วันที่ 15 พ.ย. นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย กล่าวถึงกรณีกลุ่ม
ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และแกนนำกลุ่มคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เป่านกหวีดใส่
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการว่า ตนเห็นภาพข่าว ส.ส.หญิงพรรคประชาธิปัตย์
ไปกระทำแบบนั้นแล้วไม่สบายใจ เพราะพรรคประชาธิปัตย์กำลังสร้างวัฒนธรรมไม่ดีให้
กับการเมืองไทย หน้าที่ ส.ส.คือหน้าที่การทำงานเป็นผู้แทนประชาชนในสภาฯ ไม่ใช่
ไปยืนเป่านกหวีดตามท้องถนนหรือเอาไว้ไล่คนที่อื่นอย่างกับไม่ใช่คน ทั้งนี้ พฤติกรรมของ
พรรคประชาธิปัตย์ทำให้ตนนึกถึงคำพูดของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ อดีตนายกฯ เมื่อครั้ง
ประกาศลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้พูดกับคนใกล้ชิดเป็นวลี
ติดปากในสมัยปี 2490 โดยเป็นการแสดงความเห็นต่อวัฒนธรรมของพรรคประชาธิปัตย์
ที่ดูภาพลักษณ์ภายนอกมีความสวยงามแต่เนื้อแท้แล้วไม่เป็นเช่นนั้น
“ผมนึกถึงวลีหนึ่งที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์เคยกล่าวไว้ตอนลาออกจากพรรค เพราะท่านเหลือ
จะทนกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นคำพูดติดปากเป็นวลีสองประโยค คุณไปดูเอาเปรียบเปรย
ว่าพฤติกรรมของคนพรรคนี้แย่มาก โดยเปรียบว่าแย่ขนาดคนที่มีอาชีพขับสามล้อยังไม่
อยากรับขึ้นไปนั่ง ส่วนอีกประโยคหนึ่งไปค้นหาเอาเอง ความหมายทั้งสองประโยคที่คน
พูดเปรียบเปรยนั้นคนรุ่นใหม่อาจไม่เข้าใจ แต่คนรุ่นเก่าเขารู้ ที่ตนเอามาอ้างเพราะแสดง
ให้เห็นว่าเวลาที่ผ่านมาพฤติกรรมที่แม้แต่คนขับสามล้อยังรับไม่ได้นั้นไม่เคยหายไปเลย”
นายจารุพงศ์ กล่าวและว่า
สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำอาจเป็นการแสดงสัญลักษณ์ทาง
การเมือง แต่ลืมคิดไปว่าคนในประเทศไทยไม่ได้ชอบพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมดยังมีคน
เห็นต่าง หากคนเห็นต่างเหล่านั้น ลุกขึ้นมาแสดงท่าทีคัดค้านหรือตอบโต้สัญลักษณ์ที่
พรรคประชาธิปัตย์ทำ ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันจะมีแต่ความแตกแยกในสังคม
พรรคประชาธิปัตย์เองไม่ใช่หรือที่บอกว่าต้องการความปรองดอง แต่สิ่งที่เขาทำตอนนี้
จะทำให้สังคมร้าวลึกลงไปอีก ทั้งหมดเพราะเขาต้องการอยากจะชนะ อยากข่มขู่คนอื่น
แต่ไม่คิดว่าสิ่งที่เขาทำจะทำให้เกิดอะไรขึ้น เด็กหรือเยาวชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วย
จะจำพฤติกรรมนี้ไปใช้เพราะเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งดี อย่าบอกว่านี่คืออารยะขัดขืน สิ่งที่เรียกว่า
อารยะจะต้องก่อให้เกิดความดี ถ้าก่อให้เกิดความแตกแยกต้องเรียกว่าอนารยะต่างหาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE5EVXdNekExTlE9PQ==&subcatid=
ใครจะเห็นค้านก็ได้นะคะ ไม่มีใครรู้จริงสักคน กับสิ่งที่คุณจารุพงษ์ นำมาอ้าง เพราะอ.จ.ตึกฤทธิ์
ท่านพูดน่ะ ปี 90 ก็ฟังเขามาเล่าต่อ หรือหากมีเอกสารหลักฐาน ก็เอามาอ้างอิงกันหน่อย
ท้วงไปเนี่ยะ .... สวมวิญญาน สาวกปชป.นะคะ ... แต่ถ้าเพื่อนๆ ที่ไม่ชอบปชป. อยู่แล้ว
