เคยรู้สึกไหม งานที่ทำอยู่เหมาะกับเราไหม

ถามตัวเองหลายต่อหลายครั้งว่างานที่ทำอยู่เราชอบจริงไหม  แล้วจริงๆเราอยากทำอะไร เราทำทีวีค่ะ บางครั้ง...รู้สึกเบื่อกับการทำงานเปลี่ยนงานไปเรื่อยๆเหมือนกัน  เเต่ก็ยังเป็นงานประมาณเดิม  อาจจะมีหลุดๆไปงานอารมณ์ออฟฟิตหลายรอบเเต่เราก็ยังเบื่อที่จะทำเหมือนไม่ได้พัฒนาตัวเองอ่ะ เงินเดือนน้อยลงด้วย เพียงเเต่มีเวลามากขึ้นมากกว่างานทีวีมาก เเต่อนาคตพูดกับตัวเองว่าฉันไม่อยากทำงานบ. อยากลงทุนทำของตัวเอง แต่กว่าจะถึงตอนนั้นคงต้องเก็บเงินซะก่อน  ที่เราเป็นงี้ไม่มีความอดทนในการทำงานรึเปล่าเราถึงได้เบื่องานที่ต้องอยู่ในออฟฟิตทุกวัน เบื่อคน เบื่อสังคมออฟฟิต (ตอนนี้ทำในส่วนออฟฟิตของเคเบิ้ลที่นึงค่ะ) เเต่ตามนิสัยชอบเข้าสังคมนะคะ ตอนนี้อยากลองงาน pr เเต่มันดูเริ่มยากมาก เราไม่ได้มีคอนเนคชั่น ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่องาน pr อายุเราก็ไม่น้อย ทำงานมา 4 ปีเเล้ว ดูมันเริ่มยากมากค่ะ ... ตอนนี้นอยด์อ่ะ ทำงานเงินเดือนไม่เยอะ เท่าเมื่อก่อน ช่วยเหลือทางบ้านไม่ค่อยได้ ยิ่งนอยเข้าไปใหญ่ เฮ้อ!รู้สึกสับสน เคยสัมภาษณ์งาน pr ค่ายเพลงยักษ์อยู่ที่นึงเมื่อไม่นานมานี้ เข้าไปถึงรอบ 2 ค่ะ เเต่ก็พลาดไม่โดนเรียก เเต่ก็ยังอยากลองทำงานด้านนี้อยู่  เเต่งาน pr ที่ใกล้ตัวก็พวกค่ายหนัง เพลง อะไรงี้อะ เพิ่งมารู้จักกะพี่ที่เคยทำ pr/ae เอเจนซี่มาก่อน เคยก็บอกงานหนัก ไม่เเน่ใจว่าเหมือนกับธุรกิจบันเทิงที่เราไปสัมภาษณ์หรือพูดคุยกับคนที่เราเคยร่วมงาน(เอ็กเเซ็ก/m 39) ไหม เเต่สนุกดีนะ มันยิ่งเพิ่มความอยากลองเเต่ยังมองหาทางเข้าไปไม่เจอ ยิ่งไม่มีประสบการณ์ยิ่งยาก อ มีใครพอจะเเนะนำได้บ้าง???
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ลองเป็นเซลลมั้ยคะ เงินจะค่อนข้างเยอะ ไม่จำเจด้วยค่ะ

ปล เราก็ทำงานเป็นเซลล เว็บไซต์แห่งหนึ่ง ทีมีช่องทีวี เป็นของตัวเองด้วยยิ้ม
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
รู้ว่าไม่ชอบเท่าไหร่  ทำงานวันต่อวัน  แต่ไม่มีทางเลือกครับ  ต้นทุนน้อย  ไม่ทำก็ไม่มีกิน
ความคิดเห็นที่ 18
ลองลางานซัก 3 วันแล้วไปเที่ยวให้สบายใจ ปลดปล่อยความคิดทบทวนตัวเอง
ชีวิตเป็นของเราอย่าปล่อยให้อะไรที่ไม่ใช่มากลืนกินเวลาชีวิต  เราเคยทำงานหนึ่งเดือนแล้วขอลาออก
ถ้าเราทำงานแล้วรู้สึกได้ว่าต้องมานั่งนับรอเวลาเลิกงาน เบื่อแบบไม่มีเหตุผล  ทั้งๆที่งานก็ไม่ได้ยุ่งและไม่มีปัญหาอะไร เราจะรีบไปจากจุดนั้นทันที
ปีนี้เราทำงานมาจะสี่อาชีพแล้วลองผิดลองถูกให้มันรู้ไป
ที่แรกเราทำมาได้หนึ่ง ลาออกมาขายของ เพราะเบื่อชีวิตมนุษย์เงินเดือนเหลือเกิน
นำเงินเก็บมาลงทุนซื้อเฟรนไซน์ขนม  ทำได้สองเดือนผลสุดท้ายก็เจ๊งไม่เป็นท่า ทั้งเหนื่อยทั้งท้อ แต่เงินที่เสียไปก็ซื้อประสบการณ์ให้เรารู้ว่าการลงทุนมีความเสี่ยงเจ้าของกิจการไม่เจ๊งก็รวยแต่อิสระได้เป็นนายตัวเอง รับผิดชอบเองทุกอย่าง  แต่มนุษย์เงินเดือนไม่รวยแต่ก็ไม่เจ๊ง เงื่อนไขคือต้องขายจิตวิญญาณให้องกรณ์ นายสั่งอะไรก็ต้องทำ
หลังจากธุรกิจเจ๊งเราก็กลับสู้วงจรมนุษย์เงินเดือน เฮร่ออ ก็ตามที่บอกไว้ในตอนแรกทำได้เพียงเดือนเดียวก็ออก  อายพ่อแม่เหมือนกันที่เราเหมือนคนไม่เอาไหน  ในเมื่อมันไม่ใช่เราก็คงไม่ฝืนทน

