คุณเป็นเช่นนั้นถามว่าที่ผมพูดถึงเรื่องท่าทีพุทธทาสที่มีต่ออภิธรรมปิฏก จริงไหม
ผมตอบไว้ว่า

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เพื่อความเป็นธรรมต่อพุทธทาส ผมขอแสดงหลักฐานฉบับเต็มครับ
คุณเป็นเช่นนั้นสามารถโหลดไปรับฟังได้เลยครับ ผมไม่ได้ตัดต่อใดๆทั้งสิ้นครับ
ยาวหน่อยนะครับ เกือบสองชม.

http://www.4shared.com/mp3/vqLWv_gT/2514-03-20_.html


_{เท่าที่ได้เคยอ่านหลายๆท่านพูดถึงเรื่องนี้บ้าง
ผมก็เห็นว่าการจะเอาอภิธรรม หรือไม่ ปัญหาคืออะไร
อภิธรรมขัดแย้ง (บางส่วน/ทั้งหมด) กับสิ่งที่พระพุทธเจ้าบอกสอนหรือไม่
หากไม่ขัด หรือไม่ได้ขัดทั้งหมด เราจะปฏิเสธ ไม่ยอมรับ เพื่ออะไร
ถ้าปฏิเสธ หรือไม่ยอมรับว่าเป็นคำของพระพุทธเจ้า .... ก็ถือว่าเป็นการปฏิเสธที่ถูก
แต่ถ้าปฏิเสธ หรือไม่ยอมรับว่าเป็นจริง (พร้อมกับบอกว่าเท็จ) ไม่ยอมรับว่าสอดคล้องกับที่พระพุทธเ้จ้าบอกสอน (ทั้งสรุปว่าไม่สอดคล้องหรือขัดแย้งกับที่พระพุทธเจ้าบอกสอน)....ไม่น่าจะเป็นการปฏิเสธที่ถูกรึเปล่าครับ}
*******

คำถามนี้ผมขอตอบแบบนี้ครับ
อภิธรรมถูกแยกออกมาเป็นหนึ่งใน 3 ปิฏก มา 2300 ปีแล้วครับ
การผ่านร้อนผ่านหนาวมา 2300 ปี
ผ่านสายตาผู้ศึกษาพระพุทธศาสนาขั้นจริงจังไม่น่าจะต่ำกว่า สิบล้านคน
ผ่านสายตาพระอริยเจ้ามานับไม่ถ้วน ถ้าอภิธรรมสอนขัดกับพระสูตร
คุณเป็นเช่นนั้นคิดว่าท่านเหล่านั้นจะไม่พบเจอเลยหรือครับ
แล้วถ้ามีจริงๆ ทุกวันนี้พอจะมีใครยกตัวอย่างได้ไหมครับว่า พระอภิธรรมสอนขัดแย้งกับพระสูตรอย่างไรบ้าง
มีแต่พระอภิธรรมเติมเต็มให้อธิบายเรื่องสมมติปรมัตถ์ได้เข้าใจมากขึ้น
ทำให้อธิบายพระสูตรบางพระสูตรที่อ่านแวบแรกเหมือนขัดแย้งกันเอง กลายเป็นเข้ากันได้


ส่วนที่ถามว่าในเมื่อไม่ขัดจะปฏิเสธไม่ยอมรับพระอภิธรรมเพื่ออะไร
เหตุผลแท้จริงผมไม่ทราบครับ
เพราะถ้าจะบอกว่ามีสิ่งที่ทำให้เดาได้ว่าอภิธรรมไม่ใช่พุทธพจน์ ก็ตอบได้ว่ามีสิ่งที่ทำให้เดาได้ว่าอภิธรรมเป็นพุทธพจน์เช่นกัน
แถมมีคำสอนพวกมหายานทั้งของท่านนาคารชุน ทั้งฮวงโป เว่ยหลาง ทีอย่างนี้ทำไมรับเอามาเฉยเลยล่ะครับ
พวกนี้เป็นพุทธพจน์ตอนไหนครับ

