คนทั้ง 312 คนนั้น จะต้องถูก ปปช. พิจารณาความผิด แต่ถ้าอ่านคำตัดสิน ตลก รธน
ซึ่งแจ้งไปแล้วว่า คนพวกนี้ ไม่มีความผิดถึงขั้นให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง และ ต้อง
ยุบพรรค ซึ่งคำตัดสินนี้ มีผลกับทุกองค์กร ไม่เว้นแม้แต่ ปปช.
แต่ถ้า ปปช. เห็นต่างว่าผิด ปปช. ต้องชี้มูล เมื่อชี้มูล คนเหล่านี้ต้องหยุดการทำหน้าที่
ยิ่งลักษณ์ จะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ แล้วให้ รองนายกฯ คนที่ 1 คือ นาย สุรพงษ์ ที่ไม่
ได้เป็นหนึ่งใน 312 คน ปฎิบัติหน้าที่ รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นไปตาม พรบ. ระเบียบ
บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 41 และ มาตรา 48
มาตรา 41 ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้
รักษาราชการแทน ถ้ามีรองนายกรัฐมนตรีหลายคน ให้คณะคณะรัฐมนตรีมอบหมายให้
รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ใดดำรงตำแหน่งรอง
นายกรัฐมนตรี หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรี
คนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน
มาตรา 48 ให้ผู้รักษาราชการแทนตามความในพระราชบัญญัตินี้ มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียว
กับผู้ซึ่งตนแทน
ดังนั้น นาย สุรพงษ์ จึงมีอำนาจเต็มในตำแหน่ง นายกฯ และ สามารถยุบสภาได้ เพราะ
การยุบสภา จะไม่สามารถกระทำได้เฉพาะช่วงที่ ผ่ายค้านยื่นมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตาม
รัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 158 เท่านั้น
มาตรา 158 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิก
ทั้งหมดที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อ
ลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ญัตติดังกล่าวต้องเสนอชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายก
รัฐมนตรีคนต่อไปซึ่งเป็นบุคคลตามมาตรา ๑๗๑ วรรคสองด้วย และเมื่อได้มีการเสนอ
ญัตติแล้ว จะมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรมิได้
ดังนั้น ไม่ว่าสภาจะเหลือเท่าไหร่ ผมเชื่อว่า ถ้าทั้ง 312 คน โดน ปปช. ชี้มูลความผิด
นาย สุรพงษ์ จะยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไปอย่างแน่นอน
อะไรจะเกิดขึ้น ถ้า สส ทั้ง 312 ต้องหลุดจากเก้าอี้ ประชาธิปัตย์จะมาเป็นรัฐบาลได้หรือไม่
ซึ่งแจ้งไปแล้วว่า คนพวกนี้ ไม่มีความผิดถึงขั้นให้ถอดถอนออกจากตำแหน่ง และ ต้อง
ยุบพรรค ซึ่งคำตัดสินนี้ มีผลกับทุกองค์กร ไม่เว้นแม้แต่ ปปช.
แต่ถ้า ปปช. เห็นต่างว่าผิด ปปช. ต้องชี้มูล เมื่อชี้มูล คนเหล่านี้ต้องหยุดการทำหน้าที่
ยิ่งลักษณ์ จะต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ แล้วให้ รองนายกฯ คนที่ 1 คือ นาย สุรพงษ์ ที่ไม่
ได้เป็นหนึ่งใน 312 คน ปฎิบัติหน้าที่ รักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นไปตาม พรบ. ระเบียบ
บริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 มาตรา 41 และ มาตรา 48
มาตรา 41 ในกรณีที่นายกรัฐมนตรีไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้รองนายกรัฐมนตรีเป็นผู้
รักษาราชการแทน ถ้ามีรองนายกรัฐมนตรีหลายคน ให้คณะคณะรัฐมนตรีมอบหมายให้
รองนายกรัฐมนตรีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ใดดำรงตำแหน่งรอง
นายกรัฐมนตรี หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ให้คณะรัฐมนตรีมอบหมายให้รัฐมนตรี
คนใดคนหนึ่งเป็นผู้รักษาราชการแทน
มาตรา 48 ให้ผู้รักษาราชการแทนตามความในพระราชบัญญัตินี้ มีอำนาจหน้าที่เช่นเดียว
กับผู้ซึ่งตนแทน
ดังนั้น นาย สุรพงษ์ จึงมีอำนาจเต็มในตำแหน่ง นายกฯ และ สามารถยุบสภาได้ เพราะ
การยุบสภา จะไม่สามารถกระทำได้เฉพาะช่วงที่ ผ่ายค้านยื่นมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล ตาม
รัฐธรรมนูญ 2550 มาตรา 158 เท่านั้น
มาตรา 158 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนสมาชิก
ทั้งหมดที่มีอยู่ของสภาผู้แทนราษฎร มีสิทธิเข้าชื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อ
ลงมติไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ญัตติดังกล่าวต้องเสนอชื่อผู้สมควรดำรงตำแหน่งนายก
รัฐมนตรีคนต่อไปซึ่งเป็นบุคคลตามมาตรา ๑๗๑ วรรคสองด้วย และเมื่อได้มีการเสนอ
ญัตติแล้ว จะมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรมิได้
ดังนั้น ไม่ว่าสภาจะเหลือเท่าไหร่ ผมเชื่อว่า ถ้าทั้ง 312 คน โดน ปปช. ชี้มูลความผิด
นาย สุรพงษ์ จะยุบสภา เพื่อให้มีการเลือกตั้งทั่วไปอย่างแน่นอน