สวัสดีค่ะ
คนเขียนมือใหม่ อยู่ดีๆก็เกิดอาการ ไม่สามารถจิ้มดีดความคิด ให้ออกมาเป็นประโยคได้เสียอย่างนั้น
ขออภัยที่ทำนิยายขาดตอนค่ะ
ขอสารภาพว่า ตอนที่กำลังจะแปะนี้ ก็ไม่ค่อยจะได้เรื่องเท่าไหร่ แต่คิดว่า ถ้าตัวเองยังจะรอให้มันสมบูรณ์ได้ตามใจคิด
เกรงว่าถึงปีใหม่ ก็อาจจะไม่คืบหน้า ตัดใจเอามาลงก่อนดีกว่า แม้ว่ามันจะจืดดดดดดดดดดด สิ้นดี
บทก่อนหน้า
http://ppantip.com/topic/31075242
บทที่๑๓.....รักซ้อน
เสียงซุบซิบดังระงมไปทั้งรีสอร์ต ลามไปสนามกอล์ฟถึงเรื่องที่แขกหนุ่มรูปงามนาม”เควิน” มีท่าทางพึงใจผู้จัดการสาวฝ่ายกิจการสวนอย่างเปิดเผย ทุกเย็นชายหนุ่มและกลุ่มผู้ติดตามจะมาใช้บริการห้องอาหาร และในวันที่ผู้จัดการสวนขึ้นร้องเพลง ทุกคนจะได้เห็นหญิงสาวหอบดอกไม้ช่องามกลับบ้านพักเสมอ
“คุณผู้ชายห้องวีไอพี สั่งให้ร้านดอกไม้ในเมืองเอามาส่งไม่ให้ซ้ำแบบเลยค่ะ” แหล่งข่าวร่างตุ้ยนุ้ยกระซิบเบาๆบอกข่าว แก่บรรดาสาวรุ่นพี่ในสำนักงาน
“เหรอ ว้าว ว้าว”
“ชั้นเห็นตอนเช้าๆ เขาไปเดินเล่น แต่เหมือนไปดักรอคุณโยทุกวันเลยเหมือนกัน”
“โอย อิจฉา”
“น่าอิจฉาสุดๆ ท่าทางรักเด็กด้วย เห็นอุ้มน้องมะตูมเดินเล่นตอนเช้าทุกวันเลยล่ะ”
“โอ้ย อิจฉา อิจฉาคุณโยจัง คุณเควินหล่อสุดๆไปเลย ยิ่งมาคราวนี้หายป่วยไม่ต้องใช้ไม้เท้าแล้วด้วย เท่มากกกกกก”
เสียงสาวน้อยสาวใหญ่ที่พากันพร่ำเพ้อเบาๆหากระงมไปทั่ว ทำเอาลูกชายเจ้าของรีสอร์ตแทบกระอักเมื่อได้ยินเข้า ศาสตรานั่งไม่ติดเมื่อคิดไปถึงคนเคยป่วย วันที่ลูกจ้างสาวหน้าใสหายป่วย ชายหนุ่มเห็นได้ชัดว่าหญิงสาวมีหน้าตาสดใส สอบถามจนแน่ใจว่าหญิงสาวจะไม่มีอาการไข้กลับจึงวางใจ ในวันนั้นชายหนุ่มได้เห็นเองกับตา ว่าแขกรูปงามที่พักพูลวิลล่า ได้มาพบปะกับผู้จัดการสวนสาวลูกติดตรงริมลำธาร หากศาสตราคิดเพียงแค่ มันคงเป็นเรื่องบังเอิญที่ฝ่ายชายมาเดินเล่นและพบกับสองแม่ลูกเข้า แม้จะหงุดหงิดใจกับอาการตีซี้ที่แขกวีไอพีมีต่อนายมะตูม แถมนายตัวจิ๋วยังยอมให้อุ้มเสียดิบดี แต่เมื่อศาสตราเดินไปถึง เด็กชายตัวน้อยก็เปลี่ยนข้างโผเข้าใส่เขาเหมือนอย่างที่เคยเป็น ปล่อยให้แขกห้องพูลวิลล่าเดินจากไปโดยไม่มีอาการอาลัยอาวรณ์ ยังจำได้ว่าเขาทำได้เพียงทักทายกับแขกหนุ่มเพียงเล็กน้อย ตอนนั้นรู้สึกว่าอารมณ์ตัวเองดีขึ้นทันตา และนับจากวันนั้นตัวชายหนุ่มก็ต้องวุ่นวายอยู่กับงานฝั่งสนามกอล์ฟ ให้บังเอิญว่าสองสามวันที่ผ่านมา มีกลุ่มนักกอล์ฟวีไอพี รวมถึงเพื่อนพ่อค้าของบิดาแวะเวียนมา ทำให้เขาต้องยุ่งอยู่กับการต้อนรับในระหว่างที่ดรัณภพไม่อยู่
