ผ่านช่วงที่ย่ำแย่ไปอีกครั้ง เพราะได้กำลังใจดีๆ จากห้องรอตรวจพัฒนาการเด็ก

ผ่านช่วงที่ย่ำแย่ไปอีกครั้ง เพราะได้กำลังใจดีๆ จากห้องรอตรวจพัฒนาการเด็ก

ก่อนหน้านี้ประมาณ 1 อาทิตย์ อยู่ในช่วงติดขัด มีแต่เรื่องเสียเงินประเดประดังเข้ามาในชีวิต ประจวบกับเพิ่งย้ายห้องใช้เงินเยอะ ก็เครียดๆเพราะกว่าจะสิ้นเดือนหืดก็แทบขึ้นคอ แล้วเราหาเงินคนเดียว พ่อของลูกก็ช่วยบ้างแต่ไม่ได้มากมายอะไร เราก็มียืมเงินพ่อของลูกมาบ้างเพราะหมุนไม่ทัน   และลูกชายคนโตก็ป่วยต่อเนื่องมาเรื่อยๆ +กับมีปัญหาด้านพัฒนาการอีก  ยังดีลูกชายคนเล็กแข็งแรงไม่มีอะไรให้กังวล พอดีได้คิวนัดของลูกชายจากโรงบาลจุฬา ความจริงได้คิวตรวจต้นปีหน้า แต่มีคนเลื่อนนัดเราเลยได้แทรกมา  ตอนแรกเครียดมากๆ ไม่อยากให้ลูกเป็นอย่างที่คิด กลัวลูกเป็นออทิสติก คือเรารับได้ แต่คิดถึงต้องหาเวลาดูแลเค้า ไหนจะต้องทำงาน ไหนจะลูกอีกคน  มันกังวลไปเองล่วงหน้า


เมื่อวานก็พาลูกชายคนโต 3 ขวบ 4เดือนไปหาหมอตรวจพัฒนาการเด็กที่จุฬา เพราะรู้สึกว่าลูกไม่ค่อยสื่อสารแบบถามตอบสักที ด้านอารมณ์ก็ชอบให้ทำตามใจ ไม่ได้ดั่งใจก็ทำร้ายคนอื่น (ส่วนมากจะเป็นหม่ามี้และยายที่โดน) ชอบเอาหัวโขก กระโดดทับ กระโดดขี่คอ ดึงผม เวลาโมโหจะทำอะไรก็เอาไม่อยู่ ต้องปล่อยให้ร้องไป กรี้ดไป มีพฤติกรรมชอบทำอะไรซ้ำ ๆ พูดซ้ำๆ ไม่สื่อสารแบบสองทาง เช่นเราถามไปเค้าก็ไม่ตอบกลับ  ไม่เคยถามนั่นนี่อะไรเราเลย  แต่ความจำดีมาก

**** ระหว่างรอหมอตรวจคิดอะไรไปต่างๆนาๆ แต่มามองดูลูกตัวเองกับเด็กคนอื่นๆที่มารอตรวจ บอกเลยกำลังใจเรามีเยอะมาก ลูกเราดูเป็นเด็กปกติไปเลยเพราะเค้าไม่ออกอาการทางด้านกายภาพหรือด้านอื่นเลย ทุกอย่างคือเด็กปกติ

เด็กบางคนที่พ่อแม่มารอหมอตรวจ ออกอาการทั้งทางกายภาพและพฤติกรรม บางคนพิการซ้ำซ้อน บางคนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้เลย

บอกตัวเองเรายังโชคดีมาก ลูกเราเกิดมาครบ 32 เรื่องลูกเราไม่ได้ลำบากเหมือนพ่อแม่คนอื่นที่ลูกเกิดมาพิการหรือไม่ปกติ พ่อแม่เหล่านี้ต้องเข้มแข็งทั้งกายทั้งใจ เสียสละหลายๆอย่างมากกว่าเรา  

มีพี่ผู้หญิงคนนึงนั่งคุยกับเราระหว่างรอตรวจ  พี่เค้าอายุจะ 40 แล้ว มามีลูกตอนอายุมาก น้อง 8 เดือน  พิการทางสมอง และอีกหลายอย่าง  เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว  ตอนแรกพี่เค้าถามว่าลูกเราเป็นอะไร เพราะลูกเราดูปกติดี เราบอกพามาลองตรวจพัฒนาการ เพราะน้องไม่ค่อยพูดก็เล่าเรื่องเราให้เค้าฟัง   เค้าบอกเลยเราโชคดีกว่าเค้าอีก อย่าไปเครียดเรื่องอื่น เอาเรื่องลูกอย่างเดียวพอ   

