-หน้าเปิดเป็นรุ่นพี่อิชิกิ
-เปิดมาฮายามะก็ตกใจในคำพูดของโซมะ พร้อมกับทวนคำไปว่า โซมะคิดจะปราบเขาด้วยแกงในตอนงานคัดเลือกเนี่ยนะ? โซมะทานแกงของเขาแล้วไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยงั้นเหรอ? โซมะบอกว่าได้สิ แถมเยอะด้วย โซมะบอกว่านี้เป็นแกงแบบที่เขาทำให้อร่อยเท่าไม่ได้แน่ๆ แต่...
-นั้นก็ทำให้เขาอิจฉาฮายามะมากขึ้นด้วย(ความหมายกลายๆก็คือโซมะยิ่งมีแรงกระตุ้นจะฝึกตัวเองให้เก่งขึ้นเพื่อเอาชนะฮายามะ) ซึ่งโซมะก็ขอบคุณสำหรับความรู้และกำลังจะขอตัวกลับ แต่ก็โดนชิโอมิเปิดประตูเข้ามากระแทกโดนทันทีพร้อมกับบอกว่า พวกโซมะจะกลับโดยไม่บอกลาเธอเลยเหรอ อีกอย่างเธอพึงจะแลคเชอร์ให้ฟังไปได้แค่ครึ่งเดียวด้วยนะ
-ฮายามะพูดปิดท้ายส่งโซมะไปว่า ถ้าจะสู้ด้วยเครื่องเทศกับสู้ด้วยกลิ่นขอให้โซมะรู้ไว้ซะ ว่าจมูกของเขาน่ะ"พิเศษ"กว่าใครๆ โซมะไม่มีทางเอาชนะเขาได้แน่ๆ ซึ่งเมื่อกลับมาที่หอ โซมะก็เริ่มตัดสินใจว่าจะเริ่มทำอะไรดีละ ซึ่งเมงุมิก็บอกว่าเมนูแกงหลากหลายมากและมีแทบจะทั่วโลก เราควรเริ่มจากแกงในเอเชียที่ใกล้ตัวก่อน แต่ส่วนผสมที่ต้องซื้อก็แตกต่างกันไป ถ้าจะเอาแบบกว้างๆก็น่าจะเป็นกระเทียมที่หลายแกงมักใช้มันเป็นส่วนผสมหลัก
-ซึ่งเมงุมิก็ลองยกตัวอย่างให้ฟังว่า เช่นถ้าทำเนื้อต้มมันฝรั่งแล้วใส่ผงกระหรี่เข้าไปด้วย ก็จะได้"แกงกระหรี่เนื้อ"แบบปกติ ซึ่งนี้เป็นวิธีการใช้เครื่องเทศต่างๆในแบบที่ง่ายแล้วก็ธรรมดาที่สุด ซึ่งโซมะก็บอกว่า จานที่ใช้รสของแกงผิวเผินแบบนั้นถือว่าเป็นจานที่ใช้ไม่ได้สินะ พวกเราต้องทำแกงที่เน้นที่รสเครื่องเทศเป็นหลัก ว่าแล้วโซมะก็ลองอ่านข้อมูลดูและพบว่าจานแกงส่วนใหญ่อาจจะใช้เครื่องเทศมากถึง40ชนิด ให้ลองเลือกมาสัก10-20อย่างเอามาบดผสมเข้าด้วยกันดู ซึ่งเมงุมิก็คิดว่าถ้าทำแบบนี้ละก็มันก็ผสมกันได้กว่า100แบบเลยนิน่า ซึ่งโซมะก็เสริมไปว่ายังมีอีก เพราะกลิ่นของเครื่องเทศสดกับแห้งจะต่างกันซึ่งต้องศึกษาเพิ่ม ไหนจะเป็นเรื่องของวิธีการปรุงอาหารที่เหมาะสมอีก และการใช้น้ำมันเพื่อสกัดกลิ่นหรือเลือกที่จะเอาเครื่องเทศไปคั่วเพื่อจะให้กลิ่นหอมออกมาได้เหมือนกัน พอมาถึงตรงนี้เมงุมิเริ่มที่จะตาลายแล้ว
-เมงุมิเริ่มกังวล จนมาเจอดอกพิฆาตจากโซมะที่ว่าเราต้องหาวัตถุดิบให้เข้ากันได้อีกทำให้เมงุมิถึงกับระเบิด ว่าแล้วเธอก็เริ่มลนลานแล้วเอ่ยว่า โซมะไปท้าแข่งกับคนที่เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องเทศแบบนั้นแถมอยู่บล็อกเดียวกันอีกและไหนจะมีเวลาแค่หนึ่งเดือนด้วย เหมือนตัวฮายามะคุงอยู่ไกลมากๆยากที่จะเอื้อมถึงหรือตามให้ทันเลยทีเดียว ทำให้โซมะหลับตาแล้วบอกเมงุมิไปว่า ที่ร้านยูกิฮิระของเขาน่ะ...