หากตอนนี้ศาสตราตัดสินใจแล้ว ว่าจะกลับไปสังเกตการณ์ที่รีสอร์ตสักหน่อย ชายหนุ่มสาวเท้ามุ่งหน้าจะไปที่รถแต่ก็ต้องชะงัก
“สอง ยุ่งอยู่หรือเปล่าลูก” เสียงบิดาถามไถ่ไล่หลังมา
“ คุณพ่อมีอะไรจะใช้ผมหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มหันมาหาบิดาก่อนจะถามกลับเบาๆ
คุณศิลามองหน้าลูกชาย รอยยิ้มบนใบหน้าผู้สูงวัยยังไม่เปลี่ยน หากนัยน์ตาขุดค้น วันนี้ไอ้ลูกชายมาแปลก หน้าเครียด ตาคมๆคู่นั้นขุ่นคลั่ก แถมยังเรียกท่านว่าคุณพ่อไม่เรียกป๊าอย่างเคย ไอ้แบบนี้ มีปัญหาทางใจแน่ๆ
“ไม่ได้จะใช้ แต่จะชวนไปกินข้าวกับเพื่อนๆป๊า พอดีคุณวิวัฒน์บอกว่ามีเรื่องจะปรึกษาสองนิดหน่อยด้วย”
มองคนถูกชวนไปกินข้าวด้วยแล้วก็ต้องแอบขำ ดูมันทำ ท่าทางแอบถอนใจเฮือกไม่พ้นสายตาคนมากประสบการณ์ หากท่านก็ไม่สน ทำไม่รู้ไม่ชี้โอบบ่าลูกชายเดินกลับไปทางสโมสร
ศาสตราต้องกล้ำกลืนความกระสับกระส่ายเอาไว้อย่างมิดเม้น ในขณะทำหน้าที่ดูแลแขกผู้ใหญ่อย่างไม่มีที่ติ แม้ในใจจะร้อนรนแค่ไหน แต่ชายหนุ่มยังคงมีมารยาทงดงาม และตอบรับบทสนทนาอย่างคมคาย
เสียงเพื่อนคนหนึ่งของบิดาเอ่ยชม “ ผมล่ะอิจฉาคุณศิลา มีลูกชายสองคนเอาการเอางาน พ่อเลยสบาย”
“นั่นสิ ผมก็คิดอยู่ ไม่เหมือนลูกผม แหม มันเอาแต่ใช้เงิน แต่ไม่ช่วยผมหาเงินเลย” เสียงวงสนทนาครื้นเครง ต่อปากต่อคำ ผู้อ่อนวัยได้แต่อมยิ้ม
“ว่าแต่สองปีนี้อายุเท่าไหร่ น่าจะรุ่นๆเดียวกับลูกชายผม” เสียงเพื่อนรุ่นน้องของคุณศิลาซักไซ้ข้ามมาจากอีกฝั่งของโต๊ะ
“ปีนี้ผมอายุสามสิบเอ็ดแล้วครับคุณอา” คนตอบยิ้มน้อยๆ
“แหมเหมาะ” อีกเสียงแทรกขึ้นมา “มีแฟนหรือยัง ถ้ายังอยากมีหรือเปล่า อามีสาวๆแนะนำให้นะ สนไหมสอง”
เสียงเฮฮาเบาๆ หากชายหนุ่มเอาแต่ยิ้ม แล้วคอยดูแลเรื่องอาหารและเครื่องดื่มไม่ให้บกพร่องต่อไป นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เขาถูกทาบทามให้กับลูกสาวหลานสาวของเพื่อนนักธุรกิจของบิดา
“อย่าลืมนายหนึ่ง นั่นก็ท่าทางจะทำแต่งาน ใช่ไหมครับคุณศิลา”
เสียงคุณศิลาหัวเราะชอบใจ “ปล่อยเขาครับ หนุ่มๆสมัยนี้เขาหวงความโสด ไม่เหมือนรุ่นเรา”
คนเป็นพ่อหัวเราะชอบใจอยู่ในหมู่มิตรสหาย หากในใจหมายมาด ถ้าอะไรๆไม่พลาดไปจากที่ท่านคิด อีกไม่นานคงได้แต่งสะใภ้เข้าบ้าน ดีไม่ดี ปีนี้หรือปีหน้าอาจได้สะใภ้เข้าบ้านพร้อมกันสองคนก็เป็นได้ แถมสะใภ้เล็กยังมีหลานน่ารักเป็นของแถมมาให้ด้วย
