ปลายปีที่แล้วผมจองคอนโดราคาเกือบ2 ล้านแถวสาธุประดิษฐ์-รัชดาเพื่ออยู่ตอนแก่เพราะโสด จากบริษัทใหญ่ ชื่อเสียง-ภาพลักษณ์ดีมาก
มีโครงการคอนโดเยอะ ชื่อแรกเป็น " ส " ตอนจองให้จ่าย5,000 นัดทำสัญญาอีก 20,000 แต่ถ้าจ่ายเลย 25,000 จะได้ของแถมพวกตู้เย็น ทีวี
เป็นต้น ผมก็จ่ายเลย 25,000 โดยเอกสารจองไม่ได้บอกว่าไม่มีตึกจอดรถและมีพื้นที่ให้จอดรถเพียง30%ของจำนวนห้อง บรูชัวร์เปิดให้ดูคร่าว ๆ
ไม่ได้ให้ ตอนนัดเซ็นสัญญา เอกสารหนาเป็นเล่ม ไม่สามารถอ่านละเอียดได้ เงินก็จ่ายแล้วเชื่อถือในบริษัทด้วย เลยลงนามพร้อมกับได้บรูชัวร์มา
กลับบ้านอ่านรายละเอียด ในเอกสารสัญญาระบุว่ามีพื้นที่จอดรถเพียง 30% ไม่ได้พูดถึงตึกจอดรถ ในบรูชัวร์ก็ไม่มี ได้โทรไปถามได้รับการยืนยัน
ตามนั้น ตกใจมากว่าคอนโด 2 ล้านไม่มีตึกจอดรถ ต้องแย่งกันจอดตากแดด ตากฝน ต้องซ้อนคันและเข็นกัน ยิ่งกว่าแฟลตหรือคอนโดราคาถูก
ทำไงได้ ต้องส่งดาวน์ไปก่อน และรอขายทิ้ง ได้ฝากทางบริษัทและ website หลายแห่งขาย ตอนแรกตั้งราคาบวกกำไร หลัง ๆ ขายเท่าทุน
ก็ยังขายไม่ได้ หลายคนสนใจแต่ติปัญหาที่จอดรถ
ผมเลยตัดสินใจขอยกเลิกการจองซื้อและขอเงินคืนประมาณ 40,000 จากทางบริษัท เขาไม่ยอม อ้างว่าไม่ได้ผิดสัญญา ทีมกฎหมายเป็นผู้หญิง
ทำหน้าตาอำมหิต มองด้วยสายตาเหยียด ยังกับว่าผมประทุษร้ายบริษัทเขารุนแรง ขนาดต่อรองขอคืนครึ่งหนึ่งก็ไม่ยอม ตอนเจรจาฝ่ายขายหลุด
มาว่าเวลาขายของเซลจะไม่บอกสิ่งที่ไม่มี เป็นเรื่องปกติ ซึ่งผมแอบอัดเทปไว้ จะนัดเจรจาอีกรอบ ถ้ายังไม่สำเร็จเพื่อนผมที่เป็นทนายบอกให้
ฟ้อง จะช่วยฟรี ผมจ่ายแค่ค่าธรรมเนียมศาลเพราะเจตนาเป็นสำคัญ ผมสำคัญผิดว่ามีตึกจอดรถ ถึงได้จองซื้อและเซ็นสัญญา
ผมยังลังเลอยู่ เพราะต้องไปทำงานโครงการแม่ฟ้าหลวงที่เชียงรายเกือบปี ไม่อยากต้องเดินทางไปมา เงินจำนวนไม่เยอะด้วย แต่คิดอีกที
ควรฟ้อง แพ้หรือชนะคดีไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะถ้าศาลประทับรับฟ้อง ผู้สื่อข่าวสามารถลงข่าวได้ คนจะได้ทราบทั่ว ๆ กันและผู้บริหารของ
บริษัทจะได้ทราบด้วย ผมเจ็บใจทีมกฎหมายเขาที่แย่มากทำให้เสียภาพพจน์บริษัทที่สร้างสมมาหลายปี
