่งมีเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้น
5. คนไทยชอบคิดว่าตัวเองเก่ง ดีเเล้ว
ทำให้ขาดการพัฒนา เด็กที่เรียนจบใหม่เชื่อว่าตนจบปริญญาตรีมานะ ต้องการเงินเดือนเท่านั้นเท่านี้
โดยลืมคำนึงถึง "ความสามารถที่เเท้จริง" ของตนไป ว่ามีอยู่เเค่ไหน คุ้มเงินที่เรียกไปหรือไม่
หลายคนไขว่ขว้า เเต่ขาดการพัฒนา พอทำงานผิด พอเกิดปัญหา ไม่มุ่งหาวิธีเเก้ เเต่มุ่งโทษสิ่งเเวดล้อม
6. ค่าครองชีพ
ใครๆก็บอกว่า ค่าครองขีพเราถูกเมื่อเทียบกับอเมริกา ต่างประเทศ
ถูกจริงหรือ! ในขณะที่ประเทศไทยทำงาน 1 วัน ดูภาพยนตร์ได้ 2 เรื่อง (1 วัน 300 บาท ตีซะเรื่องละ 150)
เเคนาดา (ข้อมูลจากเพื่อนเราเอง) ทำงานได้ ชม.ละ 10 เหรียญ = 300 บาท ดูหนังได้ 1 เรื่อง เเต่วันหนึ่งทำงาน 8 ชม.
ดังนั้นเท่ากับวันนึงเพื่อเราดูหนังได้ 8 เรื่อง!!
ประเทศไทย ทำงาน 1 ชม. ได้ 30-40 บาท ซื้อไข่ได้ได้ 1 แผง
อเมริกา ทำงาน 1 ชม. ได้ 10 เหรียญ(ขั้นต่ำๆ) ก็ซื้อไข่ไก่ได้อย่างน้อย 5 แผง!
นี่เเค่เล็กๆน้อยๆ ลองเทียบยิ่งเยอะก็ยิ่งเห็นความเเตกต่างของความเป็นอยู่คนไทยอย่างชัดเจน
สิ่งที่เราต้องการคือ เราสามารถทำอะไรได้บ้างในภาวะเช่นนี้นอกจาก ดูเเลตนเองเเละครอบครัวให้อยู่รอดไม่มีหนี้ (ก็พอเเล้ว)
ส่วนเรื่องใหญ่อย่าง ค่าครองชีพ สาธารณะสุข ที่รัฐบาลจัดการ ทำไมทำอะไรไม่ได้
เพราะนักการเมืองที่กุมอำนาจอยู่ในมือทำให้ระบบเหล่านี้ล้มเหลวระเนระนาด เเละหลอกตัวเองว่าเสร็จสมบูรณ์เเล้ว
เช่นการมีรถเมล์ มีเเล้วนะ (เเต่คุณภาพต่ำ) ฟุธปาธพังก็ทำใหม่นะ (เเต่ทำเเบบถูกๆเหมือนเดิม พังเหมือนเดิม)
สรุปแล้วสิ่งเหล่านี้สะท้อนอยู่ในอกคนไทยมาตลอด เเต่ปัญหาหลายๆอย่างทำให้หลายคนก็ไม่ตระหนัก
เราไม่ได้บอกให้ใครใช้ชีวิตอย่างประหยัด หรือเข้มงวดอะไร การยืดหยุ่นทำให้ชีวิตไม่เครียด เเต่น้อยไปก็จะกลายเป็นหย่อนยาน
สรุปแล้วที่บ่นมายาวยืดคือ เราสรุปให้กับตัวเองสั้นๆว่า การเมืองไทยนั้นอยู่ในภาวะวิกฤติ มันเหมือนมนุษย์ขูดเลือดเนื้อเพื่อนมนุษย์
ด้วยกันเอง จนกระทั่งมองหาจุดพัฒนายากมาก ไหนจะโครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะทำให้เราเป็นหนี้ไปอีกห้าสิบปี
หลายสิ่งอย่าง กระทั่งเรื่องเล็กๆอย่างระบบสาธารณูปโภคก็เข้าขั้นเเย่ หลายปีเเล้ว เเทนที่จะพัฒนากลับถอยหลังลงคลอง
ประเทศไทยสร้างสิ่งใหม่ๆ เเต่ไม่พัฒนาสิ่งที่มีให้ดีขึ้นเลย เเละภาวะของการคอรัปชั่นก็น่าเบื่อหน่ายเหลือเกิน จนหลายๆคนที่เราคุยด้วย