วิมานภุมรา ... บทที่๑๓ ( รักซ้อน )
คนเขียนมือใหม่ อยู่ดีๆก็เกิดอาการ ไม่สามารถจิ้มดีดความคิด ให้ออกมาเป็นประโยคได้เสียอย่างนั้น
ขออภัยที่ทำนิยายขาดตอนค่ะ
ขอสารภาพว่า ตอนที่กำลังจะแปะนี้ ก็ไม่ค่อยจะได้เรื่องเท่าไหร่ แต่คิดว่า ถ้าตัวเองยังจะรอให้มันสมบูรณ์ได้ตามใจคิด
เกรงว่าถึงปีใหม่ ก็อาจจะไม่คืบหน้า ตัดใจเอามาลงก่อนดีกว่า แม้ว่ามันจะจืดดดดดดดดดดด สิ้นดี
บทก่อนหน้า http://ppantip.com/topic/31075242
บทที่๑๓.....รักซ้อน
เสียงซุบซิบดังระงมไปทั้งรีสอร์ต ลามไปสนามกอล์ฟถึงเรื่องที่แขกหนุ่มรูปงามนาม”เควิน” มีท่าทางพึงใจผู้จัดการสาวฝ่ายกิจการสวนอย่างเปิดเผย ทุกเย็นชายหนุ่มและกลุ่มผู้ติดตามจะมาใช้บริการห้องอาหาร และในวันที่ผู้จัดการสวนขึ้นร้องเพลง ทุกคนจะได้เห็นหญิงสาวหอบดอกไม้ช่องามกลับบ้านพักเสมอ
“คุณผู้ชายห้องวีไอพี สั่งให้ร้านดอกไม้ในเมืองเอามาส่งไม่ให้ซ้ำแบบเลยค่ะ” แหล่งข่าวร่างตุ้ยนุ้ยกระซิบเบาๆบอกข่าว แก่บรรดาสาวรุ่นพี่ในสำนักงาน
“เหรอ ว้าว ว้าว”
“ชั้นเห็นตอนเช้าๆ เขาไปเดินเล่น แต่เหมือนไปดักรอคุณโยทุกวันเลยเหมือนกัน”
“โอย อิจฉา”
“น่าอิจฉาสุดๆ ท่าทางรักเด็กด้วย เห็นอุ้มน้องมะตูมเดินเล่นตอนเช้าทุกวันเลยล่ะ”
“โอ้ย อิจฉา อิจฉาคุณโยจัง คุณเควินหล่อสุดๆไปเลย ยิ่งมาคราวนี้หายป่วยไม่ต้องใช้ไม้เท้าแล้วด้วย เท่มากกกกกก”
เสียงสาวน้อยสาวใหญ่ที่พากันพร่ำเพ้อเบาๆหากระงมไปทั่ว ทำเอาลูกชายเจ้าของรีสอร์ตแทบกระอักเมื่อได้ยินเข้า ศาสตรานั่งไม่ติดเมื่อคิดไปถึงคนเคยป่วย วันที่ลูกจ้างสาวหน้าใสหายป่วย ชายหนุ่มเห็นได้ชัดว่าหญิงสาวมีหน้าตาสดใส สอบถามจนแน่ใจว่าหญิงสาวจะไม่มีอาการไข้กลับจึงวางใจ ในวันนั้นชายหนุ่มได้เห็นเองกับตา ว่าแขกรูปงามที่พักพูลวิลล่า ได้มาพบปะกับผู้จัดการสวนสาวลูกติดตรงริมลำธาร หากศาสตราคิดเพียงแค่ มันคงเป็นเรื่องบังเอิญที่ฝ่ายชายมาเดินเล่นและพบกับสองแม่ลูกเข้า แม้จะหงุดหงิดใจกับอาการตีซี้ที่แขกวีไอพีมีต่อนายมะตูม แถมนายตัวจิ๋วยังยอมให้อุ้มเสียดิบดี แต่เมื่อศาสตราเดินไปถึง เด็กชายตัวน้อยก็เปลี่ยนข้างโผเข้าใส่เขาเหมือนอย่างที่เคยเป็น ปล่อยให้แขกห้องพูลวิลล่าเดินจากไปโดยไม่มีอาการอาลัยอาวรณ์ ยังจำได้ว่าเขาทำได้เพียงทักทายกับแขกหนุ่มเพียงเล็กน้อย ตอนนั้นรู้สึกว่าอารมณ์ตัวเองดีขึ้นทันตา และนับจากวันนั้นตัวชายหนุ่มก็ต้องวุ่นวายอยู่กับงานฝั่งสนามกอล์ฟ ให้บังเอิญว่าสองสามวันที่ผ่านมา มีกลุ่มนักกอล์ฟวีไอพี รวมถึงเพื่อนพ่อค้าของบิดาแวะเวียนมา ทำให้เขาต้องยุ่งอยู่กับการต้อนรับในระหว่างที่ดรัณภพไม่อยู่
