...
และนก2ตัวในพุ่มไม้ มีค่ากว่านก10ตัวบนฟ้า
...วันนี้มีเหตุการณ์ ที่ทำให้คิดถึงคำๆนี้ขึ้นมา เนื่องจาก วันนี้มีเพื่อนรุ่นพี่มาหา เขาทำงานแบงค์อยู่ แต่ด้วยเป้าที่บีบ และความกดดันหลายๆอย่าง ทำให้เขาคิดจะออกจากงาน การออกครั้งนี้ จะทำให้เขาได้เงินมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งสะสมมาเป็นเวลาหลายปี
...เราก็เลยแนะนำเค้าทำ เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า หรือทำดรอปชิปก็ได้ แต่เค้าก็มีโปรเจ็คของเค้าอยู่แล้ว.. นั่นคือการเปิดร้านกาแฟ
...แน่นอน เราควรเคารพการตัดสินใจของผู้อื่น แต่เนื่องจากเรารู้จักกันมานานในระดับหนึ่ง บวกกับพี่เค้าอายุไม่น้อยแล้ว และเงินก้อนนี้เป็นก้อนเดียวที่เค้ามีอยู่ เราจึงคุยกับเค้าไปว่า
"หนูคิดว่า พี่น่าจะลอง สร้างรายได้ จากสิ่งที่ไม่ต้องลงทุนก่อนดีมั้ย? อย่างเช่นเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือทำดรอปชิป ไม่จำเป๋นต้องทำกับหนู กับใครก็ได้ ที่พี่มองเห็นโอกาสในตัวสินค้า ที่พี่เห็นปุ๊บ แล้วนึกออก ว่าใคร ที่น่าจะซื้อสิ่งนี้ พี่ลองทำ ไม่ต้องลงทุน เก็บเงินสดไว้ก่อน รอช่วงเศรษฐกิจดีกว่านี้ หรือระหว่างนี้ พี่มองเห็นช่องทางอะไรชัดเจนขึ้นมา แล้วค่อยลงทุน"
..
เค้าบอกว่า เค้าไม่เคยชินกับการขาย ไม่ถนัดการขาย
เราเลยบอกเค้าว่า"พี่คงไม่รู้ตัวหรอกว่า พี่น่ะ"ขาย"อยู่ทุกวัน ทั้งขายประกัน ขายสินเชื่อ ขายบัตรเครดิต ขายโปรเจ็คลูกค้าให้กับนายของพี่ พี่ขายๆๆ อยู่ตลอดเวลา เพียงแต่พี่ไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง..และที่ต่างกัน คือที่ผ่านมา พี่ขายสินค้าที่จับต้องไม่ได้ เป็นนามธรรม เช่น ความคุ้มครอง การรับประกันความเสี่ยง บลาๆ แต่ตอนนี้ที่พี่จะขาย คือสินค้าที่จับต้องได้ แค่นั้นเอง"
นกหนึ่งตัวในมือ มีค่ากว่านกสองตัวในพุ่มไม้
และนก2ตัวในพุ่มไม้ มีค่ากว่านก10ตัวบนฟ้า
...วันนี้มีเหตุการณ์ ที่ทำให้คิดถึงคำๆนี้ขึ้นมา เนื่องจาก วันนี้มีเพื่อนรุ่นพี่มาหา เขาทำงานแบงค์อยู่ แต่ด้วยเป้าที่บีบ และความกดดันหลายๆอย่าง ทำให้เขาคิดจะออกจากงาน การออกครั้งนี้ จะทำให้เขาได้เงินมาจำนวนหนึ่ง ซึ่งสะสมมาเป็นเวลาหลายปี
...เราก็เลยแนะนำเค้าทำ เป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า หรือทำดรอปชิปก็ได้ แต่เค้าก็มีโปรเจ็คของเค้าอยู่แล้ว.. นั่นคือการเปิดร้านกาแฟ
...แน่นอน เราควรเคารพการตัดสินใจของผู้อื่น แต่เนื่องจากเรารู้จักกันมานานในระดับหนึ่ง บวกกับพี่เค้าอายุไม่น้อยแล้ว และเงินก้อนนี้เป็นก้อนเดียวที่เค้ามีอยู่ เราจึงคุยกับเค้าไปว่า
"หนูคิดว่า พี่น่าจะลอง สร้างรายได้ จากสิ่งที่ไม่ต้องลงทุนก่อนดีมั้ย? อย่างเช่นเป็นตัวแทนจำหน่ายหรือทำดรอปชิป ไม่จำเป๋นต้องทำกับหนู กับใครก็ได้ ที่พี่มองเห็นโอกาสในตัวสินค้า ที่พี่เห็นปุ๊บ แล้วนึกออก ว่าใคร ที่น่าจะซื้อสิ่งนี้ พี่ลองทำ ไม่ต้องลงทุน เก็บเงินสดไว้ก่อน รอช่วงเศรษฐกิจดีกว่านี้ หรือระหว่างนี้ พี่มองเห็นช่องทางอะไรชัดเจนขึ้นมา แล้วค่อยลงทุน"
..
เค้าบอกว่า เค้าไม่เคยชินกับการขาย ไม่ถนัดการขาย
เราเลยบอกเค้าว่า"พี่คงไม่รู้ตัวหรอกว่า พี่น่ะ"ขาย"อยู่ทุกวัน ทั้งขายประกัน ขายสินเชื่อ ขายบัตรเครดิต ขายโปรเจ็คลูกค้าให้กับนายของพี่ พี่ขายๆๆ อยู่ตลอดเวลา เพียงแต่พี่ไม่รู้ตัวเท่านั้นเอง..และที่ต่างกัน คือที่ผ่านมา พี่ขายสินค้าที่จับต้องไม่ได้ เป็นนามธรรม เช่น ความคุ้มครอง การรับประกันความเสี่ยง บลาๆ แต่ตอนนี้ที่พี่จะขาย คือสินค้าที่จับต้องได้ แค่นั้นเอง"