::::::::::::::::::: อยากให้เล่าประสบการณ์ของแต่ละคนจังเลยว่า แอบชอบอาจารย์กันแบบไหนกันบ้าง และคิดว่าหลายคนกำลังหาคำตอบกันอยู่ว่าสรุปแล้วเรากับเขาจะคบกันได้มั้ย เราคิดไปเอง หรือ อยากจะรู้ว่าเขาคิดอะไรกับเราบ้างหรือป่าวนะ มาแชร์กันหน่อยนะ อย่างบางคนเขาอาจจะชอบเรื่องเล่าอะไรพวกนี้ก็ได้ และคิดว่ากำลังหาอ่านอยู่แน่นอนเลย จริงป๊ะ!!!! เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาแชร์เลยดีกว่านะ
::::::::::ก่อนอื่นต้องพูดก่อนเลยว่าความรับและความชอบด้วยสถานะที่ทำให้อาจมีบางอย่างที่หลายคนคิดว่ามันผิด อันนี้เรารับทราบและเข้าใจดี แต่เราก็ห้ามหัวใจไว้ไม่ได้จริงๆอันนี้พูดเลยเราจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงระหว่างเรากับอาจารย์ท่านนี้ให้ฟังบางทีอาจะได้คำตอบดีๆจากเพื่อนๆ (เอ้อขอย้ำเรื่องภาษาที่ใช้เราขอเป็นภาษาที่เราเล่านะคือมันจะได้ฟิวกว่า ยาวหน่อยนะขอเล่าแบบละเอียดเลยนะหรือว่าใครจะอ่านเป็นนิยายก็ถือว่าได้เลยนะ แต่ขอย้ำนะว่าเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้แต่งหรือสร้างขึ้นมาแต่อย่างใดทั้งสิ้น เรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริงและเราเจอมาแล้วจริงๆเป็นประสบการณ์ตรงจริงๆนะ และคิดว่าจะมีมาต่อเรื่อยๆด้วยเราจะไม่ซีเรียสมากนะเอาสนุกๆละกัน)
เรื่องมันมีอยู่ว่าวันแรกของการเปิดภาคเรียนชั้นปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เป็นเช้าวันแรกที่น่าหดหู่เป็นอย่างมากเลยทีเดียวแหละ เพราะอาจารย์บอกว่าวันนี้จะได้เจออาจารย์ท่านใหม่กับสาระวิชาใหม่ตอนแรกก็เบื่อๆอ่ะนะนั่งในห้องรอจารเข้ามา พอจารเดินเข้ามาก้าวแรกแค่นั้นแหละรู้สึกเลยว่าเสปกเลยอ่ะพูดเลยอ่ะว่าชอบเลยคนนี้ใช่เลยคิดว่าใช่จริงๆอ่ะ ณ จุดนี้ทั้งที่เพื่อนในห้องก็อึ้งๆและอาจจะรู้สึกเหมือนๆกันก็ได้นะเพราะเขาค่อนข้างน่ารักเอามากๆและพูดเลยว่าดูดีมากๆเลยทีเดียวเอาแบบว่าเนียบมากๆที่สุดของที่สุดคือมาทจะกึ่งคุณประจักษ์เรื่องวนิดาผสมกับคุณชายพุฒิพัตร์ประมาณนั้นเลย
แค่นี้สาวๆหลายคนก็ฟรินกันมากแระเห็นว่าหลายคนแต่ทุกคนเก็บอาการกันหมดเลยนี่แหละทางสะดวกของเราเลยหล่ะแหม่!!!คาบแรกปรกติจารจะแจกคอร์ดเอาท์ไลน์และแนะนำวิชาเฉยๆแต่พอดีเป็น Major ก็เลยเริ่มเรียนเลยนิดหน่อยทำความรู้จักวิชาทำความเข้าใจเริ่มต้นจารก็แจกกระดาษให้ถามคำถามและเขียนแนะนำตัวเองให้จารรู้จักมีอยู่ข้อหนึ่งในใบคำถามจารถามว่าเราอยากจะถามอะไรอาจารย์เราก็จัดไปเลยดอกหนึ่งเขียนถามเลยว่า "จารย์เชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือป่าว" 555ตอนนั้นคิดเล่นๆถามแบบกวนTอ่ะนะนี่พูดเลยเห็นว่าจารอ่านอยู่แต่ไม่ตอบเลือกตอบอันที่มีสาระ ออ เราโคตรไร้สาระเลยจิงๆอ่ะ5555 ตอนเรียนเราก็นั่งกวน T จารทั้งคาบจริงๆอ่ะทำได้ไงจารก็รับมุขได้ด้วยนะแหม่
