เรื่องนี้มักเกินขึ้นบ่อยๆ กับประชาชนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์
" - - - ตามกฎหมายจราจรทางบก และ กฎหมายรถยนต์ ไม่ได้ให้อำนาจจราจรทำการยึดยึดใบขับขี่ หรือบัตรอื่นๆ หรือทรัพย์สินอื่นใด ในกรณีที่เราทำผิดกฎจราจร ก็ต้องค้นหาว่าตำรวจอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติใดแห่งกฎหมายที่จะยึด ทั้งนี้เพราะหลักกฎหมายทั่วไปมีว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐจะใช้อำนาจกระทบสิทธิและเสรีภาพของบุคคลไม่ได้ เว้นแต่จะอาศัยอำนาจที่กฎหมายบัญญัติไว้” ซึ่งหากไม่มีกฎหมายให้อำนาจไว้ ตำรวจก็จะยึดสิ่งของไม่ได้ หากยึดไปโดยไม่มีกฎหมายให้อำนาจ ก็อาจจะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ได้ - - - "
แต่ . . . ตำรวจก็ทำ โดยเรามักจะพกกล้องติดหมวกกันน๊อกไปด้วยทุกครั้ง และจะบันทึกไว้ทุกครั้งที่ขับรถ ... เรื่องมีอยู่ว่า เราขับรถจักรยานยนต์ ซ้อน 2 มากับแฟน โดยใส่หมวกกันน๊อกทั้งสองคน ขับด้วยความเร็วประมาณ 40-60 บทถนนพหลโยธินขาออก ย้านรังสิต เวลาประมาณสามทุ่มเศษ เป็นเวลาที่ผมไปรับแฟนกลับบ้านหลังเลิกงาน วันนั้นรถติดมากจนผิดสังเกตุ เห็นแสงไฟไซเรนกระพริบอยู่ข้างหน้า เลยคิดว่าน่าจะเกิดอุบัติเหตุ เมื่อขับเข้าใกล้เรื่อยๆ จึงรู้ว่าเป็นด่านตำรวจ ตั้งกรวยยางปิดถนนเหลือ 1 เลนส์ จาก 4 เลนส์ มีตำรวจ 4 นาย มี 1 นายตั้งโต๊ะนั่งรอสำหรับไปจ่ายค่าปรับ...
...เราโดนเรียกให้จอดพร้อมขอดูใบขับขี่ ซึ่งเรายังไม่ได้ทำอันนี้ยอมรับ จนต้องโดนเรียกปรับ 200 บาท ในฐานลืมพกใบขับขี่ (ซึ่งถ้าหากตอบว่าลืมพกมาจะโดนปรับน้อยกว่า การตอบว่าไม่มีใบขับขี่) ตอนนั้นเรากับแฟนไม่มีเงินพอ 200 (เพราะไม่คิดว่าจะต้องใช้เงินซื้ออะไรระหว่างทาง) เมื่อไม่มีเงินจึงเดินออกมาหาตู้ ATM เพื่อมาจ่ายค่าปรับ โดยจอดรถพร้อมถอดหมวกกันน๊อกซึ่งติดกล้องไว้ วางไว้ที่รถโดยไม่ลืมว่าจะต้องหันไปทางไหน คิดไว้ว่าเผื่อจะจับพฤติกรรมอะไรได้จากตำรวจ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 กว่านาทีในการเดินเท้า ไป-กลับ มาที่รถ...
...เมื่อเสร็จธุระจากตำรวจ ก็กลับบ้านโดยไม่ได้คิดอะไรถึงเรื่องกล้อง จนมาเช็คดูที่บ้านปรากฎว่าเมมโมรี่ในกล้องหายไป...
...เช้าวันต่อมา เราก็ไปติดต่อที่โรงพักในเขตพื้นที่การดูแลเมื่อคืน สอบถามเรื่องตำรวจ 4 นาย ที่ตั้งด่านเมื่อคืนปรากฏว่าไม่มีใครอยู่...
...เราจึงได้ฝากเรื่องลงบันทึกประจำวันไว้ ในข้อหาโดนลักทรัพย์...
