ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ ผู้ชี้ว่าศาล รธน ไม่มีอำนาจรับคำร้องแก้ที่มา สว เป็นอะไรกับ องอาจ คล้ามไพบูลย์ สส ปชป

ตัดมาจาก http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE5EUTFNREF5TkE9PQ%3D%3D§ionid




ศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์
นักวิชาการอิสระด้านรัฐศาสตร์

กรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยคดีเกี่ยวกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเกี่ยวกับที่มาของส.ว. โดยพื้นฐานตามหลักการกฎหมาย ผู้ร้องไม่มีสิทธิ์ ยื่นร้องเรื่องดังกล่าวต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพราะเป็นการ ยื่นร้องที่ต้องการขัดขวางกระบวนการของฝ่ายนิติ บัญญัติและฝ่ายบริหารให้เกิดความขัดข้องเท่านั้น

อีกทั้งศาลรัฐธรรมนูญเองก็ไม่มีอำนาจพิจารณาหรือรับไว้เป็นคำร้อง เนื่องจากประเด็นที่มาของส.ว.เป็นเรื่องของการแก้ไขตัวรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ดังนั้น กระบวนนี้มันผิดตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว

เพราะฉะนั้น วันที่ 20 พ.ย. ที่ศาลฯ นัดอ่านคำวินิจฉัยคดีนี้ ท่ามกลางสถานการณ์ทางการเมืองที่ยังมีความวุ่นวายจากการชุมนุมต่อต้านพ.ร.บ. นิรโทษกรรม และยังมีเรื่องคดีปราสาทพระวิหารที่เป็นฟืนคอยเติมให้สถานการณ์ทางการเมืองร้อนยิ่งขึ้น

จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดตัดสินคดีสำคัญในช่วงเวลานี้ อาจเป็นการขยายเงื่อนเวลาที่จะทำให้การชุมนุมยังยืดเยื้อต่อไป

ยิ่งถ้าศาลรัฐธรรมนูญเกิดตัดสินว่าการแก้ไขที่มาของ ส.ว. ขัดรัฐธรรมนูญ ไม่ชอบด้วยกฎหมาย คำร้องมีมูล จะเท่ากับว่าคำตัดสินนั้นกลายเป็นลูกระเบิดที่ใช้โจมตีรัฐบาลได้อีกลูกหนึ่ง

และยังเป็นการเปิดช่องทางที่ฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลจะใช้เป็นข้ออ้างในการชุมนุมต่อไป

แม้ว่าศาลรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรอิสระต่างๆ จะไม่จำเป็นต้องดูสถานการณ์บ้านเมืองว่ามีความวุ่นวายแค่ไหน หรือเหมาะสมหรือไม่ ในการพิจารณาคดีสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ทางการเมือง เพราะถือว่าได้ทำหน้าที่ตามระเบียบขององค์กร

แต่สามารถตั้งข้อสังเกตได้ว่า ศาลรัฐธรรมนูญมักหยิบยกคดีสำคัญมาพิจารณาในช่วงที่บ้านเมืองมีความวุ่นวาย ซึ่งเหตุการณ์ในลักษณะนี้จะเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่