ฟรินต่ออาทิตย์แรกเสียดายมากเลยอาทิตย์เดียวได้เรียนคาบของจารแค่วันเดียวเองเซงมากเลยอ่ะ ต่อๆๆเลยละกันพออาทิย์ที่ 2 แค่นั้นแหละไม่รู้ว่ามันเร็วไปหรือป่าวนะ เอ่อวันนั้นก็เรียนปรกติแหละกวน T เหมือนเดิมเรียนมันส์มากอืมเหมือนเพื่อนๆจะรู้ว่าเราชอบจารอ่ะนะพอจารให้ออกไปพูดหน้าห้องแค่นั้นแหละเพื่อนสมทบกันทั้งห้องเลยอื้มน่ารักกันจังเลยทีนี้โหมางี้เราก็เขิลดิพูดเลยจารก็แบบว่ามีอาการแปลกๆกะเราอยู่ซ๊ะด้วยก็แอบรู้สึกอยู่นิดๆแต่จารโคตรเก็บความรู้สึกเลยอ่ะไม่อาจจะรู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ก็เรียนปรกติจนหมดคาบแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือจารลืมเมาส์ไว้ในห้องเรียนเพื่อนก็ถามว่า นี่เมาส์ใคร? เราก็บอกว่าเมาส์จารเดียวเราเอาขึ้นไปคืนให้เอง
แค่นั้นแหละยังเดินไปไม่ถึงก็มีพี่คนหนึ่งเข้ามาตัดหน้าคว้าเมาส์ไปเลย ณ จุดนี้ก็เลยหยุดและก็คิดว่าช่างมันเถอะ แล้ววันนั้นเป็นวันที่คณะของเรามีการประกวดคัดเลือกดาวเดือนเพื่อเข้าสู่การเป็นตัวแทนประกวดรอบของมหาวิทยาลัย แล้วเย็นวันนั้นหลายคนก็ยุ่งกับการแต่งตัวให้น้องและดูแลน้องกัน อีกอย่างจารได้รับเชิญเป็นคณะกรรมการการคัดเลือกด้วย แล้วพี่คนเดิมเลยที่ชิงเมาส์ตัดหน้าไปนั่นแหละก็เดินลงมานั่งข้างๆเราแล้วเราก็ถือโอกาสนั่งคุยกับเขาเลย พี่เขาก็พูดเลยว่าพี่เขารู้จักอาจารดีเลยแหละคุยกันไปคุยกันมาเพลินเลย ตอนแรกก็แอบไม่ปลื้มนะแต่พอคุยกันแล้วถูกคอก็เริ่มสนิทกันเลยพอเห็นว่าทุกคนยุ่งๆเราทั้งสองไม่มีรัยทำเลยชวนกันขึ้นไปหาจารที่ห้องทำงานจาร
พอขึ้นมาแล้วเราก็ยืนอยู่ข้างนอกห้องพี่เขาก็เข้าไปทักก่อนพี่เขาก็ยืนบังหน้าจารกะเราอยู่แต่จารก็เอี้ยวออกมาส่องดูโหยแอบเขิลนะแต่เราก็ทำหน้าเฉยๆหน่ะนะแล้วพอดิบพอดี้ที่ว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่จะต่องเข้าห้องตัดสินจารก็ว่างเขาก็บอกว่าไม่มีรัยทำไม่มีที่ไปไอ้เรากับพี่คนนี้ก็เข้าขากันดีเหลือเกินก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเราก็ไม่มีที่ไปเหมือนกัน เอาเป็นว่าตอนนี้พูดเลยว่าเราทั้งสามคนไม่มีที่ไปพี่เขาก็เลยชวนจารไปเดินเล่นไปหาที่นั่งข้างนอกคุยกันฆ่าเวลาพูดเลยว่าเข้าทางเลยอ่ะ55555 ซักพักจารก็ขอเอาของไปเก็บไว้ที่รถก่อนพวกเราทั้งสองก็เดินไปส่งที่จารเราเดินออกไปกัน 3 คน คนก็มองกันเต็มอย่างกับเราจะมีอะไรกันสายตาหลายคนมีคำถามและข้อสงสัย แต่พวกเราก็เดินไปตอนแรกก็ไม่แคร์หรอกนะแต่พอมันมีคนมองเยอะขึ้นๆก็เริ่มรู้สึกไม่ดีแระ
ก็เลยถามจารไปว่าจารไม่รู้สึกอะไรเลยหรอคะที่เขามองเราแบบนั้นกันอ่ะ มันดูไม่ดีเลยจริงๆอ่ะค่ะ จารเขาก็ตอบมาว่า "ก็แล้วแต่เขาจะมองเราไปห้ามความคิดเขาไม่ได้หรอกครับ" แหม่น่ารักส์จุงเบยพูดเลยอ่ะต่อๆๆพอจารเอาของไปเก็บเสร็จเราก็เดินกันไปนั่งชิวๆที่ร้านนมในมอ จารก็สั่งชาเขียวมานั่งดื่มก็ถามว่าเราจะเอาอะไรมั้ย เราก็ตอบว่าออไม่อ่ะค่ะ แล้วเราก็นั่งคุยถันถึงการเรียนความชอบเรื่องทั่วไป อาจารเป็นคนที่ให้คำปรึกษาได้ดีมากๆเลยทีเดียว ฟังแล้ววิเคราะห์ทุกคำถามทุกคำพูดของเราอย่างตั้งใจพอซักพักก็มีรุ่นพี่เดินผ่านมาก็ทำหน้าเหมือนไม่พอใจและก็หน้าสงสัยว่าเรารู้จักกันได้ถึงขนาดนี้อะไรประมาณนี้เลยหรอมั้งนะ จริงๆแล้วมันก็จริงและค่อนข้างที่จะไวไฟมากจริงๆอ่ะนะสำหรับความคิดของหลายๆคน คงคิดว่าเราอ่อย555 ก็ยอมรับนะตอนนั้นอ่ะอ่อยจริงๆก็คนมันชอบนิหน่านะ
