บาปกรรมมีจริง เขมรเอาปราสาทพระวิหารเราไป ผลกรรมคือ คนเขมรถูกเขมรแดงฆ่าตาย 3 ล้าน หากครั้งนี้ศาลโลกตัดสินเอาพื้นที่ 4.6 ตารางกม.ให้เขมรอีก เขมรก็คงบ้านเมืองย่อยยับป่นปี้อีก ปล.ถ้าช่วงนี้เขมรยิงเราอีก

หากผลการตัดสินออกมา ในแบบต่างๆ สลิ่มจะออกมาพูด ในรูปแบบใดบ้างมาดูกันครัช 1. หากศาลตัดสินว่า ตัวปราสาท เป็นของกัมพูชา พื้นที่ 4.6 ตารางกิโลเมตร เป็นของกัมพูชา สลิ่มจะบอกว่า รัฐบาลขายชาติ ขายแผ่นดิน

คำตอบที่ถูกต้องมีดังนี้ 1 ตัวปราสาท เป็นของเขมร 2 พื้นที่รอบปราสาท เป็นของเขมร(เพิ่มอีกนิดหน่อย) 3 พื้นที่ 4.6 ตร.กิโลเมตร เป็นพื้นที่ทับซ้อน คราวนี้ลองมาดูการทำข้อสอบของเด็กๆกันบ้างนะจ๊ะ ด.ช.เขมร 1

ผมจะสรุปจากที่รู้มา(พิมพ์ไว้ก่อนคำตัดสิน) ในความเป็นจริงศาลโลกได้ตัดสินคดีเขาพระวิหารและทั้งสองฝ่ายก็ยอมรับคำตัดสินไปนานแล้ว ตั้งแต่ปี 2505 สมัยจอมพลสฤษแล้ว โดยจอมพลสฤษมีแถลงการชัดเจน แต่คำแถลงการก็ถู

เราสู้ว่า vicinity ของปราสาทอยู่ที่รั้วลวดหนามตามมติ ครม ปี 05 โดยที่เขมรก็ไม่ได้ท้วง แต่เขมรมาสู้ที่ 4.6 ทีหลัง แต่ ศาลได้บอกแล้วว่า vicinity มากกว่าที่เราไปล้อมรั้วไว้ครับ แต่ไม่ถึง 4.6 ทำให้เราต้อ

อ่านคำตัดสินหลายรอบแล้วก็ยังงงอยู่ เห็นข่าวที่ออกจากสื่อแต่ละฝ่ายก็เขียนเข้าข้างฝ่ายของตัวเอง สรุปคือยังไม่ได้ตัดสินอะไร นอกจากยืนยันชัดเจนแล้วว่าพื้นที่ปราสาท และพื้นที่โดยรอบ (อาจจะ 1 ตารางกิโลเมตร

ฟังจาก เวที ราชดำเนิน บอก นพดล ปัทมะ ไปเซ็น MOU ยอมรับประสาทพระวิหาร ให้ กัมพูชาเป็นมรดกโลก ทำให้ไทยเสียดินแดน 4.6 ตรกม ฟังจาก วีธี นปช บอก รัฐบาล ชวน โดย ท่านชาย สุขุมพันธุ์ ไปเซ็น MOU ยอมรับ แผนที่