กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ
กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ เราได้รวมตัวกันตั้งแต่สวนลุม และร่วมชุมนุมเรื่อยมาตั้งแต่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อทางแกนนำ
เสนาธิการประกาศยกเลิกการชุมนุม ปรากฎว่ามวลชนกลุ่มหนึ่งไม่ยอมกลับ ขณะนั้นได้มีการคุยสรุปว่าต้องออกจากพื้นที่
พรบ.ความมั่นคงก่อน พี่น้องอาชีวะจึงได้นำมวลชนไปที่แยกอุรุพงษ์ แต่เราอาชีวะไม่มีคนพูดเก่งๆ
หลังจากที่มาปักหลักที่อุรุพงษ์ อาชีวะเป็นคนดูแลพี่น้องมาตลอด เรามีเต็นเป็นที่พัก และเราอยู่ดูแลมวลชน 24ชม.
เพื่อคอยช่วยดูแลร่วมไปถึงอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนในทุกด้าน เหตุการ
ที่ประชาชนโดนหมามุ่ยทุกครั้งทางอาชีวะจะประสานรถพยาบาลพาไปโรงพยาบาล
ส่วนที่ไม่ไปก็ได้หายาให้ทาทุกครั้งไปและเราบอกแล้วว่าเราจะอยู่แนวหน้าเพื่อปก
ป้องพี่น้องประชาชน หากพี่น้องเจ็บอาชีวะต้องเจ็บก่อนหากพี่น้องเจ็บแสดงว่าอาชีวะเจ็บหมดแล้ว ขณะที่เราอยู่
บุคคลที่อยู่ทีมการ์ด คปท. ได้พาตำรวจมาค้นเต็นอาชีวะถึง2ครั้ง ครั้งแรกที่อุรุพงษ์ ครั้งที่2ที่มัฆวาล ทั้ง2ครั้ง
ชุดการ์ดของ คปท.ได้นำตำรวจเข้ามาค้นถึง 2 ครั้ง โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าใดๆ จุดประสงค์ใดนั้นทางอาชีวะเราก็ยังไม่รู้
แต่ทั้ง2ครั้งนั้น ไม่มีอาวุธหรือยาเสพติดใดๆทั้งสิ้นและทางเราก็ได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
และเหตุการครั้งล่าสุดตอนที่อาชีวะได้เดินไปร่วมปักธงกับ คปท.ได้มีการกระทบกระทั่งกับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจกลายเป็นภาพที่อาชีวะใช้ความรุนแรง หากเราต้องความรุนแรงเราคงเตรียมอาวุธไปพร้อมปะทะแน่
แต่ที่เราทำไปนั้นไม่ได้มีจุดประสงค์ใช่ความรุนแรง แต่ต้องการปกป้องประชาเท่านั้นเพราะตำรวจจะทำร้ายประชาชน
แต่ทางนายอุทัย คปท.ได้แถลงข่าวโจมตีและคาดโทษแทนที่จะปกป้องกลุ่มเดียวกัน
ถือเป็นการไม่ให้เกียรติกันในถานะผู้ร่วมงาน
ดังนั้นทางคณะทำงานลงมติความเห็นยกเลิกสนับสนุนและช่วยเหลือการชุมนุมของ คปท.