บอกว่าไม่อยากอยู่ประเทศไทยเเล้ว เพราะพวกเขาสิ้นหวังกับสิ่งเหล่านี้ ใครๆต่างก็ต้องการชีวิตที่ดีกว่า
เราเคยนอนคิดค่ะว่าอยากเป็นนายก อยากมีอำนาจที่ทำอะไรๆให้ประเทศดีขึ้น อยากสร้างฐานของประเทศให้เเข็งเเรง
ฐานของประเทศไม่เเข็งเเรงเเต่รัฐบาลเที่ยวหาสิ่งต่างๆมาเติมเเต่ง ก็กลายเป็นเอาอะไรมาสุมกันเเบบไม่เข้าท่า มองข้างนอกเหมือนสวย
มองลึกลงไปข้างในกลวงโบ๋
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
เราไม่ได้เข้าข้างพรรคการเมืองพรรคไหนทั้งนั้น
ไม่ได้มายุเเยงใคร ไม่ได้ต้องการดราม่า
กราบสวัสดี
(พิมพ์ด้วยความสิ้นหวังเล็กๆเเละสงสารประเทศไทยอย่างรุนเเรง)
วันนี้คุยกับคนรู้จัก น้อยคนนักที่อยากอยู่ประเทศไทย
หลายท่านที่อ่านเข้าใจว่า จขกท เเละเพื่อนๆไม่อยากอยู่ประเทศไทย
จึงมีการต่อว่าว่า รีบๆออกไป ยังไงก็รักในหลวงจะอยู่ประเทศไทย
สิ่งที่เราต้องการสื่อคือ ทำไมประเทศของเราน่าอยู่น้อยลง หรือสิ่งใดที่ด้อยกว่าประเทศอื่นๆ
หากท่านใดอ่านเเล้วตีความในทิศทางใดเราคงห้ามไม่ได้ เเต่เราขอเเจงว่าเราไม่มีเจตนา
ต่อว่าประเทศไทยเเต่อย่างใด หากอ่านไม่ละเอียดกรุณาอย่าเเสดงความคิดเห็นที่ถือเป็นการหยาบคายเลยนะคะ
สิ่งที่เราจะสื่อ ก็เพื่อให้บางคนที่ทะเลาะกันได้มอง ว่าเรานั้นมีอะไรที่ไม่พัฒนามากเเค่ไหน
คนไทย สามารถทำอะไรได้บ้างจากนี้ไป เพื่อประเทศ เพื่อพ่อ เพื่อตัวเรา
สวัสดีค่ะ
วันนี้เราได้คุยกับเพื่อนที่ไม่เจอกันนาน ไม่ใช่เรื่องเเปลกอะไร เพียงเเต่จากเหตุการณ์บ้านเมืองปัจจุบัน
ทำให้เราสนทนาได้ใจความว่า เพื่อนไม่อยากอยู่ประเทศไทยเเล้ว
ลึกๆหลายๆครั้งเราเองก็ไม่อยาก ยอมรับค่ะว่าค่อนข้างสิ้นหวังกับประเทศไทย
ไม่ใช่ไม่รักประเทศไทยนะคะ เพียงเเต่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของความคิด
เรารักพ่อหลวง เรารักคนไทย คนไทยน่ารัก คนดีมีเยอะ ข้าวปลาสมบูรณ์ สถานที่ท่องเที่ยวสวยงาม
เเล้วทำไม หลายๆคนถึงไม่อยากอยู่ประเทศไทยเเล้ว
รบกวนหากอ่านกระทู้ยังไม่จบอย่าเพิ่งหลงประเด็นกันนะคะ ประเด็นของกระทู้ไม่ใช่ว่า ใครๆหรือเราไม่อยากอยู่ประเทศไทย
เราเเค่อยากสะท้อนอะไรเล็กๆในความคิดของเรา ในประเทศของเราให้เพื่อนๆพี่ๆฟังกัน
ซึ่งสิ่งที่สะท้อนออกมาเหล่านี้ ทำให้หลายๆคนที่เราคุยด้วย (เเละลองถามดู ) ไม่อยากอยู่ประเทศไทยเเล้ว
เข้าประเด็นค่ะ เราลองมาทบทวนดูว่าทำไม ประเทศไทยที่เรารัก ถึงน่าอยู่น้อยลงทุกที เราก็คิดได้ดังนี้