จากนั้นก็นอนเปื่อยอยู่บ้านเหมือนคนไร้ค่า  ไม่อยากทำอะไรเลย วันก้ก็กินอน ดูทีวี เลี้ยงหมา ช่วยงานที่บ้านนิดหน่อย
จนมาค้นหาตัวเองปลุกสัญชาตญาณความชอบออกมา ปิ๊ง!! งานออกแบบ เราชอบศิลปะนี่นา เราอยู่กับมันได้ทั้งวันและไม่เบื่อด้วย
หลังจากค้นพบตัวเองก็ลงทุนไปเรียนเสริมนิดหน่อยให้ฝีมือเข้าขั้นสมัครงานได้ ตอนนี้เราก็หันมาเอาดีทางด้านนี้ ถึงเริ่มต้นในสายงานใหม่เงินเดือนจะน้อยกว่าที่เคยทำมา แต่ก็มีความสุขค่ะ เพราะเราอยู่กับสิ่งที่เราชอบ

ป.ล. เราจบธุรกิจการบินมาค่ะ  ซึ่งห่างไหลกับงานด้านดีไซส์ศิลปะมาก

ขอให้คนได้ค้นพบงานที่ชอบไวไวนะคะ สู้ๆ
ความคิดเห็นที่ 31
ขอบคุณเจ้าของกระทู้มากครับ ที่ตั้งกระทู้ดีดีแบบนี้
มันสะท้อนถึงปัญหาทั้งระบบใหญ่ ตั้งแต่การศึกษา > พัฒนามาเป็นวัยทำงาน > องค์กรบริษัท > ตัวกลาง > ผู้บริโภคหรือประชาชนทั่วไป

คอมเม้นหลายๆอันก็บ่งบอกถึงการทำงาน จับฉ่าย พูดง่ายๆ หัวหน้าให้ทำหมด ทั้งๆที่ไม่ใช่ตำแหน่งหน้าที่เรา   
แค่นี้ก็สะท้อนละทรัพยากรด้านบุคคลในประเทศเราไม่เพียงพอต่อความต้องการ (Resource Human)  