พูดถึงเรื่องนี้เราขอนอกเรื่องนิสหนึ่งนะ เราค่อนข้างที่จะเป็นคนตรงๆไม่อ้อมค้อมมีอะไนชรก็พูดรู้สึกอะไรก็ทำเลย และไม่ค่อยจะเกรงใจใครซ๊ะด้วยถ้าเราไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน จริงๆอันนี้เรายอมรับเลยหลายคนไม่ค่อยชอบเราเราก็แอบน้อยใจเหมือนกันนะว่าเราผิดตรงไหนบางคนก็หาว่าเราแรง เรายังคิดเลยว่าถ้าเราแรงอะนะเราก็แรงได้แค่นี้แหละ เราก็ไม่เคยไปทำร้ายใคร สีผมยอมรับแต่มันเป็นความชอบนะพอดีชอบสีสว่างๆมันเป็นสไตล์และอีกอย่างมันก็เป็นร่างกายของเราด้วยอ่ะซึ่งเรามีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้หนิจริงม๊ะ จริงๆแล้วคนทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพที่เท่าเทียมกันใครจะทำอะไรเราเคยสนใจซ๊ะที่ไหนหล่ะแค่ไม่ทำให้เราเดือนร้อนก็พอแค่นั้น
คือแบบเคยคิดเหมือนกันป๊ะว่าเอาเวลาที่มานั่งอิจฉาในสิ่งที่เราทำเหนี๊ยะ ก็ลองไปทำดูสิจะมานั่งอิจฉาทำไมในเมื่อตัวเองก็มีสิทธิ์ที่จะทำจริงม๊ะและก็เรื่องนี้เลยโยงมาเรื่องอาจารนะเราชอบเราก็รุกเลย ทุกคนที่ชอบก็มีสิทธิ์ก็ทำสิก็อยากจะแข่งก็เอาเลยสิกลัวซ๊ะที่ไหนหล่ะจริงม๊ะแล้วก็มานั่งเคืองนั่งนินทาแบบเนี๊ยะไม่ชอบเลยอ่ะ โดยที่คุณไม่ทำอะไรเลยเนี๊ยะบางทีก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าอะไรให้คนอื่นเลยนะเพราะมันเป็นสิทธิ์ของเขาจริงม๊ะ นี้ก็สิทธิ์ของเราที่เราจะรักใครชอบใครมันก็เรื่องของเราอ่ะนะไม่ว่ากันดิจริงม๊ะใครจะห้ามใจตัวเองได้หล่ะยากนะ!!!
เข้าเรื่องกันต่อวันนี้ได้ตอนเดียวจริงๆอ่ะมาซ๊ะยาวเลย อย่าเพิ่งซีเรียสนะจ๊ะ!! พอแลกเปลี่ยนความรู้แซวเล่นกันไปแซวเล่นกันมาก็ถึงเวลาที่จารต้องเข้าห้องตัดสินแล้วพวกเราเลยเดินไปส่งอยากบอกว่ารู้สึกอึดอัดมากตอนเดินไปส่งจารที่ห้องสายตาแต่ละคนจดจ้องมาเป็นตาเดียว เกรงมากเดินไม่ถูกเลยอ่ะใส่ส้นสูงด้วยแทบก้าวขาไม่ออกพอเดินไปส่งแล้วก็บอกกับจารว่า ไม่เข้าไปนะขอรออยู่ข้างนอกดีกว่า คือเราจะกลายเป็นตัวประหลาดอะดี้ถ้าเข้าไปหลังจากนั้นเราสองคนก็มาหาที่นั่งคุยกันชิวๆข้างนอกกัน 2 คนก็พูดเรื่องอาจารเนี๊ยะแหละก็ถามพี่คนนี้ว่าเขาเป็นคนยังไงชอบอ่ะไรรู้เรื่องอ่ะไรเกี่ยวกับจารบ้างถามไปถามมาก็ได้มาเยอะเลย5555
อีกอย่างยอมรับและสารภาพกับพี่เขาเลยว่าชอบจารจริงๆอ่ะพี่เขาก็บอกว่า แกค่อยๆดูไปก่อนมันยังเร็วเกินไป มันก็จริงนะในส่วนนี้ เราจึงบอกกับพี่ว่าเรารู้ใจตัวเองดีถ้าแค่ชอบไม่เกิน2อาทิตย์ก็ลืม แต่จะให้มั่นใจขอใช้เวลาทั้งเทอมและจนที่ไม่ได้เรียนด้วยจนปิดคอร์ดดูว่าเราจะรู้สึกแบบไหนความรู้สึกจะเปลี่ยแปลงงหรือไม่และระหว่างนั้นมันก็มีเหตุการณ์ที่แบบว่าอาจเป็นเรื่องในสิ่งที่เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นมากมายในส่วนนี้จะเล่าเป็นตอนๆไปนะยาวพูดเลยยาวมากซีรีย์ได้เลยอ่ะแต่ชีวิตจริงจริงๆเนน๊ยะแหละ ต่อนะพองานเลิกจารก็ออกห้องมา พี่ๆน้องๆเพื่อนๆก็ต่างแยกย้ายกันออกมา เรานิสารภาพเลยวันนี้เราวางแผนกะพี่คนนี้ได้เริศมากแผนนี้คือ "ส่งหนูกลับหอหน่อย" 55555
