คุณเคยมีเรื่องดีๆแบบนี้บ้างไหมคะ? ...ดีแล้ว...ที่เป็นแบบนี้

เนื้อหาในกระทู้อาจจะยาวไปสักนิดแต่อยากเปิดใจให้กว้างๆ
ลองอ่านตัวอักษรยาวๆภายในกระทู้นี้อย่างใจเย็น หลิ่วตา
ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องที่เล่าต่อกันมานานแล้ว บางท่านอาจเคยอ่าน
แต่ก็ยังมีอีกหลายๆท่านที่ยังไม่ได้อ่าน เราคิดว่าเป็นเรื่องราวที่ดี อ่านทีไรก็ยิ้มทุกที

เราอ่านเจอในหนังสือธรรมะของพ่อเล่มหนึ่ง
แต่เนื่องจากเมื่อวานพ่อของเราได้นำหนังสือสวดมนต์ หนังสือธรรมะหลายๆเล่มไปถวายวัดใน จ.นครราชสีมา
ซึ่งหนึ่งในนั้นคือหนังสือที่มีเรื่องนี้อยู่ TT
เราจึงเปิดหาในอินเตอร์เน็ตและขออนุญาตนำเรื่องราวของ”หลวงพ่อดีเนาะ” ที่คุณเสี่ยวหมิงได้ตั้งกระทู้ไว้นะคะ
http://topicstock.ppantip.com/lumpini/topicstock/2012/01/L11531770/L11531770.html
ขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ อมยิ้ม17


พระอาจารย์ประสงค์ ปริปุณโณ อดีตสมภารวัดป่าชิคาโก
แสดงธรรมไว้หลายธรรมมาสน์คุณดนัย จันทร์เจ้าฉาย (สำนักพิมพ์ดีเอ็มจี)
ฟังแล้วติดใจ เอามาพิมพ์เป็นหนังสื่อ ชื่อ หักหอกเป็นดอกไม้

เรื่องหนึ่งที่ท่านเทศน์เป็นเรื่องของหลวงพ่อวัดหนึ่ง ซึ่งขึ้นชื่อลือชากันว่าท่านเป็นพระที่มีแต่ความสุข ไม่เคยมีความทุกข์
วันหนึ่ง โยมมานิมนต์ท่านไปเทศน์ที่บ้านบอกท่านว่าจะมารับแต่เช้า หลวงพ่อก็นั่งรอจนสายโยมก็ไม่มาสักที
หลวงพ่อก็ว่า "ไม่มา ก็ดีเหมือนกันเนาะ เราฉันข้าวของเราดีกว่า"

ฉันข้าวได้ไม่กี่คำ โยมก็มารับพอดี
กราบกรานขอโทษที่มาช้า เหตุเพราะว่ารถเสีย
หลวงพ่อวางช้อน "อือ ก็ดีเนาะ ไปฉันที่งานเนาะ"

นั่งรถไปได้สักพักเครื่องรถก็ดับอีก คนขับบอก"รถเสียครับ"
หลวงพ่อก็ว่า "ดีเนาะ ได้หยุดพักชมวิวเนาะ"
คนขับซ่อมเครื่องรถได้พัก ก็ออกปากขอให้หลวงพ่อช่วยเข็นรถ
ความจริงหลวงพ่อก็แก่ ข้าวก็ฉันได้ไม่กี่คำ
แต่ทานก็ยิ้ม บอกว่า "โอ้ดีเนาะ ได้ออกกำลังเนาะ"
แล้วก็ขมีขมันออกแรงช่วยเข็นรถจนวิ่งได้

ไปถึงบ้านงาน เวลาเลยเที่ยง หมดเวลาฉันอาหารไปแล้ว
เป็นอันว่า วันนั้นหลวงพ่ออดข้าว เจ้าภาพก็ร้อนใจ
อะไรๆก็เลยเวลามานาน นิมนต์ท่านขึ้นเทศน์ทันที
"ดีเนาะ มาถึงก็ได้ทำงานเลยเนาะ"

หลวง พ่อว่าแล้วก็ขึ้นธรรมมาสน์เทศน์จนจบ มีคนชงกาแฟถวาย
แต่เผลอตักเกลือใส่แทนน้ำตาลหลวงพ่อจิบกาแฟไปหนึ่งคำ
แล้วก็บอกโยมว่า "โอ้ดีเนาะ ดีๆ" แล้วก็วาง

ธรรมเนียมของหลวงพ่อขลังๆ เวลาท่านฉันอะไร ลูกศิษย์ก็ อยากได้บ้าง
ว่ากันว่าเป็นสิริมงคลดีนักเรียงหน้ารอกันเป็นแถว ลูกศิษย์คนแรก ดื่มกาแฟก็พ่นพรวดออกมา
"เค็มปี๋เลยหลวงพ่อ ฉันเข้าไปได้ยังไง!"
"ก็ดีเนาะ ฉันกาแฟหวานๆมานาน" หลวงพ่อว่า "ฉันเค็มๆมั่งก็ดีเหมือนกัน"

ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก ลมแรง น้ำท่วม หรือคนด่า หลวงพ่อท่านมองไปในแง่ดีได้หมด
มีลูกศิษย์ใกล้ชิดคนหนึ่งไปทำผิด ถูกจับไปติดคุก ท่านก็ว่า"ก็ดีเนาะ มันจะได้ศึกษาชีวิต"
ท่านอาจารย์ประสงค์บอกว่าหลวงพ่อองค์นี้ ชื่ออะไร อยู่วัดไหนตัวท่านเคยจดไว้ แต่ทำสมุดที่จดหายจำได้เพียงแต่ว่า
คนอีสานเขาสรรเสริญท่านมาก แม้ท่านจะชื่อจริงอะไร ก็คงไม่มีใครจำ
เพราะต่างก็เรียกท่านว่า "หลวงพ่อดีเนาะ" กันหมดแล้ว

เรื่องของหลวงพ่อดีเนาะเป็นหนึ่งตัวอย่างในเรื่อง "หักหอกเป็นดอกไม้"
ทุกข์สุข ดีเลวล้วนแล้วแต่อยู่ที่วิธีคิด ถ้าคิดเป็นบวก เรื่องก็ออกมาเป็นบวก...

หลวง พ่อดีเนาะ” แห่งวัดมัชฌิมาวาส อุดรธานี ซึ่งมองโลกในแง่ดี
ไม่เคยจับผิดใคร ไม่เคยว่าใคร … เจอปัญหาอะไรๆ ก็พูดว่า “ดีเนาะ”
… จนกระทั่งได้รับพระราชทานสมณศักดิ์จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้เป็น
“พระเทพวิสุทธาจารย์ สาธุอุทานธรรมวาที” ซึ่งแปลว่า ดีเนาะ

หลวงพ่อ ดีเนาะเป็นเกจิอาจารย์มีชื่อของจังหวัดอุดรธานี ที่ใคร ๆ ก็รู้จัก
ท่านมีลูกศิษย์ลูกหาและผู้เคารพนับถือทั่วประเทศ มีเรื่องเกี่ยวกับการบำเพ็ญบารมี
และการประพฤติปฏิบัติตนของหลวงพ่อดีเล่าขานกันมากมายหลายเรื่องเช่น

มีผู้เล่าว่า เนื่องจากหลวงพ่อดีมีผู้เคารพนับถือมาก จึงมีผู้มาถวายจตุปัจจัยข้าวของเครื่องใช้ที่มีค่าแก่ท่านมากมาย
ในกุฏิของหลวงพ่อดีจึงมีข้าวของเงินทองที่เตะตาล่อโจรให้อยากลองของมากมาย
แต่ดูเหมือนว่าหลวงพ่อท่านไม่ค่อยจะสนใจวัตถุรอบกายของท่านแต่อย่างใดอยู่มา

วันหนึ่ง หลวงพ่อดีก็ถูกขุนโจรใจโหดปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์มากมาย
ถือปืนบุกเข้าประชิดตัวหลวงพ่อบนกุฏิพร้อมทั้งประกาศก้อง “นี่คือการปล้น อย่าได้ขัดขืนนะหลวงพ่อ”
หลวงพ่อดียิ้มกับโจรด้วยอารมณ์ดีและไม่มีอาการสะทกสะท้าน ท่านกล่าวกับโจรอย่างนิ่มนวลว่า “ปล้นก็ดีเนาะ”
โจรชักแปลกใจในคำพูดและท่าทีของหลวงพ่อ โจรพูดว่า “ถูกปล้นทำไมว่าดีละหลวงพ่อ”
หลวงพ่อดีตอบว่า “ทำไม่จะไม่ดีละ ก็ข้าต้องทนทุกข์ทรมานเฝ้าไอ้สมบัติบ้า ๆ
นี้ตั้งนานแล้ว เอ็งเอาไปเสียให้หมดข้าจะได้ไม่ต้องเฝ้ามันอีก”

โจรขู่อีก “ไม่ใช่ปล้นอย่างเดียวฉันต้องฆ่าหลวงพ่อด้วย เพื่อปิดปากเจ้าทรัพย์”
หลวงพ่อดีก็ตอบเหมือนเดิม “ฆ่าก็ดีเนาะ”
โจรแปลกใจจึงถามว่า “ถูกฆ่ามันจะดีได้อย่างไรละหลวงพ่อ”
หลวงพ่อดีตอบ “ข้ามันแก่แล้ว ตายเสียได้ก็ดี จะได้ไม่ทุกข์ร้อนอะไร”

โจรรู้สึกอ่อนใจเลยบอกว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ฆ่าหรอก”
หลวงพ่อดีก็พูดเหมือนเคย “ไม่ฆ่าก็ดีเนาะ”
โจรถามอีก “ทำไมฆ่าก็ดี ไม่ฆ่าก็ดีอีก”
หลวงพ่อดีบอกว่า “การ ฆ่ามันเป็นบาป เอ็งจะต้องชดใช้เวรทั้งชาตินี้และชาติหน้า อย่างน้อยตำรวจเขาจะต้องตามจับเอ็งเข้าคุก เข้าตะราง หรือไม่ก็ถูกฆ่าตาย ตายแล้วก็ยังตกนรกอีก”