1. ประชาชนเเบ่งเป็นสองฝ่าย
เดี๋ยวนี้ใครๆก็พูดคุยกันเรื่องการเมือง แต่เเทนที่จะกลัวว่าคนที่คุยด้วยเป็นฝั่งตรงข้ามหรือไม่
กลับไม่กลัว (การเเสดงออกทางความเห็นเป็นสิ่งดีค่ะ ถ้าไม่ทำร้ายใคร) ถามว่าเเล้วยังไง สิ่งที่เราเห็นจากตรงนี้คือ
ฝ่ายเสื้อเเดง จะว่าฝ่ายเสื้อเหลือง เเละฝ่ายเสื้อเหลือง จะว่าฝ่ายเสื้อเเดง มองดูถูกต้องใช่ไหมคะ? ว่าฝ่ายที่ไม่ชอบ
เเต่การต่อว่านั้น บางสิ่งหยาบคาย บางสิ่งไม่จริง ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะปิดหูหิดตา ไม่มองว่าฝ่ายที่ตนชอบผิดอะไร เเต่
คอยเเต่จะว่า จับผิด สะใจ หากเจอชนวนหรือปมที่อีกฝ่ายทำผิด เอามาพูด โจมตีกันสนุกสนาน
สิ่งที่ประชาชนส่วนใหญ่เดี๋ยวนี้เป็นคือ หูเบา ขาดสติ และการไตร่ตรองที่ดี ลืมสิ้นซึ่งวัตถุประสงค์ที่เเท้จริงของ
ประเทศชาติที่ต้องสามัคคี เดินไปด้วยกัน เเต่คนที่กำลังเป็นเเบบนี้นั้น เเท้จริงเเล้วก็คิดว่ากำลังทำเพื่อชาติ
เพื่ออุดมการณ์ โดยเเท้จริงเเล้ว ทุกคนต่างรักชาต เพียงเเต่ขาดข้อมูลเเละการพิจารณาข้อมูลที่ถูกต้องของทั้งสองฝ่าย
เลือกพิจารณาเเต่ความผิดที่ฝ่ายที่เราไม่ชอบเพียงอย่างเดียว ทำให้ตีกันไปตีกันมา
2. ผิดกลายเป็นไม่ผิด
คนไทยกำลังมองอะไรผิดไปหรือเปล่า ทำไมต้องมีการนิรโทษกรรม ทำไมคุณทักษิณทำผิดถึงลอยนวลได้
เเล้วทำไม คุณมาร์คที่หลายคนบอกว่าฆ่าประชาชนถึงยังใช้ชีวิตอย่างไม่มีอะไร ประเด็นที่เรากำลังจะบอกคือ
ทำไม ไม่ว่าใคร ผิดไม่ยอมรับโทษ ผิดไม่ว่าตามผิด ต่างเอาอีกฝ่ายมาอ้างว่าทำผิดๆ เเต่ตนเองก็ผิด เเล้วไม่ยอมรับ
หนีโทษ นักการเมืองต่างก็โกงกินกันทั้งนั้นค่ะ เเล้วเเต่จะโกงมากโกงน้อย ไม่ใช่เเค่นักการเมืองผิดเเล้วไม่ยอมรับผิด
คนไทยในสังคมนี้เองหลายคนก็ผิดเเล้วไม่ยอมรับผิด โทษสิ่งต่างๆ มาสาย ตื่นสายเอง โทษรถติด ถามว่ารถติดไหม ติดค่ะ
เเต่ประเด็นคือ เราขาดความรับผิดชอบเองไม่ใช่หรือ (ยกประเด็นนี้ขึ้นมาเเต่เราก็ยังไปเรียนสายนะคะ 555)
3. เรื่องเล็กที่ไม่เล็ก
- ง่ายๆเลยก็ฟุตปาธ เราสงสัยมานานเเล้วว่าทำไมต้องเป็นตัวหนอนตะปุ่มตะป่ำ เดินทีไรหน้าคะมำเเทบจิ้มดิน
อย่าได้ริอาจสวมส้นสูงมาเดินบนฟุตปาธประเทศไทยหากไม่มีสกิลมากพอ คือถามจริงเบิกงบมาเยอะเเยะจะเอาไปกินก็ได้
เข้าใจว่ายังไงก็ต้องโกง (มันเป็นวิสัยของนักการเมืองส่วนใหญ่ ไม่โกงจะร้อนรนอยู่ไม่ได้) เเต่ขอเถอะ เลิกทำเเบบขอไปที
คือสร้างใหม่ เเทนที่จะดี กลับทำเเบบขอไปที ให้เสร็จสิ้นดูมีผลงาน แป๊บเดียวเจ๊ง !!