พอเพื่อนออกมาแค่นั้นแหระนะรีบบอกเพื่อนเลยว่ารีบกลับก่อนเลยทิ้งเราไว้เนี๊ยะแล้วก็เดินเข้าไปหาจารเลย แล้วทำเป็นมองหาพี่ พี่คนที่วางแผนด้วยเนี๊ยะแหละ หาไปหามาก็ไม่เจอไปยืนรอหน้าห้องแล้วก็มีน้องคนหนึ่งเดินเข้ามาหาแล้วบอกเราว่าลืมผ้าไว้ในห้องเปิดให้หน่อย ก็เลยถามจารว่ามีกุญแจมั้ยจารก็ลองขึ้นไปหาดูที่ห้องข้างบนเราก็เดินไปเดินมาไปยืนที่ไกล้ๆกะบันใดแล้วมันมึดแล้วด้วยซักพักพอเดินไปถึงบันใดเป็นจังหว่ะเดียวกับที่จารวิ่งลงมาพอดีจังหว่ะนั้นพอพรวดพราดลงมาแค่นั้นแหระบอกเลยเก็บอาการไม่อยู่ ตกใจอย่างแรงส์ยืนอึ้งอยู่พักหนึ่งจนจารสงสัยคือพรวดพราดลงมาแบบฟึบแล้วเขามายืนอยู่ตรงหน้าแราอ่ะไกล้มากๆคือแบบอึ้งมากยืนค้างเลยอารมในละครเลยอ่ะณ จุดนั่นนะ เหมือนฟ้าเป็นใจจริงๆยิ่งกว่าละครอีกอ่ะ
อึ้งซักพักจารก็ส่องเข้ามาไกล้ๆหน้าห่างไม่ถึงคืบ หัวใจโคตรเต้นแรงแรงมากๆอ่ะคือจะเก็บยังไงดีหล่ะเนี๊ยะ แล้วจารก็ถามว่าเห็นพี่Aไหมเราก็คือแบบยังค้างอยู่ไงก็ทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียวแหละก็ค่อยๆยกมือแล้วชี้ว่าพี่ไปทางนั้นพูดติดๆขัดๆเลยอ่ะเจอแบบเนี๊ยะกระพริบตาถี่ๆขมวดคิ้วถี่ๆแบบนั้นเลย แล้วพอจารเห็นท่าทางของเราจารก็แอบยิ้มแล้วก็หัวเราะแบบผู้ดีอ่ะทั้งเขิลทั้งอายเลยอ่ะ ณ จุดนั้นและแล้วก็ไขประตูเสร็จแต่ก็ไม่มีผ้าของน้องพวกเราจึงต้องพาน้องไปส่งที่หอก็ถือโอกาสขอจารเลยว่าขอติดรถกลับหอด้วยได้มั้ยพอดีเพื่อนกลับหมดแล้ว จารก็ถามว่าทำไมเราไม่กลับกับเพื่อนหล่ะเราก็ตอบไปว่า พอดีเราอยู่เป็นพื่อนพี่เค้าอ่ะค่ะเนียนป๊ะหล่ะ5555จารก็ตกลงทันไปก็เดินไปที่รถขึ้นรถส่งน้องกลับหอก่อน ส่งพี่อีกคนเราคนสุดท้ายด้วย 555 ฟรินเวอร์นะก็นั่งข้างหน้ากะจารด้วยแหละ
พอทุกคนลงหมดก็เหลือแต่เรากะจาร 2 คนในรถWOW!!มันวันเดอร์ฟูลมากเลยนะปลื้มที่สุดเลยอ่ะระหว่างทางเราก็คุยกันไปคุยกันมาถูกคอเอามากๆเลยและจนคุยกันถึงเรื่องสิ่งลี้ลับเขาก็มีความเชื่อเช่นเดียวกับเราซึ่งสำหรับเราเราคิดว่าแปลกมากเลยนะเพราะทุกคนที่เราเคยคิดว่าใช่และจะคิดเหมือนกันและรู้สึกมีความเชื่อเหมือนเดียวกันเหนี๊ยะไม่มีซักคนเลยที่ผ่านมาคือคนนี้ทำให้รู้สึกประหลาดใจมากๆหลังจากนั้นก็เริ่มเอะใจเหมือนมีอะไรบางอย่างเหมือนกันแต่ก็บอกไม่ถูก นั่งซักพักเหมือนจะหมดเรื่องคุย คือกำลังนึกอยู่หน่ะนะเราก็หันไปทางหน้าต่างแต่หางตามันเห็นนะค่ะแหม่ว่าเขาเหลียวมามองเราอยู่ อยากรู้ว่าเขาจะคิดอะไรน้า ก็เลยหันไปพรึบ!! แต่นั้นแหละเขาก็หันไปมองข้างหน้าแล้วกระพริบตาถี่ๆทันทีแล้วก็ทำเป็นหันมาถามว่าเราเกิดวันอะไร
