จากกระทู้
http://ppantip.com/topic/31116331
หลังจากที่มาตั้งกระทู้เมื่อวันที่ 16 พย. สอบถามเรื่อง โปรตีนรั่วคือ ? เพราะหมอที่คลีนิคบอกโปรตีนรั่ว แต่พอไป รพ. หมอกลับบอกว่าปกติ ก็เลยไม่เอะใจอะไร หลังจากนั้นมา ปวดหัวทุกวัน ทั้งวัน ปวดมาก พอเข้าวันที่ 20 มีเลือดกำเดาออกจมูก 2รอบ แต่ไม่เอะใจอะไรมาก พอดีวันนั้นไปทำบุญมา วันพระใหญ่ เลยคิดว่าอาจเพราะเหนื่อย แต่อีกใจก็แอบกังวลเล็กน้อยเพราะร่างกายไม่ปกติเป็นอย่างมาก หลังจากที่เลือดกำเดาออกไปก็ไม่มีเรื่องร้ายแรงอะไรนอกจากจะ ปวดตัว ปวดหัว นอนไม่หลับ อยากอาเจียน ฯลฯ แต่ก็ทนเพราะหลายๆคนบอกคนใกล้คลอดก็แบบนี้ อีกอย่างหมอนัดวันที่ 30 ซึ่งก็เห็นว่าอีกแค่ไม่กี่วันก็เลยทนๆไป แต่สุดท้ายร่างกายเกินรับไหว อาการโคม่าขั้นรุนแรงปรากฎขึ้นเมื่อวันที่ 29 พย. คือตอนสักบ่ายๆร่างกายก็ปวดหัวเป็นปกติ แต่สักพักเริ่มได้กลิ่นเลือดในปาก ตอนแรกคิดว่าเลือดออกตามไรฟันก็เลยไปบ้วนปากในห้องน้ำ ปรากฏว่ามีเลือดจริงและอาเจียนออกมาเป็นน้ำปนเลือดนิดหน่อย แต่พอส่องกระจก ลมแทบจับ เพราะเลือดไหลออกมาเต็มจมูกเลย ไหลเยอะจนออกมาเป็นก้อนเลือดเลย ก็เลยโทรตามแฟนกลับมาบ้าน พาไปหาหมอ พอถึงรพ. พยาบาลตรวจวัดชีพจรได้ 290 บ้าง 260 บ้าง แต่ไม่เคยต่ำกว่า 200เลย พยาบาลตกใจกันมาก เพราะไม่เคยเจอความดันทะลุปรอทอย่างนี้ โทรถามแผนกต่างๆว่าให้ทำไง ปรากฏ แผนกคลอดบอกให้จ่ายยาและให้กลับไปพักที่บ้านเนื่องจากตอนนั้นเราแค่ 37 week ยังไม่ครบกำหนดคลอด แต่พยาบาลอดกังวลใจไม่ได้ เลยโทรตามหมอสูติให้มาดู้วยตัวเอง ซึ่งหมอรีบวิ่งมาอย่างไว พอเห็นเรานั่งอยู่ในรถเข็นหมอก็ตกใจ โวยวายบอกทำไมไม่ให่เรานอนเตียง และทุกอย่างก็ดูวุ่นวายมากๆ หมอจับเจาะเลือดไป 3 หลอด สวนฉี่ และเอาค้อนเล็กๆมาเคาะที่เข่า และฉีดยาอะไรต่างๆมากมาย ผลปรากฏหมอตามสามีเข้ามาฟังในห้องด้วยสีหน้าเครียดๆ และพูดว่า
"ตอนนี้ภรรยามีอาการครรภ์เป็นพิษแน่นอนแล้ว ทางรักษามีทางเดียวคือ ยุติการตั้งครรภ์ เท่านั้น หมอพูดอีกว่า สังเกตุไหมว่าทำไมหมอไม่พูดถึงเด็ก เพราะตอนนี้ต้องรักษาชีวิตแม่ไว้ก่อน เด็กจะเป็นอย่างไงหมอจะไม่สนใจ เข้าใจนะ ตอนนี้ชีพจรของเด็กยังเต้นปกติดี แต่ถ้าเมื่อทำการรักษาหรือระหว่างการรักษาหัวใจเด็กเกิดหยุดเต้น