ก็มีบ้าง
'โด่ง สิทธิพร' โพสต์FB รักพ่อ..ให้กลับบ้านไปทำหน้าที่ลูกที่ดีกันเถอะ
"โด่ง- สิทธิพร นิยม" โพสต์เฟซบุ๊กถึงการชุมนุมในขณะนี้ว่า พวกเค้ามีสภาก็ปล่อยให้ระบบมันแก้ไขกันเอง อย่าออกมาเป็นเครื่องมือใคร พร้อมระบุว่า รักพ่อก็กลับบ้านไปทำหน้าที่ลูกๆที่ดีของพ่อหลวงกันเถอะคับ
โด่ง สิทธิพร นิยม ดารานักแสดง ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กถึงการชุมนุมในขณะนี้ว่า กราบเรียนพี่น้องชาวเฟสบุ๊คของผมทั้งหลาย "ข้อความต่อไปนี้อาจสร้างความขัดใจแก่ผู้ใดต้องขออภัยด้วยเพียงแต่เป็นห่วงพี่น้องทุกท่านด้วยใจจริงเพราะนานๆผมจะได้เข้ามาโพสข้อความของตัวเองจริงๆสักที่ ขอขอบคุณน้องพริมที่ยังดูแลเฟสนี้อย่างดีเรื่อยมา เรามาเข้าเรื่องกันเลยนะคับ"
"ความชอบธรรมย่อมมีคุณธรรม คุณธรรมจึงเป็นเครื่องวัดความชอบธรรม ถึงไอ้จุกจะต้องรับกรรมแต่สัจจะธรรมก็ปรากฏเป็นจริง".....เรียนพี่น้องที่จะไปเข้าร่วมการชุมนุมในฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ขอให้ทุกท่านคิดว่า...พวกเค้ามีสภาก็ปล่อยให้ระบบมันแก้ไขกันเอง อย่าออกมาเป็นเครื่องมือใคร เพราะ เรื่องลึกๆแล้วอาจจะแย่พอๆกัน เราเลือกเค้ามาแล้วก็ให้เค้าทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายกันเอง ถ้าพวกเราอยู่เฉยๆไห้พวกเค้าทำหน้าที่แทนเราในเวทีของเค้า มันจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า ประชาชนมาขัดแย้งกันเอง เดึ๋ยวพวกคนไม่ดี มันก็แก่ตายกันไปเอง
"บารมีของพระองค์ท่านจะขจัดคนชั่วให้พ้นจากแผ่นดินไทยไปเอง คับ กลับเข้าบ้านทำหน้าที่ให้มันตรงกับหน้าทีเราดีกว่า หรือถ้าอยากจะออกมาแสดงความเป็นประชาธิปไตยแบบนี้สมัยหน้าก็ไม่ต้องมีการเลือกตั้งแล้ว เพราะจะเลือกพวกเค้าเข้าไปทำหน้าที่แทนเราในสภาทำไม ในเมื่อทั้ง2ฝ่ายยังแก้ไขแทนประชาชนไม่ได้ ก็ไม่ต้องมีแล้ว รัฐบาล กะ ฝ่ายค้าน เนี่ย กล่มไหนไม่พอใจก็ปิดถนนอ้างความชอบธรรมกันอย่างเดียว อีกหน่อยคนติดหนี้แบงค์ หนี้บัตรก็ออกมาปิดถนน หน้าแบงค์ชาติ แล้วตะโกนว่า นิรโทษกรรมหนี้ให้พวกเราด้วย
ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาในทุกอาชีพ ประเทศชาติจะลุกเป็นไฟ พวกท่านก็จะยิ่งไปสร้างความหนักใจให้แก่พระองค์ท่านเข้าไปอีก เพราะจุดประสงค์ปลายทางคือสิ่งเดียวกัน พวกเราไม่สามารถนำมวลชนมาแก้ปัญหาใดๆได้ เพราะหน้าที่ที่พวกเราเลือกเค้ามา ก็ปล่อยให้พวกเค้าได้แสดงฝีมือกันในเวทีของเค้าเถอะคับ ยิ่งออกมาเยอะ ก็ยิ่งสร้างปัญหา มาตีกันโดยไม่รู้ว่าตีกันเพื่ออะไรอีก"หยุดเเอาพลังประชาชนมาปะทะกัน แล้ว ตัวเองก็นั่งจิ๊บวายอยู่ไนห้องแอร์รอดูว่าจะออกไปประกาศชัยชนะเมื่อไหร่ หยุดเถอะคับท่าน ผู้มีบารมี ผู้ยิ่งใหญ่คับเมืองทุกท่าน ถ้ารู้ว่าทำหน้าทีไม่ได้ก็ลาออกไป "