โจรเลยเปลี่ยนใจ “ถ้าอย่างนั้นฉันไม่ปล้นหลวงพ่อแล้ว”
หลวงพ่อดีก็ตอบอีกว่า “ไม่ปล้นก็ดีเนาะ”

มีผู้เล่าต่อมาว่าในที่สุดโจรคนนั้นก็สำนึกบาปเข้ามอบตัวกับตำรวจ
เมื่อพ้นโทษออกมาก็ขอให้หลวงพ่อดีบวชให้และบำเพ็ญศีลภาวนาตลอดมา
ส่วนหลวงพ่อดีมีคนให้ฉายาท่านว่า “หลวงพ่อดีเนาะ” มาจนทุกวันนี้”



เรียนหนัก...ก็ดีเนาะ...ทำให้เรามีความรู้และประสบการมากขึ้น

เหนื่อยวันนี้...ก็ดีเนาะ...ในวันที่เราสบาย เราจะรู้สึกถึงคุณค่าของมัน
เพราะกว่าจะได้มาเราต้องผ่านเรื่องราวต่างๆมากมาย

จากกันด้วยดี...ก็ดีเนาะ...ถึงแม้จะผ่านมานานแล้ว แม้ตอนนั้นจะรู้สึกเสียใจมาก
แม้จะต้องเสียน้ำตาไปมากขนาดไหน แต่เราก็ได้รับความทรงจำดีๆ และทำให้เราเข้มแข็งขึ้นในทุกๆวินาทีที่เราใช้ชีวิตต่อ
ถึงแม้เธอจะมีคนใหม่ไปแล้ว แต่เราก็ยังเราได้คุยกันในเวลาที่เราต่างมีปัญหา ติดต่อกัน คอยให้กำลังใจกัน คิดถึงกัน
มีบางครั้งที่อยากให้ทุกอย่างเป็นเหมือนเดิมแต่เป็นพี่น้องกันแบบนี้...ก็ดีเนาะ...ดีที่สุดแล้วแหละ

บอกชอบใครสักคน แต่คนๆนั้นยังไม่ให้คำตอบ...ก็ดีเนาะ...ทำให้เราได้รู้จักกันมากขึ้น มีเวลาคิดทบทวนทุกๆเรื่องมากขึ้น
ไม่ว่าจะใช่หรือไม่ใช่สุดท้ายเราก็ได้ความทรงจำที่ดีเพิ่มขึ้นและน้องดีๆเพิ่มอีกคน

นอนไม่หลับ...ก็ดีเนาะ...ได้อ่านหนังสือธรรมะที่ปกติไม่ค่อยได้อ่านเม่าอดีต
ได้มีช่วงเวลาหนึ่งที่ได้รู้สึกถึงความสงบและรู้สึกโล่งสมองอย่างน่าแปลกใจ

ไม่ว่าเหตุการณ์ที่เผชิญอยู่จะดีที่สุดหรือเลวร้ายที่สุด
แต่ทุกๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตตั้งแต่เราเกิดจนถึงวันที่หมดลมหายใจ
ในจุดเล็กๆของความรู้สึกที่แย่ที่สุด เราทุกคนจะได้ประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความภูมิใจที่เราสามารถมีชีวิต
ก้าวผ่านสิ่งต่างๆนั้น อย่างไม่ย่อท้อต่อทุกอุปสรรคมาเป็นรางวัล เมื่อวานเราผ่านมาได้
วันนี้เราก็จะแข็งแกร่งขึ้นไปอีกเป็นเท่าตัว ในเมื่อเมื่อวานเราผ่านมาได้ ทำไมวันนี้จะผ่านไปไม่ได้ อีกแค่อึดใจเดียวก็พรุ่งนี้แล้ว pompom

ทุกคนบนโลกล้วนเกิดมาด้วยจิตใจของนักสู้ เราเป็นผู้ชนะที่ยิ่งใหญ่ตั้งแต่ยังเป็นอสุจิที่แข็งแกร่งที่สุด เก่งที่สุดเพี้ยนชนะเลิศ
ที่สามารถเอาชนะคู่แข่งอีกหลายล้านตัว จนเราได้เกิดมาเป็นลูกของคุณพ่อคุณแม่และมีชีวิตมาจนถึงทุกวันนี้


สุดท้ายนะคะไม่ว่าคนที่อ่านกระทู้นี้แล้วยิ้มหรือไม่ยิ้ม เคยอ่านหรือยังไม่ได้อ่าน ชอบหรือไม่ชอบ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย แต่ทุกคนที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้ล้วน...ก็ดีเนาะ...อย่างน้อยที่สุดเราก็ได้ดึงสถิติการอ่านของคนไทยให้สูงขึ้น
เม่าเนิร์ดเม่าอ่านเม่าอ่านหนังสือพิมพ์James love love
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่