แต่ถ้าให้ผมสันนิษฐานจากความเป็นไปได้ ก็ขอตอบว่า
คำอธิบายในพระอภิธรรม ไม่ตรงกับคำอธิบายของพุทธทาส
และทำให้คำอธิบายของพุทธทาสที่อธิบายพระสูตรหลายๆพระสูตรเป็นสิ่งไร้ค่า
เรียกว่าอธิบายไปคนละทิศละทางกันเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็นเรื่องกรรม เรื่องปฏิจจสมุปบาทข้ามชาติภพ
หรือเรื่องพระสูตรระลึกชาติหลายๆอันที่พุทธทาสกล่าวหาว่าเป็นสัสสตทิฏฐินั่นแหละ
อภิธรรมช่วยอธิบายตรงนี้ได้ชัดเจนครับ

อรรถกถา และวิสุทธิมรรคก็ถูกแอนตี้จากพุทธทาส & co ด้วยเหตุผลเดียวกัน
ทั้งๆที่มองกันตามจริงแล้ว

ในขณะที่คำอธิบายของพุทธทาส จำเป็นต้องตัดพระไตรปิฏกออกหลายๆส่วน พระสูตรนั้นตัดส่วนนั้นทิ้งพระสูตรนี้ตัดส่วนนี้ทิ้ง
โดยอ้างว่า เป็นพราหมณ์ปลอมปนมั่ง ไม่ใช่พุทธพจน์แท้มั่ง สัสตทิฏฐิมั่ง พระพุทธเจ้าต้องเอออวยมั่ง

แต่อภิธรรม อรรถกถา วิสุทธิมัคค์ หรือแม้แต่อภิธัมมมัตถสังคหะ
กลับสามารถอธิบายพระวินัยและพระสูตรทั้ง 42000พระธรรมขันธ์ โดยไม่จำเป็นต้องตัดออกแม้แต่ประโยคเดียว
และที่น่าประหลาดในกว่านั้นคือ คำสอนที่พุทธทาสบอกว่าเป็นพราหมณ์ปลอมปนมั่ง ไม่ใช่พุทธพจน์แท้มั่ง สัสตทิฏฐิมั่ง
พระพุทธเจ้าต้องเอออวยมั่ง กลับถูกอภิธรรมอธิบายได้สอดคล้องกับคำสอนที่เป็นพุทธแท้(ตามที่พุทธทาสยอมรับ)
อย่างสอดประสานเป็นเนื้อเดียวกัน ไม่ขัดแย้งกันเองแม้แต่น้อย  

แต่คำอธิบายของพุทธทาส
กลับต้องเอาพระสูตรนี้ตรงนี้พระสูตรนั้นตรงนั้น ตรงจุดนี้ไม่เอา ตรงนี้ภาษาคน ตรงโน้นภาษาธรรม
ถ้าคำนี้อยู่ในพระสูตรนี้หมายความว่าแบบนี้ แต่ถ้าไปอีกพระสูตรนึงจะหมายความอีกแบบ โอ้ย มั่วกันไปหมด
ตลกดีไหมครับ คนที่บอกว่าของตัวเองเป็นพุทธแท้ อธิบายพระไตรปิฏกตะกุกตะกัก ข้ามโน่นตัดนี่ไม่เอานั่น
แต่สิ่งที่เขาหาว่าปลอม กลับเชือมโยงสอดประสานเหมือนสิ่งเดียวกัน

เดี๋ยวจะหาว่าผมใส่ร้าย เอาง่ายๆ ผมยกตัวอย่างแล้วกัน


*************
ทีนี้เรื่องโสดาบันที่ผมจั่วหัวกระทู้ไว้ข้างบน
พระพุทธเจ้าท่านบอกไว้ว่า พระโสดาบัน เป็นผู้เที่ยงที่จะตรัสรู้ ต้องเกิดอีกไม่เกิน 7ภพ

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=20&A=6198&Z=6231
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก็หรือว่าเมื่อยังไม่ถึงยังไม่แทงตลอดวิมุตตินั้น
เธอเป็นพระเอกพิชีโสดาบัน เพราะสังโยชน์ ๓ หมดสิ้นไป มาบังเกิดยังภพมนุษย์นี้ครั้งเดียวเท่านั้น
แล้วจักทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
ก็หรือว่าเมื่อยังไม่ถึง ยังไม่แทงตลอดวิมุตตินั้น
เธอเป็นพระโกลังโกละโสดาบันเพราะสังโยชน์ ๓ หมดสิ้นไป ยังท่องเที่ยวไปสู่ ๒ หรือ ๓ ตระกูล (ภพ)
แล้วจะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้
ก็หรือว่าเมื่อยังไม่ถึง ยังไม่แทงตลอดวิมุตตินั้น
เธอเป็นพระสัตตักขัตตุปรมโสดาบัน เพราะสังโยชน์ ๓ หมดสิ้นไป ยังท่องเที่ยวไปในเทวดาและมนุษย์อย่างมากเพียง ๗ ครั้ง
แล้วจะทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ ฯ