-เขาต้องคอยมองพ่อที่เก่งกว่าเป็นไหนๆทำอาหารอยู่ตรงหน้าแบบนั้นอยู่ทุกวัน แล้วก็มาถึงเดือนหนึ่ง พ่อฝากให้เขา(โซมะ)คิดเมนูใหม่ประจำเดือนให้ที ซึ่งตอนนั้นโซมะอยู่แค่ป.6 แค่ฟังถึงตรงนี้เมงุมิก็เอ่ยว่าถ้าเป็นเธอละก็รับแรงกดดันขนาดนั้นไม่ไหวแน่ๆ แต่โซมะก็พูดต่อว่า ตอนแรกเขาก็เครียดมากเหมือนกันนั้นแหละ แต่รู้ไหม ถ้าเขามัวแต่กลัวหรือเครียดอยู่แบบนั้น เขาก็ไม่มีวันคิดค้นเมนูใหม่ออกมาได้หรอก
-ว่าแล้วโซมะก็พูดออกไปอีกว่า สำหรับเขา ถึงจุดนี้(การแข่งประกวด)ถ้าพยามสุดๆแล้วจะแพ้ก็ไม่เป็นไรหรอก ซึ่งนั่นก็ทำให้เมงุมิคิดถึงความชิลๆของโซมะในตอนที่ไปท้านิคุมิแข่งโชคุเงคิ ก่อนที่โซมะจะเอ่ยว่า ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในร้านก็ดีหรือว่าการแข่งทำอาหารก็ดี ในเมื่อถอยไม่ได้แล้วจะไปคิดมากอะไรละ สู้มุ่งหน้าพยามไปให้สุดกำลังดีกว่า
-ซึ่งนั่นก็ทำให้เมงุมิมีกำลังใจขึ้น ซึ่งโซมะก็เอ่ยว่าอย่างที่เมงุมิรู้ ธีมเป็นแกงก็จริงแต่เขาคิดว่านั้นไม่ใช่ทุกอย่างหรอกนะ ว่าแล้วเวลาก็ผ่านไปพร้อมกับการฝึกฝนเตรียมตัวของพวกโซมะ ในวันที่12สิงหา เมงุมิก็มาลาโซมะกลับไปบ้านเกิด เพราะเธอตัดสินใจว่าจะกลับไปบ้านให้ทันก่อนเทศกาลโอบ้ง(เทศกาลไหว้บรรพบุรุษของคนญี่ปุ่น)และไปหาเครื่องเทศท้องถิ่นที่บ้านเกิดของเธอด้วย
-เมงุมิกังวลว่าโซมะจะเป็นอะไรไหมเพราะเขาเป็นเด็กปีหนึ่งคนเดียวที่อยู่ที่นี้ แต่โซมะบอกว่าไม่เป็นไรเขาไม่เหงาหรือเบื่อแน่นอนเพราะมีอะไรให้ทำตั้งเยอะ ซึ่งเมงุมิก็อวยพรให้โซมะโชคดีแล้วเอ่ยว่าเจอกันอีกทีตอนเดือนกันยา ซึ่งโซมะก็ลาเมงุมิแล้วบอกว่าอย่าลืมของฝากละ ว่าแล้วโซมะก็ตั้งหน้าตั้งตาคิดค้นเครื่องเทศของตัวเองต่อไปทันที
-วันเวลาล่วงเลยผ่านไปเรื่อยๆ โซมะกำลังง่วนอยู่กับการคิดค้นจานแกงของตัวเอง และไม่ใช่แค่โซมะแต่ทุกคนที่เข้าร่วมงานคัดเลือกต่างก็ตั้งหน้าตั้งตากันทั้งนั้น