ฟุตปาธทำจากตัวหนอนถูกๆ ด้านใต้เป็นทราย ไม่นานก็ทรุด ตัวหนอนก็เปิด เป็นหลุม เดินๆอยู่นี่นึกว่าเล่นเกมวิบาก
- รถเมล์ เป็นอะไรที่เราปวดตับมากถึงมากกก ที่สุด คือมันเหมือนโครงเหล็กวิ่งได้ ไม่รู้รัฐบาลไปประมูลขยะที่เขาทิ้งเเล้ว
จากประเทศไหนมา เบาะก็ทั้งขาดทั้งขึ้นราเรานั่งนี่พิงไม่ลงจริงๆค่ะ คือมันไม่ใช่ว่ารถเก่าเพราะเราใช้มานานเเล้ว
เเต่มันเก่าเพราะ รัฐบาลไปซื้อของเก่าเอาเเล้วมาให้ประชาชนในประเทศใช้ เเถมใช้เกินอายุการใช้งานอีกต่างหาก
- ใครอยากขายของตรงไหนขาย ใครอยากขอทานตรงไหนขอ กฏหมายบ้านเราไม่เเรงพอ เพียงเเค่จ่ายค่าเทศกิจ
เเล้วเดี๋ยวเขาก็ปล่อยให้ขายต่อเท่านั้นเอง สิ่งนี้ทำให้ความสวยงามเเละความสะอาดของประเทศไทยหายไปเยอะมากกก
- เทิดทูนฝรั่ง เจอมาหลายทีเเล้ว บริการฝรั่งเเบบถึงใจ บริการคนไทยเเบบคนไม่รู้จักกัน
4. ติดหนี้หัวโต การเป็นอยู่โลโซสุดๆ
ซื้อรถผ่อนกันไม่ไหว อยากได้อะไรเกินตัว ญาติเราเลยค่ะ เเละเราก็เชื่อว่าหลายๆคนคนไทยยังเป็นเช่นนี้
ญาติเราเงินเดือน 9 พัน ซื้อรถ!!! ถามทำไม เขาบอกว่ากู้ได้ มีสิทธิกู้ มีสิทธิ์ก็ใช้สิทธิ์ นี่เลยประโยคเด็ดของคนไทย?
มีสิทธิ์ต้องใช้สิทธิ์ น่าเสียดาย คนไทยติดสบายติดหรูกันมากขึ้นทุกวัน จนลืมพิจารณาความคุ้มค่า ไม่ใช่เฉพาะเรื่องรถ
เรื่องมือถือ เรื่องอื่นๆ ก็ยังคงเป็นเช่นนี้ คนไทยยังขาดวินัยในการใช้เงินอยู่มาก เเละหากเป็นเช่นนี้ต่อไป
ประชาชนจะถูกจูงจมูกได้ง่าย จะยากจน คนที่จะรวยที่สุดคือชนชั้นนายทุน ซึ่งมีเพียงไม่กี่กลุ่มเท่านั้น
5. คนไทยชอบคิดว่าตัวเองเก่ง ดีเเล้ว
ทำให้ขาดการพัฒนา เด็กที่เรียนจบใหม่เชื่อว่าตนจบปริญญาตรีมานะ ต้องการเงินเดือนเท่านั้นเท่านี้
โดยลืมคำนึงถึง "ความสามารถที่เเท้จริง" ของตนไป ว่ามีอยู่เเค่ไหน คุ้มเงินที่เรียกไปหรือไม่
หลายคนไขว่ขว้า เเต่ขาดการพัฒนา พอทำงานผิด พอเกิดปัญหา ไม่มุ่งหาวิธีเเก้ เเต่มุ่งโทษสิ่งเเวดล้อม
6. ค่าครองชีพ
ใครๆก็บอกว่า ค่าครองขีพเราถูกเมื่อเทียบกับอเมริกา ต่างประเทศ
ถูกจริงหรือ! ในขณะที่ประเทศไทยทำงาน 1 วัน ดูภาพยนตร์ได้ 2 เรื่อง (1 วัน 300 บาท ตีซะเรื่องละ 150)
เเคนาดา (ข้อมูลจากเพื่อนเราเอง) ทำงานได้ ชม.ละ 10 เหรียญ = 300 บาท ดูหนังได้ 1 เรื่อง เเต่วันหนึ่งทำงาน 8 ชม.
