Urban Legend : ตำนานเมืองของตะวันตก

กระทู้สนทนา
หากให้อธิบายอย่างคร่าวๆ Urban legend ก็จะหมายถึงเรื่องเล่าหรือตำนานประจำท้องถิ่นแบบร่วมสมัย (ตำนานท้องถิ่นแบบที่ค่อนข้างเก่าแก่นั้นส่วนใหญ่จะเรียกว่า Folklore มากกว่า) ซึ่งส่วนใหญ่แพร่กระจายกันปากต่อปาก หรือในปัจจุบันก็อาจแพร่ไปอย่างรวดเร็วทางอินเตอร์เน็ต เช่นข่าวลือตามฟอร์เวิร์ดเมล์ทั้งหลายแหล่

ซึ่งแน่นอนว่าการบอกเล่ากันแบบปากต่อปากส่งผ่านกันไปเรื่อยๆนั้น มักจะมีส่วนที่เสริมเติมแต่งทำให้เรื่องราวผิดเพี้ยนไปจากเดิมไม่มากก็น้อย

หลายเรื่องมีที่มาหรือเค้าโครงจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง แต่ก็มีบ้างที่เป็นเพียงข่าวลือหรือเรื่องยกเมฆ



ฆาตกรบนเบาะหลัง

หญิงสาวคนหนึ่งที่ขับรถกลับบ้านคนเดียวยามวิกาล พลันก็สังเกตว่ามีรถบรรทุกคันหนึ่งขับตามหลังมาได้พักใหญ่ เธอเร่งเครื่องหนี แต่รถบรรทุกก็ยิ่งเพิ่มความเร็วตามมาด้วย เธอเลยชะลอรถหมายให้รถบรรทุกแซงนำไปก่อน แต่รถบรรทุกคันนั้นกลับชะลอความเร็วลงตามเธอเสียนี่

หญิงสาวเกิดอาการขวัญเสียอย่างหนัก รถวิ่งได้เร็วเท่าไหร่แม่เหยียบมิดคันเร่ง แต่สิงห์สิบล้อก็ตามติดมา แถมยังบีบแตรใส่และไล่อัดไฟสูงใส่รถเธอหลายครั้ง บางขณะยังกระแทกกันชนหลังรถของเธอปังๆ ยังกับรถบัมพ์อีกด้วย

แต่หญิงสาวก็ยังสามารถประคองสติขับรถกลับมาจอดหน้าบ้านตัวเองได้สำเร็จ เธอกระโดดลงจากรถแล้ววิ่งไปไขกุญแจเปิดประตูรั้วทันที แต่รถบรรทุกก็ขับตามมาทัน แล้วคนขับหนวดเฟิ้มหน้าตาโหดก็กระโจนลงมา

เขาตะโกนบอกเธอว่า “รีบเข้าบ้านล็อกประตูแล้วแจ้งตำรวจเร็วครับคุณผู้หญิง!”

ภายหลังผลปรากฏว่า สิงห์สิบล้อเห็นว่าบนเบาะหลังรถของหญิงสาวมีชายคนหนึ่งแอบซุ่มอยู่ มันกำลังจะยกมีดยาวแทงเธอจากด้านหลัง พ่อสิงห์สิบล้อก็เลยทำทุกอย่างเพื่อขู่ให้ไอ้โรคจิตกลัวและเตือนให้หญิงสาวรู้ตัว



เลีย

ในคืนหนึ่งที่เด็กสาวนามสมมติว่าเบลล่าต้องอยู่บ้านเพียงคนเดียว มีเพื่อนเป็นเจ้าตูบสี่ขานอนอยู่ใต้เตียงให้พออุ่นใจ เมื่อปิดไฟเข้านอน เธอเปิดวิทยุฟังและพบว่ามีรายงานข่าวด่วนเรื่องฆาตกรโรคจิตแหกคุกและมันหนีมาแถวบ้านเธอ เดือดร้อนให้ต้องรีบลุกขึ้นมาตรวจเช็กประตูหน้าต่างว่าลงกลอนเรียบร้อยดีหรือไม่ แล้วจึงกลับมานอนและผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว

แต่กลางดึกคืนนั้น เด็กสาวก็ต้องสะดุ้งตื่น เมื่อได้ยินเสียงเหมือนน้ำหยดดังติ๋งๆตลอดเวลา เธองัวเงียลุกขึ้นไปดูที่ห้องน้ำ แต่พอเข้าไปดูก็พบว่าก๊อกน้ำปิดสนิทดี เบลล่าได้แต่เกาหัวแกร็กๆ และโซเซกลับมานอนในท่าหันตะแคงข้าง ปล่อยมือข้างหนึ่งห้อยลงมาข้างเตียง พลันนิ้วก็รู้สึกเย็นด้วยมีลิ้นของเจ้าหมาใต้เตียงยื่นมาเลียแผล็บๆ เธอนอนให้หมาเลียมืออยู่อย่างนั้นก่อนจะผล็อยหลับไปอีกครั้ง

แต่พอรุ่งเช้าเมื่อเบลล่าตื่นขึ้นมาก็ต้องแทบช็อกตายด้วยความพรั่นพรึง สุนัขของเธอถูกตัดหัวทิ้งอยู่ในตู้เก็บของและมีโน้ตสั้นๆเขียนเอาไว้ให้ดูต่างหน้าว่า

“เป็นคนก็เลียได้”



ดีใจไหมที่ไม่เปิดไฟ?

เรื่องนี้กลายเป็นตำนานของเหล่า “เด็กหอ” ไปแล้วในฝั่งอเมริกา เป็นเรื่องของรูมเมท 2 คนที่คนหนึ่งรักเรียน ส่วนอีกคนรักเที่ยว เราจะ สมมติว่าทั้งสองคนชื่อลำดวนกับลำยอง (เฮ้! อย่าจริงจังน่า มันแค่ชื่อสมมตินี่นา) ลำดวนเป็นเด็กรักเรียนมาก ยามที่ใกล้จะถึงวันสอบเข้าไปทุกทีด้วยแล้ว เธอจะหมกตัวอยู่กับกองตำรา ส่วนเพื่อนซี้ของเธออย่างลำยองนั้น เป็นทุกสิ่งที่อยู่ด้านตรงกันข้ามกับลำดวนก็ว่าได้

ทั้งๆที่รู้ว่าวันรุ่งขึ้นจะมีสอบ แต่ลำยองก็ยังไปปาร์ตี้ กินดื่มอยู่จนถึงตี 2 โซเซกลับห้องมาในสภาพเมาปลิ้น แต่เธอก็เลือกที่จะไม่เปิดไฟเมื่อเข้าห้องเพราะกลัวลำดวนจะตื่น ลำยองเดินฝ่าความมืดไปนอนที่เตียง หลับคร่อกจนถึงเช้า ต่อเมื่อแสงแดดแยงตานั่นแหละถึงได้สะดุ้งตื่นขึ้นมา

แล้วลำยองก็ต้องแปลกใจเมื่อเหลือบไปพบว่าที่เตียงข้างๆ ลำดวนยังคงนอนคลุมโปงอยู่ ลำยองเดินไปเลิกผ้าห่มออกจากตัวเพื่อน หวังปลุกให้รีบตื่นไปสอบ

แต่ลำยองก็มีอันกรี๊ดลั่น เพราะสิ่งที่พบอยู่ใต้ผ้าห่มคือร่างไร้ลมหายใจของลำดวนที่ผ่านการทรมานอย่างสาหัสสากรรจ์โดยฆาตกรจิตวิปริต และบนกำแพงเหนือหัวเตียงมีเลือดเขียนเอาไว้เป็นตัวอักษรว่า

“ดีใจไหมที่ไม่เปิดไฟ?”

ที่มา : chaosblade.exteen.com/urban-legend
www.thairath.co.th/column/life/sundayspecial/374152
เรื่องอ่านเพิ่ม : http://lonesomebabe.wordpress.com/2009/05/02/urban-legend-ตำนานพื้นบ้าน-episode-1/
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่