เพื่อน ๆ มีความเห็นอย่างไร มันเรื่องของความรู้สึกและความเป็นธรรม
ควรทำอย่าไรกับคอนโด2 ล้านไม่มีตึอดรถ
มีโครงการคอนโดเยอะ ชื่อแรกเป็น " ส " ตอนจองให้จ่าย5,000 นัดทำสัญญาอีก 20,000 แต่ถ้าจ่ายเลย 25,000 จะได้ของแถมพวกตู้เย็น ทีวี
เป็นต้น ผมก็จ่ายเลย 25,000 โดยเอกสารจองไม่ได้บอกว่าไม่มีตึกจอดรถและมีพื้นที่ให้จอดรถเพียง30%ของจำนวนห้อง บรูชัวร์เปิดให้ดูคร่าว ๆ
ไม่ได้ให้ ตอนนัดเซ็นสัญญา เอกสารหนาเป็นเล่ม ไม่สามารถอ่านละเอียดได้ เงินก็จ่ายแล้วเชื่อถือในบริษัทด้วย เลยลงนามพร้อมกับได้บรูชัวร์มา
กลับบ้านอ่านรายละเอียด ในเอกสารสัญญาระบุว่ามีพื้นที่จอดรถเพียง 30% ไม่ได้พูดถึงตึกจอดรถ ในบรูชัวร์ก็ไม่มี ได้โทรไปถามได้รับการยืนยัน
ตามนั้น ตกใจมากว่าคอนโด 2 ล้านไม่มีตึกจอดรถ ต้องแย่งกันจอดตากแดด ตากฝน ต้องซ้อนคันและเข็นกัน ยิ่งกว่าแฟลตหรือคอนโดราคาถูก
ทำไงได้ ต้องส่งดาวน์ไปก่อน และรอขายทิ้ง ได้ฝากทางบริษัทและ website หลายแห่งขาย ตอนแรกตั้งราคาบวกกำไร หลัง ๆ ขายเท่าทุน
ก็ยังขายไม่ได้ หลายคนสนใจแต่ติปัญหาที่จอดรถ
ผมเลยตัดสินใจขอยกเลิกการจองซื้อและขอเงินคืนประมาณ 40,000 จากทางบริษัท เขาไม่ยอม อ้างว่าไม่ได้ผิดสัญญา ทีมกฎหมายเป็นผู้หญิง
ทำหน้าตาอำมหิต มองด้วยสายตาเหยียด ยังกับว่าผมประทุษร้ายบริษัทเขารุนแรง ขนาดต่อรองขอคืนครึ่งหนึ่งก็ไม่ยอม ตอนเจรจาฝ่ายขายหลุด
มาว่าเวลาขายของเซลจะไม่บอกสิ่งที่ไม่มี เป็นเรื่องปกติ ซึ่งผมแอบอัดเทปไว้ จะนัดเจรจาอีกรอบ ถ้ายังไม่สำเร็จเพื่อนผมที่เป็นทนายบอกให้
ฟ้อง จะช่วยฟรี ผมจ่ายแค่ค่าธรรมเนียมศาลเพราะเจตนาเป็นสำคัญ ผมสำคัญผิดว่ามีตึกจอดรถ ถึงได้จองซื้อและเซ็นสัญญา
ผมยังลังเลอยู่ เพราะต้องไปทำงานโครงการแม่ฟ้าหลวงที่เชียงรายเกือบปี ไม่อยากต้องเดินทางไปมา เงินจำนวนไม่เยอะด้วย แต่คิดอีกที
ควรฟ้อง แพ้หรือชนะคดีไม่ใช่สิ่งสำคัญ เพราะถ้าศาลประทับรับฟ้อง ผู้สื่อข่าวสามารถลงข่าวได้ คนจะได้ทราบทั่ว ๆ กันและผู้บริหารของ
บริษัทจะได้ทราบด้วย ผมเจ็บใจทีมกฎหมายเขาที่แย่มากทำให้เสียภาพพจน์บริษัทที่สร้างสมมาหลายปี
เพื่อน ๆ มีความเห็นอย่างไร มันเรื่องของความรู้สึกและความเป็นธรรม