แยกแยะ ตำรวจจริง vs ปลอมตัว

กระทู้สนทนา
เมื่อพูดถึง "หน้าที่ของตำรวจ" โดยทั่วไปตามกฎหมายและหลักการแล้ว จะครอบคลุมหลายด้านครับ หลักๆ คือ:

รักษาความสงบเรียบร้อย: ดูแลให้สังคมมีความสงบสุข ป้องกันเหตุร้ายต่างๆ

ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรม: สืบสวน จับกุมผู้กระทำความผิด และป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมขึ้น

สืบสวนสอบสวนคดีอาญา: เมื่อมีเหตุอาชญากรรมเกิดขึ้น ตำรวจมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐาน สอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

บริการประชาชน: ให้ความช่วยเหลือ อำนวยความสะดวก และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

บังคับใช้กฎหมาย: ดูแลให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายบ้านเมือง

ในบริบทที่เจอ:

การสืบสวนสอบสวน: ถ้ามีคดีเกิดขึ้นจริง และตำรวจสงสัยว่าใครอาจมีส่วนเกี่ยวข้องหรือมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หน้าที่ของเขาคือต้องทำการสืบสวน ครับ ซึ่งรวมถึงการหาข้อมูลว่าใครคือใคร เกี่ยวข้องกันอย่างไร มีพยานหลักฐานอะไรบ้าง

วิธีการสืบสวนที่ถูกต้อง: โดยปกติแล้ว ตำรวจ อาจจะ โทรศัพท์สอบถามข้อมูลเบื้องต้นได้ในบางกรณี แต่หากเป็นการสอบสวนที่จริงจัง หรือต้องการข้อมูลสำคัญ หรือต้องการให้คุณไปให้ปากคำ มักจะมีกระบวนการที่เป็นทางการกว่านั้น เช่น ออกหมายเรียก หรือเชิญไปให้ปากคำที่สถานีตำรวจ จะไม่มีการโทรมาข่มขู่ กดดัน หรือสอบถามข้อมูลส่วนตัวที่ละเอียดอ่อนทางโทรศัพท์แบบที่มิจฉาชีพทำ

ดังนั้น การที่บอกให้เขา "ไปสอบสวนใหม่เอง" จึงเป็นการยืนยันหลักการที่ถูกต้องครับ คือ:

ถ้าเขาเป็นตำรวจจริง ก็เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องไปสืบเสาะหาข้อมูลและพยานหลักฐานต่างๆ ด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามขั้นตอน ไม่ใช่มาคาดคั้นเอาจากคุณทางโทรศัพท์ โดยเฉพาะเมื่อคุณยืนยันว่าไม่รู้จักหรือไม่เกี่ยวข้อง

ถ้าเขาเป็นมิจฉาชีพ การตอบแบบนี้ก็เป็นการตัดบท ไม่ให้ข้อมูล และไม่ตกหลุมพราง

สรุปคือ คุณเข้าใจถูกต้องแล้วครับ การสืบสวนหาข้อเท็จจริงเป็น "หน้าที่" ของตำรวจ (จริง) ที่ต้องทำเองตามกระบวนการครับ

_______________________________________

ภาพรวมหน้าที่ของ ตำรวจไทย (สำนักงานตำรวจแห่งชาติ) ที่ละเอียดและครอบคลุมมากขึ้น นี่คือขอบเขตหน้าที่หลักๆ ที่ครอบคลุมกว่าเดิมครับ:

กลุ่มหน้าที่หลักด้านการบังคับใช้

​กฎหมายและรักษาความสงบ:
การรักษาความสงบเรียบร้อยและป้องกันอาชญากรรม (Peacekeeping and Crime Prevention):
1.จัดสายตรวจ (ทั้งเดินเท้า, รถยนต์, จักรยานยนต์) เพื่อแสดงกำลังและป้องกันเหตุ

2.เข้าระงับเหตุทะเลาะวิวาท เหตุร้าย หรือความไม่สงบต่างๆ ที่ได้รับแจ้ง (เช่น ผ่าน 191)

3.วางแผนและดำเนินมาตรการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่เสี่ยงหรือช่วงเทศกาล
ควบคุมดูแลสถานบริการ แหล่งชุมนุม หรือกิจกรรมที่อาจก่อความไม่สงบ

4.บังคับใช้กฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยโดยตรง

การสืบสวนสอบสวนและปราบปรามอาชญากรรม (Criminal Investigation and Suppression):
1.รับแจ้งความร้องทุกข์และดำเนินการสอบสวนคดีอาญาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา

2.รวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งพยานบุคคล เอกสาร วัตถุพยาน และหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์

3.สืบสวนหาตัวผู้กระทำผิด (สืบจับ)
ดำเนินการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ หรือกรณีความผิดซึ่งหน้า

4.ตรวจค้นบุคคล ยานพาหนะ หรือสถานที่ตามอำนาจกฎหมาย (เช่น มีหมายค้น หรือเหตุจำเป็นอื่นๆ)

5.ปราบปรามอาชญากรรมเฉพาะทาง เช่น ยาเสพติด, การค้ามนุษย์, อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ, อาชญากรรมทางเทคโนโลยี (Cybercrime), การก่อการร้าย (ดำเนินการโดยหน่วยงานเฉพาะทาง เช่น บช.ปส., บช.ก., บช.สอท.)