แต่พุทธทาสบอกไว้ว่า

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้(1)พระสกิทาคามี ก็แปลว่าผู้ที่จะกลับมาเพียงครั้งเดียว ผู้ที่จะกลับมาเพียงครั้งเดียว สำหรับพระโสดาบันนั้น ในตัวชื่อไม่ได้บอกว่า จะกลับมากี่ครั้ง แต่ตามหลักที่เขาสอนกันอยู่ เขาว่า 7 ครั้ง อย่างน้อยก็สอง-สามครั้ง


พุทธทาสภิกขุ ธรรมศาสตราเล่ม 1 ธรรมทานมูลนิธิ หน้าสวนโมกข์ ไชยา (หน้า 402)


(2) การตีความมานี่ตีความกันว่ากลับมาสู่โลกนี้ คือตายแล้วเกิดเป็นมนุษย์นี่อีกตั้ง 7 ครั้ง อีก 2 3 ครั้งบ้าง อย่างพระสกิทาคามีนี้มาอีกครั้งเดียว แล้วพระอนาคามีนั้นไม่มาอีกเลย เขาตีความกันอย่างนี้


ผมไม่ตีความอย่างนั้น เดี๋ยวจะว่าให้ฟังว่า พระโสดาบันจะเกิดอีก 7 ชาติเข้าโลงอีก 7 ชาติ ผมว่าไม่ใช่อย่างนั้น คือ จะมีจิตที่วกกลับมา กามารมณ์อีกเพียง 7 ครั้งเป็นอย่างมาก พระสกิทาคามีก็จะกลับมาอีกครั้งหนึ่งอย่างมาก พระอนาคามีก็จะไม่กลับมาเลย นี้เป็นเรื่องชาติ ที่อธิบายด้วยความรู้สึกในจิตที่ยึดมั่นถือมั่นเป็นตัวกู-ของกูเป็นชาติหนึ่ง แล้วชาตินั้นเกิดขึ้นเพราะอาศัยสิ่งที่เรียกว่ากาม หรือกามารมณ์เป็นต้นเหตุ


พุทธทาสภิกขุ ธรรมศาสตราเล่ม 1 ธรรมทานมูลนิธิ หน้าสวนโมกข์ ไชยา (หน้า 403)

และบอกไว้อีกว่า ปฏิจจสมุปบาทข้ามภพชาติน่ะไม่มี สอนกันผิดๆ




ทีนี้คำถามคือกรณีของท่านอนาถบิณฑิกะโสดาบัน
ผมยกลิ้งค์พระไตรมาให้ด้วย
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=14&A=9311&Z=9524

ถามว่า พุทธทาสจะอธิบายแบบไหนไม่ให้ขัดแย้งกัน?
ในเมื่อพระพุทธเจ้าบอกว่าพระโสดาบันเที่ยงที่จะตรัสรู้ แต่อนาถบิณฑกเศรษฐีตายทั้งๆที่ยังเป็นโสดาบัน

1 ก็พุทธทาสอธิบายไว้ว่าเป็นภพทางใจ แต่นี่อนาถบิณฑิกะเศรษฐีตายทั้งๆที่ยังเป็นพระโสดาบัน  แล้วจะเทียงที่จะตรัสรู้ได้ไง?
2แล้วอนาถบิณฑิกะไปเป็นเทวดาได้ไง? ในเมื่อพุทธทาสบอกว่ากรรมและวิบากเสวยกันเฉพาะในชาตินั้นอัตภาพนั้นเท่านั้น
3แล้วในเมื่อบอกปฏิจจสมุปบาทข้ามภพชาติไม่มี แล้วสมมติสัตว์ที่เรียกกันว่าอนาถบิณฑิกะสืบต่อชาติภพในภพภูมิใหม่ได้อย่างไร?
4 ถ้าสืบต่อไม่ได้  แล้วเทวดาองค์นั้นมาหาพระสารีบุตรเพื่อขอบคุณเรื่องอะไร?



อันนี้ก็พิจารณากันเอาเองแล้วกันครับ