พี่เค้าไม่มีใครเลยที่กรุงเทพ แม่เค้าก็แก่มากอยู่ต่างจังหวัด ตัวเค้าก็ต้องลางานทุกอาทิตย์เพื่อพาลูกมาตรวจ มาหาหมอ   ก็จ้างคนเลี้ยงตอนกลางวันเหมือนกัน  เรื่องเงินไม่ต้องพูดถึงเป็นหนี้หลายบาทตั้งแต่มีลูก  แต่เค้าก็สู้  และไม่สนใจคนอื่นจะว่าเค้ายังไง ญาติบางคนไม่เคยช่วยเหลืออะไรเค้า แต่มาพูดไม่ดีเกี่ยวกับลูกเค้า พี่เค้าก็ว่าใส่เหมือนกัน บางคนบอกไม่มีเงินทำไม ไม่ไปหาอนาถาหรือเข้าบัตรทอง  พี่เค้าก็บอกคนไม่มาอยู่ตรงนี้คงไม่รู้ บัตรทองมันไม่ได้ครอบครุมยาทุกอย่าง ขนาดใช้บัตรทองโดนค่ายานอกทีนึงหลายพัน ยิ่งรักษาแบบที่ลูกเค้าเป็น โดนยานอกกันทั้งนั้น

พี่เค้าบอกเตรียมใจตั้งแต่ท้องแล้วว่าลูกจะไม่ปกติ แต่ในเมื่อเค้ามีมาแล้ว เค้าก็จะดูแลให้ดีที่สุด เป็นหนี้เพื่อลูก เค้าบอกเค้ายอม และเค้าเชื่อว่าพ่อแม่หลายๆคนก็คงยอมเหมือนกัน  เราเองเราก็ยอม แต่คนใกล้ตัวเรา บางคนมันไม่ใช่เลย  เพราะหลายคนเห็นต่ตัวเองมากกว่าลูกก็เยอะ

เรามองดูเด็กๆหลายคนในชั้นนั้น ปัญหาเราด้อยลงไปเลย ตอนนี้ไม่แคร์แล้วว่าใครจะสนใจหรือไม่สนใจลูกเรา เราจะทำเพื่อเค้าเอง อย่างน้อยเราไม่เหนื่อยเท่าคนอื่นๆ คนอื่นยังทำทุกอย่างเพื่อลูก ปัญหาเค้าหนักหนากว่าเราเยอะ

ขอบคุณครอบครัวหลายๆครอบครัวที่เราเจอเมื่อวาน มันทำให้เรารู้ว่าชีวิตเรามันโชคดีมากแค่ไหน ทำให้รู้ว่าอย่าไปแคร์คนที่ไม่แคร์ลูกเรา และตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ลูกเรา เราต้องดิ้นรนเพื่อเค้าเอง ขอบคุณจริงๆ  บอกเลยว่าตอนแรกเครียดมาก เพราะเจอรายจ่ายทั้งนั้น ทุกอย่างเป็นเงิน  แต่แล้วยังไง  เราไม่ได้ทำเพื่อใคร เราทำเพื่อลูกเรา  ก็บอกตัวเองสู้ๆ และอดทน  มีลูกๆเป็นกำลังใจ
***

กลับมาเรื่องตรวจพัฒนาการของลูกต่อ

หมอก็ทดสอบ ถามพูดคุยกับน้อง น้องตอบคำถามที่หมอถามไม่ได้เลย เว้นแต่หมอถามโดยมีภาพประกอบน้องถึงตอบได้ เช่นไหนสีแดง หรือหมอหยิบดินสอสีเขียวหมอถามนี่สีอะไร น้องตอบสีเขียว  แต่ถ้าหมอถามหนูชื่ออะไรน้องตอบไม่ได้  ถามน้องหิวข้าวมั้ย น้องไม่ตอบ ยิ้มอย่างเดียว

หมอลองให้น้องเขียนตามที่หมอเขียน น้องเขียนได้  ให้เล่นต่อบล้อคน้องทำได้ ถามว่าสัตว์ตัวนี้คืออะไรบอกได้  แต่ถามคำกิริยาน้องตอบไม่ได้  เช่นไหนชูมือสิ  น้องจะขยับมือ แต่ไม่ชูมือ   

