credit : thanonline.com
------
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเผยปี 57 ตลาดจีนขยายตัวต่อเนื่องโตกว่า 8% ชี้สหรัฐฯ-อียูเริ่มฟื้น สั่งซื้อสินค้าต้นน้ำเพิ่ม แนะการเจาะตลาดต้องศึกษาเป็นรายมณฑล
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว ประเทศจีนว่า นักเศรษฐศาสตร์ทั้งในและต่างประเทศคาดว่าเศรษฐกิจจีนในปี 2557 จะสดใส โดยมีอัตราการขยายตัวที่ระดับ 8.4% เป็นอย่างต่ำ โดยไตรมาส 4 (ตุลาคม-ธันวาคม)ปี 2556 นี้ จีนจะมีอัตราการขยายตัวไม่ต่ำกว่า 7.7% เนื่องจากปัจจัยพิเศษที่เสริมเข้ามา คือ การกักตุนสินค้าเพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่สำหรับชาติตะวันตกและทั่วโลกที่ส่งผลให้การส่งออกกลบมาคึกคึก รวมถึงการเตรียมซื้อสินค้าเพื่อต้องรับเทศกาลตรุษจีนในปีหน้า ของคนภายในประเทศ
ปัจจัยหลักที่ทำให้สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของจีนดีขึ้นในไตรมาสที่ 3 คือ เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักของจีนเริ่มฟื้นตัว ไม่ว่าจะเป็นสหภาพยุโรป(อียู) ซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับ 1 และสหรัฐฯ คู่ค้าอันดับ 2 โดยเฉพาะสหรัฐฯทำการค้ากับจีนมีอัตราการขยายตัวกว่า 8.7% มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคการส่งออกของจีน และเมื่อจีนมีการผลิตเพื่อการส่งออกเพิ่มขึ้น การนำเข้าไม่ว่าจะเป็นสินค้าต้นน้ำ สินค้ากึ่งสำเร็จรูปและวัตถุดิบจะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลดีกับไทยด้วย เนื่องจากไทยเป็นหนึ่งในประเทศส่งออกสินค้าตั้งต้นเหล่านี้ให้จีน
ทั้งนี้จีนเป็นจุดหมายทางการค้าของทุกประเทศ โดยมุ่งหวังเพิ่มสัดส่วนมูลค่าทางการค้าและเข้าถึงตลาดผู้บริโภคของจีน แต่ด้วยขยายของประเทศที่กว้างใหญ่และประชากรที่มีความหลากหลายมากที่สุดของโลก การนำเข้าสินค้าเจาะเข้าตลาดจีนนั้น จำเป็นจะต้องมองตลาดเป็นสัดส่วน เนื่องจากความต้องการของประชากรในแต่ละเมืองในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันมาก ทั้งภาษาท้องถิ่น ชีวิตความเป็นอยู่ และที่สำคัญที่สุด คือ พฤติกรรมผู้บริโภค
“การนำสินค้าเพื่อเจาะเข้าตลาดจีนนั้น จึงควรคำนึงกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่ที่เปิดรับกับสินค้าต่างชาติและชื่นชอบสินค้าไทย หรือ มุ่งเน้นที่ตลาดผู้บริโภคระดับกลาง ถึงระดับบนที่มองหาสินค้าคุณภาพได้มาตรฐาน มีนวัตกรรม มีการเพิ่มมูลค่าและราค่าค่อนข้างสูง ซึ่งเหล่านี้เป็นจุดเด่นของสินค้าไทย โดยเมืองหลักๆ เหล่านั้นได้แก่ เมืองกวางโจว(เมืองหลวงของมณฑลกวางตุ้ง) ตงก่วน เมืองรองของมณฑลกวางตุ้ง อู่อั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย เป็นต้น เมืองเหล่านี้ถือเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญ ประชากรมีกำลังซื้อสูงและมีต่างชาติ”นางนันทวัลย์ กล่าว
สำหรับสินค้าที่มีโอกาสและมีแนวโน้มการเติบโตในจีน ได้แก่ เคมีภัณฑ์เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยางไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ สินค้าเกษตร เช่น ข้าว มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลัง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง รวมถึงสินค้าเกษตรแปรรูปอื่นๆ และบริการในด้านร้านอาหารไทย ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจบริการด้านสุขภาพและการแพทย์
“แม้ภาพรวมของเศรษฐกิจจีนในปีนี้อยู่ในสภาวะชะลอตัว แต่การนำเข้าและส่งออกของจีนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในครึ่งปีแรกมูลค่านำเข้าส่งออกรวมอยู่ที่ 1.99 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นการมูลค่าส่งออก 1.05 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯและมูลค่าการนำเข้าที่ 9.44 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ครึ่งปีจีนเกินดุลการค้า 1.07 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ”นางนันทวัลย์ กล่าว