ก็บอกๆไปไปๆมาๆเอ้าบังเอิญเกิดวันเดียวกันอีก มีเซนต์เหมือนกันด้วยแต่ของเราแรงกว่าแหม่ ซักพักก็ถึงหอแระก็เป็นอะไรที่ฟรินเอามากๆที่นับว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ทำให้ผู้ชายที่เราชอบเหนี๊ยะมาส่งถึงหอได้ว้าว!!!วิเศษสุดๆ พอจารจอดรถแหม่อย่างกะในละครบอกเลยผู้ชายใส่ชุดทำงานใส่สูตรขับรถเก๋งมาเหน๊ยะพูดเพราะอีกต่างหากครับทุกประโยคพูดเลยโคตรสเปกฟรินฝุดๆอ่ะก่อนจากก็ "ขอบคุณค่ะ จารวันนี้ออนเฟสมั้ยค่ะ " 555ไม่เลิกๆๆจิงๆนะแหม่ จารก็ตอบว่า "วันนี้คงไม่แล้วละครับดึกแล้ว" บ้ายบ่ายค่ะ
::::จบตอนแรกก่องนะติดตามในตอนต่อไป
ภารกิจพิชิตหัวใจจารย์สุดหล่อ!!!ตอนที่1
::::::::::ก่อนอื่นต้องพูดก่อนเลยว่าความรับและความชอบด้วยสถานะที่ทำให้อาจมีบางอย่างที่หลายคนคิดว่ามันผิด อันนี้เรารับทราบและเข้าใจดี แต่เราก็ห้ามหัวใจไว้ไม่ได้จริงๆอันนี้พูดเลยเราจะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงระหว่างเรากับอาจารย์ท่านนี้ให้ฟังบางทีอาจะได้คำตอบดีๆจากเพื่อนๆ (เอ้อขอย้ำเรื่องภาษาที่ใช้เราขอเป็นภาษาที่เราเล่านะคือมันจะได้ฟิวกว่า ยาวหน่อยนะขอเล่าแบบละเอียดเลยนะหรือว่าใครจะอ่านเป็นนิยายก็ถือว่าได้เลยนะ แต่ขอย้ำนะว่าเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้แต่งหรือสร้างขึ้นมาแต่อย่างใดทั้งสิ้น เรื่องจริงที่เกิดขึ้นจริงและเราเจอมาแล้วจริงๆเป็นประสบการณ์ตรงจริงๆนะ และคิดว่าจะมีมาต่อเรื่อยๆด้วยเราจะไม่ซีเรียสมากนะเอาสนุกๆละกัน)
เรื่องมันมีอยู่ว่าวันแรกของการเปิดภาคเรียนชั้นปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง เป็นเช้าวันแรกที่น่าหดหู่เป็นอย่างมากเลยทีเดียวแหละ เพราะอาจารย์บอกว่าวันนี้จะได้เจออาจารย์ท่านใหม่กับสาระวิชาใหม่ตอนแรกก็เบื่อๆอ่ะนะนั่งในห้องรอจารเข้ามา พอจารเดินเข้ามาก้าวแรกแค่นั้นแหละรู้สึกเลยว่าเสปกเลยอ่ะพูดเลยอ่ะว่าชอบเลยคนนี้ใช่เลยคิดว่าใช่จริงๆอ่ะ ณ จุดนี้ทั้งที่เพื่อนในห้องก็อึ้งๆและอาจจะรู้สึกเหมือนๆกันก็ได้นะเพราะเขาค่อนข้างน่ารักเอามากๆและพูดเลยว่าดูดีมากๆเลยทีเดียวเอาแบบว่าเนียบมากๆที่สุดของที่สุดคือมาทจะกึ่งคุณประจักษ์เรื่องวนิดาผสมกับคุณชายพุฒิพัตร์ประมาณนั้นเลย
แค่นี้สาวๆหลายคนก็ฟรินกันมากแระเห็นว่าหลายคนแต่ทุกคนเก็บอาการกันหมดเลยนี่แหละทางสะดวกของเราเลยหล่ะแหม่!!!คาบแรกปรกติจารจะแจกคอร์ดเอาท์ไลน์และแนะนำวิชาเฉยๆแต่พอดีเป็น Major ก็เลยเริ่มเรียนเลยนิดหน่อยทำความรู้จักวิชาทำความเข้าใจเริ่มต้นจารก็แจกกระดาษให้ถามคำถามและเขียนแนะนำตัวเองให้จารรู้จักมีอยู่ข้อหนึ่งในใบคำถามจารถามว่าเราอยากจะถามอะไรอาจารย์เราก็จัดไปเลยดอกหนึ่งเขียนถามเลยว่า "จารย์เชื่อเรื่องพรหมลิขิตหรือป่าว" 555ตอนนั้นคิดเล่นๆถามแบบกวนTอ่ะนะนี่พูดเลยเห็นว่าจารอ่านอยู่แต่ไม่ตอบเลือกตอบอันที่มีสาระ ออ เราโคตรไร้สาระเลยจิงๆอ่ะ5555 ตอนเรียนเราก็นั่งกวน T จารทั้งคาบจริงๆอ่ะทำได้ไงจารก็รับมุขได้ด้วยนะแหม่