สรุปเลยนะคับ ประชาชนทุกคนอย่าไปอยู่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเดินทางสายกลางตามรอยเท้าของพ่อ อย่าไปเชื่อว่าพระองค์ท่านตรัสว่าเข้าข้างฝั่งใด ไม่เป็นจริงหรอกคับ พระองค์ท่านยังทรงเลือกประชาชนของท่านเสมอ เพราะฉะนั้นเรื่องการเมืองก็ปล่อยเป็นหน้าที่พวกเค้าไป เราทำตามความประสงค์ของพระองค์ท่านให้คนไทยรักและปรองดองกันเป็นชาติไทย และเราไม่อยากทำตามความประสงค์ของนักการเมืองฝั่งใดด้วย" รักพ่อก็กลับบ้านไปทำหน้าที่ลูกๆที่ดีของพ่อหลวงกันเถอะคับ อย่าให้พ่อต้องกังวลว่าคนในชาติมาตีกันเอง
"พวกเราพร้อมแสดงความเคลื่อนไหวตามเจตนารมณ์ของพ่อ มากกว่าแสดงเจตนารมฌ์ของพรรคการเมืองฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด"ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ข้าพเจ้า นาย สิทธิพร นิยม ขอแสดงความคิดเห็นตามเจตนารมฌ์ของพระองค์ท่านแต่เพียงผู้เดียว และ ขอรับผิดชอบต่อความคิดเห็นของข้าพเจ้าแต่เพียงผู้เดียว...ขอพระองค์ทรงพระเจริญฯ "ช่วยกันนะครับพี่น้อง ไม่อยากให้พวกเราต้องทะเลาะกันเองเพราะเกรงว่าจะ เกิดเหตุการณ์บานปลายกันใหญ่ช่วยเป็นกระบอกเสียงกันด้วยนะคับเพราะเราไม่อยากเห็นการสูญเสียเกิดขึ้นอีกต่อไป...
ที่มา : เฟซบุ๊ก Dong Sittiporn
โด่ง สิทธิพร
'โด่ง สิทธิพร' โพสต์FB รักพ่อ..ให้กลับบ้านไปทำหน้าที่ลูกที่ดีกันเถอะ
"โด่ง- สิทธิพร นิยม" โพสต์เฟซบุ๊กถึงการชุมนุมในขณะนี้ว่า พวกเค้ามีสภาก็ปล่อยให้ระบบมันแก้ไขกันเอง อย่าออกมาเป็นเครื่องมือใคร พร้อมระบุว่า รักพ่อก็กลับบ้านไปทำหน้าที่ลูกๆที่ดีของพ่อหลวงกันเถอะคับ
โด่ง สิทธิพร นิยม ดารานักแสดง ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กถึงการชุมนุมในขณะนี้ว่า กราบเรียนพี่น้องชาวเฟสบุ๊คของผมทั้งหลาย "ข้อความต่อไปนี้อาจสร้างความขัดใจแก่ผู้ใดต้องขออภัยด้วยเพียงแต่เป็นห่วงพี่น้องทุกท่านด้วยใจจริงเพราะนานๆผมจะได้เข้ามาโพสข้อความของตัวเองจริงๆสักที่ ขอขอบคุณน้องพริมที่ยังดูแลเฟสนี้อย่างดีเรื่อยมา เรามาเข้าเรื่องกันเลยนะคับ"
"ความชอบธรรมย่อมมีคุณธรรม คุณธรรมจึงเป็นเครื่องวัดความชอบธรรม ถึงไอ้จุกจะต้องรับกรรมแต่สัจจะธรรมก็ปรากฏเป็นจริง".....เรียนพี่น้องที่จะไปเข้าร่วมการชุมนุมในฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด ขอให้ทุกท่านคิดว่า...พวกเค้ามีสภาก็ปล่อยให้ระบบมันแก้ไขกันเอง อย่าออกมาเป็นเครื่องมือใคร เพราะ เรื่องลึกๆแล้วอาจจะแย่พอๆกัน เราเลือกเค้ามาแล้วก็ให้เค้าทำหน้าที่ของแต่ละฝ่ายกันเอง ถ้าพวกเราอยู่เฉยๆไห้พวกเค้าทำหน้าที่แทนเราในเวทีของเค้า มันจะมีประสิทธิภาพที่ดีกว่า ประชาชนมาขัดแย้งกันเอง เดึ๋ยวพวกคนไม่ดี มันก็แก่ตายกันไปเอง