-ว่าแล้วเวลาก็ล่วงเลยไปถึงวันที่25 รุ่นพี่อิชิกิเขามาถามโซมะว่า เขานั่งทำเครื่องเทศทั้งคืนเลยเหรอเนี่ย ก่อนจะเอ่ยว่าโซมะนี้ทดลองทำหลายอย่างน่าดู ก่อนจะหยิบเครื่องเทศที๋โซมะบดขึ้นมาดูแล้วเอ่ยว่านี้มันน่าสนใจมากเลยนะ แต่โซมะก็บอกว่ายังหรอกครับนี้พึ่งจะเริ่มเอง แต่ว่าแล้วพอพูดจบก็ง่วงนอนหลับไปซะงั้น ทำให้อิชิกิยิ้มแล้วเดินไปปิดไฟให้
-ตัดไปด้านฮายามะกับชิโอมิ ชิโอมิเป็นห่วงฮายามะเพราะฮายามะนั่งทำเครื่องเทศทั้งคืนเหมือนกัน ซึ่งฮายามะก็บอกว่ามันเสร็จสมบูรณ์แล้ว เครื่องเทศผสมอาวุธลับของเขา ซึ่งชิโอมิก็บ่นว่าถ้าไม่นอนซะบ้างก็ไม่ดีต่อร่างกายนะ แต่ก็โดนฮายามะพูดสวนไปว่าจุนเองก็เหมือนกันนั้นแหละนอกจากอยู่โต้รุ่งทั้งคืนยังมีอดิเรกชอบนอนหลับบนพื้นอีก จนเขาต้องอุ้มเธอไปนอนที่โซฟาอยู่ทุกวัน และถึงตัวเธอจะเตี้ยก็เถอะแต่จริงๆแล้วหนักใช่เล่นนะ ทำให้ชิโอมิหน้าแดงก่อนจะเอ่ยมาว่าไม่ต้องสนใจเธอหรอก แต่เธอแค่กลัวฮายามะจะแพ้เท่านั้นเอง แต่ก็โดนฮายามะสวนกลับมาทันทีว่าเขาไม่มีทางแพ้หรอก
-ซึ่งฮายามะคิดว่า ไม่ว่าคู่แข่งจะเป็นใครเขาก็ไม่มีทางแพ้เด็ดขาด เขาจะพิสูจน์ว่าจุนกับเขาเป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้ดู ว่าแล้วเวลาก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก ในที่สุดก็เริ่มต้นการประกวดคัดเลือกฤดูใบไม้ร่วงแล้ว
-ซึ่งนักเรียนทั้งหมด60ชีวิตก็เดินทางมาพร้อม สำหรับการประชันศึกอาหารที่สเตเดี้ยมที่43ที่ซึ่งเป็นที่จัด "งานประกวดฤดูใบไม้ร่วง!"
จบตอน
เป็นตอนที่ทำสปอยได้ง่ายมาก เพราะพูดกันน้อย แต่ภาพมีพลังเหลือเกิน ตอนแรกแอบเดาว่าน่าจะเตรียมตัวกันตอนสองตอน แต่นี้แค่ตอนเดียวก็เสร็จแล้ว ตอนหน้าได้ดูคู่เปิดศึกแน่ๆ อดใจไม่ไหวแล้วแฮะ!