ฟรินต่ออาทิตย์แรกเสียดายมากเลยอาทิตย์เดียวได้เรียนคาบของจารแค่วันเดียวเองเซงมากเลยอ่ะ ต่อๆๆเลยละกันพออาทิย์ที่ 2 แค่นั้นแหละไม่รู้ว่ามันเร็วไปหรือป่าวนะ เอ่อวันนั้นก็เรียนปรกติแหละกวน T เหมือนเดิมเรียนมันส์มากอืมเหมือนเพื่อนๆจะรู้ว่าเราชอบจารอ่ะนะพอจารให้ออกไปพูดหน้าห้องแค่นั้นแหละเพื่อนสมทบกันทั้งห้องเลยอื้มน่ารักกันจังเลยทีนี้โหมางี้เราก็เขิลดิพูดเลยจารก็แบบว่ามีอาการแปลกๆกะเราอยู่ซ๊ะด้วยก็แอบรู้สึกอยู่นิดๆแต่จารโคตรเก็บความรู้สึกเลยอ่ะไม่อาจจะรู้เลยว่าเขาคิดอะไรอยู่ก็เรียนปรกติจนหมดคาบแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นคือจารลืมเมาส์ไว้ในห้องเรียนเพื่อนก็ถามว่า นี่เมาส์ใคร? เราก็บอกว่าเมาส์จารเดียวเราเอาขึ้นไปคืนให้เอง
แค่นั้นแหละยังเดินไปไม่ถึงก็มีพี่คนหนึ่งเข้ามาตัดหน้าคว้าเมาส์ไปเลย ณ จุดนี้ก็เลยหยุดและก็คิดว่าช่างมันเถอะ แล้ววันนั้นเป็นวันที่คณะของเรามีการประกวดคัดเลือกดาวเดือนเพื่อเข้าสู่การเป็นตัวแทนประกวดรอบของมหาวิทยาลัย แล้วเย็นวันนั้นหลายคนก็ยุ่งกับการแต่งตัวให้น้องและดูแลน้องกัน อีกอย่างจารได้รับเชิญเป็นคณะกรรมการการคัดเลือกด้วย แล้วพี่คนเดิมเลยที่ชิงเมาส์ตัดหน้าไปนั่นแหละก็เดินลงมานั่งข้างๆเราแล้วเราก็ถือโอกาสนั่งคุยกับเขาเลย พี่เขาก็พูดเลยว่าพี่เขารู้จักอาจารดีเลยแหละคุยกันไปคุยกันมาเพลินเลย ตอนแรกก็แอบไม่ปลื้มนะแต่พอคุยกันแล้วถูกคอก็เริ่มสนิทกันเลยพอเห็นว่าทุกคนยุ่งๆเราทั้งสองไม่มีรัยทำเลยชวนกันขึ้นไปหาจารที่ห้องทำงานจาร
พอขึ้นมาแล้วเราก็ยืนอยู่ข้างนอกห้องพี่เขาก็เข้าไปทักก่อนพี่เขาก็ยืนบังหน้าจารกะเราอยู่แต่จารก็เอี้ยวออกมาส่องดูโหยแอบเขิลนะแต่เราก็ทำหน้าเฉยๆหน่ะนะแล้วพอดิบพอดี้ที่ว่ามันยังไม่ถึงเวลาที่จะต่องเข้าห้องตัดสินจารก็ว่างเขาก็บอกว่าไม่มีรัยทำไม่มีที่ไปไอ้เรากับพี่คนนี้ก็เข้าขากันดีเหลือเกินก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเราก็ไม่มีที่ไปเหมือนกัน เอาเป็นว่าตอนนี้พูดเลยว่าเราทั้งสามคนไม่มีที่ไปพี่เขาก็เลยชวนจารไปเดินเล่นไปหาที่นั่งข้างนอกคุยกันฆ่าเวลาพูดเลยว่าเข้าทางเลยอ่ะ55555 ซักพักจารก็ขอเอาของไปเก็บไว้ที่รถก่อนพวกเราทั้งสองก็เดินไปส่งที่จารเราเดินออกไปกัน 3 คน คนก็มองกันเต็มอย่างกับเราจะมีอะไรกันสายตาหลายคนมีคำถามและข้อสงสัย แต่พวกเราก็เดินไปตอนแรกก็ไม่แคร์หรอกนะแต่พอมันมีคนมองเยอะขึ้นๆก็เริ่มรู้สึกไม่ดีแระ
ก็เลยถามจารไปว่าจารไม่รู้สึกอะไรเลยหรอคะที่เขามองเราแบบนั้นกันอ่ะ มันดูไม่ดีเลยจริงๆอ่ะค่ะ จารเขาก็ตอบมาว่า "ก็แล้วแต่เขาจะมองเราไปห้ามความคิดเขาไม่ได้หรอกครับ" แหม่น่ารักส์จุงเบยพูดเลยอ่ะต่อๆๆพอจารเอาของไปเก็บเสร็จเราก็เดินกันไปนั่งชิวๆที่ร้านนมในมอ จารก็สั่งชาเขียวมานั่งดื่มก็ถามว่าเราจะเอาอะไรมั้ย เราก็ตอบว่าออไม่อ่ะค่ะ แล้วเราก็นั่งคุยถันถึงการเรียนความชอบเรื่องทั่วไป อาจารเป็นคนที่ให้คำปรึกษาได้ดีมากๆเลยทีเดียว ฟังแล้ววิเคราะห์ทุกคำถามทุกคำพูดของเราอย่างตั้งใจพอซักพักก็มีรุ่นพี่เดินผ่านมาก็ทำหน้าเหมือนไม่พอใจและก็หน้าสงสัยว่าเรารู้จักกันได้ถึงขนาดนี้อะไรประมาณนี้เลยหรอมั้งนะ จริงๆแล้วมันก็จริงและค่อนข้างที่จะไวไฟมากจริงๆอ่ะนะสำหรับความคิดของหลายๆคน คงคิดว่าเราอ่อย555 ก็ยอมรับนะตอนนั้นอ่ะอ่อยจริงๆก็คนมันชอบนิหน่านะ
