ศึกน้ำลายของไทยและกัมพูชาในครั้งนี้   ไม่น่าจะมีศึกเลือดทางทหาร หรือการปะทะกันครั้งใหญ่แล้ว เพราะคนใหญ่คนโตของทั้งสองฝั่งยังเข้าใจกันดีอยู่  ฮุนเซนเองก็พึ่งชนะเลือกตั้งมาหมาดๆ  ท่ามกลางการเรียกร้องสิทธิ์ของฝ่ายตรงข้าม ที่เชื่อแน่ชัดว่าการเลือกตั้งในครั้งนี้ มีความไม่เป็นกลางอยู่อย่างมาก  ทางด้าน ฮุน มาเนตเอง ลูกชายที่ฮุนเซนหมายหมั้นปั้นมือว่าจะให้สืบทอดต่ออำนาจที่ภายหลังรอดตายหวุดหวิดจากกระสุนปืนใหญ่ไทย จากการปะทะกันในครั้งที่แล้ว ณ ตอนนี้เอง ก็มีเสียงตอบรับที่ดีและไม่มีนายพลคนไหนในกองทัพที่จะกล้าคานอำนาจอย่างซึ่งๆหน้าแล้ว  การแสดงละครฉากการใหญ่ ที่เอาทหารของตนเองมาตายไปหลายร้อย กว่านาย(ข่าวที่ปกปิดไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ จากทหารและคนในพื้นที่ระบุว่าอาจ มากกว่า 600นาย) ก็นับว่า เป็นการ เปิดฉากสร้างความชอบธรรม ในตำแหน่งนายพล คนเส้นใหญ่ที่มีพ่อเป็นคนกุมอำนาจเบ็ดเสร็จไปโดยปริยาย   พร้อมกับการสังเวยชีวิตอดีตทหารเขมรแดงและเหล่าทหารกล้าผู้ภัคดีเหล่านั้น
    ถ้าจะมองในด้านการทหารแล้ว ถ้ารบกันจริงๆ แล้วสามรถยืดคืนดินแดนได้มาทั้งหมด เหมือนเช่นแต่ก่อน  สำหรับสถานการณ์นี้ คงไม่ใช่เรื่องที่หนักหนาเท่าใดนักสำหรับกองทัพไทย ที่จะระดมห่ากระสุนปืนใหญ่ และจรวดระยะไกลเข้าถล่มให้แหลกกันไปข้าง จะเสียเปรียบก็ในแง่ของ ประชนคนไทย ที่อาจจะต้องอพยพมากกว่า กัมพูชามากหน่อย เพราะพื้นที่แทบทุกตำบลของการสู้รบ ทุกพื้นที่ที่มีโอกาสเป็นตำบลกระสุนตกของฝ่ายตรงข้ามได้ ล้วนแล้วแต่เป็นพื้นที่ที่มีชาวบ้านจับจองทำมาหากินกันแล้วแทบทั้งสิ้น ซึ่งต่างจากทางฝั่งของกัมพูชา ที่ยังเป็นแนวป่าเขา ซะส่วนใหญ่ ในแง่ ของความเดือดร้อนฝ่ายไทยจึงอาจมีมากกว่า เพราะยิ่งยืดเยื้อแรงกดดันเราก็ยิ่งจะมีมาก ถ้าจะรบจึงสมควรที่จะต้องดุดัน และเด็ดขาด การเปิดฉากรบปะทะและตอบโต้กลับตามความจำเป็น อย่างเดิมที่เคยทำมา จึงรังแต่จะสร้างปัญหาให้กับคนไทยด้วยกันเอง มากกว่าจะเป็นการข่มขู่ และป้องปราม คนหัวดื้ออย่างฮุนเซนได้  
     แต่ไม่ว่าผลการตัดสินของศาลโลกจะเป็นเช่นไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ไทยเสียเปรียบกัมพูชาแน่ๆ ก็คือการอ้างสิทธิ์ ในพื้นที่   4.6 ตารางกิโลเมตร เพราะความใจดี ปนความไม่สนใจ เช้าชามเย็นชาม ของฝ่ายปกครอง และหน่วยงานความมั่นคงของไทย ที่ปล่อย ให้ชาวบ้านของกัมพูชามาตั้งรกราก จนกลายเป็นชุมชน เขมรไปซะแล้ว ที่ดินคนไทยแต่เดิมที่เคยไปทำกิน ชาวบ้านคนไทยแท้ๆกลับเข้าไปไม่ได้  แต่ถึงกระนั้นก็ตามการที่เราปล่อยให้เขามาตั้งถิ่นฐานตั้งร้านค้า เกิดเป็นตลาดเป็นชุมชนขึ้นมา ก็ยังไม่เสียหายร้ายแรงหนักหนา เท่ากับว่า เรายังนิ่งเฉย ไม่ยอมทำอะไร มานับ สิบๆปี ปล่อยให้เขามาตั้งรกรากอยู่ จนกระทั่งกัมพูชา ยื่นจดทะเบียนบริเวณตัวปราสาทเป็นมรดกโลก แล้วยังพ่วงพื้นที่ทับซ้อน ที่เขามาตังรกรากอยู่หลายปี เป็นส่วนหนึ่งไปด้วย ตามนิสัย ที่ได้คืบเอาศอกของกัมพูชา   
    ถ้าหากว่าการจะเสียดินแดนหรือเสียเปรียบในครั้งนี้ มีโอการเกิดขึ้นได้จริงๆ จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ ความอ่อนด้อยของฝ่าย ทนายความของไทยไทย ความไม่เอาไหน ของการทูตและการต่างประเทศ แต่ยังเหมารวมถึงความเห็นแก่ตัวและประโยชน์สุขของฝ่ายปกครองและนักการเมืองไทย ที่ไม่เคยคิดป้องกันไว้ดีกว่าแก้
และนี่ยังไม่ได้รวมไปถึงความคิดเห็นของฝ่ายมหาอำนาจหลายๆประเทศ ที่พร้อมจะลอบบี้ สำหรับการสนับสนุน ฝ่ายกัมพูชา เพื่อแลกกับทรัพยากรธรรมชาติ อันมหาศาลอีกด้วย  และที่อาจจะน่าเจ็บใจและเสียใจที่สุด ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นก็คือ เราอาจมีสิทธิ์ ได้ทั้งชนะและแพ้ก็จริง ชนะแล้วทหารไม่ยิง นิ่งเฉยยังพอรับไหว แต่แพ้แล้ว ทหารไทยอาจจะต้องกล้ำกลืนฝืนทน เพราะเคลื่อนกำลังไม่ได้ ยิ่งไม่ได้นี่ซิ…ก็คงได้แต่ชอกช้ำระกำในทรวง………….### หวังว่า เหตุการณ์ จะเป็นผลดี ต่อฝ่ายไทย  ภาวนา สาธุ ……….

#ระบายอารมณ์เล่นๆ อ้างอิงไม่ได้นะครับ ... #บ้านผมกับศรีสะเกษ # ไม่ไกลกันมาก เขาพระวิหาร ไปเดินเที่ยวตั้งแต่เด็กๆ มาหลายครั้ง  อย่าให้เป็นเช่นนั้นเลย #