<Spoil> ยอดนักปรุงโซมะ (Shokugeki no Souma) 46 -มังกรที่หมอบต่ำและกำลังจะทะยานขึ้นสู่ฟ้า-
-หน้าเปิดเป็นรุ่นพี่อิชิกิ
-เปิดมาฮายามะก็ตกใจในคำพูดของโซมะ พร้อมกับทวนคำไปว่า โซมะคิดจะปราบเขาด้วยแกงในตอนงานคัดเลือกเนี่ยนะ? โซมะทานแกงของเขาแล้วไม่ได้เรียนรู้อะไรเลยงั้นเหรอ? โซมะบอกว่าได้สิ แถมเยอะด้วย โซมะบอกว่านี้เป็นแกงแบบที่เขาทำให้อร่อยเท่าไม่ได้แน่ๆ แต่...
-นั้นก็ทำให้เขาอิจฉาฮายามะมากขึ้นด้วย(ความหมายกลายๆก็คือโซมะยิ่งมีแรงกระตุ้นจะฝึกตัวเองให้เก่งขึ้นเพื่อเอาชนะฮายามะ) ซึ่งโซมะก็ขอบคุณสำหรับความรู้และกำลังจะขอตัวกลับ แต่ก็โดนชิโอมิเปิดประตูเข้ามากระแทกโดนทันทีพร้อมกับบอกว่า พวกโซมะจะกลับโดยไม่บอกลาเธอเลยเหรอ อีกอย่างเธอพึงจะแลคเชอร์ให้ฟังไปได้แค่ครึ่งเดียวด้วยนะ
-ฮายามะพูดปิดท้ายส่งโซมะไปว่า ถ้าจะสู้ด้วยเครื่องเทศกับสู้ด้วยกลิ่นขอให้โซมะรู้ไว้ซะ ว่าจมูกของเขาน่ะ"พิเศษ"กว่าใครๆ โซมะไม่มีทางเอาชนะเขาได้แน่ๆ ซึ่งเมื่อกลับมาที่หอ โซมะก็เริ่มตัดสินใจว่าจะเริ่มทำอะไรดีละ ซึ่งเมงุมิก็บอกว่าเมนูแกงหลากหลายมากและมีแทบจะทั่วโลก เราควรเริ่มจากแกงในเอเชียที่ใกล้ตัวก่อน แต่ส่วนผสมที่ต้องซื้อก็แตกต่างกันไป ถ้าจะเอาแบบกว้างๆก็น่าจะเป็นกระเทียมที่หลายแกงมักใช้มันเป็นส่วนผสมหลัก
-ซึ่งเมงุมิก็ลองยกตัวอย่างให้ฟังว่า เช่นถ้าทำเนื้อต้มมันฝรั่งแล้วใส่ผงกระหรี่เข้าไปด้วย ก็จะได้"แกงกระหรี่เนื้อ"แบบปกติ ซึ่งนี้เป็นวิธีการใช้เครื่องเทศต่างๆในแบบที่ง่ายแล้วก็ธรรมดาที่สุด ซึ่งโซมะก็บอกว่า จานที่ใช้รสของแกงผิวเผินแบบนั้นถือว่าเป็นจานที่ใช้ไม่ได้สินะ พวกเราต้องทำแกงที่เน้นที่รสเครื่องเทศเป็นหลัก ว่าแล้วโซมะก็ลองอ่านข้อมูลดูและพบว่าจานแกงส่วนใหญ่อาจจะใช้เครื่องเทศมากถึง40ชนิด ให้ลองเลือกมาสัก10-20อย่างเอามาบดผสมเข้าด้วยกันดู ซึ่งเมงุมิก็คิดว่าถ้าทำแบบนี้ละก็มันก็ผสมกันได้กว่า100แบบเลยนิน่า ซึ่งโซมะก็เสริมไปว่ายังมีอีก เพราะกลิ่นของเครื่องเทศสดกับแห้งจะต่างกันซึ่งต้องศึกษาเพิ่ม ไหนจะเป็นเรื่องของวิธีการปรุงอาหารที่เหมาะสมอีก และการใช้น้ำมันเพื่อสกัดกลิ่นหรือเลือกที่จะเอาเครื่องเทศไปคั่วเพื่อจะให้กลิ่นหอมออกมาได้เหมือนกัน พอมาถึงตรงนี้เมงุมิเริ่มที่จะตาลายแล้ว
-เมงุมิเริ่มกังวล จนมาเจอดอกพิฆาตจากโซมะที่ว่าเราต้องหาวัตถุดิบให้เข้ากันได้อีกทำให้เมงุมิถึงกับระเบิด ว่าแล้วเธอก็เริ่มลนลานแล้วเอ่ยว่า โซมะไปท้าแข่งกับคนที่เชี่ยวชาญเรื่องเครื่องเทศแบบนั้นแถมอยู่บล็อกเดียวกันอีกและไหนจะมีเวลาแค่หนึ่งเดือนด้วย เหมือนตัวฮายามะคุงอยู่ไกลมากๆยากที่จะเอื้อมถึงหรือตามให้ทันเลยทีเดียว ทำให้โซมะหลับตาแล้วบอกเมงุมิไปว่า ที่ร้านยูกิฮิระของเขาน่ะ...