แต่หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนหรือโดนคุกคาม
ทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติจะเข้าช่วยเหลือโดยทันที ในนามกลุ่มอาชีวะช่วยชาติโดยไม่เกี่ยวข้องใดๆ
กับแกนนำ คปท.แต่อย่างใด
สิ่งที่หน้ากลัวที่สุดคือการทำให้คนดีท้อแท้(แต่สำหรับอาชีวะช่วยชาติไม่มีคำว่าท้อแท้)
ด้วยจิตคารวะ
กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ ณ.ราชดำเนิน 56
กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ ขอชี้แจงและขอความเห็นใจ เราเป็นเพียงเยาวชนรักชาติไทย
กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ เราได้รวมตัวกันตั้งแต่สวนลุม และร่วมชุมนุมเรื่อยมาตั้งแต่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อทางแกนนำ
เสนาธิการประกาศยกเลิกการชุมนุม ปรากฎว่ามวลชนกลุ่มหนึ่งไม่ยอมกลับ ขณะนั้นได้มีการคุยสรุปว่าต้องออกจากพื้นที่
พรบ.ความมั่นคงก่อน พี่น้องอาชีวะจึงได้นำมวลชนไปที่แยกอุรุพงษ์ แต่เราอาชีวะไม่มีคนพูดเก่งๆ
หลังจากที่มาปักหลักที่อุรุพงษ์ อาชีวะเป็นคนดูแลพี่น้องมาตลอด เรามีเต็นเป็นที่พัก และเราอยู่ดูแลมวลชน 24ชม.
เพื่อคอยช่วยดูแลร่วมไปถึงอำนวยความสะดวกแก่พี่น้องประชาชนในทุกด้าน เหตุการ
ที่ประชาชนโดนหมามุ่ยทุกครั้งทางอาชีวะจะประสานรถพยาบาลพาไปโรงพยาบาล
ส่วนที่ไม่ไปก็ได้หายาให้ทาทุกครั้งไปและเราบอกแล้วว่าเราจะอยู่แนวหน้าเพื่อปก
ป้องพี่น้องประชาชน หากพี่น้องเจ็บอาชีวะต้องเจ็บก่อนหากพี่น้องเจ็บแสดงว่าอาชีวะเจ็บหมดแล้ว ขณะที่เราอยู่
บุคคลที่อยู่ทีมการ์ด คปท. ได้พาตำรวจมาค้นเต็นอาชีวะถึง2ครั้ง ครั้งแรกที่อุรุพงษ์ ครั้งที่2ที่มัฆวาล ทั้ง2ครั้ง
ชุดการ์ดของ คปท.ได้นำตำรวจเข้ามาค้นถึง 2 ครั้ง โดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้าใดๆ จุดประสงค์ใดนั้นทางอาชีวะเราก็ยังไม่รู้
แต่ทั้ง2ครั้งนั้น ไม่มีอาวุธหรือยาเสพติดใดๆทั้งสิ้นและทางเราก็ได้ให้ความร่วมมือกับทางเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี
และเหตุการครั้งล่าสุดตอนที่อาชีวะได้เดินไปร่วมปักธงกับ คปท.ได้มีการกระทบกระทั่งกับ
เจ้าหน้าที่ตำรวจกลายเป็นภาพที่อาชีวะใช้ความรุนแรง หากเราต้องความรุนแรงเราคงเตรียมอาวุธไปพร้อมปะทะแน่
แต่ที่เราทำไปนั้นไม่ได้มีจุดประสงค์ใช่ความรุนแรง แต่ต้องการปกป้องประชาเท่านั้นเพราะตำรวจจะทำร้ายประชาชน
แต่ทางนายอุทัย คปท.ได้แถลงข่าวโจมตีและคาดโทษแทนที่จะปกป้องกลุ่มเดียวกัน
ถือเป็นการไม่ให้เกียรติกันในถานะผู้ร่วมงาน ดังนั้นทางคณะทำงานลงมติความเห็นยกเลิกสนับสนุนและช่วยเหลือการชุมนุมของ คปท.
แต่หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนหรือโดนคุกคาม
ทางกลุ่มอาชีวะช่วยชาติจะเข้าช่วยเหลือโดยทันที ในนามกลุ่มอาชีวะช่วยชาติโดยไม่เกี่ยวข้องใดๆ
กับแกนนำ คปท.แต่อย่างใด สิ่งที่หน้ากลัวที่สุดคือการทำให้คนดีท้อแท้(แต่สำหรับอาชีวะช่วยชาติไม่มีคำว่าท้อแท้)
ด้วยจิตคารวะ
กลุ่มอาชีวะช่วยชาติ ณ.ราชดำเนิน 56