"บารมีของพระองค์ท่านจะขจัดคนชั่วให้พ้นจากแผ่นดินไทยไปเอง คับ กลับเข้าบ้านทำหน้าที่ให้มันตรงกับหน้าทีเราดีกว่า หรือถ้าอยากจะออกมาแสดงความเป็นประชาธิปไตยแบบนี้สมัยหน้าก็ไม่ต้องมีการเลือกตั้งแล้ว เพราะจะเลือกพวกเค้าเข้าไปทำหน้าที่แทนเราในสภาทำไม ในเมื่อทั้ง2ฝ่ายยังแก้ไขแทนประชาชนไม่ได้ ก็ไม่ต้องมีแล้ว รัฐบาล กะ ฝ่ายค้าน เนี่ย กล่มไหนไม่พอใจก็ปิดถนนอ้างความชอบธรรมกันอย่างเดียว อีกหน่อยคนติดหนี้แบงค์ หนี้บัตรก็ออกมาปิดถนน หน้าแบงค์ชาติ แล้วตะโกนว่า นิรโทษกรรมหนี้ให้พวกเราด้วย
ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมาในทุกอาชีพ ประเทศชาติจะลุกเป็นไฟ พวกท่านก็จะยิ่งไปสร้างความหนักใจให้แก่พระองค์ท่านเข้าไปอีก เพราะจุดประสงค์ปลายทางคือสิ่งเดียวกัน พวกเราไม่สามารถนำมวลชนมาแก้ปัญหาใดๆได้ เพราะหน้าที่ที่พวกเราเลือกเค้ามา ก็ปล่อยให้พวกเค้าได้แสดงฝีมือกันในเวทีของเค้าเถอะคับ ยิ่งออกมาเยอะ ก็ยิ่งสร้างปัญหา มาตีกันโดยไม่รู้ว่าตีกันเพื่ออะไรอีก"หยุดเเอาพลังประชาชนมาปะทะกัน แล้ว ตัวเองก็นั่งจิ๊บวายอยู่ไนห้องแอร์รอดูว่าจะออกไปประกาศชัยชนะเมื่อไหร่ หยุดเถอะคับท่าน ผู้มีบารมี ผู้ยิ่งใหญ่คับเมืองทุกท่าน ถ้ารู้ว่าทำหน้าทีไม่ได้ก็ลาออกไป "
สรุปเลยนะคับ ประชาชนทุกคนอย่าไปอยู่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเดินทางสายกลางตามรอยเท้าของพ่อ อย่าไปเชื่อว่าพระองค์ท่านตรัสว่าเข้าข้างฝั่งใด ไม่เป็นจริงหรอกคับ พระองค์ท่านยังทรงเลือกประชาชนของท่านเสมอ เพราะฉะนั้นเรื่องการเมืองก็ปล่อยเป็นหน้าที่พวกเค้าไป เราทำตามความประสงค์ของพระองค์ท่านให้คนไทยรักและปรองดองกันเป็นชาติไทย และเราไม่อยากทำตามความประสงค์ของนักการเมืองฝั่งใดด้วย" รักพ่อก็กลับบ้านไปทำหน้าที่ลูกๆที่ดีของพ่อหลวงกันเถอะคับ อย่าให้พ่อต้องกังวลว่าคนในชาติมาตีกันเอง
"พวกเราพร้อมแสดงความเคลื่อนไหวตามเจตนารมณ์ของพ่อ มากกว่าแสดงเจตนารมฌ์ของพรรคการเมืองฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด"ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ข้าพเจ้า นาย สิทธิพร นิยม ขอแสดงความคิดเห็นตามเจตนารมฌ์ของพระองค์ท่านแต่เพียงผู้เดียว และ ขอรับผิดชอบต่อความคิดเห็นของข้าพเจ้าแต่เพียงผู้เดียว...ขอพระองค์ทรงพระเจริญฯ "ช่วยกันนะครับพี่น้อง ไม่อยากให้พวกเราต้องทะเลาะกันเองเพราะเกรงว่าจะ เกิดเหตุการณ์บานปลายกันใหญ่ช่วยเป็นกระบอกเสียงกันด้วยนะคับเพราะเราไม่อยากเห็นการสูญเสียเกิดขึ้นอีกต่อไป...
ที่มา : เฟซบุ๊ก Dong Sittiporn