-เขาต้องคอยมองพ่อที่เก่งกว่าเป็นไหนๆทำอาหารอยู่ตรงหน้าแบบนั้นอยู่ทุกวัน แล้วก็มาถึงเดือนหนึ่ง พ่อฝากให้เขา(โซมะ)คิดเมนูใหม่ประจำเดือนให้ที ซึ่งตอนนั้นโซมะอยู่แค่ป.6 แค่ฟังถึงตรงนี้เมงุมิก็เอ่ยว่าถ้าเป็นเธอละก็รับแรงกดดันขนาดนั้นไม่ไหวแน่ๆ แต่โซมะก็พูดต่อว่า ตอนแรกเขาก็เครียดมากเหมือนกันนั้นแหละ แต่รู้ไหม ถ้าเขามัวแต่กลัวหรือเครียดอยู่แบบนั้น เขาก็ไม่มีวันคิดค้นเมนูใหม่ออกมาได้หรอก
-ว่าแล้วโซมะก็พูดออกไปอีกว่า สำหรับเขา ถึงจุดนี้(การแข่งประกวด)ถ้าพยามสุดๆแล้วจะแพ้ก็ไม่เป็นไรหรอก ซึ่งนั่นก็ทำให้เมงุมิคิดถึงความชิลๆของโซมะในตอนที่ไปท้านิคุมิแข่งโชคุเงคิ ก่อนที่โซมะจะเอ่ยว่า ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในร้านก็ดีหรือว่าการแข่งทำอาหารก็ดี ในเมื่อถอยไม่ได้แล้วจะไปคิดมากอะไรละ สู้มุ่งหน้าพยามไปให้สุดกำลังดีกว่า
-ซึ่งนั่นก็ทำให้เมงุมิมีกำลังใจขึ้น ซึ่งโซมะก็เอ่ยว่าอย่างที่เมงุมิรู้ ธีมเป็นแกงก็จริงแต่เขาคิดว่านั้นไม่ใช่ทุกอย่างหรอกนะ ว่าแล้วเวลาก็ผ่านไปพร้อมกับการฝึกฝนเตรียมตัวของพวกโซมะ ในวันที่12สิงหา เมงุมิก็มาลาโซมะกลับไปบ้านเกิด เพราะเธอตัดสินใจว่าจะกลับไปบ้านให้ทันก่อนเทศกาลโอบ้ง(เทศกาลไหว้บรรพบุรุษของคนญี่ปุ่น)และไปหาเครื่องเทศท้องถิ่นที่บ้านเกิดของเธอด้วย
-เมงุมิกังวลว่าโซมะจะเป็นอะไรไหมเพราะเขาเป็นเด็กปีหนึ่งคนเดียวที่อยู่ที่นี้ แต่โซมะบอกว่าไม่เป็นไรเขาไม่เหงาหรือเบื่อแน่นอนเพราะมีอะไรให้ทำตั้งเยอะ ซึ่งเมงุมิก็อวยพรให้โซมะโชคดีแล้วเอ่ยว่าเจอกันอีกทีตอนเดือนกันยา ซึ่งโซมะก็ลาเมงุมิแล้วบอกว่าอย่าลืมของฝากละ ว่าแล้วโซมะก็ตั้งหน้าตั้งตาคิดค้นเครื่องเทศของตัวเองต่อไปทันที
-วันเวลาล่วงเลยผ่านไปเรื่อยๆ โซมะกำลังง่วนอยู่กับการคิดค้นจานแกงของตัวเอง และไม่ใช่แค่โซมะแต่ทุกคนที่เข้าร่วมงานคัดเลือกต่างก็ตั้งหน้าตั้งตากันทั้งนั้น