ก็ต้องบอกว่า "ถูกใจ...ใช่เลย" ตรงใจจริงๆ
“จารุพงศ์” ประณาม ปชป.ทำลายวัฒนธรรมการเมือง ข่าวสดออนไลน์
ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์และแกนนำกลุ่มคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เป่านกหวีดใส่
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการว่า ตนเห็นภาพข่าว ส.ส.หญิงพรรคประชาธิปัตย์
ไปกระทำแบบนั้นแล้วไม่สบายใจ เพราะพรรคประชาธิปัตย์กำลังสร้างวัฒนธรรมไม่ดีให้
กับการเมืองไทย หน้าที่ ส.ส.คือหน้าที่การทำงานเป็นผู้แทนประชาชนในสภาฯ ไม่ใช่
ไปยืนเป่านกหวีดตามท้องถนนหรือเอาไว้ไล่คนที่อื่นอย่างกับไม่ใช่คน ทั้งนี้ พฤติกรรมของ
พรรคประชาธิปัตย์ทำให้ตนนึกถึงคำพูดของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมทย์ อดีตนายกฯ เมื่อครั้ง
ประกาศลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ได้พูดกับคนใกล้ชิดเป็นวลี
ติดปากในสมัยปี 2490 โดยเป็นการแสดงความเห็นต่อวัฒนธรรมของพรรคประชาธิปัตย์
ที่ดูภาพลักษณ์ภายนอกมีความสวยงามแต่เนื้อแท้แล้วไม่เป็นเช่นนั้น
“ผมนึกถึงวลีหนึ่งที่ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์เคยกล่าวไว้ตอนลาออกจากพรรค เพราะท่านเหลือ
จะทนกับพรรคประชาธิปัตย์เป็นคำพูดติดปากเป็นวลีสองประโยค คุณไปดูเอาเปรียบเปรย
ว่าพฤติกรรมของคนพรรคนี้แย่มาก โดยเปรียบว่าแย่ขนาดคนที่มีอาชีพขับสามล้อยังไม่
อยากรับขึ้นไปนั่ง ส่วนอีกประโยคหนึ่งไปค้นหาเอาเอง ความหมายทั้งสองประโยคที่คน
พูดเปรียบเปรยนั้นคนรุ่นใหม่อาจไม่เข้าใจ แต่คนรุ่นเก่าเขารู้ ที่ตนเอามาอ้างเพราะแสดง
ให้เห็นว่าเวลาที่ผ่านมาพฤติกรรมที่แม้แต่คนขับสามล้อยังรับไม่ได้นั้นไม่เคยหายไปเลย”
นายจารุพงศ์ กล่าวและว่า สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ทำอาจเป็นการแสดงสัญลักษณ์ทาง
การเมือง แต่ลืมคิดไปว่าคนในประเทศไทยไม่ได้ชอบพรรคประชาธิปัตย์ทั้งหมดยังมีคน
เห็นต่าง หากคนเห็นต่างเหล่านั้น ลุกขึ้นมาแสดงท่าทีคัดค้านหรือตอบโต้สัญลักษณ์ที่
พรรคประชาธิปัตย์ทำ ถามว่าจะเกิดอะไรขึ้น มันจะมีแต่ความแตกแยกในสังคม
พรรคประชาธิปัตย์เองไม่ใช่หรือที่บอกว่าต้องการความปรองดอง แต่สิ่งที่เขาทำตอนนี้
จะทำให้สังคมร้าวลึกลงไปอีก ทั้งหมดเพราะเขาต้องการอยากจะชนะ อยากข่มขู่คนอื่น
แต่ไม่คิดว่าสิ่งที่เขาทำจะทำให้เกิดอะไรขึ้น เด็กหรือเยาวชนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่อะไรด้วย
จะจำพฤติกรรมนี้ไปใช้เพราะเขาคิดว่ามันเป็นสิ่งดี อย่าบอกว่านี่คืออารยะขัดขืน สิ่งที่เรียกว่า
อารยะจะต้องก่อให้เกิดความดี ถ้าก่อให้เกิดความแตกแยกต้องเรียกว่าอนารยะต่างหาก
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNNE5EVXdNekExTlE9PQ==&subcatid=
ใครจะเห็นค้านก็ได้นะคะ ไม่มีใครรู้จริงสักคน กับสิ่งที่คุณจารุพงษ์ นำมาอ้าง เพราะอ.จ.ตึกฤทธิ์
ท่านพูดน่ะ ปี 90 ก็ฟังเขามาเล่าต่อ หรือหากมีเอกสารหลักฐาน ก็เอามาอ้างอิงกันหน่อย
ท้วงไปเนี่ยะ .... สวมวิญญาน สาวกปชป.นะคะ ... แต่ถ้าเพื่อนๆ ที่ไม่ชอบปชป. อยู่แล้ว
ก็ต้องบอกว่า "ถูกใจ...ใช่เลย" ตรงใจจริงๆ