น้องรู้ศัพท์เป็นคำ แต่กิริยาน้องไม่ร้เรื่อง   แต่ถ้าน้องหิว น้องบอกกินข้าว หิวนมน้องบอกชงนม  อึบอกอึ  

เวลาหมอถามไหนมืออยู่ไหน น้องจะพูดตามไหนมืออยู่ไหน และขยับมือ  ถ้าหมอถามอะไรน้องจะพูดตามทุกครั้ง แล้ว้าอันไหนตอบได้ถึงจะตอบ

ระหว่างที่เราคุยกับหมอ น้องก็จะพูดอะไรไปเรื่อย แต่ส่วนมากคือท่องเอบีซี ก.ไก่อะไรไปเรื่อย  แต่ทำตามคำสั่งหลายๆอย่างได้ดี ให้ชี้อะไรก็ชี้ตาม   เรียกชื่อก็หันตามเสียง

หมอบอกว่าหลายๆอย่างก็ปกติ แต่ก็มีพฤติกรรมหลายๆอย่างเหมือนเด็กออทิสติก  และพัฒนาการช้าเหมือนกับเด็ก 2 ขวบกว่า แต่ไม่ได้มากมาย ยังสอนได้รักษาได้  เรื่องการสื่อสารมันสำคัญ ต้องปรับวิธีการเลี้ยงดู สอนเค้าอย่างใจเย็นแต่เอาจริง เวลาเค้าทำร้ายเราให้จับเค้าไว้ สอนเค้าพูดกับเค้า ถ้าเค้าไม่หยุดห้ามตี แต่ให้ปล่อยไปเลยไม่ต้องสนใจ ต้องใจแข็ง

ห้ามนอนดึก พูดคุยกับเค้าเยอะๆ ถ้าถามแล้วเค้าไม่ตอบ เราก็ตอบแทนเค้า เพราะบางทีเค้าอาจไม่รู้ว่าจะสื่อสารยังไง พูดคุยกับเค้าไปเรื่อย ๆ

ลดซีดี โทรทัศน์ต่างๆ พาเข้าโรงเรียน

ผู้ใหญ่ถ้าเครียด อย่าพยายามแสดงให้เค้ารู้ เพราะเด็กรับรู้ได้ แล้วเค้าจะรู้สึกไม่มั่นคง คุฯหมอบอกเลยเรื่องอะไรที่ทำให้เราเครียดให้ตัดออกไปก่อน ขอให้ทุ่มเทกับลูก ตั้งหลักที่ลูก   คนในครอบครัวต้องร่วมด้วยช่วยกัน

ก่อนกลับได้ยามา 1 ขวด หมอให้ทานทุกวันก่อนนอน เป็นยาช่วยให้ลดพฤติกรรมก้าวร้าว ใช้รักษาพวกโรคจิตเภท ให้ทานในปริมาณที่น้อยมากๆ ให้ทานเฉพาะก่อนนอน

หมอบอกว่ารักษาตอนนี้ยังทัน เพราะน้องยังไม่เป็นอะไรรุนแรง ตลอดเวลาเราเลี้ยงแบบผิดวิธีด้วยส่วนนึง และด้วยพัฒนาการของเค้าด้วยส่วนนึง

หมอบอกว่าน้องฉลาด แต่ความฉลาดกับพัฒนาการต้องแยกกันให้ได้ ฉลาดแต่ไม่มีพัฒนาการก็ไม่ดี เพราะเข้าสังคมไม่ได้

เราพาพี่เลี้ยงลูกไปนั่งคุยกับหมอด้วย หมอก็บอกดีแล้วที่พาคนดูแลลูกมา เพราะพี่เลี้ยงอยู่กับลูกมากกว่าเรา  ก็ช่วยกันและพยามสอนไป ปรับกันไป  หมอนัดกลับมาดูผลอีกที่หลังปีใหม่

ระหว่างที่พิมพ์อยู่ สภาพจิตใจและความเครียดของเราดีขึ้นมาก เพราะเมื่อวานเราตัดปัญหาอีกหนึ่งปัญหาออกไปแล้ว  ตอนนี้ก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานหาเงิน และดูแลลูกให้ใกล้ชิดที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่