ดังนั้นเท่ากับวันนึงเพื่อเราดูหนังได้ 8 เรื่อง!!
ประเทศไทย ทำงาน 1 ชม. ได้ 30-40 บาท ซื้อไข่ได้ได้ 1 แผง
อเมริกา ทำงาน 1 ชม. ได้ 10 เหรียญ(ขั้นต่ำๆ) ก็ซื้อไข่ไก่ได้อย่างน้อย 5 แผง!
นี่เเค่เล็กๆน้อยๆ ลองเทียบยิ่งเยอะก็ยิ่งเห็นความเเตกต่างของความเป็นอยู่คนไทยอย่างชัดเจน
สิ่งที่เราต้องการคือ เราสามารถทำอะไรได้บ้างในภาวะเช่นนี้นอกจาก ดูเเลตนเองเเละครอบครัวให้อยู่รอดไม่มีหนี้ (ก็พอเเล้ว)
ส่วนเรื่องใหญ่อย่าง ค่าครองชีพ สาธารณะสุข ที่รัฐบาลจัดการ ทำไมทำอะไรไม่ได้
เพราะนักการเมืองที่กุมอำนาจอยู่ในมือทำให้ระบบเหล่านี้ล้มเหลวระเนระนาด เเละหลอกตัวเองว่าเสร็จสมบูรณ์เเล้ว
เช่นการมีรถเมล์ มีเเล้วนะ (เเต่คุณภาพต่ำ) ฟุธปาธพังก็ทำใหม่นะ (เเต่ทำเเบบถูกๆเหมือนเดิม พังเหมือนเดิม)
สรุปแล้วสิ่งเหล่านี้สะท้อนอยู่ในอกคนไทยมาตลอด เเต่ปัญหาหลายๆอย่างทำให้หลายคนก็ไม่ตระหนัก
เราไม่ได้บอกให้ใครใช้ชีวิตอย่างประหยัด หรือเข้มงวดอะไร การยืดหยุ่นทำให้ชีวิตไม่เครียด เเต่น้อยไปก็จะกลายเป็นหย่อนยาน
สรุปแล้วที่บ่นมายาวยืดคือ เราสรุปให้กับตัวเองสั้นๆว่า การเมืองไทยนั้นอยู่ในภาวะวิกฤติ มันเหมือนมนุษย์ขูดเลือดเนื้อเพื่อนมนุษย์
ด้วยกันเอง จนกระทั่งมองหาจุดพัฒนายากมาก ไหนจะโครงการรถไฟความเร็วสูงที่จะทำให้เราเป็นหนี้ไปอีกห้าสิบปี
หลายสิ่งอย่าง กระทั่งเรื่องเล็กๆอย่างระบบสาธารณูปโภคก็เข้าขั้นเเย่ หลายปีเเล้ว เเทนที่จะพัฒนากลับถอยหลังลงคลอง
ประเทศไทยสร้างสิ่งใหม่ๆ เเต่ไม่พัฒนาสิ่งที่มีให้ดีขึ้นเลย เเละภาวะของการคอรัปชั่นก็น่าเบื่อหน่ายเหลือเกิน จนหลายๆคนที่เราคุยด้วย
บอกว่าไม่อยากอยู่ประเทศไทยเเล้ว เพราะพวกเขาสิ้นหวังกับสิ่งเหล่านี้ ใครๆต่างก็ต้องการชีวิตที่ดีกว่า
เราเคยนอนคิดค่ะว่าอยากเป็นนายก อยากมีอำนาจที่ทำอะไรๆให้ประเทศดีขึ้น อยากสร้างฐานของประเทศให้เเข็งเเรง
ฐานของประเทศไม่เเข็งเเรงเเต่รัฐบาลเที่ยวหาสิ่งต่างๆมาเติมเเต่ง ก็กลายเป็นเอาอะไรมาสุมกันเเบบไม่เข้าท่า มองข้างนอกเหมือนสวย
มองลึกลงไปข้างในกลวงโบ๋
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ
เราไม่ได้เข้าข้างพรรคการเมืองพรรคไหนทั้งนั้น
ไม่ได้มายุเเยงใคร ไม่ได้ต้องการดราม่า
กราบสวัสดี
(พิมพ์ด้วยความสิ้นหวังเล็กๆเเละสงสารประเทศไทยอย่างรุนเเรง)