หากตอนนี้ศาสตราตัดสินใจแล้ว ว่าจะกลับไปสังเกตการณ์ที่รีสอร์ตสักหน่อย ชายหนุ่มสาวเท้ามุ่งหน้าจะไปที่รถแต่ก็ต้องชะงัก
“สอง ยุ่งอยู่หรือเปล่าลูก” เสียงบิดาถามไถ่ไล่หลังมา
“ คุณพ่อมีอะไรจะใช้ผมหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มหันมาหาบิดาก่อนจะถามกลับเบาๆ
คุณศิลามองหน้าลูกชาย รอยยิ้มบนใบหน้าผู้สูงวัยยังไม่เปลี่ยน หากนัยน์ตาขุดค้น วันนี้ไอ้ลูกชายมาแปลก หน้าเครียด ตาคมๆคู่นั้นขุ่นคลั่ก แถมยังเรียกท่านว่าคุณพ่อไม่เรียกป๊าอย่างเคย ไอ้แบบนี้ มีปัญหาทางใจแน่ๆ
“ไม่ได้จะใช้ แต่จะชวนไปกินข้าวกับเพื่อนๆป๊า พอดีคุณวิวัฒน์บอกว่ามีเรื่องจะปรึกษาสองนิดหน่อยด้วย”
มองคนถูกชวนไปกินข้าวด้วยแล้วก็ต้องแอบขำ ดูมันทำ ท่าทางแอบถอนใจเฮือกไม่พ้นสายตาคนมากประสบการณ์ หากท่านก็ไม่สน ทำไม่รู้ไม่ชี้โอบบ่าลูกชายเดินกลับไปทางสโมสร
ศาสตราต้องกล้ำกลืนความกระสับกระส่ายเอาไว้อย่างมิดเม้น ในขณะทำหน้าที่ดูแลแขกผู้ใหญ่อย่างไม่มีที่ติ แม้ในใจจะร้อนรนแค่ไหน แต่ชายหนุ่มยังคงมีมารยาทงดงาม และตอบรับบทสนทนาอย่างคมคาย
เสียงเพื่อนคนหนึ่งของบิดาเอ่ยชม “ ผมล่ะอิจฉาคุณศิลา มีลูกชายสองคนเอาการเอางาน พ่อเลยสบาย”
“นั่นสิ ผมก็คิดอยู่ ไม่เหมือนลูกผม แหม มันเอาแต่ใช้เงิน แต่ไม่ช่วยผมหาเงินเลย” เสียงวงสนทนาครื้นเครง ต่อปากต่อคำ ผู้อ่อนวัยได้แต่อมยิ้ม
“ว่าแต่สองปีนี้อายุเท่าไหร่ น่าจะรุ่นๆเดียวกับลูกชายผม” เสียงเพื่อนรุ่นน้องของคุณศิลาซักไซ้ข้ามมาจากอีกฝั่งของโต๊ะ
“ปีนี้ผมอายุสามสิบเอ็ดแล้วครับคุณอา” คนตอบยิ้มน้อยๆ
“แหมเหมาะ” อีกเสียงแทรกขึ้นมา “มีแฟนหรือยัง ถ้ายังอยากมีหรือเปล่า อามีสาวๆแนะนำให้นะ สนไหมสอง”
เสียงเฮฮาเบาๆ หากชายหนุ่มเอาแต่ยิ้ม แล้วคอยดูแลเรื่องอาหารและเครื่องดื่มไม่ให้บกพร่องต่อไป นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่เขาถูกทาบทามให้กับลูกสาวหลานสาวของเพื่อนนักธุรกิจของบิดา
“อย่าลืมนายหนึ่ง นั่นก็ท่าทางจะทำแต่งาน ใช่ไหมครับคุณศิลา”
เสียงคุณศิลาหัวเราะชอบใจ “ปล่อยเขาครับ หนุ่มๆสมัยนี้เขาหวงความโสด ไม่เหมือนรุ่นเรา”
คนเป็นพ่อหัวเราะชอบใจอยู่ในหมู่มิตรสหาย หากในใจหมายมาด ถ้าอะไรๆไม่พลาดไปจากที่ท่านคิด อีกไม่นานคงได้แต่งสะใภ้เข้าบ้าน ดีไม่ดี ปีนี้หรือปีหน้าอาจได้สะใภ้เข้าบ้านพร้อมกันสองคนก็เป็นได้ แถมสะใภ้เล็กยังมีหลานน่ารักเป็นของแถมมาให้ด้วย