Analyst
1.การศึกษา  
นายA เรียน วิทย์คอม แต่จบมาแบบ งูๆปลาๆ  
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไร อย่างน้อยถ้าการศึกษามีคุณภาพจริง บุคคลากรที่ผลิตได้ จะได้ประมาณ 50%50%  
"ในเมื่อการศึกษามีปัญหา  ความรู้ความสามารถของคนที่จบมา เช่น นาย A ก็จะมีปัญหาเช่นกัน"
2.บริษัท  องค์กร  ผู้บริหาร  หัวหน้างาน  
มุ่งเน้นแต่ผลกำไร  ผลลัพธ์ของงาน  โดยไม่สนใจว่าพื้นฐานของสังคมในประเทศเป็นอย่างไร    เลยเกิดคำที่ว่า  ใช้คนไม่ตรงกับงาน
ทำให้พนักงานระดับล่างๆนั้น ต้องทำงานเกินหน้าที่  
คำว่าทำงานเกินหน้าที่หลายท่านสงสัย มันก็ต้องมีบ้างแหละ และมันเกินหน้าที่ยังไง
ผมยกตัวอย่าง  ตอนคุณสมัครงาน  มันเขียนชัดเจนขอบเขตหรือความต้องการว่าต้องทำอะไรได้บ้าง  แต่พอไปทำงานจริงๆไม่ใช่นะครับ
จึงเกิดปัญหาตามมาในตำแหน่งพนักงาน เช่น พนักงานบางคนเกิดความเครียด  พนักงานบางคนรู้สึกว่าถูกใช้งานหนักไม่คุ้มค่าเงินเดือนที่ได้รับ
พนักงานบางคนรู้สึกถึงความยุติธรรม ข้อตกลง            สุดท้ายลงเอยด้วยการ "ลาออก"
นั่นหมายถึง ปริมาณงานที่ยังคงเท่าเดิมและอาจมีมากกว่าเดิม  แต่บุคคลากร น้อยลง  จึงเกิดปัญหาลูกโซ่   
วิธีการแก้ไขในปัจจุบัน ของบริษัท องค์กรขนาดใหญ่   เขาจึงไปจ้าง Outsource หรือ บริษัทจัดบุคคลากรมืออาชีพ  
มันเป็นปัญหาอีก สมมุติ บริษัท B จ้างนาย A ถ้าจ้างโดยตรง ก็จ่ายเงินเดือนให้ 20000  (มันมีผลด้านจิตวิทยา)  ถ้าไปจ้าง Outsource
บริษัท B บอก ผมมีให้คุณ 20000  และให้ค่าหัวคิวเป็นเปอร์เซ็นตามสัญญาก็ว่ากันไป  แต่บริษัท Outsource ไปจ้างนาย A  มาในราคาเดือนละ 17000  ถ้าคุณอ่านอย่างจับใจความและ Analyst ทีละจุด แบบช้าๆ คุณจะเข้าใจว่า ทำไมผมถึงบอกว่า มีผลด้านจิตวิทยาและสาเหตุต่างๆมันเป็นลูกโซ่
ถ้าผู้บริหารอยากได้ผลงาน อยากได้ผลกำไร ก็ควรเล็งเห็นคุณค่าของการพัฒนาที่ยั่งยืน  ต่อสังคมไทย และ คนไทย
เช่น จัดตั้ง Academy Department   คุณอย่าคิดว่ามันยากในการจัดตั้งหรือลงทุน  ผมถามง่ายๆ คุณทำแล้วได้อะไรกับบริษัทคุณ  
และด้านจิตวิทยาของคนมาสมัครงานกับบริษัทคุณ  จะรู้สึกอย่างไร
  
3. การบังคับใช้กฏหมาย นโยบายของรัฐ   
คุณไปดูที่ website จัดหางาน หรือ ตัวกลางอย่าง jobthai jobtopgun jobdb jobth  (ขออนุญาติเอ่ยนาม)
มีลงประกาศจากบริษัทบานเลยครับ รับสมัครงาน เงินเดือน ตั้งแต่ 10000-14000  ในวุฒิปริญญาตรีด้วยนะ
คุณจะอ้างว่า ตำแหน่งงานส่งผลต่อเงินเดือน มันจริงของคุณ แล้วกฏหมายละครับ  มันจึงเป็นเหตุผลที่เวลา HR รับสมัครพนักงาน พนักงานมักจะเขียน 15000 บาท เวลาเริ่มแรกเข้า  (เชิงพฤติกรรมมนุษย์สมัยใหม่ตามยุคตามสมัย)
ผมลองมองภาพถึงความยุติธรรมนะครับ   ในเมื่อ บริษัทคุณก็ไม่ได้ให้ความสำคัญหรือสิ่งที่คนควรได้รับ  แถมยังมาใช้งานเกินหน้าที่  เป็นผมก็ลาออกครับ
4. มันจึงเกิดเป็นปัญหา ด้านคุณธรรม จริยธรรม ของคนในสังคม   (คุณอย่าปติเสธว่าตัวคุณเอง หรือ ตัวผมเอง ไม่เป็น)
ตัวอย่างเช่น   งานเยอะ  ก็เริ่มมีการซุบซิบนินทรา  ,   ความเห็นแก่ตัว    เป็นต้น

ถ้ามีผู้บริหารหรือเจ้าของบริษัทไหนสงสัย   และบอกว่า ไม่เห็นเกี่ยว  มันเป็นที่ตัวบุคคลมากกว่า  ไม่ใช่หน้าที่ผม
งั้นผมถามกลับ  และถ้า ระบบทั้งหมดมันดี  คุณคิดว่าปัญหาที่ตัวบุคคลจะมีไหมครับ   
ถ้าไม่ลองทำ คุณก็จะไม่มีวันรู้ ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร  

--------------------------------------------------------------------------------
ประเทศไทย คือ Database ใหญ่ 1 ก้อน
ถูกโยงความสัมพันธ์เชื่อมกันไว้ทั้งหมด  Relation Database  

Table หลัก
การศึกษา, บริษัทองค์กร, รัฐบาล นโยบายรัฐ, กฏหมาย, ประชาชน(ผู้บริโภค,คนทำงาน)

คุณออกมาเป็น Report  แค่ Table หลัก หรือ subTable อันไหนสักอันมีปัญหา Report ที่คุณดู ก็คือ ประเทศไทยในวันนี้
--------------------------------------------------------------------------------
แต่ผมก็ขอเป็นกำลังใจให้กับคนทำงานนะครับ สู้ๆต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่