พาณิชย์คาดปี 57 ตลาดจีนโตกว่า 8% แนะประเภทสินค้าที่มีโอกาสและแนวโน้มโต
------
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศเผยปี 57 ตลาดจีนขยายตัวต่อเนื่องโตกว่า 8% ชี้สหรัฐฯ-อียูเริ่มฟื้น สั่งซื้อสินค้าต้นน้ำเพิ่ม แนะการเจาะตลาดต้องศึกษาเป็นรายมณฑล
นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยรายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ เมืองกวางโจว ประเทศจีนว่า นักเศรษฐศาสตร์ทั้งในและต่างประเทศคาดว่าเศรษฐกิจจีนในปี 2557 จะสดใส โดยมีอัตราการขยายตัวที่ระดับ 8.4% เป็นอย่างต่ำ โดยไตรมาส 4 (ตุลาคม-ธันวาคม)ปี 2556 นี้ จีนจะมีอัตราการขยายตัวไม่ต่ำกว่า 7.7% เนื่องจากปัจจัยพิเศษที่เสริมเข้ามา คือ การกักตุนสินค้าเพื่อรองรับเทศกาลปีใหม่สำหรับชาติตะวันตกและทั่วโลกที่ส่งผลให้การส่งออกกลบมาคึกคึก รวมถึงการเตรียมซื้อสินค้าเพื่อต้องรับเทศกาลตรุษจีนในปีหน้า ของคนภายในประเทศ
ปัจจัยหลักที่ทำให้สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของจีนดีขึ้นในไตรมาสที่ 3 คือ เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าหลักของจีนเริ่มฟื้นตัว ไม่ว่าจะเป็นสหภาพยุโรป(อียู) ซึ่งเป็นคู่ค้าอันดับ 1 และสหรัฐฯ คู่ค้าอันดับ 2 โดยเฉพาะสหรัฐฯทำการค้ากับจีนมีอัตราการขยายตัวกว่า 8.7% มีแนวโน้มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาคการส่งออกของจีน และเมื่อจีนมีการผลิตเพื่อการส่งออกเพิ่มขึ้น การนำเข้าไม่ว่าจะเป็นสินค้าต้นน้ำ สินค้ากึ่งสำเร็จรูปและวัตถุดิบจะมีโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลดีกับไทยด้วย เนื่องจากไทยเป็นหนึ่งในประเทศส่งออกสินค้าตั้งต้นเหล่านี้ให้จีน
ทั้งนี้จีนเป็นจุดหมายทางการค้าของทุกประเทศ โดยมุ่งหวังเพิ่มสัดส่วนมูลค่าทางการค้าและเข้าถึงตลาดผู้บริโภคของจีน แต่ด้วยขยายของประเทศที่กว้างใหญ่และประชากรที่มีความหลากหลายมากที่สุดของโลก การนำเข้าสินค้าเจาะเข้าตลาดจีนนั้น จำเป็นจะต้องมองตลาดเป็นสัดส่วน เนื่องจากความต้องการของประชากรในแต่ละเมืองในแต่ละพื้นที่มีความแตกต่างกันมาก ทั้งภาษาท้องถิ่น ชีวิตความเป็นอยู่ และที่สำคัญที่สุด คือ พฤติกรรมผู้บริโภค
“การนำสินค้าเพื่อเจาะเข้าตลาดจีนนั้น จึงควรคำนึงกลุ่มผู้บริโภคในพื้นที่ที่เปิดรับกับสินค้าต่างชาติและชื่นชอบสินค้าไทย หรือ มุ่งเน้นที่ตลาดผู้บริโภคระดับกลาง ถึงระดับบนที่มองหาสินค้าคุณภาพได้มาตรฐาน มีนวัตกรรม มีการเพิ่มมูลค่าและราค่าค่อนข้างสูง ซึ่งเหล่านี้เป็นจุดเด่นของสินค้าไทย โดยเมืองหลักๆ เหล่านั้นได้แก่ เมืองกวางโจว(เมืองหลวงของมณฑลกวางตุ้ง) ตงก่วน เมืองรองของมณฑลกวางตุ้ง อู่อั่น เมืองหลวงของมณฑลหูเป่ย เป็นต้น เมืองเหล่านี้ถือเป็นเขตเศรษฐกิจสำคัญ ประชากรมีกำลังซื้อสูงและมีต่างชาติ”นางนันทวัลย์ กล่าว
สำหรับสินค้าที่มีโอกาสและมีแนวโน้มการเติบโตในจีน ได้แก่ เคมีภัณฑ์เม็ดพลาสติก ผลิตภัณฑ์ยางไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบอื่นๆ สินค้าเกษตร เช่น ข้าว มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์จากมันสำปะหลัง ผลไม้สด แช่เย็น แช่แข็งและแห้ง รวมถึงสินค้าเกษตรแปรรูปอื่นๆ และบริการในด้านร้านอาหารไทย ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจบริการด้านสุขภาพและการแพทย์
“แม้ภาพรวมของเศรษฐกิจจีนในปีนี้อยู่ในสภาวะชะลอตัว แต่การนำเข้าและส่งออกของจีนยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในครึ่งปีแรกมูลค่านำเข้าส่งออกรวมอยู่ที่ 1.99 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 8.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา แบ่งเป็นการมูลค่าส่งออก 1.05 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯและมูลค่าการนำเข้าที่ 9.44 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ ส่งผลให้ครึ่งปีจีนเกินดุลการค้า 1.07 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ”นางนันทวัลย์ กล่าว