หมอจะไม่ทำการช่วยชีวิตใดๆทั้งสิ้น ต้องยอมรับและเข้าใจด้วยนะ แค่ได้ยินเท่านั้นสามีร้องไห้เลย แต่เราทำใจไว้แล้วเพราะเราหาข้อมูลเรื่องนี้มาพอสมควร ตั้งแต่เลือดกำเดาไหล ใจก็กังวลแล้วว่าต้องเป็นโรคนี้ พอทุกอย่างพร้อม หมอก็เข็นเราขึ้นไปยังห้องคลอด รอเวลาให้ความดันลดลงอีกหน่อยจะทำการผ่าคลอดเพราะตอนความดันสูงทำไม่ได้ เราเข้าผ่าตอนเกือบๆ 4 ทุ่ม หมอบล็อกหลังผ่าแบบซีซ่า เพราะผ่าแบบบิกินนี่ไม่ได้แผลจะติดเชื้อ ลูกคลอดตอน 22.21 น. แข็งแรง ปลอดภัยดี แต่ตัวเล็กมาก หนักแค่ 2120 กรัม น่าแปลกมาก ทั้งๆที่ตัวเรา นน.ขึ้นมาตั้ง 30 กิโล T__T แต่ลูกไม่ได้รับเลย หมอบอกเป็นเพราะอาการของโรคทำให้ลูกไม่ได้รับสารอาหาร พอคลอดลูกก็ไปอยู่แผนกเด็ก แต่ตัวเราไม่สามารถไปไหนได้ นอนรอดูอาการในห้องคลอดอีก 1 วัน ความดันก็ยังสูงอยู่เรื่องๆ 170-190 ให้ยาไม่รู้กี่อย่าง ปวดหัวอยู่ตลอดเหมือนเดิม นอนพักจนสามารถออกมาห้องพักฟื้นได้ รวมแล้วอยู่รพ.ทั้งหมด 7 วันพอดี ตอนนี้อาการดีขึ้นเรื่อยๆ ตาตายังมองพร่าๆ เห็นไม่ชัดอยู่เลย แต่คิดว่าคงจะดีขึ้นๆตามลำดับ แอบเอารูปลูกชายมาอวดด้วยคร้า
ในที่สุดก็ครรภ์เป็นพิษ แทบเอาชีวิตไม่รอดเลยคร้า
หลังจากที่มาตั้งกระทู้เมื่อวันที่ 16 พย. สอบถามเรื่อง โปรตีนรั่วคือ ? เพราะหมอที่คลีนิคบอกโปรตีนรั่ว แต่พอไป รพ. หมอกลับบอกว่าปกติ ก็เลยไม่เอะใจอะไร หลังจากนั้นมา ปวดหัวทุกวัน ทั้งวัน ปวดมาก พอเข้าวันที่ 20 มีเลือดกำเดาออกจมูก 2รอบ แต่ไม่เอะใจอะไรมาก พอดีวันนั้นไปทำบุญมา วันพระใหญ่ เลยคิดว่าอาจเพราะเหนื่อย แต่อีกใจก็แอบกังวลเล็กน้อยเพราะร่างกายไม่ปกติเป็นอย่างมาก หลังจากที่เลือดกำเดาออกไปก็ไม่มีเรื่องร้ายแรงอะไรนอกจากจะ ปวดตัว ปวดหัว นอนไม่หลับ อยากอาเจียน ฯลฯ แต่ก็ทนเพราะหลายๆคนบอกคนใกล้คลอดก็แบบนี้ อีกอย่างหมอนัดวันที่ 30 ซึ่งก็เห็นว่าอีกแค่ไม่กี่วันก็เลยทนๆไป แต่สุดท้ายร่างกายเกินรับไหว อาการโคม่าขั้นรุนแรงปรากฎขึ้นเมื่อวันที่ 29 พย. คือตอนสักบ่ายๆร่างกายก็ปวดหัวเป็นปกติ แต่สักพักเริ่มได้กลิ่นเลือดในปาก ตอนแรกคิดว่าเลือดออกตามไรฟันก็เลยไปบ้วนปากในห้องน้ำ ปรากฏว่ามีเลือดจริงและอาเจียนออกมาเป็นน้ำปนเลือดนิดหน่อย แต่พอส่องกระจก ลมแทบจับ เพราะเลือดไหลออกมาเต็มจมูกเลย