พูดถึงเรื่องนี้เราขอนอกเรื่องนิสหนึ่งนะ เราค่อนข้างที่จะเป็นคนตรงๆไม่อ้อมค้อมมีอะไนชรก็พูดรู้สึกอะไรก็ทำเลย และไม่ค่อยจะเกรงใจใครซ๊ะด้วยถ้าเราไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน จริงๆอันนี้เรายอมรับเลยหลายคนไม่ค่อยชอบเราเราก็แอบน้อยใจเหมือนกันนะว่าเราผิดตรงไหนบางคนก็หาว่าเราแรง เรายังคิดเลยว่าถ้าเราแรงอะนะเราก็แรงได้แค่นี้แหละ เราก็ไม่เคยไปทำร้ายใคร สีผมยอมรับแต่มันเป็นความชอบนะพอดีชอบสีสว่างๆมันเป็นสไตล์และอีกอย่างมันก็เป็นร่างกายของเราด้วยอ่ะซึ่งเรามีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้หนิจริงม๊ะ จริงๆแล้วคนทุกคนมีสิทธิและเสรีภาพที่เท่าเทียมกันใครจะทำอะไรเราเคยสนใจซ๊ะที่ไหนหล่ะแค่ไม่ทำให้เราเดือนร้อนก็พอแค่นั้น
คือแบบเคยคิดเหมือนกันป๊ะว่าเอาเวลาที่มานั่งอิจฉาในสิ่งที่เราทำเหนี๊ยะ ก็ลองไปทำดูสิจะมานั่งอิจฉาทำไมในเมื่อตัวเองก็มีสิทธิ์ที่จะทำจริงม๊ะและก็เรื่องนี้เลยโยงมาเรื่องอาจารนะเราชอบเราก็รุกเลย ทุกคนที่ชอบก็มีสิทธิ์ก็ทำสิก็อยากจะแข่งก็เอาเลยสิกลัวซ๊ะที่ไหนหล่ะจริงม๊ะแล้วก็มานั่งเคืองนั่งนินทาแบบเนี๊ยะไม่ชอบเลยอ่ะ โดยที่คุณไม่ทำอะไรเลยเนี๊ยะบางทีก็ไม่มีสิทธิ์ไปว่าอะไรให้คนอื่นเลยนะเพราะมันเป็นสิทธิ์ของเขาจริงม๊ะ นี้ก็สิทธิ์ของเราที่เราจะรักใครชอบใครมันก็เรื่องของเราอ่ะนะไม่ว่ากันดิจริงม๊ะใครจะห้ามใจตัวเองได้หล่ะยากนะ!!!
เข้าเรื่องกันต่อวันนี้ได้ตอนเดียวจริงๆอ่ะมาซ๊ะยาวเลย อย่าเพิ่งซีเรียสนะจ๊ะ!! พอแลกเปลี่ยนความรู้แซวเล่นกันไปแซวเล่นกันมาก็ถึงเวลาที่จารต้องเข้าห้องตัดสินแล้วพวกเราเลยเดินไปส่งอยากบอกว่ารู้สึกอึดอัดมากตอนเดินไปส่งจารที่ห้องสายตาแต่ละคนจดจ้องมาเป็นตาเดียว เกรงมากเดินไม่ถูกเลยอ่ะใส่ส้นสูงด้วยแทบก้าวขาไม่ออกพอเดินไปส่งแล้วก็บอกกับจารว่า ไม่เข้าไปนะขอรออยู่ข้างนอกดีกว่า คือเราจะกลายเป็นตัวประหลาดอะดี้ถ้าเข้าไปหลังจากนั้นเราสองคนก็มาหาที่นั่งคุยกันชิวๆข้างนอกกัน 2 คนก็พูดเรื่องอาจารเนี๊ยะแหละก็ถามพี่คนนี้ว่าเขาเป็นคนยังไงชอบอ่ะไรรู้เรื่องอ่ะไรเกี่ยวกับจารบ้างถามไปถามมาก็ได้มาเยอะเลย5555
อีกอย่างยอมรับและสารภาพกับพี่เขาเลยว่าชอบจารจริงๆอ่ะพี่เขาก็บอกว่า แกค่อยๆดูไปก่อนมันยังเร็วเกินไป มันก็จริงนะในส่วนนี้ เราจึงบอกกับพี่ว่าเรารู้ใจตัวเองดีถ้าแค่ชอบไม่เกิน2อาทิตย์ก็ลืม แต่จะให้มั่นใจขอใช้เวลาทั้งเทอมและจนที่ไม่ได้เรียนด้วยจนปิดคอร์ดดูว่าเราจะรู้สึกแบบไหนความรู้สึกจะเปลี่ยแปลงงหรือไม่และระหว่างนั้นมันก็มีเหตุการณ์ที่แบบว่าอาจเป็นเรื่องในสิ่งที่เหนือธรรมชาติเกิดขึ้นมากมายในส่วนนี้จะเล่าเป็นตอนๆไปนะยาวพูดเลยยาวมากซีรีย์ได้เลยอ่ะแต่ชีวิตจริงจริงๆเนน๊ยะแหละ ต่อนะพองานเลิกจารก็ออกห้องมา พี่ๆน้องๆเพื่อนๆก็ต่างแยกย้ายกันออกมา เรานิสารภาพเลยวันนี้เราวางแผนกะพี่คนนี้ได้เริศมากแผนนี้คือ "ส่งหนูกลับหอหน่อย" 55555
