ตรวจรับคอนโดแล้วมีปัญหา โครงการขอยกเลิกสัญญา เรื่องถึงทนาย เจ้าของโครงการง้อมาขอให้คืนดี

พยามยามเล่าแบบย่อๆ นะคะ เพราะเรื่องมันยาวมาก คือเราไปตรวจรับคอนโดเจอสภาพงานในห้องแย่มากๆ ถ้าจะให้บอกปัญหาแต่ละจุดคงไม่ไหวเพราะมันจะยาวเกิ๊นนนน สรุปเราไปตรวจห้องมาทั้งหมด 3-4 ครั้ง ในระยะเวลาทั้งหมดเกือบสองเดือน ก็ยังพบว่าไม่ได้รับการแก้ไขเท่าที่ควร ทุกครั้งเราก็พยายามใจเย็น พยายามหาทางแก้ปัญหาแบบอะลุ้มอล่วยมาตลอด จนครั้งสุดท้ายที่เบรกแตกเพราะเจอ จนท. โครงการคนใหม่ ตำแหน่งสูงพูดจาไม่ดีใส่ และผรม. ปัดความรับผิดชอบ เม่าโกรธ เราเลยโทรปรึกษา สคบ. เพื่อขอความช่วยเหลือ สคบ. ให้เราแจ้งโครงการให้แก้ไขงานเป็นหนังสือ และกำหนดเงื่อนเวลาไว้ หากโครงการไม่ปฏิบัติตาม สคบ. จะเข้ามาไกล่เกลี่ยให้...

เราก็ทำตาม สคบ. แนะนำ โดยให้เวลาตอบรับจม. ภายใน 7 วัน แก้ไขงาน 1 เดือน แต่ปรากฎว่าวันที่ 9 โครงการกลับออกหนังสือขอยกเลิกสัญญามาให้เราเซ็นรับยกเลิกสัญญาแทนการแก้ไขปัญหา โดยแจ้งว่าจะคืนเงินดาวน์ทั้งหมดให้ (ประมาณสองแสนกว่าบาท) โดยให้ ดบ. และค่าเสียหายอีก อย่างละ 2.5% ต่อปีของเงินดาวน์ (ประมาณหนึ่งหมื่นเก้าพันบาท)

มาถึงจุดนี้เราอึ้งมาก เม่าเศร้า เพราะเราขอให้โครงการแก้ไขงานตามที่ควรจะเป็น แต่โครงการกลับออกหนังสือยกเลิกสัญญามาให้เรา เราเลยโทรปรึกษา สคบ.อีกรอบ ว่าจะทำยังไงดี เพราะเราไม่ได้ต้องการยกเลิกสัญญาแต่อย่างใด และถ้าโครงการยืนยันที่จะยกเลิกเนื่องจากไม่สามารถแก้ไขงานได้ แล้วเราจะทำยังไงเพราะค่าชดเชยที่ทางโครงการให้ 2.5% ประมาณเก้าพันห้านั้นไม่ได้ครอบคลุมถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นแก่ตัวเราเลย ทาง สคบ. บอกว่าให้ทำหนังสือเข้าไปชี้แจง และแจ้งไปเลยว่าขอให้รับผิดชอบค่าเสียหายตามที่เกิดขึ้นจริงโดยให้เราแนบเอกสารหลักฐานเข้าไปให้โครงการด้วย

หลังจากเรายื่นหนังสือฉบับที่สอง จนถึงกำหนดต้องตอบในจม.ก็ไม่มีใครติดต่อกลับ เราจึงโทรไปหาจนท.ฝ่ายกฎหมายของโครงการที่ส่งจดหมายยกเลิกสัญญามาให้ .... เขารับปากว่าจะตามเรื่องให้ ตกเย็นเขาโทรนัดเราคุย และก็ยืนยันว่าเจ้าของโครงการจะชดใช้ตามที่แจ้งไว้ตอนแรกเท่านั้น แต่ที่เพิ่มมาคือเขาจะขอซื้อต่อของที่เราซื้อไว้เพื่อเตรียมเข้าคอนโดอีก 3 รายการคือ ตู้เย็น โต๊ะเครื่องแป้ง และเตียงนอน แต่ค่าเสียหายอื่นๆ ไม่โอเค มาถึงจุดนี้เราก็ไม่แฮปปี้มากๆ แล่ะ เพราะเราเจออะไรที่แย่มาก แล้วก็เยอะมาก ท้ายสุดโครงการทำอะไรให้ดีขึ้นไม่ได้กลับมาขอยกเลิกสัญญา แถมเจ้าของไม่มี spirit ในการชดใช้ค่าเสียหายให้อีก เราก็บอกเขาไปว่าเงินที่โครงการจะชดเชยมาให้เราเก้าพันกว่าบาทนั้นทำให้เราไม่สามารถจัดหาที่อยู่ใหม่ในทำเลเดิมได้ เพราะว่าห้องนี้เราตกลงจะซื้อตั้งแต่ต้นปี 54 ราคาสองล้านบาท ทำเลใกล้รถไฟฟ้า เรารอมาเกือบสองปีจนจะเสร็จ คุณมาขอยกเลิกเราวันนี้แล้วให้ค่าชดเชยแค่เก้าพันกว่าบาท  ถ้าพูดในแง่การลงทุนแล้วมันไม่คุ้มกันเลย เสียโอกาสในการครอบครองทรัพย์สิน เราต้องเสียค่าเช่าห้องต่ออีกกี่เดือน ถ้าหาซื้อห้องใหม่ตอนนี้ราคาก็พุ่งสูงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ถ้าอย่างนั้นเราก็คงต้องดำเนินการตามกฎหมายล่ะกัน

เมื่อวานนี้ ภรรยาเจ้าของโครงการโทรมาหาเราหลังจากทนายออกหนังสือโนติสไป 7 วันพอดิบพอดี ขอร้องให้เรากลับไปรับห้อง รับปากว่าจะแก้ไขทุกอย่างให้เหมาะสม คำถามคือถ้าเป็นคุณจะยอมไหม ถ้าคุณเสียความรู้สึกไปมากมายขนาดนี้?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่