แต่เรื่องก็ไม่ได้มีความคืบหน้าจนผ่านไปแล้ววันนี้ 3 สัปดาห์เต็ม เราขี้เกียจตามเรื่อง เพราะมันเสียเวลาทำมาหากิน และไม่ได้เสียดายอะไร เพราะตลอดทางในกล่องไม่ได้บันทึกอะไรที่สำคัญ
เลยมาโพสเป็นประสบการณ์ ให้อ่านกัน
[ พฤติกรรมตำรวจแบบนี้ ผมถือว่ามันผิด แต่ผมจะไม่ขอกล่าวถึงสถานที่ และโรงพักนั้นก็แล้วกันครับ เพราะตำรวจดีๆ ก็มีเยอะ - ใครมีความรู้ด้านนี้มาบอก มาแชร์ มาเล่า มาติ กันได้ครับ ]
ตำรวจยึดเมมโมรี่กล้องติดหมวก มีความผิดฐานลักทรัพย์... แต่เอาผิดไม่ได้
" - - - ตามกฎหมายจราจรทางบก และ กฎหมายรถยนต์ ไม่ได้ให้อำนาจจราจรทำการยึดยึดใบขับขี่ หรือบัตรอื่นๆ หรือทรัพย์สินอื่นใด ในกรณีที่เราทำผิดกฎจราจร ก็ต้องค้นหาว่าตำรวจอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติใดแห่งกฎหมายที่จะยึด ทั้งนี้เพราะหลักกฎหมายทั่วไปมีว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐจะใช้อำนาจกระทบสิทธิและเสรีภาพของบุคคลไม่ได้ เว้นแต่จะอาศัยอำนาจที่กฎหมายบัญญัติไว้” ซึ่งหากไม่มีกฎหมายให้อำนาจไว้ ตำรวจก็จะยึดสิ่งของไม่ได้ หากยึดไปโดยไม่มีกฎหมายให้อำนาจ ก็อาจจะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ได้ - - - "
แต่ . . . ตำรวจก็ทำ โดยเรามักจะพกกล้องติดหมวกกันน๊อกไปด้วยทุกครั้ง และจะบันทึกไว้ทุกครั้งที่ขับรถ ... เรื่องมีอยู่ว่า เราขับรถจักรยานยนต์ ซ้อน 2 มากับแฟน โดยใส่หมวกกันน๊อกทั้งสองคน ขับด้วยความเร็วประมาณ 40-60 บทถนนพหลโยธินขาออก ย้านรังสิต เวลาประมาณสามทุ่มเศษ เป็นเวลาที่ผมไปรับแฟนกลับบ้านหลังเลิกงาน วันนั้นรถติดมากจนผิดสังเกตุ เห็นแสงไฟไซเรนกระพริบอยู่ข้างหน้า เลยคิดว่าน่าจะเกิดอุบัติเหตุ เมื่อขับเข้าใกล้เรื่อยๆ จึงรู้ว่าเป็นด่านตำรวจ ตั้งกรวยยางปิดถนนเหลือ 1 เลนส์ จาก 4 เลนส์ มีตำรวจ 4 นาย มี 1 นายตั้งโต๊ะนั่งรอสำหรับไปจ่ายค่าปรับ...
...เราโดนเรียกให้จอดพร้อมขอดูใบขับขี่ ซึ่งเรายังไม่ได้ทำอันนี้ยอมรับ จนต้องโดนเรียกปรับ 200 บาท ในฐานลืมพกใบขับขี่ (ซึ่งถ้าหากตอบว่าลืมพกมาจะโดนปรับน้อยกว่า การตอบว่าไม่มีใบขับขี่) ตอนนั้นเรากับแฟนไม่มีเงินพอ 200 (เพราะไม่คิดว่าจะต้องใช้เงินซื้ออะไรระหว่างทาง) เมื่อไม่มีเงินจึงเดินออกมาหาตู้ ATM เพื่อมาจ่ายค่าปรับ โดยจอดรถพร้อมถอดหมวกกันน๊อกซึ่งติดกล้องไว้ วางไว้ที่รถโดยไม่ลืมว่าจะต้องหันไปทางไหน คิดไว้ว่าเผื่อจะจับพฤติกรรมอะไรได้จากตำรวจ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 กว่านาทีในการเดินเท้า ไป-กลับ มาที่รถ...
...เมื่อเสร็จธุระจากตำรวจ ก็กลับบ้านโดยไม่ได้คิดอะไรถึงเรื่องกล้อง จนมาเช็คดูที่บ้านปรากฎว่าเมมโมรี่ในกล้องหายไป...
...เช้าวันต่อมา เราก็ไปติดต่อที่โรงพักในเขตพื้นที่การดูแลเมื่อคืน สอบถามเรื่องตำรวจ 4 นาย ที่ตั้งด่านเมื่อคืนปรากฏว่าไม่มีใครอยู่...
...เราจึงได้ฝากเรื่องลงบันทึกประจำวันไว้ ในข้อหาโดนลักทรัพย์...
แต่เรื่องก็ไม่ได้มีความคืบหน้าจนผ่านไปแล้ววันนี้ 3 สัปดาห์เต็ม เราขี้เกียจตามเรื่อง เพราะมันเสียเวลาทำมาหากิน และไม่ได้เสียดายอะไร เพราะตลอดทางในกล่องไม่ได้บันทึกอะไรที่สำคัญ
เลยมาโพสเป็นประสบการณ์ ให้อ่านกัน
[ พฤติกรรมตำรวจแบบนี้ ผมถือว่ามันผิด แต่ผมจะไม่ขอกล่าวถึงสถานที่ และโรงพักนั้นก็แล้วกันครับ เพราะตำรวจดีๆ ก็มีเยอะ - ใครมีความรู้ด้านนี้มาบอก มาแชร์ มาเล่า มาติ กันได้ครับ ]