พอเพื่อนออกมาแค่นั้นแหระนะรีบบอกเพื่อนเลยว่ารีบกลับก่อนเลยทิ้งเราไว้เนี๊ยะแล้วก็เดินเข้าไปหาจารเลย แล้วทำเป็นมองหาพี่ พี่คนที่วางแผนด้วยเนี๊ยะแหละ หาไปหามาก็ไม่เจอไปยืนรอหน้าห้องแล้วก็มีน้องคนหนึ่งเดินเข้ามาหาแล้วบอกเราว่าลืมผ้าไว้ในห้องเปิดให้หน่อย ก็เลยถามจารว่ามีกุญแจมั้ยจารก็ลองขึ้นไปหาดูที่ห้องข้างบนเราก็เดินไปเดินมาไปยืนที่ไกล้ๆกะบันใดแล้วมันมึดแล้วด้วยซักพักพอเดินไปถึงบันใดเป็นจังหว่ะเดียวกับที่จารวิ่งลงมาพอดีจังหว่ะนั้นพอพรวดพราดลงมาแค่นั้นแหระบอกเลยเก็บอาการไม่อยู่ ตกใจอย่างแรงส์ยืนอึ้งอยู่พักหนึ่งจนจารสงสัยคือพรวดพราดลงมาแบบฟึบแล้วเขามายืนอยู่ตรงหน้าแราอ่ะไกล้มากๆคือแบบอึ้งมากยืนค้างเลยอารมในละครเลยอ่ะณ จุดนั่นนะ เหมือนฟ้าเป็นใจจริงๆยิ่งกว่าละครอีกอ่ะ
อึ้งซักพักจารก็ส่องเข้ามาไกล้ๆหน้าห่างไม่ถึงคืบ หัวใจโคตรเต้นแรงแรงมากๆอ่ะคือจะเก็บยังไงดีหล่ะเนี๊ยะ แล้วจารก็ถามว่าเห็นพี่Aไหมเราก็คือแบบยังค้างอยู่ไงก็ทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียวแหละก็ค่อยๆยกมือแล้วชี้ว่าพี่ไปทางนั้นพูดติดๆขัดๆเลยอ่ะเจอแบบเนี๊ยะกระพริบตาถี่ๆขมวดคิ้วถี่ๆแบบนั้นเลย แล้วพอจารเห็นท่าทางของเราจารก็แอบยิ้มแล้วก็หัวเราะแบบผู้ดีอ่ะทั้งเขิลทั้งอายเลยอ่ะ ณ จุดนั้นและแล้วก็ไขประตูเสร็จแต่ก็ไม่มีผ้าของน้องพวกเราจึงต้องพาน้องไปส่งที่หอก็ถือโอกาสขอจารเลยว่าขอติดรถกลับหอด้วยได้มั้ยพอดีเพื่อนกลับหมดแล้ว จารก็ถามว่าทำไมเราไม่กลับกับเพื่อนหล่ะเราก็ตอบไปว่า พอดีเราอยู่เป็นพื่อนพี่เค้าอ่ะค่ะเนียนป๊ะหล่ะ5555จารก็ตกลงทันไปก็เดินไปที่รถขึ้นรถส่งน้องกลับหอก่อน ส่งพี่อีกคนเราคนสุดท้ายด้วย 555 ฟรินเวอร์นะก็นั่งข้างหน้ากะจารด้วยแหละ
พอทุกคนลงหมดก็เหลือแต่เรากะจาร 2 คนในรถWOW!!มันวันเดอร์ฟูลมากเลยนะปลื้มที่สุดเลยอ่ะระหว่างทางเราก็คุยกันไปคุยกันมาถูกคอเอามากๆเลยและจนคุยกันถึงเรื่องสิ่งลี้ลับเขาก็มีความเชื่อเช่นเดียวกับเราซึ่งสำหรับเราเราคิดว่าแปลกมากเลยนะเพราะทุกคนที่เราเคยคิดว่าใช่และจะคิดเหมือนกันและรู้สึกมีความเชื่อเหมือนเดียวกันเหนี๊ยะไม่มีซักคนเลยที่ผ่านมาคือคนนี้ทำให้รู้สึกประหลาดใจมากๆหลังจากนั้นก็เริ่มเอะใจเหมือนมีอะไรบางอย่างเหมือนกันแต่ก็บอกไม่ถูก นั่งซักพักเหมือนจะหมดเรื่องคุย คือกำลังนึกอยู่หน่ะนะเราก็หันไปทางหน้าต่างแต่หางตามันเห็นนะค่ะแหม่ว่าเขาเหลียวมามองเราอยู่ อยากรู้ว่าเขาจะคิดอะไรน้า ก็เลยหันไปพรึบ!! แต่นั้นแหละเขาก็หันไปมองข้างหน้าแล้วกระพริบตาถี่ๆทันทีแล้วก็ทำเป็นหันมาถามว่าเราเกิดวันอะไร
ก็บอกๆไปไปๆมาๆเอ้าบังเอิญเกิดวันเดียวกันอีก มีเซนต์เหมือนกันด้วยแต่ของเราแรงกว่าแหม่ ซักพักก็ถึงหอแระก็เป็นอะไรที่ฟรินเอามากๆที่นับว่าเป็นครั้งแรกเลยที่ทำให้ผู้ชายที่เราชอบเหนี๊ยะมาส่งถึงหอได้ว้าว!!!วิเศษสุดๆ พอจารจอดรถแหม่อย่างกะในละครบอกเลยผู้ชายใส่ชุดทำงานใส่สูตรขับรถเก๋งมาเหน๊ยะพูดเพราะอีกต่างหากครับทุกประโยคพูดเลยโคตรสเปกฟรินฝุดๆอ่ะก่อนจากก็ "ขอบคุณค่ะ จารวันนี้ออนเฟสมั้ยค่ะ " 555ไม่เลิกๆๆจิงๆนะแหม่ จารก็ตอบว่า "วันนี้คงไม่แล้วละครับดึกแล้ว" บ้ายบ่ายค่ะ
::::จบตอนแรกก่องนะติดตามในตอนต่อไป