6.การจัดการเกี่ยวกับของกลางในคดี

งานจราจร (Traffic Management):

1.อำนวยความสะดวกและจัดการจราจรบนท้องถนน

2.บังคับใช้กฎหมายจราจร (ออกใบสั่ง, ตั้งด่านตรวจ, จับกุมผู้ฝ่าฝืน)

3.สอบสวนอุบัติเหตุจราจร และดำเนินการตามกฎหมาย

4.รณรงค์ส่งเสริมวินัยจราจรและความปลอดภัยทางถนน

5.จัดการจราจรในงานพิธี หรือกิจกรรมพิเศษต่างๆ

กลุ่มหน้าที่ด้านบริการและความมั่นคง:
การบริการประชาชนและชุมชนสัมพันธ์ (Public Service and Community Relations):

1.ให้ความช่วยเหลือประชาชนในสถานการณ์ต่างๆ เช่น คนหาย, ของหาย, เหตุฉุกเฉินเบื้องต้น

2.ดำเนินโครงการตำรวจชุมชนสัมพันธ์ (Community Policing) เพื่อสร้างความร่วมมือกับประชาชนในการป้องกันอาชญากรรม

3.ให้บริการข้อมูล หรืออำนวยความสะดวกตามอำนาจหน้าที่ (เช่น การตรวจสอบประวัติอาชญากรรมตามคำร้องขอ)

งานกิจการพิเศษและความมั่นคง (Special Operations and Security):

1.การควบคุมฝูงชน (Crowd Control) ในการชุมนุมประท้วง

2.การถวายความปลอดภัยแด่พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระบรมวงศานุวงศ์ และอารักขาบุคคลสำคัญ (VIP Protection)

3.การรักษาความมั่นคงภายในและตามแนวชายแดน (ดำเนินการโดยตำรวจตระเวนชายแดน - ตชด.)

4.​การปฏิบัติการพิเศษ เช่น การต่อต้านการก่อการร้าย, การเก็บกู้วัตถุระเบิด (EOD)
การตรวจคนเข้าเมือง (ดำเนินการโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง - สตม.)

5.ควบคุมการเดินทางเข้า-ออกราชอาณาจักรของบุคคล และการพำนักของคนต่างด้าว

6.การปฏิบัติหน้าที่ในงานพระราชพิธีและรัฐพิธีต่างๆ

กลุ่มหน้าที่ด้านสนับสนุนและบริหารองค์กร:
งานนิติวิทยาศาสตร์ (Forensic Science):

1.การตรวจเก็บและพิสูจน์หลักฐานในที่เกิดเหตุ (เช่น ลายนิ้วมือ, DNA, อาวุธปืน, เอกสาร)

งานอำนวยการและสนับสนุน (Administration and Support):
งานธุรการ สารบรรณ กำลังพล การเงิน งบประมาณ พัสดุ และส่งกำลังบำรุง
งานกฎหมาย วินัย และคดีปกครอง
งานฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากร
งานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
งานแผนงานและยุทธศาสตร์
งานจเรตำรวจ (ตรวจสอบการปฏิบัติงานและประเมินผล)
งานประชาสัมพันธ์องค์กร

จะเห็นได้ว่าขอบเขตหน้าที่ของตำรวจไทยนั้นกว้างขวางมากครับ ครอบคลุมตั้งแต่การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม การรักษาความสงบ การจราจร การบริการ ไปจนถึงงานด้านความมั่นคงและงานสนับสนุนภายในองค์กร ซึ่งแต่ละส่วนก็มักจะมีหน่วยงานเฉพาะทางรับผิดชอบแตกต่างกันไปครับ


_______________________________________


คำว่า "สืบจับ" ในบริบทของตำรวจ หมายถึง กระบวนการสืบเสาะหาข่าวสาร ข้อมูล หรือร่องรอย เพื่อติดตามตัวผู้ต้องหาหรือผู้กระทำความผิดที่ทราบตัวแล้ว (หรือพอจะระบุตัวได้แล้ว) แต่ยังไม่ทราบที่อยู่ หรือกำลังหลบหนีอยู่ เพื่อนำไปสู่การจับกุมตัวมาดำเนินคดี
พูดง่ายๆ คือ:
สืบ (สืบหาตัว): ตำรวจรู้แล้วว่าน่าจะเป็นใครที่ทำผิด หรือมีหมายจับแล้ว แต่คนนั้นหายตัวไป หรือไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน ตำรวจก็จะเริ่ม "สืบ" คือการหาข้อมูลว่า:
คนนั้นน่าจะไปหลบซ่อนที่ไหน?
ติดต่อกับใครบ้าง?
ใช้รถอะไร?
มีพฤติกรรมอย่างไร?
อาจจะไปปรากฏตัวที่ไหนได้บ้าง?
(ขั้นตอนนี้อาจรวมถึงการเฝ้าดู การติดตาม การหาข่าวจากแหล่งต่างๆ)

จับ (จับกุม): เมื่อสืบจนได้ข้อมูลเพียงพอ และรู้แหล่งที่อยู่หรือพบตัวผู้ต้องหาแล้ว ตำรวจก็จะเข้า "จับ" หรือ "จับกุม" ตัวบุคคลนั้นตามอำนาจหน้าที่ (ซึ่งส่วนใหญ่มักจะต้องมีหมายจับ เว้นแต่เป็นความผิดซึ่งหน้า)

สรุป: "สืบจับ" คือ การทำงานต่อเนื่องกันของตำรวจ เริ่มตั้งแต่การ สืบหาที่อยู่/ติดตามตัว ผู้กระทำผิดที่กำลังหลบหนี และจบลงด้วย การจับกุม ตัวผู้นั้นได้ เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสืบสวนสอบสวนที่เน้นไปที่การนำตัวผู้ต้องหามาให้ได้ครับ

หวังว่าข้อมูลนี้จะครอบคลุมและเป็นประโยชน์นะครับ!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่