ไหลเยอะจนออกมาเป็นก้อนเลือดเลย ก็เลยโทรตามแฟนกลับมาบ้าน พาไปหาหมอ พอถึงรพ. พยาบาลตรวจวัดชีพจรได้ 290 บ้าง 260 บ้าง แต่ไม่เคยต่ำกว่า 200เลย พยาบาลตกใจกันมาก เพราะไม่เคยเจอความดันทะลุปรอทอย่างนี้ โทรถามแผนกต่างๆว่าให้ทำไง ปรากฏ แผนกคลอดบอกให้จ่ายยาและให้กลับไปพักที่บ้านเนื่องจากตอนนั้นเราแค่ 37 week ยังไม่ครบกำหนดคลอด แต่พยาบาลอดกังวลใจไม่ได้ เลยโทรตามหมอสูติให้มาดู้วยตัวเอง ซึ่งหมอรีบวิ่งมาอย่างไว พอเห็นเรานั่งอยู่ในรถเข็นหมอก็ตกใจ โวยวายบอกทำไมไม่ให่เรานอนเตียง และทุกอย่างก็ดูวุ่นวายมากๆ หมอจับเจาะเลือดไป 3 หลอด สวนฉี่ และเอาค้อนเล็กๆมาเคาะที่เข่า และฉีดยาอะไรต่างๆมากมาย ผลปรากฏหมอตามสามีเข้ามาฟังในห้องด้วยสีหน้าเครียดๆ และพูดว่า
"ตอนนี้ภรรยามีอาการครรภ์เป็นพิษแน่นอนแล้ว ทางรักษามีทางเดียวคือ ยุติการตั้งครรภ์ เท่านั้น หมอพูดอีกว่า สังเกตุไหมว่าทำไมหมอไม่พูดถึงเด็ก เพราะตอนนี้ต้องรักษาชีวิตแม่ไว้ก่อน เด็กจะเป็นอย่างไงหมอจะไม่สนใจ เข้าใจนะ ตอนนี้ชีพจรของเด็กยังเต้นปกติดี แต่ถ้าเมื่อทำการรักษาหรือระหว่างการรักษาหัวใจเด็กเกิดหยุดเต้น หมอจะไม่ทำการช่วยชีวิตใดๆทั้งสิ้น ต้องยอมรับและเข้าใจด้วยนะ แค่ได้ยินเท่านั้นสามีร้องไห้เลย แต่เราทำใจไว้แล้วเพราะเราหาข้อมูลเรื่องนี้มาพอสมควร ตั้งแต่เลือดกำเดาไหล ใจก็กังวลแล้วว่าต้องเป็นโรคนี้ พอทุกอย่างพร้อม หมอก็เข็นเราขึ้นไปยังห้องคลอด รอเวลาให้ความดันลดลงอีกหน่อยจะทำการผ่าคลอดเพราะตอนความดันสูงทำไม่ได้ เราเข้าผ่าตอนเกือบๆ 4 ทุ่ม หมอบล็อกหลังผ่าแบบซีซ่า เพราะผ่าแบบบิกินนี่ไม่ได้แผลจะติดเชื้อ ลูกคลอดตอน 22.21 น. แข็งแรง ปลอดภัยดี แต่ตัวเล็กมาก หนักแค่ 2120 กรัม น่าแปลกมาก ทั้งๆที่ตัวเรา นน.ขึ้นมาตั้ง 30 กิโล T__T แต่ลูกไม่ได้รับเลย หมอบอกเป็นเพราะอาการของโรคทำให้ลูกไม่ได้รับสารอาหาร พอคลอดลูกก็ไปอยู่แผนกเด็ก แต่ตัวเราไม่สามารถไปไหนได้ นอนรอดูอาการในห้องคลอดอีก 1 วัน ความดันก็ยังสูงอยู่เรื่องๆ 170-190 ให้ยาไม่รู้กี่อย่าง ปวดหัวอยู่ตลอดเหมือนเดิม นอนพักจนสามารถออกมาห้องพักฟื้นได้ รวมแล้วอยู่รพ.ทั้งหมด 7 วันพอดี ตอนนี้อาการดีขึ้นเรื่อยๆ ตาตายังมองพร่าๆ เห็นไม่ชัดอยู่เลย แต่คิดว่าคงจะดีขึ้นๆตามลำดับ แอบเอารูปลูกชายมาอวดด้วยคร้า