-ว่าแล้วเวลาก็ล่วงเลยไปถึงวันที่25 รุ่นพี่อิชิกิเขามาถามโซมะว่า เขานั่งทำเครื่องเทศทั้งคืนเลยเหรอเนี่ย ก่อนจะเอ่ยว่าโซมะนี้ทดลองทำหลายอย่างน่าดู ก่อนจะหยิบเครื่องเทศที๋โซมะบดขึ้นมาดูแล้วเอ่ยว่านี้มันน่าสนใจมากเลยนะ แต่โซมะก็บอกว่ายังหรอกครับนี้พึ่งจะเริ่มเอง แต่ว่าแล้วพอพูดจบก็ง่วงนอนหลับไปซะงั้น ทำให้อิชิกิยิ้มแล้วเดินไปปิดไฟให้
-ตัดไปด้านฮายามะกับชิโอมิ ชิโอมิเป็นห่วงฮายามะเพราะฮายามะนั่งทำเครื่องเทศทั้งคืนเหมือนกัน ซึ่งฮายามะก็บอกว่ามันเสร็จสมบูรณ์แล้ว เครื่องเทศผสมอาวุธลับของเขา ซึ่งชิโอมิก็บ่นว่าถ้าไม่นอนซะบ้างก็ไม่ดีต่อร่างกายนะ แต่ก็โดนฮายามะพูดสวนไปว่าจุนเองก็เหมือนกันนั้นแหละนอกจากอยู่โต้รุ่งทั้งคืนยังมีอดิเรกชอบนอนหลับบนพื้นอีก จนเขาต้องอุ้มเธอไปนอนที่โซฟาอยู่ทุกวัน และถึงตัวเธอจะเตี้ยก็เถอะแต่จริงๆแล้วหนักใช่เล่นนะ ทำให้ชิโอมิหน้าแดงก่อนจะเอ่ยมาว่าไม่ต้องสนใจเธอหรอก แต่เธอแค่กลัวฮายามะจะแพ้เท่านั้นเอง แต่ก็โดนฮายามะสวนกลับมาทันทีว่าเขาไม่มีทางแพ้หรอก
-ซึ่งฮายามะคิดว่า ไม่ว่าคู่แข่งจะเป็นใครเขาก็ไม่มีทางแพ้เด็ดขาด เขาจะพิสูจน์ว่าจุนกับเขาเป็นคู่หูที่ยอดเยี่ยมที่สุดให้ดู ว่าแล้วเวลาก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก ในที่สุดก็เริ่มต้นการประกวดคัดเลือกฤดูใบไม้ร่วงแล้ว
-ซึ่งนักเรียนทั้งหมด60ชีวิตก็เดินทางมาพร้อม สำหรับการประชันศึกอาหารที่สเตเดี้ยมที่43ที่ซึ่งเป็นที่จัด "งานประกวดฤดูใบไม้ร่วง!"
จบตอน
เป็นตอนที่ทำสปอยได้ง่ายมาก เพราะพูดกันน้อย แต่ภาพมีพลังเหลือเกิน ตอนแรกแอบเดาว่าน่าจะเตรียมตัวกันตอนสองตอน แต่นี้แค่ตอนเดียวก็เสร็จแล้ว ตอนหน้าได้ดูคู่เปิดศึกแน่ๆ อดใจไม่ไหวแล้วแฮะ!